'Gen Z ลุกฮือ' ปรากฏการณ์คลื่นม็อบลูกใหม่
จากอินโด-เนปาล-ฟิลิปปินส์
.
Gen Z คือกลุ่มประชากรที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2538 - พ.ศ. 2553 และในปัจจุบันประชากรกลุ่มนี้มีจำนวนสูงถึง 2 พันล้านคนทั่วโลก ตลอดการเติบโตของพวกเขามาจนถึงวันนี้ 'อินเทอร์เน็ต' คือหนึ่งสิ่งที่ทำให้สังคมของคนวัยเดียวกันแข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังมีสถิติบอกว่าประมาณ 95% ของคน Gen Z เข้าถึง 'สมาร์ตโฟน' ได้ ทำให้พวกเขาคือคนรุ่นแรกที่เป็นชาวดิจิทัลโดยกำเนิดอย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้คือแรงผลักดันให้คนรุ่นนี้ตระหนักรู้ถึงหลายสิ่งที่คนรุ่นก่อนหน้าอาจปล่อยปละละเลย รวมถึงยังเป็นการบอกเล่าเรื่องราวดีร้าย ไปจนถึงการระบายความอัดอั้นจากประเด็นในสังคม
.
นี่จึงอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คน Gen Z ทั่วโลกโต้กลับทุกความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น หรือประเทศต่าง ๆ อย่างมากมาย โดยเฉพาะในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์โลกเต็มไปด้วยความไม่สงบที่มีต้นเหตุจากความไม่พอใจของ Gen Z ต่อชนชั้นปกครองทั้งหลาย มาดูกันว่ามีเหตุการณ์ไหนน่าสนใจเกิดขึ้นกันบ้าง
.
ขึ้นเบี้ยเลี้ยงสมาชิกรัฐสภา
ชนวนเหตุ 'ม็อบ Gen Z อินโดนีเซีย'
.
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ในประเทศอินโดนีเซียได้เกิดการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย บาดเจ็บอย่างน้อย 700 ราย และมีผู้ชุมนุมถูกจับกุมจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุสำคัญของการประท้วงครั้งนี้ เกิดจากความไม่พอใจของประชาชนที่รัฐบาลจะเพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้กับสมาชิกรัฐสภาประมาณ 50 ล้านรูเปียห์ต่อเดือน ซึ่งมากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำในกรุงจาการ์ตาเกือบ 10 เท่า
.
แต่นี่เป็นเพียงฟางเส้นสุดท้ายที่ขาดลง เพราะปัญหาค่อนข้างทับซ้อนกันในหลาย ๆ มิติ โดยเฉพาะปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ รวมถึงประชาชนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลภายใต้การนำของ 'ปราโบโว ซูเบียนโต' ว่า รัฐบาลชุดนี้เอื้อประโยชน์ให้กับชนชั้นนำและมองข้ามชนชั้นแรงงาน ซึ่งก่อนหน้านี้ประชาชนแสดงออกถึงความไม่พอใจด้วยการปฏิเสธที่จะติดธงชาติอินโดนีเซียในวันชาติตามคำขอของรัฐบาล แต่เลือกที่จะติดธงโจรสลัดที่มาจากมังงะเรื่องวันพีซแทน เพื่อแสดงออกถึงจุดยืนทางการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล
.
ต่อมาวันที่ 31 สิงหาคม 2568 รัฐบาลได้มีมติลดสวัสดิการของสมาชิกรัฐสภา เพื่อมุ่งหวังที่จะลดความตึงเครียดทางการเมืองลง รวมถึงมีการสั่งให้ตำรวจดำเนินมาตรการอย่างเด็ดขาดต่อผู้ที่ทำลายทรัพย์สินและปล้นสะดมบ้านนักการเมือง จากนั้นการชุมนุมก็ค่อย ๆ ยุติลงชั่วคราว ทางด้าน 'ดร.อีฟ วอร์เบอร์ตัน' ผู้อำนวยการสถาบันอินโดนีเซีย มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ได้กล่าวว่า “ในขณะที่รัฐบาลดำเนินมาตรการรัดเข็มขัด และเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนรู้สึกไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ความคิดที่ว่าชนชั้นนำทางการเมืองในอินโดนีเซียซึ่งร่ำรวยอยู่แล้ว แต่จะได้เพิ่มเงินเดือน ยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกโกรธแค้น และทำให้พวกเขาออกมาบนท้องถนนเพื่อแสดงออกถึงความโกรธแค้นนั้น”
.
