BUDDY BKK
ร้าน Buddy เป็นร้านอาหารแบบ Private Dining ที่ทั้งร้าน (ที่เป็นบ้านเค้านั่นแหละ) จะเป็นของกลุ่มเราเท่านั้น จะรู้สึกมีความส่วนตัวและที่สำคัญคือเฮฮาได้เต็มที่เลย!
ร้านแต่งออกมาดูสบายๆ สลัวๆนิดๆ โต๊ะยาวตรงกลางร้าน โซฟาก็มีให้นั่งรอเผื่อเพื่อนๆมากันไม่ครบ คือให้ความรู้สึกเหมือนเรามีเพื่อนที่ทำอาหารเก่งมากๆ แล้วเปิดบ้านทำอาหารให้เราทานเลย (เมื่อไหร่จะมีเพื่อนแบบนี้นะ 555)

มาถึง น้องพนักงานก็มาต้อนรับอย่างดีค่ะ ก็มีขนมปัง ciabatta กรอบนอกนุ่มในอุ่นๆ ให้ทานเล่นคู่กันกับ truffle butter ที่หอมมากอะ คือมาถึงแบบหิวโหย ขอหนมปังเพิ่มด้วย 555 แล้วไม่นานเชฟบัดดี้ก็ออกมาพร้อมกับอาหารจานแรกของมื้อเรา
เชฟขอเกริ่นก่อนว่าคอนเซปท์ของอาหารเค้าคือความเรียบง่าย อาหารที่ทุกคนเข้าใจ เข้าถึงได้ แต่มาปรับเปลี่ยนการนำเสนอหรือว่าผสมรสชาติที่แปลกใหม่เข้ามาหน่อย ทุกอย่างจะมาในจานเล็ก เพื่อให้ได้ลองหลายๆอย่างค่ะ

จานแรกของเราเป็น Corn Bread : Honey Butter
อันนี้มาแบบได้กลิ่นหอมเนยมาเลย ขนมมีความร่วนๆ แต่เนยอัดแน่นมาก และก็ยังมีชิ้นๆของข้าวโพดเลย กับเข้าไปหอมข้าวโพดเลย หวานมันให้จิ้มกับเนยน้ำผึ้งและน้ำตาล อร่อยดีอะ

Foie Medley : Cranberry, Yuzu Honey
ให้เริ่มทานอันด้านขวาก่อนค่ะ เชฟบอกว่าเดี๋ยวจะละลายซะก่อน เป็นฟัวกราส์แบบแช่แข็งป่นๆ เหมือนน้ำแข็งไสอะ แต่เป็นตับที่ผสมมากับน้ำผึ้งยุซุค่ะ เย็นๆ ครีมๆ หวานๆ และหอม ในคำเดียว อร่อยแบบแปลกใหม่ดีค่ะ อีกอันที่เป็นโดมเป็นฟัวกราส์ที่เนื้อเนียนนุ่ม ไส้ในเป็นซอสแครนเบอรรี่ หวานๆ ตัดกันดีมาก ตัวขนมปังที่รองอยู่ก็กรอบดีค่ะ

E-mhee: Beef Tongue, Foie Gras, Pomelo, Jik-chow Caramel
อันนี้แบบเข้าใจทำมาก เอาบะหมี่หยกมาต้มแล้วค่อยเอาไปจี่ให้กรอบ ข้างบนเป็นลิ้นวัวกับฟัวกราส์แล้วก็ราดด้วยซอสจิกโฉ่วที่เอาไปทำให้ข้นเหมือน balsamic vinegar ของอาหารฝรั่ง และมีส้มโอกับมะเขือเทศอบเพื่อตัดกับทั้งหมด คือเชฟบัดดี้พยายามเอาอาหารที่พวกเราคุ้นเคยมาแปลงร่างเป็นแบบนี้ค่ะ ทานแล้วก็สนุกดี ตัวบะหมี่หยกมีความกรอบนอกนุ่มใน เข้ากันกับลิ้นวัวและฟัวกราส์นุ่มๆดึ๋งๆมาก คือฟัวกราส์ละมุนมากกก ซอสจิกโฉ่วเปรี้ยวๆหวานๆเข้ากันเลย ดีๆ

