🔩🔧🍺💃เส้นทางนี้โรยด้วยนัตและสกรู 5 💃🍺🔧🔩

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
📚🕯📒

ถนนเส้นสู่บางพลีนี้รถไม่หนาแน่นมากนัก สามารถขับรถในเวลาเร่งด่วนด้วยความเร็วเฉลี่ยหกสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงมีเวลา
ได้มองถนนหนทางด้านข้างบ้าง เราจะเคยชินเส้นทางนี้ในอีกไม่นาน เมื่อขับผ่านบริษัทเพื่อนก็อดจะมองดูไม่ได้ และรู้สึกได้ว่าบริษัท
เราอยู่ใกล้ๆกันนี่เอง

เมื่อขับมาถึงบริษัทก็ชะลอเลี้ยวด้วยมีรถคันอื่นอยู่ข้างหน้า ช่วงเวลาโมงเช้าถือว่ายังเช้ามากสำหรับบริษัทอื่น รถคันหน้าเลี้ยว
เข้าไปจอดที่ด้านในขวามือแล้ว เราจึงเลี้ยวไปจอดเข้าข้างรถอีกคันหนึ่งที่จอดใกล้กว่า เป็นรถเมอร์เซเดสรุ่นเก่ามากสักหน่อย ซึ่งมารู้
ภายหลังว่าเป็นของคุณประดับที่นั่งในพาร์ทิชันข้างๆเรานั่นเอง เมื่อหยุดรถแล้วก็ส่องกระจกจากที่พับบังตาหน้ารถ สำรวจดูหน้าตาคน
ตื่นเช้าว่ายังมีรอยยับบนใบหน้าหลงเหลืออยู่หรือเปล่า เพราะรีบทานอาหาร รีบแต่งตัว เมื่อหยิบกระเป๋าเอกสารลักษณะคล้ายกระเป๋า
นักเรียนเด็กมัธยมขึ้นมาถือ มีอุปกรณ์เครื่องเขียน สมุดโทรศัพท์และดิกชันนารีอังกฤษ-ไทย มีช่องใส่แค่สองช่องเป็นหนังสีดำผิวเรียบ
อย่างดี พร้อมกับสะพายกระเป๋าถือขนาดกลางสีดำเข้ากับรองเท้าสันสูงหนึ่งนิ้วครึ่ง สวมชุดกระโปรงติดกันแขนสั้นลายสก็อตเส้นห่าง
สีแดงอมส้มอ่อน เอวคาดเข็มขัดผ้าสีเดียวกัน และยังมีถุงผ้าใส่กล่องอาหารกลางวันกับกระดาษทิชชูกล่องเล็กด้วย

เมื่อลงจากรถหอบหิ้วสัมภาระเดินตรงสู่โรงงาน เห็นเบื้องหน้ามีชายหนุ่มสองคนเดินพูดกันและมองตรงมาที่เรา เมื่อใกล้เข้ามาก็เริ่ม
แปลกใจและหยุดคิดรีบยกมือรับไหว้สองหนุ่มที่ยืนเรียงแถวเหมือนแถวต้อนรับทันที

" สวัสดีครับ ผมนพพรเป็นรุ่นน้องพี่ครับ" คนลักษณะหน้าตาดีใส่แว่นใสกล่าวด้วยรอยยิ้ม บอกข้อความชัดเจน

" อ้าว สวัสดี โอ ดีจังเลย ทั้งสองคนเหรอคะ" เรายิ้มอย่างแปลกใจและยินดีในสิ่งที่ไม่นึกว่าจะได้ยิน หยุดยืนเลย

" เปล่าครับ ตั้มนี่ผู้ช่วยผมครับ"

" แล้วรู้ได้ไงล่ะคะ ว่าเป็นรุ่นพี่ " เรายิ้มพร้อมคำถาม

" แหมพี่ พอรู้ว่าพวกเดียวกัน ข่าวก็ไปทั้งโรงงานแล้วครับ" คุณนพพรกล่าวอย่างรู้สึกสนิทสนมขึ้นมาให้เห็น นี่เป็นส่วนดีของสถา
บันจริงๆ

