[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วันนี้ถือว่าเป็นวันที่ควรจะเขียนเรื่องราวต่างๆจากอดีตเรียบเรียงเป็นเรื่องสั้นจากความทรงจำ บางส่วนไม่อาจระบุชัดเจนเพราะอาจเป็นการพาดพิงที่ไม่เหมาะควรได้ เคยตามอ่านเรื่องของคุณเจียวต้ายที่วางในห้องนี้แล้วได้รับรู้ในสื่งที่น่ารู้หลายอย่างว่ากว่าจะมาถึงบั้นปลายได้ดำรงชีวิตทำมาหากินในแขนงไหน เผชิญกับอะไร ขนาดไหนมาบ้าง หากแต่ผู้เขียนคงจะนำเสนอในรูปแบบที่จดจำ
ได้เท่านั้น เพราะผ่านมาหลายปีเหลือเกิน มีบางส่วนสอดแทรกในนิยายเรื่องสั้นที่เขียนไปแล้วบ้าง ที่ตกลงใจเขียนเพราะมีคนเคยบอกว่า 'ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา' ได้รับรู้ก็รู้สึกยินดีและเรียบเรียงมาให้อ่านกันเล่นๆในห้องนักเขียนนี้นะคะ โดย 'พลอยแดง'
เส้นทางนี้โรยด้วยนัตและสกรู ตอน ผู้จัดการ
ทุกคนย่อมต้องได้ 'จัดการ' กับหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี หรือสำเร็จเสร็จสิ้น
ในหน้าที่การงานของวัยที่ยังหนุ่มสาวมักจะได้รับการเรียนรู้มากว่าขั้นได้การจัดการใดๆ ทั้งนี้เนื่องจากประสบการณ์หรือความชำนาญในสิ่งที่ทำนั้นยังไม่ถึงระดับรู้สั่งการก็เป็นได้
เมื่อได้ประเมินว่าสร้างสมประสบการณ์มากพอก็ถือเป็นโอกาสสมัครงานในตำแหน่ง ผู้จัดการ ตำแหน่งนี้มิได้เรียนจากสถาบันใดได้
นอกจากความสามารถและวุฒิในสาขาอาชีพที่มีถึงตามที่บริษัทต้องการเท่านั้น
หลังจากลาออกจากที่ทำงานเก่าและพักผ่อนมาจนพอแล้วก็มาหางานในหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ เมื่ออ่านหน้าที่ต้องทำในตำแหน่งนั้นแล้วตรงกับความชำนาญของเราที่สร้างสมมาหลายสิบปี จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามและนัดวันพบตัวเพื่อสัมภาษณ์
การเข้าพบบริษัทจัดหางานในตึกใหญ่กลางใจกรุงเทพไม่ได้ยากเย็นอะไร หากแต่ความคิดคำนึงกลับนึกไปว่าจะได้งานเลยหรือเปล่า เพราะไม่รู้ว่าบริษัทชื่ออะไรอยู่ที่ไหน ใกล้ไกลจากบ้านเท่าไร
บุคคลที่ได้พบเป็นสุภาพสตรีที่ขอดูเรซูเม่และใบผ่านงานที่มี สอบถามรายละเอียดตามประวัติที่อ่านในเอกสาร การทดสอบทัศนคติในการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งคงเป็นไปอย่างพอใจของผู้สัมภาษณ์ที่ต้องคัดเลือกผู้สมัครป้อนบริษัทที่ต้องการหาบุคลากรตามความต้องการ
ในบรรยากาศที่เป็นกันเองด้วยวัยทั้งสองคนมิได้ห่างไกลกัน การประเมินด้วยการสัมภาษณ์สิ้นสุดด้วยการรวบรวมเอกสารเรซูเม่ไว้ประกอบการพิจารณาและจะโทรแจ้งเพื่อให้ไปพบเจ้าของบริษัทที่จะทำงานด้วยสัมภาษณ์โดยตรงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากรู้ว่าบริษัทมิได้ไกลจากบ้านเลยจึงรู้สึกยินดีเป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องการทำงานก็มิได้วิตกกังวลอะไร ด้วยได้ผ่านงานบริษัทต่างชาติที่มีเครื่องจักรหลากหลายในการผลิตอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือเขาพิจารณาผ่านขั้นต้นคงเพราะต้องใช้ภาษาเยอรมันด้วย