แบนโซเชียลมีเดีย
ชนวนเหตุ 'ม็อบ Gen Z เนปาล'
.
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา รัฐบาลเนปาลได้มีคำสั่งแบนโซเชียลมีเดีย 26 รายการ รวมถึงยูทูบ เฟซบุ๊ก และเอ็กซ์ โดยให้เหตุผลว่านี่เป็นมาตรการการรับมือกับข่าวปลอม, การใช้คำพูดแสดงความเกลียดชัง และการหลอกลวงในโลกออนไลน์ แต่ประชาชนมองว่านี่เป็นการใช้อำนาจแบบเผด็จการ และเป็นการปิดปากประชาชน จนกลุ่มวัยรุ่นหรือกลุ่มคน Gen Z ได้ออกมาชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 หรือในอีก 4 วันถัดมา (ปัจจุบันมีประชากรชาวเนปาลกว่า 17 ล้านคนที่ใช้โซเชียลมีเดีย)
.
แต่นี่ก็เป็นเพียงชนวนเหตุหลักที่ทำให้เกิดการชุมนุมเช่นกัน เพราะเอาเข้าจริง ๆ แล้ว การชุมนุมในครั้งนี้เกิดจากปัญหาที่ทับซ้อนกันอยู่หลายชั้น ไม่ว่าจะเป็นการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาล, ปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน จนต่อมาในโลกออนไลน์ได้เกิดแคมเปญ 'Nepo Kid' ซึ่งเป็นการกล่าวหาลูกหลานนักการเมืองที่ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยด้วยเงินที่ได้มาจากการทุจริตคอร์รัปชัน
.
การชุมนุมในครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรง มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 100 ราย มีการเผาอาคารรัฐสภา และสถานที่สำคัญต่าง ๆ รวมถึงมีการทำร้ายนักการเมือง ขณะเดียวกันการสลายการชุมนุมก็เต็มไปด้วยความรุนแรง มีการใช้แก๊สน้ำตา กระบอง กระสุนยาง รถฉีดน้ำ ทั้งนี้ ในเวลาต่อมารัฐบาลได้ยกเลิกคำสั่งแบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงนาย เค.พี. ชาร์มา โอลี นายกรัฐมนตรี ก็ได้ลาออกจากตำแหน่ง
.
ทุจริตโครงการระบายน้ำ
ชนวนเหตุ 'ม็อบ Gen Z ฟิลิปปินส์'
.
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา เกิดเหตุชุมนุมครั้งใหญ่ในประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้เข้าร่วมชุมนุมกว่า 33,000 คน เพื่อกดดันรัฐบาลที่นำโดย 'เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์' ประธานาธิบดีของประเทศ หลังจากพบว่ามีการทุจริตครั้งใหญ่เกิดขึ้นในประเทศ จากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ามีการทุจริตโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมและเขื่อนระบายน้ำกว่า 9,855 โครงการ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 545,000 ล้านเปโซ หรือประมาณ 9.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณเกินจริง มีการรับสินบน กินหัวคิว รวมถึงในบางโครงการก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
.