" ดีใจนะคะที่ออกมารับเลยนี่" เราพูดพร้อมทั้งก้าวเดิน ยิ้มให้คนชื่อตั้มด้วย

" มีอะไรที่น่าบอกก็ช่วยบอกด้วยนะคะ เป็นผู้หญิงอาจไม่คล่องเท่าพวกคุณๆ"

" ไม่ต้องห่วงหรอกครับ พอพี่สถิตบอกว่าไมค์รับพี่เป็นรุ่นพี่ผมก็อ๋อ เพราะวันนั้นก็แอบมองกันอยู่แล้วครับ"

" เป็นพวกทันต่อเหตุการณ์นะคะ ดีจังเลย"

เมื่อพากันเดินขึ้นบันไดและข้ามฟากฝั่งโรงงานตามสะพานทอดข้ามสองช่วงของโรงงานคุณตั้มขอตัวแยกเข้าโรงงานไป
มาถึงฝั่งห้องวิศวกรรมที่มีป้ายแขวนอยู่ คุณนพพรก็พาเดินเข้ามาในห้องด้วย เพราะคุ้นเคยกันหมดกับพนักงาน Autocad ในห้อง
ที่เดินออกมาบ้างอยู่กับที่บ้างยกมือไหว้เมื่อมองไปยังทุกคน คุณนพพรทำหน้าที่เหมือนแนะนำตัวให้เสร็จโดยปริยาย เมื่อเดินมา
หน้าพาร์ทิชั่นคุณประดับเราก็รีบกล่าวสวัสดีค่ะนำไปก่อนเลย คุณประดับขยับตัวลุกขึ้นกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม และผายมือไปยังโต๊ะ
ข้างในพาร์ทิชั่นที่ติดกัน และคุณนพพรบอกขอตัวจากไป

เมื่อวางของบนโต๊ะที่โล่ง มองไปยังต้นไม้พลาสติกพุ่มใหญ่สูงแค่บ่ามีฝุ่นจับใส่ตะกร้าใหญ่อยู่ข้างโต๊ะ หยิบทิชชูมาเช็ดโต๊ะและเอา
ของใส่ลิ้นชักก่อนจะะนั่งมองไปรอบๆห้องที่เต็มไปด้วยโต๊ะพนักงานด้านขวามือสิบคน เว้นช่องทางเดินชิดไปด้านซ้าย เป็นโต๊ะอีกห้าตัว
ยังไม่มีคนนั่ง รวมแล้วมีคนในห้องนี้เกือบยี่สิบคน นึกทวนไปถึงใบประกาศรับว่าเราต้อง Supervise staff member ว่ามีกี่คนกันแน่

ทุกโต๊ะมีคอมพิวเตอร์ มีเครื่องพริ้นท์ และมีเครื่องถ่ายเอกสารวางใกล้เสาค่อนไปทางบริเวณพื้นที่กว้างที่พนักงานนั่ง สักพักคุณ
สถิตก็เปิดประตูเชื่อมจากห้องด้านข้างเดินเข้ามา เรารีบยิ้มลุกขึ้นยกมือไหว้ คุณสถิตรับไหว้แล้วพูดว่า

"ยินดีต้อนรับ" รอยยิ้มของคุณสถิตบอกความจริงใจ เขาน่าจะอายุมากกว่าเราสักสิบปี จัดว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวเลย สวมแว่นสายตา
สั้นหน้าตาเป็นคนไทย

" ขาดเหลืออะไรบอกนะครับ ตุ๊กตุ๊ก.." คุณสถิตหันไปเรียกสาวคนเดียวในห้อง ที่ลุกเดินมาหา