Beef Marmalade: Miso Bone Marrow, Pickled Cucumber, Cauliflower and White Turmeric Puree
หอมมาเลย เนื้อตุ๋นจนนุ่มเลยวางมาบนหมั่นโถวทอดมากรอบๆ ซอสของจานนี้เป็นซอสไข่เค็มนะคะ จานนี้รสอ่อนกว่าที่คาดไว้ตอนเห็นเลย คือคิดในหัวว่ากัดไปมันต้อง บึ้มมมมม รสมาจัดเต็มไรงี้ แต่ผักดองทำให้รสอร่อย จัดจ้านขึ้นนะคะ และก็มีรสหอมๆของพวกเครื่องเทศและสมุนไพรค่ะ

ระหว่างรออาหารจานต่อไปเราก็เจ๋อไปเรื่อยๆ ขออนุญาติเชฟเข้าไปดูในครัวตอนเค้าเตรียมอาหารของเราแป๊ปนึงด้วย เข้าไปเชฟกำลังกวนข้าว Risotto พอดีเลย ครัวสะอาดสะอ้าน เล็กๆแบบครัวบ้านค่ะ

นี่ๆ ทอดหมึกยักษ์เตรียมไว้แล้ว

มีลูกมือช่วยย่างข้าวโพดด้วยค่ะ
เราไปยุ่งเค้าเสร็จก็ออกมานั่งรอทานจานต่อไปค่ะ

Salted Egg Squid: Salted Egg Risotto, Hokkaido Scallop, Spring Onion Oil
จานนี้ได้แรงบันดาลใจจากปลาหมึกผัดไข่เค็มค่ะเชฟบอก ส่วนตัวคิดว่าเผ็ดไปนิดดดดดดดนึง แต่ทานได้นะ แล้วก็คิดว่าข้าวมันไม่ได้เป็น al dente แบบที่ Risotto ควรจะเป็นแต่แอบดิบไปนิดนึงค่ะ แต่รสชาตินั้นเข้มข้นอร่อยดีมาก มีน้ำมันของต้นหอมด้วยนะคะ กลิ่นเด่นมาเลยขนาดว่ารสไข่เค็มเข้มแล้ว กลิ่นน้ำมันต้นหอมยังสู้ได้เลย แล้วยังมีผงไข่เค็มด้วยนะ ทุกอย่างดูตั้งใจทำมากจริงๆ ส่วนตัวหมึกยักษ์ของเราดึ๋งๆนุ่มดีค่ะ หอยเชลล์ก็นุ่มอร่อย
Main

Australian Wagyu Ribeye: Truffle Mash Potato, Charred Corn, Pickled Jicama, Mustard Seed Beef Jus
อาหารจานหลักของเราวันนี้ (เห้ยผ่านมาขนาดนี้ เพิ่งจะจานหลัก 555) เนื้อวากิวริบอายของเรานุ่มหอม มันแทรกดีมาก ดูดิ ดู๊ๆๆๆๆ แค่ดูรูปก็รู้ละว่านุ่มมั้ย ทานคู่กับมันบดที่นุ่มเนียนมากแถมยังจะมีกลิ่นทรัฟเฟิลอีก ดีงาม ผักดองของจานนี้เป็นมันแกวดองค่ะ ทานแก้ความมันเนื้อได้ดี
มาถึงจุดนี้บอกเลยว่าอิ่มมาก 555
อะ แต่คอร์สยังไม่จบ เราจะยอมแพ้ไม่ได้ค่ะ!
Dessert

น้องพนักงานมาถามละว่ารับชาหรือกาแฟมั้ยคะ ดื่มชาอุ่นๆซะหน่อยก็ดีเนอะ

กลางโต๊ะมีกระดิ่งให้ด้วย ตลกดี เผื่อทำตัวเยอะๆแล้วสั่นกระดิ่งแทนเรียกน้องเค้านะ (คือน้องเค้ายืนกันอยู่ใกล้ๆค่ะ แค่เราหันเค้าก็เดินมาหาละ 55)
ของหวานมา เราก็เบาใจ

Apple Cranberry Sorbet: Caramel Apple
ของหวานจานแรกของเราเป็นซอร์เบท์ล้างปากได้ดีเลย มีเนื้อผลไม้ เปรี้ยวๆหวานๆ ดีเลย ดูถ้วยไอติมเค้าสิ สีสัน ลายน่ารักมากเลย