นี่คือกระบวนการโต้กลับของกลุ่มผู้ประท้วง Gen Z ชาวฟิลิปปินส์ ที่แต่เดิมต้องเผชิญกับปัญหาคนจนเมือง และประชากรล้นเมือง จากฐานความเชื่อทางศาสนาของประเทศที่คัดค้านการคุมกำเนิด ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหาอื่น ๆ ที่รายล้อมรอบตัวมาโดยตลอด ทั้งปัญหาคุณภาพชีวิต ปัญหาเรื่องระบบการศึกษา ไปจนถึงความเหลื่อมล้ำในประเทศที่ติดตัวประชากรตั้งแต่เด็กจนโต เมื่อปัญหาเดิมถูกเติมเชื้อไฟด้วยปัญหาทุจริตครั้งใหญ่ ทำให้กลุ่มผู้ประท้วง Gen Z ต่างตบเท้าเข้าร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลขึ้นในครั้งนี้ (ปัจจุบันมีประชากร Gen Z ชาวฟิลิปปินส์กว่า 21.87 ล้านคน และใช้โซเชียลมีเดีย)
.
การชุมนุมในครั้งนี้มีเหตุปะทะรุนแรงจำนวนหนึ่งเกิดขึ้นที่หน้าทำเนียบประธานาธิบดี โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมราว 100 คนใช้ก้อนหินและท่อนไม้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ รวมถึงเผายางรถยนต์ ทำลายสิ่งกีดขวางอีกด้วย จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บไปกว่า 70 นาย ก่อนจะมีตำรวจบางนายหยิบก้อนหินปากลับ และมีการใช้แก๊สน้ำตาสลายการจลาจล พร้อมจับกุมผู้ก่อเหตุจำนวนหนึ่งในท้ายที่สุด ทางด้านประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่ายินดีให้มีการจัดการชุมนุมอย่างสันติ และไม่ได้ตำหนิประชาชนที่ออกมาประท้วงเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
.
นี่คือทั้งหมดของเหตุการณ์ชุมนุมที่มาจากการปะทุของความโกรธแค้นจากคนชนชั้นล่างที่ทนไม่ไหวกับความผิดปกติจากกลุ่มคนชนชั้นนำในหลาย ๆ ประเทศในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งจากหลาย ๆ เหตุการณ์ ดังที่ ABC News กล่าวไว้ว่า ทศวรรษ 2020 นี้ คือทศวรรษแห่งความโกรธแค้นอย่างแท้จริง
Gen Z ลุกฮือ' ปรากฏการณ์คลื่นม็อบลูกใหม่ จากอินโด-เนปาล-ฟิลิปปินส์
จากอินโด-เนปาล-ฟิลิปปินส์
.
Gen Z คือกลุ่มประชากรที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2538 - พ.ศ. 2553 และในปัจจุบันประชากรกลุ่มนี้มีจำนวนสูงถึง 2 พันล้านคนทั่วโลก ตลอดการเติบโตของพวกเขามาจนถึงวันนี้ 'อินเทอร์เน็ต' คือหนึ่งสิ่งที่ทำให้สังคมของคนวัยเดียวกันแข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังมีสถิติบอกว่าประมาณ 95% ของคน Gen Z เข้าถึง 'สมาร์ตโฟน' ได้ ทำให้พวกเขาคือคนรุ่นแรกที่เป็นชาวดิจิทัลโดยกำเนิดอย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้คือแรงผลักดันให้คนรุ่นนี้ตระหนักรู้ถึงหลายสิ่งที่คนรุ่นก่อนหน้าอาจปล่อยปละละเลย รวมถึงยังเป็นการบอกเล่าเรื่องราวดีร้าย ไปจนถึงการระบายความอัดอั้นจากประเด็นในสังคม
.
นี่จึงอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คน Gen Z ทั่วโลกโต้กลับทุกความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น หรือประเทศต่าง ๆ อย่างมากมาย โดยเฉพาะในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์โลกเต็มไปด้วยความไม่สงบที่มีต้นเหตุจากความไม่พอใจของ Gen Z ต่อชนชั้นปกครองทั้งหลาย มาดูกันว่ามีเหตุการณ์ไหนน่าสนใจเกิดขึ้นกันบ้าง
.
ขึ้นเบี้ยเลี้ยงสมาชิกรัฐสภา
ชนวนเหตุ 'ม็อบ Gen Z อินโดนีเซีย'
.