สองวันต่อมาก็ต้องขับรถไม่ไกลจากบ้านเพื่อมายังบริษัทที่เช่าโรงงานทำกิจการ มีพนักงานสองร้อยคน ถือเป็นบริษัทที่ทำการผลิตขนาดเล็กตามผลิต ภัณฑ์ แฟชั่นเจเวลลี่ ที่มีบริษัทแม่ที่มีชื่อเสียงทั่วโลกอยู่ที่ประเทศออสเตรีย
เมื่อแจ้งความประสงค์กับยามและได้มานั่งรอในห้องปรับอากาศเล็ก ๆห้องหนึ่ง สักครู่ชายต่างชาติหน้าตาดีคล้ายแขกขาวประเมินได้ว่าคงเป็นลูกครึ่งเยอรมันยุโรปวัยไม่เกินสี่สิบสวมเสื้อเชิ๊ตโปโลสีขาวชายเสื้อสอดในสแล็คสีดำก็เดินเข้ามา ได้รับรู้ชื่อมาก่อนหน้านี้แล้ว
ฉะนั้นการทักทายก็ควรจะขานชื่อเขาด้วยเมื่อได้ลุกขึ้นจับมือทักทายกัน แน่นอนเขาทักเป็นภาษาเยอรมัน ถือเป็นการสัมภาษณ์จริงตัวจริงโดย Chef คือ Boss ในภาษาอังกฤษ แต่นิยมเรียกชื่อตัวมากกว่า
เมื่อได้นั่งลงสบสายตากันแล้ว การพูดคุยถึงวัตถุที่ผลิตและมุ่งแต่เรื่องในบริเวณโรงงานเสียเป็นส่วนมาก คำถามล้วนแต่เกี่ยวเนื่องมาจากใบ Certificate ที่ให้ไป โดยเฉพาะสายการผลิตระดับ การบริหารการผลิตชั้นสูงจากมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น
หลังจากใช้เวลาคุยกันราวครึ่งชั่วโมงในภาพรวมหมดแล้ว มาถึงคำถามสุดท้ายคือ
"คุณจะมาเริ่มงานเร็วที่สุดได้เมื่อไร"
ในที่สุดก็ได้ผ่านการสัมภาษณ์และให้มาทำงานเร็วที่สุด ในอัตราเงินเดือนที่ได้ขอไป เนื่องจากเครื่องจักรบางตัวกำลังเข้ามาพร้อม
กับช่างเทคนิคจากเยอรมัน ต้องมีคนรับหน้าที่นี้
ทุกแผนกเล็กๆมีหัวหน้าคุมอยู่แล้วแต่เหมือนไม่มีตำแหน่งผู้จัดการเพราะบริษัทเพิ่งเริ่มกิจการได้เกือบปี การ Set up งานเหมือนอยู่ในช่วง Test run ของเครื่องจักรต่างๆ และมีชาวต่างชาติเป็นหญิงสาวหน้าตาสวยอวบชาวเยอรมันมาสอนงานด้านการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์
และตบแต่งด้วย
ส่วนแผนกตรวจสอบคุณภาพด้านบรรจุหีบห่อด้วยความสวยงามส่งต่างประเทศก็มีหญิงชาวต่างชาติอีกคนหนึ่งคุมอยู่ มารู้ภายหลังว่าเป็นชาวอิตาลีรู้จักและทำงานกับ Chef มาก่อนอยู่ที่นี่
แผนกขึ้นรูปผลิตภัณฑ์เบื้องต้นด้วยการหลอมละลายกลับมีชายชาวพม่าสองคนเป็นหัวหน้าทั้งสองกะ ชาวพม่านี้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารและใช้ภาษาไทยนิดหน่อยกับพนักงานไทย ส่วนพม่าอีกคนหนึ่งเป็นวิศวกรจากย่างกุ้ง ทำหน้าที่ควบคุมคุณภาพซึ่งมีขั้นตอน
ตั้งแต่ต้นจนจบการผลิต
ในจำนวนพนักงานไทยที่รวมชายหญิงทำงานในห้องแอร์คอนดิชั่นกับเครื่องมือเฉพาะของตนเอง ไม่มีผู้จัดการหรือหัวหน้า Chefมักจะมาดูแลเองในเบื้องต้น