Lemon, Lemon, Lemon: Crumble, Lemon Curd, Lemon Gel, Confit Lemon
อันนี้กัดไปปั๊ป อื้อหือ มะนาวมาทั้งสวนเลย เปรี้ยว หอม หวาน มองดูดีๆคือดีเทลเยอะ มีเส้นใสๆด้านบนที่เป็น lemon gel คือถ้าไม่บอกก็อาจจะไม่เห็นจริงๆ มีหลายอย่างที่ประกอบมาเป็นของหวานตัวนี้ค่ะ ตัว Crumble ของแครกเกอร์ กรอบดีค่ะ ร่วนๆ เข้ากันๆ

Bakewell Tart: Raspberry Jam, Toasted Almond, Macadamia Ice Cream
แป้ง Cake Dough ทำมาจากแป้งอัลมอนด์ที่เป็นตัวกลมๆ แป้งพัฟฟ์กรอบๆ อัลมอนด์คั่วมา
เชฟบอก ก่อนทานขอให้คลุกๆ ยำๆ ให้เข้ากันก่อนค่ะ
อันนี้เพื่อนๆชมกันมากสุดเลยในหมู่ของหวาน เราก็ว่ามันหอมหวานมากเลยเหมือนกัน คือน่าจะมาอันแรก ตอนนี้พุงจะแตกแล้ว ทานไม่ไหว 5555
จบคอร์สอาหารของเชฟ Buddy ค่ะ !
คอร์สอาหารของเชฟบัดดี้อยู่ที่ 2,800++ ต่อคนค่ะ คุ้มค่ากับการที่เราได้ลองรสใหม่ๆมากนะสำหรับเราแล้ว
น่าทานมั้ยคะ? ร้านนี้เต็มเร็วมากๆค่ะ ถ้าจะจองช่วงสุดสัปดาห์ตอนนี้เต็มไปอีกเป็นเดือนๆเลยนะ แนะนำมากอะร้านนี้ : ) เราก็จะกลับไปอีกแน่ๆ
. ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` .
เปิด: พฤหัส-อาทิตย์ (มื้อเย็นเท่านั้น)
โทร: 081 558 6668
สถานที่: 27/1 เย็นอากาศ 2 แยก 1-3, กทม 10120
ที่จอดรถ: มี
สถานี: MRT คลองเตย
. ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` .
ติดตามกันได้ที่เวปนี้เลย เป็นรีวิวเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษนะ
www.littlebigtummy.com
www.instagram.com/littlebigtummy
[CR] LBT EATS ✩ Buddy [Private Dining]
BUDDY BKK
ร้าน Buddy เป็นร้านอาหารแบบ Private Dining ที่ทั้งร้าน (ที่เป็นบ้านเค้านั่นแหละ) จะเป็นของกลุ่มเราเท่านั้น จะรู้สึกมีความส่วนตัวและที่สำคัญคือเฮฮาได้เต็มที่เลย!
ร้านแต่งออกมาดูสบายๆ สลัวๆนิดๆ โต๊ะยาวตรงกลางร้าน โซฟาก็มีให้นั่งรอเผื่อเพื่อนๆมากันไม่ครบ คือให้ความรู้สึกเหมือนเรามีเพื่อนที่ทำอาหารเก่งมากๆ แล้วเปิดบ้านทำอาหารให้เราทานเลย (เมื่อไหร่จะมีเพื่อนแบบนี้นะ 555)
มาถึง น้องพนักงานก็มาต้อนรับอย่างดีค่ะ ก็มีขนมปัง ciabatta กรอบนอกนุ่มในอุ่นๆ ให้ทานเล่นคู่กันกับ truffle butter ที่หอมมากอะ คือมาถึงแบบหิวโหย ขอหนมปังเพิ่มด้วย 555 แล้วไม่นานเชฟบัดดี้ก็ออกมาพร้อมกับอาหารจานแรกของมื้อเรา
เชฟขอเกริ่นก่อนว่าคอนเซปท์ของอาหารเค้าคือความเรียบง่าย อาหารที่ทุกคนเข้าใจ เข้าถึงได้ แต่มาปรับเปลี่ยนการนำเสนอหรือว่าผสมรสชาติที่แปลกใหม่เข้ามาหน่อย ทุกอย่างจะมาในจานเล็ก เพื่อให้ได้ลองหลายๆอย่างค่ะ
