🔩🔧🍺💃เส้นทางนี้โรยด้วยนัตและสกรู 7 ตอน MRP II 💃🍺🔧🔩

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
⏰⌛

เช้าวันนี้เรานั่งกิน Cracker & Puff เป็นอาหารเช้าพร้อมจิบน้ำชาตามปกติ มองไปทางขวามือที่ไม่มีพาร์ทิชั่นกั้นระหว่างเรากับคุณประดับ แต่มีช่องว่างเป็นทางเดินเข้ามาที่โต๊ะของแต่ละคน มีแผงกั้นด้านหน้าและด้านข้างฝั่งโน้นเท่านั้น

มองเห็นคุณประดับหยิบเนื้อและข้าวเหนียวจากลิ้นชักกินพร้อมอ่านเอกสารไปด้วย ในวันแรกๆเราเห็นว่าเขาก็กินแซนวิซ
เป็นอาหารเช้าเช่นกัน ส่วนน้ำร้อนเดินไปกดได้จากกระติกต้มน้ำร้อนที่โต๊ะวางข้างผนังที่มีกระจกบานเล็กๆแขวนอยู่ราวกับแขวนที่บ้าน เราดื่มชาถุงที่เอามาจากบ้าน น้ำดื่มอยู่ในขวดบนเครื่องกด และแม่บ้านก็ทำความสะอาดต้นไม้พลาสติกให้แล้ว

มีเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่ต้องจัดเสียใหม่แต่รอได้

สายแล้วที่เห็นคุณนพพรเดินเข้ามา และเห็นว่ามีรอยยิ้มส่งนำมาก่อน เมื่อนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะก็พูดว่า

" ผมต้องขอบคุณพี่ที่ไปหยุดเด็กทำบาร์โค้ดได้เร็วครับ " เขายิ้มใต้แว่นตาใสเมื่อกล่าว

" Mike ล่ะคะว่าไงบ้าง?"

" ว่านิดหน่อยแต่ความหมายแยะ ว่าถ้ามันหลุดไปที่ต่างประเทศแล้วก็คงต้องส่งกลับมาแพ็คใหม่ ทีนี้คงเสียชื่อทางเรา
ผมก็เข้าใจว่า Mike คงแค่หวาดเสียวเรื่องชื่อเสียงเขาเท่านั้น ผมผิดไม่เป็นไร Mike ผิดด้วยนี่คงเรื่องใหญ่ครับ"

" เผอิญหัวหน้าเขาลาพอดี วันหลังไม่ไปเดินแล้ว ไม่อยากแจ็คพ็อดอีก" เราพูดยิ้มๆส่งไป

" บุญแล้วละครับ เพราะไม่มีใครตรวจอะไรแล้วถ้าหลุดไปเข้าโกดังรอส่ง ใครจะไปนึกล่ะครับ" นพพรพูดเสร็จก็ลุกจากไป

ทำให้อดนึกถึงเรื่องราวที่ได้ยินเกี่ยวกับตัวเขามา ซึ่งเราจะรู้หรือไม่รู้ก็ไม่ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงตรงไหน

เช้าวันนี้เป็นสัปดาห์ที่สามที่รู้สึกว่างานและอุปกรณ์พร้อมจะเข้ารูปเข้ารอยเสียที เมื่อหยิบสูตรการผลิตที่คุณสถิตทำไว้
ให้ก็ต้องเอามาใส่ Part ID เพื่อให้เพ็ญประภาคีย์เข้าระบบ ต้องอธิบายว่าทุก Part เปรียบเสมือนใบไม้ มีหลายใบในแต่ละก้าน

หลายก้านก็คือกิ่ง กิ่งล่าง กิ่งบน จนถึงยอด รวมกันเป็นต้น และต้นคือ สูตรการผลิตที่มีชื่อโค้ดเป็นรุ่นของผลิตภัณฑ์ที่มีรุ่นเล็ก
ใหญ่ ตามลำดับ เรียกเป็น Family ที่มีลูกหลานหลายกลุ่มที่เราจะผูกชิ้นส่วนเหล่านี้เข้าด้วยกัน ที่บอกว่าเป็นกิ่งก้านของต้นไม้นี้

