" มันก็แค่ข้าวหมกไก่ละว่ะ !!! "
ตั้งแต่ย้ายกลับมาอยู่ที่นครศรีธรรมราช เวลาหิวๆก็จะคิดอะไรไม่ค่อยออกว่า อยากกินอะไร กินที่ไหน ร้านอะไร หรือ เมนูอะไร... เพราะถ้าเป็นตอนอยู่กรุงเทพ ก็คงไม่พ้นข้าวตามสั่งปากซอย เหมือนเดิมทุกที ...
เลยหันไปถามคุณแฟน ...
" น้องอยากกินข้าวหมกไก่ที่เราเคยกินตอนเด็กๆ " แฟนเค้าตอบมาแบบนั้น
เอ๊ะ !!!
คำถามแว๊ปขึ้นมาเลย
มันจะเหมือนเดิมป่าว ?
จะอร่อยเหมือนเดิมป่าว ?
สูตรคงเพี้ยนไปแล้วมั้ง !! เพราะนั้นตอนเด็ก นับเวลานี่มี 10 กว่าปีเลยนะ !!!
คำถามเพียบเลย เอ้า ไปก็ไป
" มันก็แค่ข้าวหมกไก่ละว่ะ !!! " กินๆไปเหอะ
เป้าหมาย คือ " ร้านไทยโอชา "
ด้วยความที่ยังไม่ตื่น สติยังไม่มาเต็มที่ เลยต้องขอตัวช่วย เปิด Google
หาพิกัดร้าน และข้อมูลเบื้องต้น
พิกัดร้าน ก็ เอาง่ายๆ กด Google map เลยครับ เดี๋ยวอากู๋ เค้าจัดการวาดเส้นทางพร้อมส่งเสียงมาให้เองครับไม่ต้องห่วง
หรือถ้าอยากให้ปักหมุดแน่ๆ คือ ปักหมุดที่สี่แยกตลาดแขก แล้วหาเส้นทางที่วิ่งออกนอกเมือง ถ้าไม่รู้ก็ เปิดกระจกถามคนแถวนั้นเลยครับ
เวลาเปิด-ปิด เปิดทุกวันนะ ตั้งแต่ 06.00-16.00 น .
แต่ !!!! หากจะทาร้านนี้ต้องทำใจและวัดดวงเรื่องที่จอดรถพอสมควรนะครับเนื่องจาก ย่านนี้เป็นย่านการค้า แล้วมีร้านรวงเปิดติดๆๆๆๆๆ แถมอยู่บนถนนเส้นหลัก อีกทั้งยังมีป้ายจราจรปักเด่นหลาเลยให้จอดวันคู่ฝั่งนี้ วันคี่ฝั่งโน้น ....
หลังจากได้ที่จอดรถเรียบร้อย เดินไปหยุดอยุ่หน้าร้าน ภาพเดิมๆกลับมาเลย
กลิ่นหอมของเครื่องเทศ คนกำลังมุงๆ รอรับของที่สั่งไว้กลับบ้าน เสียงการสั่งการของพี่ๆพนักงานในร้านที่สั่งเป็นภาษายาวีบ้าง ภาษาไทยบ้าง ทุกอย่างล้วนแต่เป็นแบบนี้ตั้งแต่ผมจำความได้
ก้าวเข้าไปในร้าน ภายในร้านโซนด้านหน้าสุด จัเป็นจุดรับออเด้อ และจุดทำเมนูข้าวต่างๆ เดินเข้ามาอีกนิด เป็นโต๊ะนั่งทานภายในร้าน ดูจากสายตาแม้ว่าจะมีไม่กี่โต๊ะ แต่ยังมีชั้นบนอีกครับ
สั่งเลยแล้วกัน ...
