[CR] LBT EATS ✩ Buddy [Private Dining]



BUDDY BKK

ร้าน Buddy เป็นร้านอาหารแบบ Private Dining ที่ทั้งร้าน (ที่เป็นบ้านเค้านั่นแหละ) จะเป็นของกลุ่มเราเท่านั้น จะรู้สึกมีความส่วนตัวและที่สำคัญคือเฮฮาได้เต็มที่เลย!

ร้านแต่งออกมาดูสบายๆ สลัวๆนิดๆ โต๊ะยาวตรงกลางร้าน โซฟาก็มีให้นั่งรอเผื่อเพื่อนๆมากันไม่ครบ คือให้ความรู้สึกเหมือนเรามีเพื่อนที่ทำอาหารเก่งมากๆ แล้วเปิดบ้านทำอาหารให้เราทานเลย (เมื่อไหร่จะมีเพื่อนแบบนี้นะ 555)




มาถึง น้องพนักงานก็มาต้อนรับอย่างดีค่ะ ก็มีขนมปัง ciabatta กรอบนอกนุ่มในอุ่นๆ ให้ทานเล่นคู่กันกับ truffle butter ที่หอมมากอะ คือมาถึงแบบหิวโหย ขอหนมปังเพิ่มด้วย 555 แล้วไม่นานเชฟบัดดี้ก็ออกมาพร้อมกับอาหารจานแรกของมื้อเรา

เชฟขอเกริ่นก่อนว่าคอนเซปท์ของอาหารเค้าคือความเรียบง่าย อาหารที่ทุกคนเข้าใจ เข้าถึงได้ แต่มาปรับเปลี่ยนการนำเสนอหรือว่าผสมรสชาติที่แปลกใหม่เข้ามาหน่อย ทุกอย่างจะมาในจานเล็ก เพื่อให้ได้ลองหลายๆอย่างค่ะ


จานแรกของเราเป็น Corn Bread : Honey Butter

อันนี้มาแบบได้กลิ่นหอมเนยมาเลย ขนมมีความร่วนๆ แต่เนยอัดแน่นมาก และก็ยังมีชิ้นๆของข้าวโพดเลย กับเข้าไปหอมข้าวโพดเลย หวานมันให้จิ้มกับเนยน้ำผึ้งและน้ำตาล อร่อยดีอะ



Foie Medley : Cranberry, Yuzu Honey

ให้เริ่มทานอันด้านขวาก่อนค่ะ เชฟบอกว่าเดี๋ยวจะละลายซะก่อน เป็นฟัวกราส์แบบแช่แข็งป่นๆ เหมือนน้ำแข็งไสอะ แต่เป็นตับที่ผสมมากับน้ำผึ้งยุซุค่ะ เย็นๆ ครีมๆ หวานๆ และหอม ในคำเดียว อร่อยแบบแปลกใหม่ดีค่ะ อีกอันที่เป็นโดมเป็นฟัวกราส์ที่เนื้อเนียนนุ่ม ไส้ในเป็นซอสแครนเบอรรี่ หวานๆ ตัดกันดีมาก ตัวขนมปังที่รองอยู่ก็กรอบดีค่ะ



E-mhee: Beef Tongue, Foie Gras, Pomelo, Jik-chow Caramel

อันนี้แบบเข้าใจทำมาก เอาบะหมี่หยกมาต้มแล้วค่อยเอาไปจี่ให้กรอบ ข้างบนเป็นลิ้นวัวกับฟัวกราส์แล้วก็ราดด้วยซอสจิกโฉ่วที่เอาไปทำให้ข้นเหมือน balsamic vinegar ของอาหารฝรั่ง และมีส้มโอกับมะเขือเทศอบเพื่อตัดกับทั้งหมด คือเชฟบัดดี้พยายามเอาอาหารที่พวกเราคุ้นเคยมาแปลงร่างเป็นแบบนี้ค่ะ ทานแล้วก็สนุกดี ตัวบะหมี่หยกมีความกรอบนอกนุ่มใน เข้ากันกับลิ้นวัวและฟัวกราส์นุ่มๆดึ๋งๆมาก คือฟัวกราส์ละมุนมากกก ซอสจิกโฉ่วเปรี้ยวๆหวานๆเข้ากันเลย ดีๆ



Beef Marmalade: Miso Bone Marrow, Pickled Cucumber, Cauliflower and White Turmeric Puree

หอมมาเลย เนื้อตุ๋นจนนุ่มเลยวางมาบนหมั่นโถวทอดมากรอบๆ ซอสของจานนี้เป็นซอสไข่เค็มนะคะ จานนี้รสอ่อนกว่าที่คาดไว้ตอนเห็นเลย คือคิดในหัวว่ากัดไปมันต้อง บึ้มมมมม รสมาจัดเต็มไรงี้ แต่ผักดองทำให้รสอร่อย จัดจ้านขึ้นนะคะ และก็มีรสหอมๆของพวกเครื่องเทศและสมุนไพรค่ะ



ระหว่างรออาหารจานต่อไปเราก็เจ๋อไปเรื่อยๆ ขออนุญาติเชฟเข้าไปดูในครัวตอนเค้าเตรียมอาหารของเราแป๊ปนึงด้วย เข้าไปเชฟกำลังกวนข้าว Risotto พอดีเลย ครัวสะอาดสะอ้าน เล็กๆแบบครัวบ้านค่ะ