การทำงานใหม่ๆเหมือนลองผิดลองถูกอยู่ไม่น้อย แต่ดูว่าไม่มีปัญหาในการเริ่มต้น เพราะ Chef ให้เลขามาบอกในสัปดาห์ต่อมาว่ามี Welcome party สำหรับเราในวันต่อมา ที่ Oriental hotel เขตบางรักสำหรับมื้อเย็น ที่นั่นบรรดาผู้ที่ได้รับเชิญมีต่างชาติและคนไทยที่ทำงานบัญชีเป็นผู้หญิงอายุมากกว่าเรา กับหัวหน้าแผนกชายอีก สี่คน รวมเป็นสิบคน ทุกคนสั่งอาหารตามใจชอบ ซึ่งคนทำบัญชีก็สั่งส้มตำที่มีพนักงานนั่งตำให้เห็นต่อหน้า พร้อมทั้งอาหารทานเล่นอื่น ๆเพื่อโชว์ต่างชาติ ทุกคนได้ดื่มน้ำมะพร้าวจากลูกมะพร้าวที่มีกล้วยไม้ไทยเสียบติดมาด้วย
ลมพัดเย็นริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เห็นเรือข้ามฟากของโรงแรมก็ข้ามรับส่งลูกค้าไปโรงแรมฝั่งตรงข้ามด้วย
บรรยากาศยามค่ำคืนผิดกับริมเจ้าพระยาด้านพระสมุทรเจดีย์ ปากน้ำที่เคยคุ้น
คืนนั้น Chef กล่าวต้อนรับและบอกถึงการขยายโรงงานมีมูลค่าล้านบาทเพื่อใช้เก็บสต็อคสินค้าก่อนส่งเป็นล็อตไปยังบริษัทแม่ที่ยุโรป
และโปรเจ็คอันนี้ได้เตรียมให้เราเป็นผู้จัดการจนกว่าจะเสร็จในอนาคต นั่นไม่แปลกใจเท่าที่ Chef ได้ยื่นกล่องนามบัตรตำแหน่งให้ ซึ่งมันเป็นงานหนักมากตามนามบัตรคือ
Factory Manager
หลังจากนั้นความรู้ต่างๆที่เป็นทฤษฏีก็ต้องเอาตำรามาพลิกดู ทั้ง Just in time, Motion Study , first in First out , 5 ส ต่างๆมากมายตามโอกาสที่จำเป็นต้องใช้ทั้งงานในโรงงานและงานก่อสร้างตอกเสาเข็มส่วนขยายใหม่
เครื่องจักรใหม่ถูกนำเข้ามาในขณะที่ช่างเทคนิคเยอรมันมานอนรออยู่แล้ว แถมด้วยคำถามที่ว่า เมียเช่าหาได้ที่ไหน ไม่รู้ว่าไปเอาความรู้คิดอันนี้มาจากเยอรมันได้อย่างไร เวรกรรมจริง ๆ ส่วนอีกคนก็หาน้ำมันหม่องคือยาหม่องเป็นน้ำที่ต้องให้พนักงานพาไปหาที่เยาวราชในวันต่อมา
Chef เป็นคนมีเงิน ดูจากการใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าบริษัทหางานที่หาเรามา บริษัทก็ต้องจ่ายเท่าเงินเดือน ๆหนึ่งของเรา คนทำบัญชีบอกให้ฟังในตอนหลัง
ร้อยแปดปัญหาที่มีมาให้ขบคิดเรื่อยๆก็ไม่เท่ากับปัญหาในเช้าวันหนึ่ง มันเกิดขึ้นเมื่อเช้าตรู่ที่เราได้รับโทรศัพท์ที่บ้าน
" ผู้จัดการมาโรงงานเร็ว ๆครับ คนงานเราถูกแทง.." เสียงใครคนหนึ่งพูดมา
" อ้าว..รีบพาไปโรงพยาบาลก่อน เดี๋ยวจะไปเดี๋ยวนี้เลย" นั่นเป็นความคิดแรกที่นึกได้ หลังจากรีบแต่งตัวก็ขับรถมาชั่วสิบนาทีก็ถึงที่ทำงาน
ภาพที่เห็นห่างจากหน้าโรงงานมีกลุ่มคนยืนอยู่ไม่กี่คน แต่ที่หน้าประตูโรงงานพนักงานออจับกลุ่มกันอยู่ ด้วยยังไม่ถึงเวลาเข้างาน
ในจำนวนนั้นพนักงานหนุ่มที่ทาแก้มแดงทุกวันก็ยืนหน้าตื่นอยู่ด้วย เมื่อจอดรดชิดข้างทางได้ก็รีบลงจากรถทันที
" ประสงค์ถูกจับครับผู้จัดการ คนป่วยก็พาไปส่งโรงพยาบาลแล้ว ตำรวจมาจับเอนกไปโรงพักเพราะมีมีด" พนักงานคนหนึ่งรีบบอก
เมื่อเห็นหน้าเรา ส่วนพวกหัวหน้ายังไม่มาถึงที่ทำงาน
นี่เราต้องไปที่ไหนก่อน?