หลังจากมองๆป้านเมนูอาหารซึ่งเยอะมากๆๆๆๆ เลยขอจบที่เมนูสุดคลาสสิคแล้วกัน
" ข้าวหมกไก่ + ซุบเนื้อ +ชาเย็นแก้วนึง "
เนื่องจากเมนูข้าวหมกนี่มีให้เลือกจนตาลาย แถมยังมีเมนุข้าวอื่นๆอีก เรียกได้ว่า ถ้าไม่ตั้งใจมากินข้าวหมกนี่ มีลังเลแน่นอน เพราะดูจากรูป แอบมองจากโต๊ะข้างๆนี่ น่ากินมาก
มาแล้ว .... ข้าวหมกไก่
กลิ่นหอมเหมือนเดิม ตอนเด็กกลิ่นแบบไหน ตอนนี้แบบนั้นเลย เม็ดข้าวฉ่ำๆสีเหลืองสวย ... แถมไก่ก็ชิ้นกำลังพอดี ไม่แห้ง หรือไม่เละ
อ๋อ ..... เนื่องจากเคยไปเจอร้านดังที่กทม มา เมนูข้าวหมก ถ้าเป็นภาคกลางเค้ามักจะนิยมข้าวที่แห้ง และร่วนๆนิดนึง ประมาณแบบตักข้าว2 คำ ซดน้ำซุปตามอีก 1 คำ อะไรประมาณนั้น !!!
แต่ของร้านนี้ตัวข้าวจะฉ่ำๆ แต่ไม่เละ อร่อยดีด้วย ต่อมาในจานก็จะมีถ้วยน้ำจิ้มไก่สีแดง และเค้าเรียกอะไรรู้ครับลืม 5555 จะเป็นเหมือนดครื่องเคียงเอาไว้แก้เลี่ยน ประกอบด้วย แตงกวา หอมแดง แล้วก็น้ำใสๆรสเปรี้ยวๆนิดนึง
ลุย !!! ตักเข้าปากไป ตาโต ยิ้มเลย เหมือนเดิมทุกอย่าง รสแทบไม่ต่างจากเมื่อก่อน ลองราดเครื่องเคียงมาก็ หืมมมมมมม อร่อย ...
หันมาอีกที เมนุซุปเนื้อก็มาวางอยู่ข้างๆแล้ว
หน้าตาก็ปกติ แต่เครื่องเยอะ ที่สำคัญคือ กลิ่น!! มันหอมจัง
ตักซดไป 1 คำ ไม่มีกลิ่นเนื้อแรงจนแหยง หอมเครื่องเทศ มีกลิ่นกระเทียมเจียวมั้ง !!! ลอยมาด้วย รสจะ
เปรียว เค็มนิดๆ และเผ็ดหน่อยๆเพราะทุบพริกขี้หนูพอบุบๆมาด้วย
ส่วนคุณแฟนก็ก้มหน้าก้มตา กินอย่างเดียว 5555+++ อารมณ์ประมาณถ้าไปขัดจังหวะ จะโดนดุ แน่ๆ
สุดท้าย ชาเย็นแก้วขนาดกำลังพอดี สีน้ำตาลอ่อนๆ มีนมข้นจืดราดด้านบน
รออะไร ยกซดกันเลยดีกว่า สั้นๆ
" ไม่หวานมาก หอมชา หวานนม อร่อยดี "
เอาจริงๆนะครับ พอกินกันเสร้จเลยมานั่งคุยกับแฟนว่าเนี่ยนะเหมือนเมื่อก่อนเลย เก่งเน๊อะ ที่ร้านเค้ายังคงเดิมไว้ได้ขนาดนี้ แถมยังคงเป็นร้านที่มีลมหายใจอยู่จนถึงทุกวันนี้หากนับเวลาเล่นๆก็คงมีเป็นสิบปีแล้วมั้งหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ
สรุปเลยละกัน
รส : 👍
ราคา : 👍
ปริมาณ : 👍
บริการ : 👍
ปล.ราคาก็ตามป้ายนั่นเลยครับ ไม่แพงนะจากความสึกส่วนตัว
หากอยากหาเมนูวัยเด็ก นี่เป็นอีกหนึ่งร้านที่ยังคงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก... "ร้านไทยโอชา นครศรีธรรมราช "
" ไม่ใช่แค่ข้าวหมกไก่ " กับร้านธรรมดาที่ยังมีลมหายใจอยู่ในนครศรีธรรมราช
ตั้งแต่ย้ายกลับมาอยู่ที่นครศรีธรรมราช เวลาหิวๆก็จะคิดอะไรไม่ค่อยออกว่า อยากกินอะไร กินที่ไหน ร้านอะไร หรือ เมนูอะไร... เพราะถ้าเป็นตอนอยู่กรุงเทพ ก็คงไม่พ้นข้าวตามสั่งปากซอย เหมือนเดิมทุกที ...