เมื่ออ่านรายชื่อที่มีอยู่แล้วว่าจะต้อง Rename ไหม ก็พบว่าชื่อนั้นอ่านไม่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เหมือนโค้ดลับสักอย่างจึงได้ให้เพ็ญประภาไปถามตุ๊กว่ารู้จักชิ้นนี้ไหม คำตอบคือเป็นชิ้นส่วนที่คุณประดับส่งให้บริษัท ก็ต้องถามอีกว่ามีทั้งหมดกี่รายการบอกชื่อภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษมา จะได้คีย์ให้อ่านรู้เรื่อง สักพักตุ๊กก็ไปหาคุณประดับ และได้ชื่อมาให้เพ็ญประภาคีย์ ถ้าคีย์ไม่ถูกก็ให้ไปถามความสำคัญ สเป็คอยู่ที่ไหน คีย์ให้อยู่ถายใน Twenty digits ให้ได้ เท่ากับตุ๊กและคุณประดับจะได้ทำความเข้าใจใน
งานระบบใหม่ด้วย

ก่อนเที่ยงคุณสถิตมาบอกว่าเดี๋ยวไปทานข้าวกลางวันกัน มีเพื่อนใหม่อีกคนชื่อ Pio เป็นอิตาลี เมื่อได้พบหน้า Mr Pio
จับมือแถมก้มหัวแบบโค้งตัวด้วย เลยรู้สึกว่าเขามีทีเล่นทีจริงผสมกัน อายุเขาน่าจะวัยเดียวกับเรา หน้าตาจัดว่าดี สูงไล่เรี่ยกับคุณสถิต จึงถือว่าเป็นฝรั่งที่ไม่สูง หน้าตายิ้มแย้มดี คนอิตาลีเป็นคนแต่งกายพิถีพิถันตามนิสัยประจำชาติเมื่อได้นั่งข้างหน้ารถ โดย Pio นั่งหลัง

ตามธรรมเนียมยุโรปจะให้สุภาพสตรีนั่งคู่กับคนขับ ซึ่งต่างกับคนไทย เมื่อถึงร้านอาหารเล็กๆไม่ไกลจากบริษัทนัก คุณสถิตก็ถามว่า

อยากทานอะไร ก็เลยแกล้งพูดว่า ที่อยากทานที่นี่คงไม่มี และต่อมา Pio ก็เริ่มชวนคุยภาษาอังกฤษ เขาบอกว่าเขามาจากเกาะชิชิลี

ไม่รู้ว่าคิดอย่างไรจึงถามไปว่า คุณพูดเยอรมันบ้างไหม ปรากฎว่าเขาตอบเป็นภาษาเยอรมันมาเลย ก็เลยรู้สึกทันทีว่ามีพวกขึ้นมา และPio เป็นเสมือน Quality Inspector ของบริษัทที่อิตาลีส่งมาประจำที่นี่นานแล้ว เพราะตรวจเช็คที่อิตาลีหรือที่ Original country ก็มีค่าเท่ากัน แต่เขาอยากอยู่เมืองไทยตามเพื่อนที่มาอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

ทานอาหารด้วยกันแล้วคุณสถิตจ่ายค่าอาหาร คุณสถิตและ Pio
ดื่มเบียร์สองคนหนึ่งขวด เราไม่ดื่ม

ตอนบ่ายแล้วที่คุณมนตรีส่งลูกน้องมาหาเราให้จับสลากที่จอดรถ ว่ารถใครจะจอดตรงไหนเป็นที่ประจำเลย โดยให้ทางฝ่ายDirector จับก่อน จนมาถึงระดับผู้จัดการ ที่เหมือนแสดงความยุติธรรมเสมอภาค แต่ไม่อาจจับพร้อมกันได้ เมื่อจับเสร็จก็ได้ช่องจอดตามหมายเลขที่ติดไว้ เผอิญได้ที่ติดกับที่คุณแซมพอดี ในเย็นวันหนึ่งจึงได้เจอกัน แซมส่งเสียงทักเป็นภาษาอังกฤษว่า

" Hi how are you ? every thing good going?"

" Oh, it's going well and you?"

" Not bad, is it your car? "

" Mํy husband's "

" You are more than I've has imagine"

" what do you mean...please let me know"

" You have a luck"

" That's right, since I've met you..."