" ดูด้วยว่าควรจะมีอะไร โทรศัพท์ใช้รวมกับคุณประดับไปก่อน ตุ๊กตามเรื่องให้ด้วย ไปบอกคุณแจ๊คนะเรื่องคอมพ์มาติดตั้งได้แล้ว
เดี๋ยวเพ็ญมาก็ให้ดูแลคุณซูซี่ด้วย" คุณสถิตสั่งก่อนจะไปพูดอะไรกับคุณประดับก่อนออกจากห้องเข้าประตูที่อยู่ใกล้หน้าพาร์ทิชั่นเรา
ไปห้องเขาที่อยู่ข้างๆนี่

เด็กสาวหน้าตาดีผมเหยียดยาวสลวย รูปร่างเล็กเดินเข้าห้องมา วางกระเป๋าที่โต๊ะว่างกลุ่มห้าตัวนั้น แล้วเดินมายกมือไหว้เรา

" สวัสดีค่ะ หนูชื่อเพ็ญประภา เป็นเลขาแผนกค่ะ" เรารับไหว้แล้วก็นึกว่า อ้อ มีสองสาวที่นี่นะ

ทุกคนกลับเข้าประจำที่นั่งตนเองเพราะได้เวลางานแล้ว ด้านหลังเราเป็นผนังกระจก เปิดหน้าต่างได้ แต่มีขี้ฝุ่นแยะ เราเดินออกไป
ที่ระเบียงหน้าห้องมองลงไปสายผลิตที่มีสองไลน์ และกล่องใส่สินค้าวางเรียงด้านใต้ออฟฟิศฝั่งตรงกันข้ามที่เป็นห้องฝ่ายบุคคล และ
ห้องพยาบาล ต่อแนวไปถึงแผนกบัญชีที่สุดเขตห้องเป็นทางเดินขึ้นบันไดมาจากข้างล่างใกล้ห้องน้ำสามห้องของพนักงานฝั่งโซนนี้

คุณมนตรีผู้จัดการถือเอกสารเดินข้ามสะพานทอดมาฝั่งนี้ และมาหาเรา

" ยินดีต้อนรับครับ"

" สวัสดีค่ะ" เราตอบไป

" เดี๋ยวผมมีเอกสารให้เซ็นหน่อยนะครับ" เขาพูดพลางเดินนำมาข้างในห้อง มาที่โต๊ะ วางเอกสาร และอธิบายให้อ่าน เพื่อเซ็นตรง
ไหนบ้าง เกี่ยวกับกฎระเบียบและ Benefit ซึ่งต้องการเอกสารส่วนตัวรวมทั้งบัญชีธนาคารที่ต้องไปเปิดจากสาขาที่นี่ด้วย แล้วจะให้ลูก
น้องมารับเอกสารคืนทีหลัง แล้วเขาบอกให้เราเดินตามเขาไปทางระเบียงเป็นแนวไปจนถึงสะพานทอดข้ามไปอีกฝั่งเพื่อไปที่ห้องเจ้า
ของบริษัทเดิม ซึ่งอยู่ห้องแรกสุดของอาคาร เมื่อเข้าไปพบคนอายุรุ่นเดียวกับคุณสถิตนั่งอยู่ในห้อง ก็ยกมือสวัสดีเขาก็ลุกขึ้นมายิ้ม
รับไหว้ นั่งซักถามที่มาที่ไปสักพักเกี่ยวกับหน้าที่ของเราที่จะทำ ด้วยสนใจว่าเป็นซอฟแวร์ใหม่ และเขาผู้นี้พูดในภายหลังว่า ไม่เชื่อว่า
กล่องสี่เหลี่ยมจะทำอะไรได้มากนัก เรารับรู้ว่าเขาไม่เชื่อถือในเทคโนโลยี่ด้านคอมพิวเตอร์ทั้งๆที่เขาสำเร็จมาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อ
ของไทยทีเดียว จึงได้รู้ว่าเขาเป็นคนรุ่นเก่าจริงๆอาจจะเชื้อสายจีนด้วยกระมัง เมื่อเดินจากมาก็คิดว่าดีแล้วที่บริษัทอเมริกันมาTakeover
ผลิตภัณฑ์จะได้พัฒนาก้าวหน้าแข่งกับยุคโลกาภิวัฒน์

