ว่าด้วยเรื่อง การเมือง
ประเทศไทยกำลังเดินก้าวไปข้างหน้า ช่วงปี 44 - 48 ด้วยนายกทักษิน ในขณะนั้น ด้วยแนวคิดและนโยบายที่ทำให้เกิดเป็นรูปธรรมให้ประชาชน ในประเทศนี้เห็น และต่อมาปี 49 รัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้งมหาศาล ทำให้ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ทำให้เกิดความขัดแย้งของผลประโยชน์ของคนมีอำนาจหลายกลุ่ม
**ถึงตรงนี้จะบอกว่าในขณะนั้นประชาชนที่เป็นพื้นฐานของประเทศกำลัง ลืมตาอ้าปาก ลูกหลานได้เรียนดี แต่กระนั้นก็มีชนชั้นหนึ่ง ที่มีทรัพย์สินมาก พวกนายทุน ขาดผลประโยชน์การผูกขาดทางการตลาดไป **
ต่อมา ก็เกิดรัฐประหารปี49 หลังจากมีการชุมนุมของกลุ่มคนที่หลอกประชาชนกลุ่มหนึ่งไปประท้วง ปิดสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จากวันนั้นถึงวันนี้ วันที่ 9 กรกฏาคม 2561 ประเทศไทยไม่ได้เจริญไปกว่า 15 ปีที่แล้ว มากนัก ถามว่าดูจากกอะไร ดูได้จากพื้นฐานของประเทศคือประชาชนที่เรียกกันว่าเป็นสันหลังของชาติ อย่าไปถามพวกนายทุนสิ ผมเห็นถามแต่นายทุนถามแต่พวกที่กดขี่ประชาชน แน่นอนว่าธุรกิจมันดีแน่นอนมันผูกขาดการตลาด
##มาถึงตรงนี้ผมไม่ได้ เป็นติ่ง ทักษิน ผมแค่ชอบแนวคิดของเขา ชอบการทำงานที่พูดแล้วทำจริง ผมไม่ขอให้ทักษินกลับมาหรอก ผมมีคนหนึ่งที่อยู่ในใจตอนนี้ คือ เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ความคิดผม เขาอาจจะไม่เก่งทางเศรษฐกิจ แต่ผมเชื่อว่าเขาปฏิรูปวงการราชการได้ มันจะเป็นพื้นฐานของประเทศที่น่าจะดีกว่า ที่รัฐบาลปัจจุบันทำ เงียบมากการปฏิรูปที่ได้แต่ พูดแต่ทำไม่ได้
@ผมไม่ได้ขอให้ใครเชื่อแต่ลองไปเปิดประวัติ แต่ละคนที่ผมเอ่ยดู ไปดูประวัติศาสตร์ชาติดู เราประชาชนทั่วไป ควรหยุดเป็นทาสของกลุ่มบุคคล บางกลุ่มได้แล้วหรือยัง ผมไม่ได้อยู่ฝั่งไหนทั้งนั้น ผมเป็นคนไทยที่อยากเห็นประเทศเดินหน้า ไม่แย่งกันเอาหน้า แต่ลงมือทำ ทำหน้าที่ของตัวเองไป
#เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งไปทำหน้าที่เลือกตั้ง พอได้รัฐบาลก็ปล่อยเขาทำงาน ไม่ใช่ออกไปชุมนุมไล่ มันแย่มากๆ คนไทยตื่นกันได้หรือยัง เลิกเถอะกับเงินค่าจ้างไปชุมนุนเล็กๆน้อยๆ แต่ความเสียหายมันเกิดขึ้นทั่วประเทศ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ นึกไม่ออกแล้ว ถ้ามีเพิ่มเติมจะมาต่อขอบคุณครับ
ลองอ่านดูก่อนให้ละเอียด แล้วทำความเข้าใจดีๆ !!
ประเทศไทยกำลังเดินก้าวไปข้างหน้า ช่วงปี 44 - 48 ด้วยนายกทักษิน ในขณะนั้น ด้วยแนวคิดและนโยบายที่ทำให้เกิดเป็นรูปธรรมให้ประชาชน ในประเทศนี้เห็น และต่อมาปี 49 รัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้งมหาศาล ทำให้ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ทำให้เกิดความขัดแย้งของผลประโยชน์ของคนมีอำนาจหลายกลุ่ม
**ถึงตรงนี้จะบอกว่าในขณะนั้นประชาชนที่เป็นพื้นฐานของประเทศกำลัง ลืมตาอ้าปาก ลูกหลานได้เรียนดี แต่กระนั้นก็มีชนชั้นหนึ่ง ที่มีทรัพย์สินมาก พวกนายทุน ขาดผลประโยชน์การผูกขาดทางการตลาดไป **
ต่อมา ก็เกิดรัฐประหารปี49 หลังจากมีการชุมนุมของกลุ่มคนที่หลอกประชาชนกลุ่มหนึ่งไปประท้วง ปิดสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จากวันนั้นถึงวันนี้ วันที่ 9 กรกฏาคม 2561 ประเทศไทยไม่ได้เจริญไปกว่า 15 ปีที่แล้ว มากนัก ถามว่าดูจากกอะไร ดูได้จากพื้นฐานของประเทศคือประชาชนที่เรียกกันว่าเป็นสันหลังของชาติ อย่าไปถามพวกนายทุนสิ ผมเห็นถามแต่นายทุนถามแต่พวกที่กดขี่ประชาชน แน่นอนว่าธุรกิจมันดีแน่นอนมันผูกขาดการตลาด
##มาถึงตรงนี้ผมไม่ได้ เป็นติ่ง ทักษิน ผมแค่ชอบแนวคิดของเขา ชอบการทำงานที่พูดแล้วทำจริง ผมไม่ขอให้ทักษินกลับมาหรอก ผมมีคนหนึ่งที่อยู่ในใจตอนนี้ คือ เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ความคิดผม เขาอาจจะไม่เก่งทางเศรษฐกิจ แต่ผมเชื่อว่าเขาปฏิรูปวงการราชการได้ มันจะเป็นพื้นฐานของประเทศที่น่าจะดีกว่า ที่รัฐบาลปัจจุบันทำ เงียบมากการปฏิรูปที่ได้แต่ พูดแต่ทำไม่ได้
@ผมไม่ได้ขอให้ใครเชื่อแต่ลองไปเปิดประวัติ แต่ละคนที่ผมเอ่ยดู ไปดูประวัติศาสตร์ชาติดู เราประชาชนทั่วไป ควรหยุดเป็นทาสของกลุ่มบุคคล บางกลุ่มได้แล้วหรือยัง ผมไม่ได้อยู่ฝั่งไหนทั้งนั้น ผมเป็นคนไทยที่อยากเห็นประเทศเดินหน้า ไม่แย่งกันเอาหน้า แต่ลงมือทำ ทำหน้าที่ของตัวเองไป
#เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งไปทำหน้าที่เลือกตั้ง พอได้รัฐบาลก็ปล่อยเขาทำงาน ไม่ใช่ออกไปชุมนุมไล่ มันแย่มากๆ คนไทยตื่นกันได้หรือยัง เลิกเถอะกับเงินค่าจ้างไปชุมนุนเล็กๆน้อยๆ แต่ความเสียหายมันเกิดขึ้นทั่วประเทศ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ นึกไม่ออกแล้ว ถ้ามีเพิ่มเติมจะมาต่อขอบคุณครับ