เราหัวเราะให้กันตรงนั้น ก่อนบอก Bye และเราก็ขึ้นรถ Mercedes Benz 190E ถอยออกจากที่จอดมุ่งหน้ากลับบ้าน นึกทบทวนในใจว่าก็เป็นวันดีอีกวันหนึ่งที่ได้พบความเป็นมิตรจากแซม ที่มีหน้าตาเป็นคนเอเชียแต่ไม่รู้ว่าชาติไหน ผิวขาวตัวล่ำ รอยยิ้มจริงใจดี

ดูเป็นคนมีเสน่ห์คนหนึ่ง

การสร้าง Bom's structure แม้จะช้าด้วยข้อมูลไม่สมบูรณ์ ส่งไป Online แล้วก็ยังต้องตามแก้ ชื่อ Part ID อยู่เรื่อยๆ ซึ่งผู้ที่
มีปัญหามากที่สุดคือฝ่าย สโตร์ที่ต้องทำการสต็อคของคงคลังตามระบบ ที่เรียกว่า Reorder point มันจะ Alert เมื่อของจำนวนต่ำถึงจุดที่ตั้งไว้ เช่นนัต สกรู อย่างน้อย 200 หน่วยที่ต้องเหลืออยู่

บ่อยครั้งที่ต้องอธิบายให้คนที่โทรศัพท์หรือเดินมาถาม ด้วยเห็นว่าเราสามารถอธิบายระบบได้เข้าใจที่สุด ส่วน MIS ก็ตามเซ็ทเครื่องให้เป็นไปตามความต้องการของแผนกผู้ใช้ ว่ากำหนดขอบเขตให้เครื่องสามารถ Operate ได้ด้วยผู้ใช้เองแค่ไหน

เนื่องด้วยโทรศัพท์ที่โต๊ะเรายังไม่มี รอสั่งเครื่องใหม่ จึงจำเป็นต้องอาศัยใช้ร่วมกับคุณประดับ ซึ่งก็ไม่เห็นเขามีอะไรทำมากนัก

นานๆจึงจะเห็นเดินออกไปจากแผนกสักครั้ง การไปสังเกตหรือจับผิดผู้อื่นมิใช่นิสัยของเรา งานของใครก็ทำไป แม้ว่าดูเหมือนเราจะคุมแผนกอินจิเนียร์ทั้งหมดก็ตาม

บ่ายวันหนึ่งคุณประดับเรียกเรารับโทรศัพท์ เป็นที่น่าทึ่งที่เพื่อนร่วมงานคู่หูชาวอังกฤษที่บริษัทเก่าโทรมา

" Hi Susi ! " เสียงนี้คุ้นหูมากทีเดียว ทำให้ดีใจ

" Oh. Charles, unbelievable is that you? how could you reach me?"

" Aung Gee told me and I need to prove, that's it"

" I have no machine on my desk right now , we will contact a week later okay?"

" Hope every thing's going well with you, bye"

" Bye Charles "

เมื่อวางโทรศัพท์แล้วนึกได้ว่าไม่ได้พูดที่โต๊ะตนเอง เสียงคงดังได้ยินไปทั่วห้อง เพราะโต๊ะคุณประดับอยู่ตรงกลาง แถมตอนบ่ายMr Pio เข้าห้องมาก็ทักเป็นภาษาเยอรมันเสียงดังเลย

แต่ที่ทำความประหลาดใจอย่างมากคือ ตอนสายๆได้ยินตุ๊กมายืนที่เครื่องถ่ายเอกสารกับคนๆหนึ่งได้ยินตุ๊กพูดว่า

" คุณแซมจะเอากี่ใบ" เสียงตุ๊กถาม

อ้าวนั่น Mr. Sam นี่ !

" สิบ copy" เสียงตอบจาก Mr. Sam

อ้าว เขาพูดไทยกันหรือ ตกลงคุณแซมเป็นใครมายังไงไปยังไงกันนี่ เราได้แต่มองอยู่ที่โต๊ะด้วยความประหลาดใจ

วันต่อมาตุ๊กบอกว่าคุณแซมเป็นลาวอพยพได้อเมริกันซิติเซ่น ขอบริษัทแม่มาทำงานชั่วคราวที่ไทย และไปลาว...