จานแรกของเราเป็น Corn Bread : Honey Butter
อันนี้มาแบบได้กลิ่นหอมเนยมาเลย ขนมมีความร่วนๆ แต่เนยอัดแน่นมาก และก็ยังมีชิ้นๆของข้าวโพดเลย กับเข้าไปหอมข้าวโพดเลย หวานมันให้จิ้มกับเนยน้ำผึ้งและน้ำตาล อร่อยดีอะ
Foie Medley : Cranberry, Yuzu Honey
ให้เริ่มทานอันด้านขวาก่อนค่ะ เชฟบอกว่าเดี๋ยวจะละลายซะก่อน เป็นฟัวกราส์แบบแช่แข็งป่นๆ เหมือนน้ำแข็งไสอะ แต่เป็นตับที่ผสมมากับน้ำผึ้งยุซุค่ะ เย็นๆ ครีมๆ หวานๆ และหอม ในคำเดียว อร่อยแบบแปลกใหม่ดีค่ะ อีกอันที่เป็นโดมเป็นฟัวกราส์ที่เนื้อเนียนนุ่ม ไส้ในเป็นซอสแครนเบอรรี่ หวานๆ ตัดกันดีมาก ตัวขนมปังที่รองอยู่ก็กรอบดีค่ะ
E-mhee: Beef Tongue, Foie Gras, Pomelo, Jik-chow Caramel
อันนี้แบบเข้าใจทำมาก เอาบะหมี่หยกมาต้มแล้วค่อยเอาไปจี่ให้กรอบ ข้างบนเป็นลิ้นวัวกับฟัวกราส์แล้วก็ราดด้วยซอสจิกโฉ่วที่เอาไปทำให้ข้นเหมือน balsamic vinegar ของอาหารฝรั่ง และมีส้มโอกับมะเขือเทศอบเพื่อตัดกับทั้งหมด คือเชฟบัดดี้พยายามเอาอาหารที่พวกเราคุ้นเคยมาแปลงร่างเป็นแบบนี้ค่ะ ทานแล้วก็สนุกดี ตัวบะหมี่หยกมีความกรอบนอกนุ่มใน เข้ากันกับลิ้นวัวและฟัวกราส์นุ่มๆดึ๋งๆมาก คือฟัวกราส์ละมุนมากกก ซอสจิกโฉ่วเปรี้ยวๆหวานๆเข้ากันเลย ดีๆ
Beef Marmalade: Miso Bone Marrow, Pickled Cucumber, Cauliflower and White Turmeric Puree
หอมมาเลย เนื้อตุ๋นจนนุ่มเลยวางมาบนหมั่นโถวทอดมากรอบๆ ซอสของจานนี้เป็นซอสไข่เค็มนะคะ จานนี้รสอ่อนกว่าที่คาดไว้ตอนเห็นเลย คือคิดในหัวว่ากัดไปมันต้อง บึ้มมมมม รสมาจัดเต็มไรงี้ แต่ผักดองทำให้รสอร่อย จัดจ้านขึ้นนะคะ และก็มีรสหอมๆของพวกเครื่องเทศและสมุนไพรค่ะ
ระหว่างรออาหารจานต่อไปเราก็เจ๋อไปเรื่อยๆ ขออนุญาติเชฟเข้าไปดูในครัวตอนเค้าเตรียมอาหารของเราแป๊ปนึงด้วย เข้าไปเชฟกำลังกวนข้าว Risotto พอดีเลย ครัวสะอาดสะอ้าน เล็กๆแบบครัวบ้านค่ะ
นี่ๆ ทอดหมึกยักษ์เตรียมไว้แล้ว
มีลูกมือช่วยย่างข้าวโพดด้วยค่ะ
เราไปยุ่งเค้าเสร็จก็ออกมานั่งรอทานจานต่อไปค่ะ
Salted Egg Squid: Salted Egg Risotto, Hokkaido Scallop, Spring Onion Oil
จานนี้ได้แรงบันดาลใจจากปลาหมึกผัดไข่เค็มค่ะเชฟบอก ส่วนตัวคิดว่าเผ็ดไปนิดดดดดดดนึง แต่ทานได้นะ แล้วก็คิดว่าข้าวมันไม่ได้เป็น al dente แบบที่ Risotto ควรจะเป็นแต่แอบดิบไปนิดนึงค่ะ แต่รสชาตินั้นเข้มข้นอร่อยดีมาก มีน้ำมันของต้นหอมด้วยนะคะ กลิ่นเด่นมาเลยขนาดว่ารสไข่เค็มเข้มแล้ว กลิ่นน้ำมันต้นหอมยังสู้ได้เลย แล้วยังมีผงไข่เค็มด้วยนะ ทุกอย่างดูตั้งใจทำมากจริงๆ ส่วนตัวหมึกยักษ์ของเราดึ๋งๆนุ่มดีค่ะ หอยเชลล์ก็นุ่มอร่อย