เมื่อเดินมาดูว่าเพ็ญประภาทำงานอะไรอยู่ ก็มีชายหนุ่มผิวขาวใส่แว่นอายุไม่น่าเกินสามสิบปีเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอีกตัวหนึ่ง ด้วยเพิ่ง
มาถึง เพ็ญประภากล่าวว่า

" วิจิตร นี่คุณซูซี่ผู้จัดการคนใหม่" คุณวิจิตรหันมาทักสวัสดีครับ แล้วก็ทำงานของตนเองไป ซึ่งทั้งสองคนทำ Data Base ของระบบ
AS 400 ที่จะนำมาใช้ในงาน โปรแกรม MRP II นั่นเอง

เราเดินไปดูพนักงานถ่ายแบบที่พริ้นต์ออกมาจากเครื่องเพื่อแจกจ่ายให้ทางโรงงาน และเดินไปดูพวกที่ทำ Autocad ที่มีสาวตุ๊กเป็น
หัวหน้า เพิ่งทราบภายหลังว่าส่วนมากมาจากขอนแก่น รวมทั้งคุณประดับด้วย ทุกคนเป็นพนักงานบริษัทเดิมที่นี่ก่อนจะรวมเป็นบริษัทชื่อ
ใหม่ตามที่รับพนักงาน
ใหม่อีกหลายตำแหน่งเพื่อรองรับระบบจากอเมริกา และยังไม่มีใครบอกว่าใครมีตำแหน่งอะไรนัก ส่วนโต๊ะอีกสามตัวมีพนักงานอีกสามคน
เป็นหญิงหนึ่งคนอยู่ฝ่าย Quality Control ซึ่งห้องทดลองหรือปฎิบัติการจะอยู่ในห้องถัดไปทางด้านหน้าโรงงาน

จากการเอาแบบที่เขียนสำเร็จมาดู เห็นว่าช่องTitle ชื่อบริษัทไม่สวยงามและเหมาะสมเท่าที่ควร จึงได้ออกแบบใหม่ให้ครอบคลุม
ขนาดของแบบเขียนในอัตราส่วนเท่าไร ชื่อชิ้นงาน วันที่ และผู้เขียนแบบ คิดว่าจะเอาให้คนหนึ่งลองสร้างและพริ้นต์ออกมาดูก่อนจะให้
ทุกคนได้ใช้ ก็ควรนำเสนอ Mr Michael Vice President ก่อนก็จะดีในวันพรุ่งนี้ ว่าเราเริ่มทำอะไร

ตอนก่อนสิบเอ็ดโมงเช้า เพ็ญประภารับโทรศัพท์แล้วบอกกับเราว่า บอสไม้ค์เรียกประชุมที่ห้องประชุมข้างห้องเขา นั่นหมายถึงเป็น
การแนะนำตัวเรา จึงถามเพ็ญประภาเบาๆว่า เมื่อเช้ามีสองหนุ่มออกไปรับพี่ที่ใกล้โรงรถเขาตำแหน่งอะไร ชื่อตั้มกับนพพรนะ เพ็ญบอก
ว่าพี่นพพรเป็นผู้จัดการโรงงาน พี่ตั้มเป็นผู้ช่วยค่ะ แล้วคุณประดับนี่ล่ะ อ๋อ เป็นผู้จัดการฝ่ายซ่อมบำรุงค่ะ แล้วคุณวิจิตรนี่ล่ะคะ เขาทำงาน
เหมือนหนูทำฐานข้อมูลชิ้นงานทั้งหมด แยกหมวดหมู่อยู่ค่ะ คำถามพอเพียงแค่นี้สำหรับวันนี้ก่อน อย่างน้อยก็พอรู้จักบ้างก่อนไปเจอทุก
คนในห้องประชุม