นี่ๆ ทอดหมึกยักษ์เตรียมไว้แล้ว


มีลูกมือช่วยย่างข้าวโพดด้วยค่ะ
เราไปยุ่งเค้าเสร็จก็ออกมานั่งรอทานจานต่อไปค่ะ



Salted Egg Squid: Salted Egg Risotto, Hokkaido Scallop, Spring Onion Oil

จานนี้ได้แรงบันดาลใจจากปลาหมึกผัดไข่เค็มค่ะเชฟบอก ส่วนตัวคิดว่าเผ็ดไปนิดดดดดดดนึง แต่ทานได้นะ แล้วก็คิดว่าข้าวมันไม่ได้เป็น al dente แบบที่ Risotto ควรจะเป็นแต่แอบดิบไปนิดนึงค่ะ แต่รสชาตินั้นเข้มข้นอร่อยดีมาก มีน้ำมันของต้นหอมด้วยนะคะ กลิ่นเด่นมาเลยขนาดว่ารสไข่เค็มเข้มแล้ว กลิ่นน้ำมันต้นหอมยังสู้ได้เลย แล้วยังมีผงไข่เค็มด้วยนะ ทุกอย่างดูตั้งใจทำมากจริงๆ ส่วนตัวหมึกยักษ์ของเราดึ๋งๆนุ่มดีค่ะ หอยเชลล์ก็นุ่มอร่อย


Main



Australian Wagyu Ribeye: Truffle Mash Potato, Charred Corn, Pickled Jicama, Mustard Seed Beef Jus

อาหารจานหลักของเราวันนี้ (เห้ยผ่านมาขนาดนี้ เพิ่งจะจานหลัก 555) เนื้อวากิวริบอายของเรานุ่มหอม มันแทรกดีมาก ดูดิ ดู๊ๆๆๆๆ แค่ดูรูปก็รู้ละว่านุ่มมั้ย ทานคู่กับมันบดที่นุ่มเนียนมากแถมยังจะมีกลิ่นทรัฟเฟิลอีก ดีงาม ผักดองของจานนี้เป็นมันแกวดองค่ะ ทานแก้ความมันเนื้อได้ดี

มาถึงจุดนี้บอกเลยว่าอิ่มมาก 555

อะ แต่คอร์สยังไม่จบ เราจะยอมแพ้ไม่ได้ค่ะ!

Dessert


น้องพนักงานมาถามละว่ารับชาหรือกาแฟมั้ยคะ ดื่มชาอุ่นๆซะหน่อยก็ดีเนอะ


กลางโต๊ะมีกระดิ่งให้ด้วย ตลกดี เผื่อทำตัวเยอะๆแล้วสั่นกระดิ่งแทนเรียกน้องเค้านะ (คือน้องเค้ายืนกันอยู่ใกล้ๆค่ะ แค่เราหันเค้าก็เดินมาหาละ 55)

ของหวานมา เราก็เบาใจ


Apple Cranberry Sorbet: Caramel Apple

ของหวานจานแรกของเราเป็นซอร์เบท์ล้างปากได้ดีเลย มีเนื้อผลไม้ เปรี้ยวๆหวานๆ ดีเลย ดูถ้วยไอติมเค้าสิ สีสัน ลายน่ารักมากเลย


Lemon, Lemon, Lemon: Crumble, Lemon Curd, Lemon Gel, Confit Lemon

อันนี้กัดไปปั๊ป อื้อหือ มะนาวมาทั้งสวนเลย เปรี้ยว หอม หวาน มองดูดีๆคือดีเทลเยอะ มีเส้นใสๆด้านบนที่เป็น lemon gel คือถ้าไม่บอกก็อาจจะไม่เห็นจริงๆ มีหลายอย่างที่ประกอบมาเป็นของหวานตัวนี้ค่ะ ตัว Crumble ของแครกเกอร์ กรอบดีค่ะ ร่วนๆ เข้ากันๆ



Bakewell Tart: Raspberry Jam, Toasted Almond, Macadamia Ice Cream

แป้ง Cake Dough ทำมาจากแป้งอัลมอนด์ที่เป็นตัวกลมๆ แป้งพัฟฟ์กรอบๆ อัลมอนด์คั่วมา
เชฟบอก ก่อนทานขอให้คลุกๆ ยำๆ ให้เข้ากันก่อนค่ะ
อันนี้เพื่อนๆชมกันมากสุดเลยในหมู่ของหวาน เราก็ว่ามันหอมหวานมากเลยเหมือนกัน คือน่าจะมาอันแรก ตอนนี้พุงจะแตกแล้ว ทานไม่ไหว 5555

จบคอร์สอาหารของเชฟ Buddy ค่ะ !

คอร์สอาหารของเชฟบัดดี้อยู่ที่ 2,800++ ต่อคนค่ะ คุ้มค่ากับการที่เราได้ลองรสใหม่ๆมากนะสำหรับเราแล้ว






น่าทานมั้ยคะ? ร้านนี้เต็มเร็วมากๆค่ะ ถ้าจะจองช่วงสุดสัปดาห์ตอนนี้เต็มไปอีกเป็นเดือนๆเลยนะ แนะนำมากอะร้านนี้ : ) เราก็จะกลับไปอีกแน่ๆ


. ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` .

เปิด: พฤหัส-อาทิตย์ (มื้อเย็นเท่านั้น)

โทร: 081 558 6668

สถานที่: 27/1 เย็นอากาศ 2 แยก 1-3, กทม 10120

ที่จอดรถ: มี

สถานี: MRT คลองเตย

. ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` .

ติดตามกันได้ที่เวปนี้เลย เป็นรีวิวเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษนะ

www.littlebigtummy.com

www.instagram.com/littlebigtummy

ชื่อสินค้า:   buddy
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่