“อภิสิทธิ์” ไม่พอใจ ตร.ชุมนุมแสดงพลัง



นที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14:45 น.  ข่าวสดออนไลน์


“อภิสิทธิ์” ไม่พอใจ ตร.ชุมนุมแสดงพลัง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่าน สถานีโทรทัศน์บลูสกาย ว่า ภาพการเมืองตลอดปี2556 ต้องมองแง่ดีคือเมื่อถึงที่สุดในความแย่ ก็น่าจะมองปรากฏการณ์มวลมหาประชาชนที่เกิดขึ้นว่าเป็นสิ่งที่เริ่มต้นไปสู่สิ่งที่ดีหรือไม่ ถ้าย้อนกลับไปต้นปีแม้ช่วงกลางปีก็มีความรู้สึกว่าความแย่ทั้งหลายที่เกิดขึ้นในเรื่องเศรษฐกิจการเมืองก็เดินของมันไปเรื่อย แต่ 2 – 3 เดือนสุดท้ายกลับเห็นความตื่นตัวของประชาชนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมีการเรียกร้องให้ปฏิรูป ดังนั้นปี2557 ต้องเป็นปีแห่งการปฏิรูปและการ ในด้านดีคือมวลมหาประชาชนและจิตสำนึกที่ถูกปลุกขึ้นมาแล้วของคนไทยจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปี 2557 นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีได้ และถ้ารัฐบาลชุดนี้มีจิตใจจะปฏิรูปขณะนี้ต้องมองว่าเป็นโอกาสทอง เพราะการปฏิรูปจะเกิดขึ้นได้ต้องมีกระแสผลักดันให้สำเร็จ ดังนั้นการที่รัฐบาลมองว่าประชาชนที่ชุมนุมและแกนนำยังเป็นปัญหาและการปฏิรูปเป็นเหมือนสิ่งที่ถูกบังคับให้ทำเพื่อให้เรื่องจบจึงตั้งสภาปฏิรูปขึ้นมาพร้อมรับปากว่าทุกคนจะปฏิรูปเพื่อไปเลือกตั้งนั้นแสดงว่ารัฐบาลไม่มีจิตใจปฏิรูป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนัดชุมนุมเพื่อแสดงพลังปกป้องศักดิ์ศรีของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 30ธ.ค.นั้น เหตุใดรัฐบาลกลับพึงพอใจที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกับประชาชนต้องเป็นปฏิปักษ์กัน  ไม่ทราบว่าจะปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกคืนๆ ได้อย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย แต่ขณะนี้เป็นความพยายามยุยงให้เกิดปัญหากัน ทั้งที่ข้อเท็จจริงตอนนี้เงื่อนไขที่ทางรัฐบาลพยายามปลุกปั่นขึ้นมาคือเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต แต่ก็ยังไม่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าการเสียชีวิตนั้นเกิดขึ้นจากอะไร มีแต่ข้อสรุปเบื้องต้นว่าถูกยิงจากมุมสูงและมุมสูงก็ชัดเจนว่าคนที่มีอาวุธอยู่บนอาคารสูงก็อยู่ในพื้นที่ฝ่ายรัฐควบคุม เจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะพิจารณาตรงนี้ด้วย ส่วนจะมองว่าเป็นการทำร้ายตำรวจด้วยกันเองแล้วโยนความผิดให้ประชาชนหรือไม่นั้นก็ต้องวิเคราะห์ว่าพื้นที่ที่ยิงลงมาเป็นพื้นที่ที่ประชาชนไม่ได้เข้าไป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนจะเดินทางไปพบกับ กกต. ซึ่งมีข้อเสนอถึงสถานการณ์การรับสมัครเลือกตั้งในภาพรวมกับปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นและคงมีการแลกเปลี่ยนรายละเอียดมากขึ้นเพื่อหาทางออก เพราะกกต. ในฐานะเป็นผู้จัดการ ผู้ปฏิบัติเรื่องเลือกตั้งก็คงมีความรู้รายละเอียดเรื่องข้อกฎหมายมากกว่า และการไปพบกกต.ของตนคงไม่เหมือนกับการที่ศอ.รส. ยกคณะไปพบกกต. เมื่อวันที่ 30.ค. เป็นความพยายามไปกดดันเขาเท่านั้น และคนเหล่านี้ไม่อยากมองภาพรวมใช่หรือไม่ ถ้าถึงขั้นต้องทำอย่างนี้เพื่อให้กระบวนการเดินไปแต่ในที่สุดกระบวนการนี้ตอบโจทย์ประเทศหรือไม่

เมื่อถามว่า ขณะนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ อยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้ ต้องไปภาคอื่น ถ้าหลังวันที่ 2 ก.พ. กลับมาเป็นนายกฯ เหมือนเป็นนายกฯ รักษาการขณะนี้จะทำให้ทำงานต่อไปได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ตอบว่า เห็นชัดเจนว่ากำลังจะลงเหว คิดแต่เพียงว่าทางไม่สะดวก เลยทำให้ง่ายขึ้น ไม่คิดจะไปทางอื่นหรือ ส่วนจะมีแผนอะไรหรือไม่เพื่อให้ได้คะแนนเสียงนั้น ตนก็นึกไม่ออกว่านายกฯ คิดอย่างไร แต่ทำไมคิดว่าเลือกตั้งแล้วจะได้รัฐบาล รัฐสภาที่ค่อนข้างพิกล พิการแล้วจะมีพลังหรือมีความชอบธรรมเพิ่มขึ้น ทั้งนี้อย่าลืมว่าในวันที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลุดจากอำนาจคือหลังจากที่ตัวเองมี 377 เสียงในสภา ซึ่งยิ่งมากยิ่งอยู่ยาก


http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE9EUTNOVGsyTmc9PQ%3D%3D
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่