คุณสถิตเดินมาหาเพื่อพาไปด้วยกันมีคุณประดับเดินตาม ที่นั่นมีผู้จัดการทุกคนนั่งอยู่รวมต่างชาติที่เรียกว่าฝรั่งอีกสองคน นอกนั้นเป็น
คนไทยหมด รวม12 คน ทุกคนยิ้มให้เราบ้าง สักครู่ไม้ค์ก็เข้ามาแล้วมองหน้าเราพูด Hello เราก็ Hello, how are you ตอบไป

Mike said "first of all I would like to introduce you our new Documentation manager, Ms Susi"

คนไทยบอกสวัสดี แต่มีคนหนึ่งรูปร่างท้วมหน่อย ผิวขาว ขนที่แขนยาว หน้าออกกึ่งไทยกึ่งจีนหรือญี่ปุ่นมองด้วยรอยยิ้มร้องทัก Hi !

เอาละสิ ใครกันนั่น ทักเหมือนคนเคยเจอกันรู้จักกัน แถมยิ้มมากมาย ทุกคนก็มองเราเป็นตาเดียว เราก็ยิ้มด้วยหน้าตาส่อความสงสัย

ไม้ค์พูดว่า ยิ้ม' s Sam! เท่านั้นแหละ เราก็ยกมือขวาขึ้นกวักมือโดยไม่รู้ตัว แบบเยอรมัน ว่า อ๋อ เธอเอง และบอกไปว่า

"Thank you for every thing" เพื่อยืนยันว่าเพราะเธอ ฉันถึงได้มาอยู่ตรงนี้ ไม่อยากเข้าข้างตนเองว่าเห็นแซมยิ้มอย่างมาก อย่าง

น้อยก็ไม่ผิดหวังที่ได้ยายคนนี้หน้าตาแบบนี้และหุ่นดีเหลือหลายมาทำงานด้วย มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ การแนะนำตัวบรรยากาศดีมากๆเลย

สำหรับการเห็นหน้า มิสเตอร์แซม ที่เราก็ลืมนึกถึงไปแล้ว เพราะคิดว่าอยู่อเมริกา

Mike แนะนำฝรั่งอีกสองคนเป็นชาวอังกฤษที่ตัวป้อมหน่อยอายุคงน้อยกว่าเราคุมแผนกบัญชี ชื่อ Daniel และอีกคนเป็นอเมริกันชื่อ
Douglas อยู่ฝ่ายขายต่างประเทศ

การประชุมพูดเรื่องที่จะเริ่มทั่วๆไป และจบลงก่อนเที่ยง โดยมีเลขาหญิงตามเข้ามาจดประชุมด้วย แต่ไม่เห็นมีรายงานประชุมแจกภายหลัง

เมื่อได้เวลาสี่โมงครึ่งทุกคนก็ขยับตัวเก็บข้าวของ พนักงานจะมีรถบัสรับส่งทุกเช้าเย็น จึงทำให้คนที่ต้องนั่งรถตรงต่อเวลา เราก็มองรอบๆห้องด้วยนิสัยที่ฝึกจนชิน และอดจะเดินไปดูปลั๊กไฟเครื่องถ่ายเอกสารว่าถอดเรียบร้อยแล้ว คนที่ออกจากห้องสุดท้ายจะต้องไม่ลืมปิดเแอร์ ซึ่งส่วนมากจะเป็นสาวตุ๊กแทบทุกวัน เมื่อได้ออกจากห้องมาเดินสู่ถนนไปที่รถก็ยิ้มกับหลายคนที่พบเห็น ในใจนึกว่าวันเริ่มต้นมีเรื่องแปลกใจสองอย่างที่ดี นึกถึงคำไทยที่ว่า เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ราวกับออกสตาร์ทดีมีโอกาสชนะ ซึ่งตรงข้ามกับคำเยอรมันที่ว่า Ende gut, alles gut จบด้วยดีก็ดีทั้งหมด

~-●✿ จบ ✿●-~
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่