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ในประเทศอินโดนีเซียได้เกิดการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย บาดเจ็บอย่างน้อย 700 ราย และมีผู้ชุมนุมถูกจับกุมจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุสำคัญของการประท้วงครั้งนี้ เกิดจากความไม่พอใจของประชาชนที่รัฐบาลจะเพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้กับสมาชิกรัฐสภาประมาณ 50 ล้านรูเปียห์ต่อเดือน ซึ่งมากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำในกรุงจาการ์ตาเกือบ 10 เท่า
.
แต่นี่เป็นเพียงฟางเส้นสุดท้ายที่ขาดลง เพราะปัญหาค่อนข้างทับซ้อนกันในหลาย ๆ มิติ โดยเฉพาะปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ รวมถึงประชาชนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลภายใต้การนำของ 'ปราโบโว ซูเบียนโต' ว่า รัฐบาลชุดนี้เอื้อประโยชน์ให้กับชนชั้นนำและมองข้ามชนชั้นแรงงาน ซึ่งก่อนหน้านี้ประชาชนแสดงออกถึงความไม่พอใจด้วยการปฏิเสธที่จะติดธงชาติอินโดนีเซียในวันชาติตามคำขอของรัฐบาล แต่เลือกที่จะติดธงโจรสลัดที่มาจากมังงะเรื่องวันพีซแทน เพื่อแสดงออกถึงจุดยืนทางการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล
.
ต่อมาวันที่ 31 สิงหาคม 2568 รัฐบาลได้มีมติลดสวัสดิการของสมาชิกรัฐสภา เพื่อมุ่งหวังที่จะลดความตึงเครียดทางการเมืองลง รวมถึงมีการสั่งให้ตำรวจดำเนินมาตรการอย่างเด็ดขาดต่อผู้ที่ทำลายทรัพย์สินและปล้นสะดมบ้านนักการเมือง จากนั้นการชุมนุมก็ค่อย ๆ ยุติลงชั่วคราว ทางด้าน 'ดร.อีฟ วอร์เบอร์ตัน' ผู้อำนวยการสถาบันอินโดนีเซีย มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ได้กล่าวว่า “ในขณะที่รัฐบาลดำเนินมาตรการรัดเข็มขัด และเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนรู้สึกไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ความคิดที่ว่าชนชั้นนำทางการเมืองในอินโดนีเซียซึ่งร่ำรวยอยู่แล้ว แต่จะได้เพิ่มเงินเดือน ยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกโกรธแค้น และทำให้พวกเขาออกมาบนท้องถนนเพื่อแสดงออกถึงความโกรธแค้นนั้น”
.
แบนโซเชียลมีเดีย
ชนวนเหตุ 'ม็อบ Gen Z เนปาล'
.
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา รัฐบาลเนปาลได้มีคำสั่งแบนโซเชียลมีเดีย 26 รายการ รวมถึงยูทูบ เฟซบุ๊ก และเอ็กซ์ โดยให้เหตุผลว่านี่เป็นมาตรการการรับมือกับข่าวปลอม, การใช้คำพูดแสดงความเกลียดชัง และการหลอกลวงในโลกออนไลน์ แต่ประชาชนมองว่านี่เป็นการใช้อำนาจแบบเผด็จการ และเป็นการปิดปากประชาชน จนกลุ่มวัยรุ่นหรือกลุ่มคน Gen Z ได้ออกมาชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 หรือในอีก 4 วันถัดมา (ปัจจุบันมีประชากรชาวเนปาลกว่า 17 ล้านคนที่ใช้โซเชียลมีเดีย)
.
แต่นี่ก็เป็นเพียงชนวนเหตุหลักที่ทำให้เกิดการชุมนุมเช่นกัน เพราะเอาเข้าจริง ๆ แล้ว การชุมนุมในครั้งนี้เกิดจากปัญหาที่ทับซ้อนกันอยู่หลายชั้น ไม่ว่าจะเป็นการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาล, ปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน จนต่อมาในโลกออนไลน์ได้เกิดแคมเปญ 'Nepo Kid' ซึ่งเป็นการกล่าวหาลูกหลานนักการเมืองที่ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยด้วยเงินที่ได้มาจากการทุจริตคอร์รัปชัน
.
การชุมนุมในครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรง มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 100 ราย มีการเผาอาคารรัฐสภา และสถานที่สำคัญต่าง ๆ รวมถึงมีการทำร้ายนักการเมือง ขณะเดียวกันการสลายการชุมนุมก็เต็มไปด้วยความรุนแรง มีการใช้แก๊สน้ำตา กระบอง กระสุนยาง รถฉีดน้ำ ทั้งนี้ ในเวลาต่อมารัฐบาลได้ยกเลิกคำสั่งแบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงนาย เค.พี. ชาร์มา โอลี นายกรัฐมนตรี ก็ได้ลาออกจากตำแหน่ง
.
ทุจริตโครงการระบายน้ำ
ชนวนเหตุ 'ม็อบ Gen Z ฟิลิปปินส์'
.
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา เกิดเหตุชุมนุมครั้งใหญ่ในประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้เข้าร่วมชุมนุมกว่า 33,000 คน เพื่อกดดันรัฐบาลที่นำโดย 'เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์' ประธานาธิบดีของประเทศ หลังจากพบว่ามีการทุจริตครั้งใหญ่เกิดขึ้นในประเทศ จากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ามีการทุจริตโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมและเขื่อนระบายน้ำกว่า 9,855 โครงการ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 545,000 ล้านเปโซ หรือประมาณ 9.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณเกินจริง มีการรับสินบน กินหัวคิว รวมถึงในบางโครงการก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
.
นี่คือกระบวนการโต้กลับของกลุ่มผู้ประท้วง Gen Z ชาวฟิลิปปินส์ ที่แต่เดิมต้องเผชิญกับปัญหาคนจนเมือง และประชากรล้นเมือง จากฐานความเชื่อทางศาสนาของประเทศที่คัดค้านการคุมกำเนิด ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหาอื่น ๆ ที่รายล้อมรอบตัวมาโดยตลอด ทั้งปัญหาคุณภาพชีวิต ปัญหาเรื่องระบบการศึกษา ไปจนถึงความเหลื่อมล้ำในประเทศที่ติดตัวประชากรตั้งแต่เด็กจนโต เมื่อปัญหาเดิมถูกเติมเชื้อไฟด้วยปัญหาทุจริตครั้งใหญ่ ทำให้กลุ่มผู้ประท้วง Gen Z ต่างตบเท้าเข้าร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลขึ้นในครั้งนี้ (ปัจจุบันมีประชากร Gen Z ชาวฟิลิปปินส์กว่า 21.87 ล้านคน และใช้โซเชียลมีเดีย)
.
การชุมนุมในครั้งนี้มีเหตุปะทะรุนแรงจำนวนหนึ่งเกิดขึ้นที่หน้าทำเนียบประธานาธิบดี โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมราว 100 คนใช้ก้อนหินและท่อนไม้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ รวมถึงเผายางรถยนต์ ทำลายสิ่งกีดขวางอีกด้วย จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บไปกว่า 70 นาย ก่อนจะมีตำรวจบางนายหยิบก้อนหินปากลับ และมีการใช้แก๊สน้ำตาสลายการจลาจล พร้อมจับกุมผู้ก่อเหตุจำนวนหนึ่งในท้ายที่สุด ทางด้านประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่ายินดีให้มีการจัดการชุมนุมอย่างสันติ และไม่ได้ตำหนิประชาชนที่ออกมาประท้วงเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
.
นี่คือทั้งหมดของเหตุการณ์ชุมนุมที่มาจากการปะทุของความโกรธแค้นจากคนชนชั้นล่างที่ทนไม่ไหวกับความผิดปกติจากกลุ่มคนชนชั้นนำในหลาย ๆ ประเทศในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งจากหลาย ๆ เหตุการณ์ ดังที่ ABC News กล่าวไว้ว่า ทศวรรษ 2020 นี้ คือทศวรรษแห่งความโกรธแค้นอย่างแท้จริง