" ใครเห็นเหตุการณ์ช่วยกันเล่าสิ"
" คิดว่าเป็นคนที่มีเรื่องกับประสงค์มาดักทำร้ายประสงค์ครับ" คนหนึ่งบอก
" แต่ประสงค์มีมีดเลยเอามาแทงออกไปโดนเลือดอาบเลย" อีกคนเสริม
" มีใครไปกับคนป่วย ใครไปกับตำรวจ?"
" มีครับ แยกกันไปเป็นเพื่อนทั้งคู่"
" เดี๋ยวคุณสมภพมา ให้ตามไปโรงพยาบาลเลยนะ" เป็นคำสั่งในตำแหน่งผู้จัดการโรงงานสั่งหัวหน้าแผนก
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัท และใกล้สถานีตำรวจด้วย หลังจากดูคู่กรณีพ้นขีดอันตรายแล้ว ขอพบหมอผู้อำนวยการ
เนื่องด้วย ท่านเป็นนักเรียนเก่าเยอรมัน จึงได้รับความสะดวกในการติดต่อกับตำรวจเป็นอย่างดีจากการประสานงานของท่านผู้อำนวยการ
โรงพยาบาล แต่อย่างไรก็ดี พนักงานของเราก็ต้องขึ้นศาลข้อหาทำร้ายร่างกาย ถึงจะเป็นป้องกันตัวก็ตาม การช่วยเหลือได้ช่วยเป็นการทะเลาะวิวาทไม่ให้ถึงขนาดพยายามฆ่า
ต่อมาพนักงานก็ถูกจองจำ และมีจดหมายถึงผู้จัดการ โดยฝากพนักงานที่ไปเยี่ยมมาถึงเรา นั่นก็คือความต้องการให้ช่วยเหลือครอบครัวของเขาต่อไป
⏰จบ⌛
🔩🔧🍺💃เส้นทางนี้โรยด้วยนัตและสกรู 💃🍺🔧🔩
ในหน้าที่การงานของวัยที่ยังหนุ่มสาวมักจะได้รับการเรียนรู้มากว่าขั้นได้การจัดการใดๆ ทั้งนี้เนื่องจากประสบการณ์หรือความชำนาญในสิ่งที่ทำนั้นยังไม่ถึงระดับรู้สั่งการก็เป็นได้
เมื่อได้ประเมินว่าสร้างสมประสบการณ์มากพอก็ถือเป็นโอกาสสมัครงานในตำแหน่ง ผู้จัดการ ตำแหน่งนี้มิได้เรียนจากสถาบันใดได้
นอกจากความสามารถและวุฒิในสาขาอาชีพที่มีถึงตามที่บริษัทต้องการเท่านั้น
หลังจากลาออกจากที่ทำงานเก่าและพักผ่อนมาจนพอแล้วก็มาหางานในหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ เมื่ออ่านหน้าที่ต้องทำในตำแหน่งนั้นแล้วตรงกับความชำนาญของเราที่สร้างสมมาหลายสิบปี จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามและนัดวันพบตัวเพื่อสัมภาษณ์
การเข้าพบบริษัทจัดหางานในตึกใหญ่กลางใจกรุงเทพไม่ได้ยากเย็นอะไร หากแต่ความคิดคำนึงกลับนึกไปว่าจะได้งานเลยหรือเปล่า เพราะไม่รู้ว่าบริษัทชื่ออะไรอยู่ที่ไหน ใกล้ไกลจากบ้านเท่าไร
บุคคลที่ได้พบเป็นสุภาพสตรีที่ขอดูเรซูเม่และใบผ่านงานที่มี สอบถามรายละเอียดตามประวัติที่อ่านในเอกสาร การทดสอบทัศนคติในการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งคงเป็นไปอย่างพอใจของผู้สัมภาษณ์ที่ต้องคัดเลือกผู้สมัครป้อนบริษัทที่ต้องการหาบุคลากรตามความต้องการ