จากนั้นอีกสัปดาห์ต่อมา มีคนเวียตนามอพยพไปอยู่บริษัทแม่ที่อเมริกามาทำการเปลี่ยน BIOS ( Basic Input/Output
System เป็นชื่อโปรแกรมชุดหนึ่งซึ่ง จะควบคมการทำงานของคอมพิวเตอร์ในส่วนที่เกี่ยวกับการนำข้อมูลเข้าไปเก็บและการแสดงผล (หน่วยบันทึก แผงแป้นอักขระ จอภาพฯ) คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะเก็บไบออสนี้ไว้ในชิปตัวหนึ่งที่สร้างมาให้อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ( built in ) หรือที่เรียกว่า "รอม" (ROM) เมื่อเปิด) ให้เครื่องคอมพ์พวกทำ Autocad

เมื่อได้คุยกันเขามีความสุภาพอย่างมาก เรียกเราว่า Madame ทุกคำ และอธิบายว่าต้องเปลี่ยนเพราะอะไร ทำให้นึกไปถึงคนเวียตนามที่ไปเรียนเยอรมันสมัยโน้น คุณคนนี้คงเป็นรุ่นราวคราวเดียวกับพวกที่เราพบในปี 1972 (พศ 2515) สมัยที่มีสงครามเวียตนามแล้ว

นอกจากลาวอพยพ เวียตนามอพยพที่พบที่บริษัทนี้แล้ว อดจะนึกไปถึงลูกน้องพม่าสามคนที่ถือว่าเป็นรุ่นแรกๆที่เข้ามาหากิน
ในเมืองไทยอย่างจริงจัง และหม่องจีก็เป็นคนหนึ่งที่เราเอาไปทำงานที่บริษัทที่ผ่านมาด้วย และยังคงอยู่กับ Charles ที่ได้เบอร์โทรมาหาเรา

การจัดการในแผนกก็เป็นไปด้วยดี ผลงานคงได้ออกมาให้ลูกน้องได้ประจักษ์ และพยายามคิดว่าคุณประดับคงไม่มีปัญหาอะไรแบบคุณวิจิตรที่ลาออกไป เพราะแกก็นั่งเฉยๆทุกวัน ด้วยเป็นคนเก่าและควบคุมห้องนี้มาก่อน

วันก่อนเห็นท่านประธานบริษัทมานั่งคุยอยู่ตั้งนาน คิดว่าคงถามถึงเราบ้างว่าทำอะไรกับกล่องสี่เหลี่ยมนั่นนัก คุณประดับแกคงตอบไม่ได้เท่าไร และคิดว่าท่านคงไปถามคุณสถิตที่มีตำแหน่งเป็นไดเร็คเตอร์ ซึ่งภายหลังก็มีอีกไดเร็คเตอร์ฝรั่งมาทำงานในบริษัทที่เหลื่อมล้ำเก่าใหม่อยู่ นั่นมิใช่เรื่องของเราแต่แรกและต่อไป เพราะอยู่คนละห้อง หากแต่ห้องนี้ที่อำนาจเก่าถูกผ่อง
ถ่ายมาให้เราควบคุมลูกน้องคุณประดับหมด แล้วแกคิดอย่างไร?

อย่าไปคิดแทนคนอื่น!

นึกถึงใจเขาใจเรา!

ผลที่สุดเราก็ได้คิดแค่ว่า เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันได้ เพราะเป็นตัวผู้ตัวหนึ่งและตัวเมียตัวหนึ่ง!

บ่ายวันหนึ่งตุ๊กเดินเข้ามาหาที่โต๊ะบอกว่า มีบริษัทที่ทำ Mold plastic Body ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ตัวใหม่มาให้เช็ค ในมือตุ๊กถือแบบพิมพ์เขียวอยู่ด้วย ก็เลยถามไปว่าปกติใคร Handle เรื่องนี้ ตุ๊กบอกว่าฝ่ายจัดซื้อ แต่ฝ่ายเราทำแบบและตรวจสเป็ค

เราจึงตัดบทไปว่าใครเคยทำก็ทำต่อไป จนกว่าคำสั่งจะเปลี่ยนแปลง ด้วยว่างานที่ออกจากแผนกอินจิเนียร์ใช่ว่าแผนกต้องตามไปรับผิดชอบสุดสายงานเสียทั้งหมด

ต่อมาเราก็คอยดูว่าคุณประดับจะทำหน้าที่ตามเดิมไหม และทางฝ่ายจัดซื้อก็คงติดตามทวงถามเอง งานเราเต็มมือแล้ว
จะให้ไปเริ่มศึกษารูปร่างชิ้นงานใหม่ และตามตรวจเช็คให้ถูกต้องมันต้องใช้เวลานานมาก สู้คนที่เคยทำๆต่อไปจะแน่ใจกว่า คิดว่า

ถ้าเรื่องนี้เป็นปัญหา เรื่องนี้ถึง Mike แน่!!

🎀 จบ 🎀
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่