Main
Australian Wagyu Ribeye: Truffle Mash Potato, Charred Corn, Pickled Jicama, Mustard Seed Beef Jus
อาหารจานหลักของเราวันนี้ (เห้ยผ่านมาขนาดนี้ เพิ่งจะจานหลัก 555) เนื้อวากิวริบอายของเรานุ่มหอม มันแทรกดีมาก ดูดิ ดู๊ๆๆๆๆ แค่ดูรูปก็รู้ละว่านุ่มมั้ย ทานคู่กับมันบดที่นุ่มเนียนมากแถมยังจะมีกลิ่นทรัฟเฟิลอีก ดีงาม ผักดองของจานนี้เป็นมันแกวดองค่ะ ทานแก้ความมันเนื้อได้ดี
มาถึงจุดนี้บอกเลยว่าอิ่มมาก 555
อะ แต่คอร์สยังไม่จบ เราจะยอมแพ้ไม่ได้ค่ะ!
Dessert
น้องพนักงานมาถามละว่ารับชาหรือกาแฟมั้ยคะ ดื่มชาอุ่นๆซะหน่อยก็ดีเนอะ
กลางโต๊ะมีกระดิ่งให้ด้วย ตลกดี เผื่อทำตัวเยอะๆแล้วสั่นกระดิ่งแทนเรียกน้องเค้านะ (คือน้องเค้ายืนกันอยู่ใกล้ๆค่ะ แค่เราหันเค้าก็เดินมาหาละ 55)
ของหวานมา เราก็เบาใจ
Apple Cranberry Sorbet: Caramel Apple
ของหวานจานแรกของเราเป็นซอร์เบท์ล้างปากได้ดีเลย มีเนื้อผลไม้ เปรี้ยวๆหวานๆ ดีเลย ดูถ้วยไอติมเค้าสิ สีสัน ลายน่ารักมากเลย
Lemon, Lemon, Lemon: Crumble, Lemon Curd, Lemon Gel, Confit Lemon
อันนี้กัดไปปั๊ป อื้อหือ มะนาวมาทั้งสวนเลย เปรี้ยว หอม หวาน มองดูดีๆคือดีเทลเยอะ มีเส้นใสๆด้านบนที่เป็น lemon gel คือถ้าไม่บอกก็อาจจะไม่เห็นจริงๆ มีหลายอย่างที่ประกอบมาเป็นของหวานตัวนี้ค่ะ ตัว Crumble ของแครกเกอร์ กรอบดีค่ะ ร่วนๆ เข้ากันๆ
Bakewell Tart: Raspberry Jam, Toasted Almond, Macadamia Ice Cream
แป้ง Cake Dough ทำมาจากแป้งอัลมอนด์ที่เป็นตัวกลมๆ แป้งพัฟฟ์กรอบๆ อัลมอนด์คั่วมา
เชฟบอก ก่อนทานขอให้คลุกๆ ยำๆ ให้เข้ากันก่อนค่ะ
อันนี้เพื่อนๆชมกันมากสุดเลยในหมู่ของหวาน เราก็ว่ามันหอมหวานมากเลยเหมือนกัน คือน่าจะมาอันแรก ตอนนี้พุงจะแตกแล้ว ทานไม่ไหว 5555
จบคอร์สอาหารของเชฟ Buddy ค่ะ !
คอร์สอาหารของเชฟบัดดี้อยู่ที่ 2,800++ ต่อคนค่ะ คุ้มค่ากับการที่เราได้ลองรสใหม่ๆมากนะสำหรับเราแล้ว
น่าทานมั้ยคะ? ร้านนี้เต็มเร็วมากๆค่ะ ถ้าจะจองช่วงสุดสัปดาห์ตอนนี้เต็มไปอีกเป็นเดือนๆเลยนะ แนะนำมากอะร้านนี้ : ) เราก็จะกลับไปอีกแน่ๆ
. ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` .
เปิด: พฤหัส-อาทิตย์ (มื้อเย็นเท่านั้น)
โทร: 081 558 6668
สถานที่: 27/1 เย็นอากาศ 2 แยก 1-3, กทม 10120
ที่จอดรถ: มี
สถานี: MRT คลองเตย
. ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` .
ติดตามกันได้ที่เวปนี้เลย เป็นรีวิวเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษนะ
www.littlebigtummy.com
www.instagram.com/littlebigtummy