ในบรรยากาศที่เป็นกันเองด้วยวัยทั้งสองคนมิได้ห่างไกลกัน การประเมินด้วยการสัมภาษณ์สิ้นสุดด้วยการรวบรวมเอกสารเรซูเม่ไว้ประกอบการพิจารณาและจะโทรแจ้งเพื่อให้ไปพบเจ้าของบริษัทที่จะทำงานด้วยสัมภาษณ์โดยตรงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากรู้ว่าบริษัทมิได้ไกลจากบ้านเลยจึงรู้สึกยินดีเป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องการทำงานก็มิได้วิตกกังวลอะไร ด้วยได้ผ่านงานบริษัทต่างชาติที่มีเครื่องจักรหลากหลายในการผลิตอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือเขาพิจารณาผ่านขั้นต้นคงเพราะต้องใช้ภาษาเยอรมันด้วย
สองวันต่อมาก็ต้องขับรถไม่ไกลจากบ้านเพื่อมายังบริษัทที่เช่าโรงงานทำกิจการ มีพนักงานสองร้อยคน ถือเป็นบริษัทที่ทำการผลิตขนาดเล็กตามผลิต ภัณฑ์ แฟชั่นเจเวลลี่ ที่มีบริษัทแม่ที่มีชื่อเสียงทั่วโลกอยู่ที่ประเทศออสเตรีย
เมื่อแจ้งความประสงค์กับยามและได้มานั่งรอในห้องปรับอากาศเล็ก ๆห้องหนึ่ง สักครู่ชายต่างชาติหน้าตาดีคล้ายแขกขาวประเมินได้ว่าคงเป็นลูกครึ่งเยอรมันยุโรปวัยไม่เกินสี่สิบสวมเสื้อเชิ๊ตโปโลสีขาวชายเสื้อสอดในสแล็คสีดำก็เดินเข้ามา ได้รับรู้ชื่อมาก่อนหน้านี้แล้ว
ฉะนั้นการทักทายก็ควรจะขานชื่อเขาด้วยเมื่อได้ลุกขึ้นจับมือทักทายกัน แน่นอนเขาทักเป็นภาษาเยอรมัน ถือเป็นการสัมภาษณ์จริงตัวจริงโดย Chef คือ Boss ในภาษาอังกฤษ แต่นิยมเรียกชื่อตัวมากกว่า
เมื่อได้นั่งลงสบสายตากันแล้ว การพูดคุยถึงวัตถุที่ผลิตและมุ่งแต่เรื่องในบริเวณโรงงานเสียเป็นส่วนมาก คำถามล้วนแต่เกี่ยวเนื่องมาจากใบ Certificate ที่ให้ไป โดยเฉพาะสายการผลิตระดับ การบริหารการผลิตชั้นสูงจากมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น
หลังจากใช้เวลาคุยกันราวครึ่งชั่วโมงในภาพรวมหมดแล้ว มาถึงคำถามสุดท้ายคือ
"คุณจะมาเริ่มงานเร็วที่สุดได้เมื่อไร"
ในที่สุดก็ได้ผ่านการสัมภาษณ์และให้มาทำงานเร็วที่สุด ในอัตราเงินเดือนที่ได้ขอไป เนื่องจากเครื่องจักรบางตัวกำลังเข้ามาพร้อม
กับช่างเทคนิคจากเยอรมัน ต้องมีคนรับหน้าที่นี้
ทุกแผนกเล็กๆมีหัวหน้าคุมอยู่แล้วแต่เหมือนไม่มีตำแหน่งผู้จัดการเพราะบริษัทเพิ่งเริ่มกิจการได้เกือบปี การ Set up งานเหมือนอยู่ในช่วง Test run ของเครื่องจักรต่างๆ และมีชาวต่างชาติเป็นหญิงสาวหน้าตาสวยอวบชาวเยอรมันมาสอนงานด้านการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์