เลยหันไปถามคุณแฟน ...
" น้องอยากกินข้าวหมกไก่ที่เราเคยกินตอนเด็กๆ " แฟนเค้าตอบมาแบบนั้น
เอ๊ะ !!!
คำถามแว๊ปขึ้นมาเลย
มันจะเหมือนเดิมป่าว ?
จะอร่อยเหมือนเดิมป่าว ?
สูตรคงเพี้ยนไปแล้วมั้ง !! เพราะนั้นตอนเด็ก นับเวลานี่มี 10 กว่าปีเลยนะ !!!
คำถามเพียบเลย เอ้า ไปก็ไป
" มันก็แค่ข้าวหมกไก่ละว่ะ !!! " กินๆไปเหอะ
เป้าหมาย คือ " ร้านไทยโอชา "
ด้วยความที่ยังไม่ตื่น สติยังไม่มาเต็มที่ เลยต้องขอตัวช่วย เปิด Google
หาพิกัดร้าน และข้อมูลเบื้องต้น
พิกัดร้าน ก็ เอาง่ายๆ กด Google map เลยครับ เดี๋ยวอากู๋ เค้าจัดการวาดเส้นทางพร้อมส่งเสียงมาให้เองครับไม่ต้องห่วง
หรือถ้าอยากให้ปักหมุดแน่ๆ คือ ปักหมุดที่สี่แยกตลาดแขก แล้วหาเส้นทางที่วิ่งออกนอกเมือง ถ้าไม่รู้ก็ เปิดกระจกถามคนแถวนั้นเลยครับ
เวลาเปิด-ปิด เปิดทุกวันนะ ตั้งแต่ 06.00-16.00 น .
แต่ !!!! หากจะทาร้านนี้ต้องทำใจและวัดดวงเรื่องที่จอดรถพอสมควรนะครับเนื่องจาก ย่านนี้เป็นย่านการค้า แล้วมีร้านรวงเปิดติดๆๆๆๆๆ แถมอยู่บนถนนเส้นหลัก อีกทั้งยังมีป้ายจราจรปักเด่นหลาเลยให้จอดวันคู่ฝั่งนี้ วันคี่ฝั่งโน้น ....
หลังจากได้ที่จอดรถเรียบร้อย เดินไปหยุดอยุ่หน้าร้าน ภาพเดิมๆกลับมาเลย
กลิ่นหอมของเครื่องเทศ คนกำลังมุงๆ รอรับของที่สั่งไว้กลับบ้าน เสียงการสั่งการของพี่ๆพนักงานในร้านที่สั่งเป็นภาษายาวีบ้าง ภาษาไทยบ้าง ทุกอย่างล้วนแต่เป็นแบบนี้ตั้งแต่ผมจำความได้
ก้าวเข้าไปในร้าน ภายในร้านโซนด้านหน้าสุด จัเป็นจุดรับออเด้อ และจุดทำเมนูข้าวต่างๆ เดินเข้ามาอีกนิด เป็นโต๊ะนั่งทานภายในร้าน ดูจากสายตาแม้ว่าจะมีไม่กี่โต๊ะ แต่ยังมีชั้นบนอีกครับ
สั่งเลยแล้วกัน ...