และตบแต่งด้วย
ส่วนแผนกตรวจสอบคุณภาพด้านบรรจุหีบห่อด้วยความสวยงามส่งต่างประเทศก็มีหญิงชาวต่างชาติอีกคนหนึ่งคุมอยู่ มารู้ภายหลังว่าเป็นชาวอิตาลีรู้จักและทำงานกับ Chef มาก่อนอยู่ที่นี่
แผนกขึ้นรูปผลิตภัณฑ์เบื้องต้นด้วยการหลอมละลายกลับมีชายชาวพม่าสองคนเป็นหัวหน้าทั้งสองกะ ชาวพม่านี้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารและใช้ภาษาไทยนิดหน่อยกับพนักงานไทย ส่วนพม่าอีกคนหนึ่งเป็นวิศวกรจากย่างกุ้ง ทำหน้าที่ควบคุมคุณภาพซึ่งมีขั้นตอน
ตั้งแต่ต้นจนจบการผลิต
ในจำนวนพนักงานไทยที่รวมชายหญิงทำงานในห้องแอร์คอนดิชั่นกับเครื่องมือเฉพาะของตนเอง ไม่มีผู้จัดการหรือหัวหน้า Chefมักจะมาดูแลเองในเบื้องต้น
การทำงานใหม่ๆเหมือนลองผิดลองถูกอยู่ไม่น้อย แต่ดูว่าไม่มีปัญหาในการเริ่มต้น เพราะ Chef ให้เลขามาบอกในสัปดาห์ต่อมาว่ามี Welcome party สำหรับเราในวันต่อมา ที่ Oriental hotel เขตบางรักสำหรับมื้อเย็น ที่นั่นบรรดาผู้ที่ได้รับเชิญมีต่างชาติและคนไทยที่ทำงานบัญชีเป็นผู้หญิงอายุมากกว่าเรา กับหัวหน้าแผนกชายอีก สี่คน รวมเป็นสิบคน ทุกคนสั่งอาหารตามใจชอบ ซึ่งคนทำบัญชีก็สั่งส้มตำที่มีพนักงานนั่งตำให้เห็นต่อหน้า พร้อมทั้งอาหารทานเล่นอื่น ๆเพื่อโชว์ต่างชาติ ทุกคนได้ดื่มน้ำมะพร้าวจากลูกมะพร้าวที่มีกล้วยไม้ไทยเสียบติดมาด้วย
ลมพัดเย็นริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เห็นเรือข้ามฟากของโรงแรมก็ข้ามรับส่งลูกค้าไปโรงแรมฝั่งตรงข้ามด้วย
บรรยากาศยามค่ำคืนผิดกับริมเจ้าพระยาด้านพระสมุทรเจดีย์ ปากน้ำที่เคยคุ้น
คืนนั้น Chef กล่าวต้อนรับและบอกถึงการขยายโรงงานมีมูลค่าล้านบาทเพื่อใช้เก็บสต็อคสินค้าก่อนส่งเป็นล็อตไปยังบริษัทแม่ที่ยุโรป
และโปรเจ็คอันนี้ได้เตรียมให้เราเป็นผู้จัดการจนกว่าจะเสร็จในอนาคต นั่นไม่แปลกใจเท่าที่ Chef ได้ยื่นกล่องนามบัตรตำแหน่งให้ ซึ่งมันเป็นงานหนักมากตามนามบัตรคือ
Factory Manager
หลังจากนั้นความรู้ต่างๆที่เป็นทฤษฏีก็ต้องเอาตำรามาพลิกดู ทั้ง Just in time, Motion Study , first in First out , 5 ส ต่างๆมากมายตามโอกาสที่จำเป็นต้องใช้ทั้งงานในโรงงานและงานก่อสร้างตอกเสาเข็มส่วนขยายใหม่
เครื่องจักรใหม่ถูกนำเข้ามาในขณะที่ช่างเทคนิคเยอรมันมานอนรออยู่แล้ว แถมด้วยคำถามที่ว่า เมียเช่าหาได้ที่ไหน ไม่รู้ว่าไปเอาความรู้คิดอันนี้มาจากเยอรมันได้อย่างไร เวรกรรมจริง ๆ ส่วนอีกคนก็หาน้ำมันหม่องคือยาหม่องเป็นน้ำที่ต้องให้พนักงานพาไปหาที่เยาวราชในวันต่อมา
Chef เป็นคนมีเงิน ดูจากการใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าบริษัทหางานที่หาเรามา บริษัทก็ต้องจ่ายเท่าเงินเดือน ๆหนึ่งของเรา คนทำบัญชีบอกให้ฟังในตอนหลัง
ร้อยแปดปัญหาที่มีมาให้ขบคิดเรื่อยๆก็ไม่เท่ากับปัญหาในเช้าวันหนึ่ง มันเกิดขึ้นเมื่อเช้าตรู่ที่เราได้รับโทรศัพท์ที่บ้าน
" ผู้จัดการมาโรงงานเร็ว ๆครับ คนงานเราถูกแทง.." เสียงใครคนหนึ่งพูดมา
" อ้าว..รีบพาไปโรงพยาบาลก่อน เดี๋ยวจะไปเดี๋ยวนี้เลย" นั่นเป็นความคิดแรกที่นึกได้ หลังจากรีบแต่งตัวก็ขับรถมาชั่วสิบนาทีก็ถึงที่ทำงาน
ภาพที่เห็นห่างจากหน้าโรงงานมีกลุ่มคนยืนอยู่ไม่กี่คน แต่ที่หน้าประตูโรงงานพนักงานออจับกลุ่มกันอยู่ ด้วยยังไม่ถึงเวลาเข้างาน
ในจำนวนนั้นพนักงานหนุ่มที่ทาแก้มแดงทุกวันก็ยืนหน้าตื่นอยู่ด้วย เมื่อจอดรดชิดข้างทางได้ก็รีบลงจากรถทันที
" ประสงค์ถูกจับครับผู้จัดการ คนป่วยก็พาไปส่งโรงพยาบาลแล้ว ตำรวจมาจับเอนกไปโรงพักเพราะมีมีด" พนักงานคนหนึ่งรีบบอก
เมื่อเห็นหน้าเรา ส่วนพวกหัวหน้ายังไม่มาถึงที่ทำงาน
นี่เราต้องไปที่ไหนก่อน?
" ใครเห็นเหตุการณ์ช่วยกันเล่าสิ"
" คิดว่าเป็นคนที่มีเรื่องกับประสงค์มาดักทำร้ายประสงค์ครับ" คนหนึ่งบอก
" แต่ประสงค์มีมีดเลยเอามาแทงออกไปโดนเลือดอาบเลย" อีกคนเสริม
" มีใครไปกับคนป่วย ใครไปกับตำรวจ?"
" มีครับ แยกกันไปเป็นเพื่อนทั้งคู่"
" เดี๋ยวคุณสมภพมา ให้ตามไปโรงพยาบาลเลยนะ" เป็นคำสั่งในตำแหน่งผู้จัดการโรงงานสั่งหัวหน้าแผนก
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัท และใกล้สถานีตำรวจด้วย หลังจากดูคู่กรณีพ้นขีดอันตรายแล้ว ขอพบหมอผู้อำนวยการ
เนื่องด้วย ท่านเป็นนักเรียนเก่าเยอรมัน จึงได้รับความสะดวกในการติดต่อกับตำรวจเป็นอย่างดีจากการประสานงานของท่านผู้อำนวยการ
โรงพยาบาล แต่อย่างไรก็ดี พนักงานของเราก็ต้องขึ้นศาลข้อหาทำร้ายร่างกาย ถึงจะเป็นป้องกันตัวก็ตาม การช่วยเหลือได้ช่วยเป็นการทะเลาะวิวาทไม่ให้ถึงขนาดพยายามฆ่า
ต่อมาพนักงานก็ถูกจองจำ และมีจดหมายถึงผู้จัดการ โดยฝากพนักงานที่ไปเยี่ยมมาถึงเรา นั่นก็คือความต้องการให้ช่วยเหลือครอบครัวของเขาต่อไป