หลังจากมองๆป้านเมนูอาหารซึ่งเยอะมากๆๆๆๆ เลยขอจบที่เมนูสุดคลาสสิคแล้วกัน
" ข้าวหมกไก่ + ซุบเนื้อ +ชาเย็นแก้วนึง "
เนื่องจากเมนูข้าวหมกนี่มีให้เลือกจนตาลาย แถมยังมีเมนุข้าวอื่นๆอีก เรียกได้ว่า ถ้าไม่ตั้งใจมากินข้าวหมกนี่ มีลังเลแน่นอน เพราะดูจากรูป แอบมองจากโต๊ะข้างๆนี่ น่ากินมาก
มาแล้ว .... ข้าวหมกไก่
กลิ่นหอมเหมือนเดิม ตอนเด็กกลิ่นแบบไหน ตอนนี้แบบนั้นเลย เม็ดข้าวฉ่ำๆสีเหลืองสวย ... แถมไก่ก็ชิ้นกำลังพอดี ไม่แห้ง หรือไม่เละ
อ๋อ ..... เนื่องจากเคยไปเจอร้านดังที่กทม มา เมนูข้าวหมก ถ้าเป็นภาคกลางเค้ามักจะนิยมข้าวที่แห้ง และร่วนๆนิดนึง ประมาณแบบตักข้าว2 คำ ซดน้ำซุปตามอีก 1 คำ อะไรประมาณนั้น !!!
แต่ของร้านนี้ตัวข้าวจะฉ่ำๆ แต่ไม่เละ อร่อยดีด้วย ต่อมาในจานก็จะมีถ้วยน้ำจิ้มไก่สีแดง และเค้าเรียกอะไรรู้ครับลืม 5555 จะเป็นเหมือนดครื่องเคียงเอาไว้แก้เลี่ยน ประกอบด้วย แตงกวา หอมแดง แล้วก็น้ำใสๆรสเปรี้ยวๆนิดนึง
ลุย !!! ตักเข้าปากไป ตาโต ยิ้มเลย เหมือนเดิมทุกอย่าง รสแทบไม่ต่างจากเมื่อก่อน ลองราดเครื่องเคียงมาก็ หืมมมมมมม อร่อย ...
หันมาอีกที เมนุซุปเนื้อก็มาวางอยู่ข้างๆแล้ว
หน้าตาก็ปกติ แต่เครื่องเยอะ ที่สำคัญคือ กลิ่น!! มันหอมจัง
ตักซดไป 1 คำ ไม่มีกลิ่นเนื้อแรงจนแหยง หอมเครื่องเทศ มีกลิ่นกระเทียมเจียวมั้ง !!! ลอยมาด้วย รสจะ
เปรียว เค็มนิดๆ และเผ็ดหน่อยๆเพราะทุบพริกขี้หนูพอบุบๆมาด้วย
ส่วนคุณแฟนก็ก้มหน้าก้มตา กินอย่างเดียว 5555+++ อารมณ์ประมาณถ้าไปขัดจังหวะ จะโดนดุ แน่ๆ
สุดท้าย ชาเย็นแก้วขนาดกำลังพอดี สีน้ำตาลอ่อนๆ มีนมข้นจืดราดด้านบน
รออะไร ยกซดกันเลยดีกว่า สั้นๆ
" ไม่หวานมาก หอมชา หวานนม อร่อยดี "
เอาจริงๆนะครับ พอกินกันเสร้จเลยมานั่งคุยกับแฟนว่าเนี่ยนะเหมือนเมื่อก่อนเลย เก่งเน๊อะ ที่ร้านเค้ายังคงเดิมไว้ได้ขนาดนี้ แถมยังคงเป็นร้านที่มีลมหายใจอยู่จนถึงทุกวันนี้หากนับเวลาเล่นๆก็คงมีเป็นสิบปีแล้วมั้งหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ
สรุปเลยละกัน
รส : 👍
ราคา : 👍
ปริมาณ : 👍
บริการ : 👍
ปล.ราคาก็ตามป้ายนั่นเลยครับ ไม่แพงนะจากความสึกส่วนตัว
หากอยากหาเมนูวัยเด็ก นี่เป็นอีกหนึ่งร้านที่ยังคงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก... "ร้านไทยโอชา นครศรีธรรมราช "