[SR] Saturday Brunch @The Reflexions, The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok

ก่อนหน้านี้ห้องอาหาร The Reflexions โรงแรม Plaza Athenee เคยจัดโปรโมชั่น Gastro Bistro Sunday เป็นมื้อเที่ยง a la carte buffet อาหารฝรั่งเศสคุณภาพเยี่ยม มาครั้งนี้เพื่อให้สมกับการเปลี่ยนชื่อโรงแรมเป็น The Athenee Hotel, a Luxury Collection hotel, Bangkok ก็เลยต้องเพิ่มความ luxury เพื่อให้สมกับชื่อโรงแรม และเปลี่ยนเป็นมื้อเที่ยงวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 12.00-15.00 น. ซึ่งจัดครั้งแรกในวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 ในฐานะแฟนคลับของ Gastro Bistro Sunday เดิมเมื่อทราบข่าวเลยคิดว่าสมควรที่จะต้องไปประเดิมครั้งแรกให้ได้ ตอนแรกรีวิวนี้ควรจะเป็น CR-Consumer Review แต่จับพลัดจับผลูกลายเป็น SR-Sponsored Review แบบไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

เพื่อให้ luxury สมชื่อ ครั้งนี้จึงไม่ได้มีเพียงเสียงเปียโนเพราะๆเท่านั้น ยังมีนักร้องสาวเสียงใสร้องเพลงคุ้นหูสร้างบรรยากาศได้เป็นอย่างดี

อุปกรณ์พร้อม ไวน์พร้อม

จริงๆแล้วมื้อนี้เป็น a la carte buffet แต่ด้วยความมั่นใจในตัว Chef Roxanne Lange ก็เลยให้จัดทุกเมนูเรียงกันมาเลย โดยเริ่มจาก Amuse Bouche อาหารเรียกน้ำย่อยชิ้นน้อยๆ อันดับแรกคือ King Crab ใน guacamole หรือ avocado drip และข้าวโพดคั่ว กรวยแป้งเล็กเสียบอยู่บนฐานไม้ ดูน่าตื่นตาตื่นใจในความคิดสร้างสรรค์ของเชฟในการนำเสนออาหาร

Amuse Bouche ตัวที่ 2 Smoked Duck Breast เชฟเริ่มพาไปสัมผัสรสชาติของอาหารที่ซับซ้อนขึ้น โดยนำเนื้ออกเป็ดรมควันมาปรุงรสด้วยซอส hoisin และเนื้อส้ม เป็นส่วนประกอบที่แตกต่างแต่รสชาติดูลงตัวมาก เสิร์ฟมาในภาชนะไม้และการตกแต่งที่ดูทุ่มทุนมาก

ปิดท้าย Amuse Bouche ที่อร่อยที่สุดคือ Tuna มากับเยลลี่ Ponzu พร้อมงาและสาหร่ายในสไตล์ญี่ปุ่น ให้ความรู้สึกสดชื่นจริงๆครับ

เข้าสู่หมวด Appetizer ด้วย Gambero Rosso เนื้อสัมผัสให้อารมณ์ประมาณ tartare กินคำแรกแล้วเดาไม่ออกเลยจริงๆว่ามันคืออะไร นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของอาหารฝรั่งเศสที่มีความซับซ้อนของวัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหาร สุดท้ายเฉลยออกมาว่ามันคือกุ้งแดงจาก Sicily ปรุงรสด้วยส้มจี๊ดและผงกะหรี่

Appetizer ตัวที่ 2 เชฟเลือกปลา Hamachi มาปรุงรสด้วยแอปเปิ้ล เบค่อน เนื้อไก่ และคาเวียร์ เป็นอีกครั้งที่ส่วนประกอบที่ไม่น่าจะเข้ากันได้กลับทำให้อาหารจานนี้อร่อยมากๆครับ

ปิดท้าย Appetizer ด้วย Jamon Iberian Ham แฮมคุณภาพเยี่ยมจากสเปน เสิร์ฟกับสลัดมะเขือเทศหลากหลายพันธุ์และไอศกรีมมะเขือเทศ กินเฉพาะสลัดก็อร่อยแล้วครับ

หอยนางรมเป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดของครั้งนี้ มีให้เลือกทั้งแบบดิบและสุก ส่วนตัวผมชอบแบบดิบที่กินกับ Red Wine Vinegar ที่เป็นเกล็ดน้ำแข็งและหอมแดงสับมากที่สุด ส่วนแบบ luke warm จะเสิร์ฟพร้อมผักโขม คาเวียร์ และซอส saffron ก็อร่อยไปอีกแบบครับ

Scorched Duck Liver ตับเป็ดชิ้นใหญ่ทอดออกมาอย่างดีงาม ผิวนอกเกรียมแต่ข้างในยังเป็นครีม เช่นเคยเสิร์ฟมาพร้อมกับแอปเปิ้ล อัลมอนด์ และ chive ที่ปรุงออกมาอย่างซับซ้อนและอร่อยมาก แต่ถ้าไม่ชอบตับที่ดูเป็นไขมันมากๆ Creme Brulee ที่เสิร์ฟพร้อมเบอรี่และขนมปัง Brioche และ Mousse ที่ให้กลิ่นของ balsamic ก็เป็นเมนูที่เบาๆสดชื่นครับ

ก่อนเข้าสู่จานหลัก ปิดท้ายด้วยซุปลอปสเตอร์ Lobster Bisque มาพร้อมเนื้อกุ้งลอปสเตอร์ชิ้นใหญ่ Ravioli และ baby carrot รสชาติยอดเยี่ยม

Hokkaido Scallop คือเมนูไฮไลท์ของครั้งนี้ครับ หอยเชลล์ฮอกไกโดตัวใหญ่ปรุงรสมาอย่างดี และสร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยการนำเห็ด black truffle มาฝนกันถึงที่โต๊ะแบบไม่ยั้ง ให้กลิ่นและรสของ truffle แบบเต็มๆครับ

ปลา Kinmedai ปลาญี่ปุ่นแต่ใช้ซอส beurre blanc ของฝรั่งเศส เข้ากันได้ดีและอร่อยมากครับ

ปลาแซลมอนและไข่ปลาแซลมอน ปรุงรสแบบอาหารฝรั่งเศส อร่อยครับ

เข้าสู่จานเนื้อด้วย Veal เนื้อลูกวัวปรุงรสด้วย mustard vinaigrette และอะไรต่อมิอะไรที่ซับซ้อน แต่เมื่อมารวมกันคือความอร่อยแบบสุดๆครับ

Doe เนื้อกวางนำเข้านำมา sous vide ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มมากอย่างเหลือเชื่อ เสิร์ฟพร้อม black berry, red cabbage และ gnocchi

Wagyu Striploin เนื้อสันนอก และ Beef cheek เนื้อส่วนแก้ม ด้วยเนื้อคุณภาพดีจึงอร่อยโดยแทบไม่ต้องปรุงจริงๆครับ


จานชีส ขาดไม่ได้อยู่แล้วสำหรับอาหารฝรั่งเศส อร่อยตามมาตรฐานครับ

จบของคาวแต่เพียงเท่านี้ ก่อนจะเข้าสู่ของหวานเชฟมีเมนู Pre Dessert คือ Nitro Podge ใช้ไนโตรเจนเหลวมาทำขนมรูปแบบแปลกใหม่ เสิร์ฟมาในครกหินใบจิ๋วน่ารักครับ

ของหวานจานแรก Cranberry Mousse และ Milk Panna Cotta เห็นรูปแบบขนมแล้วก็ยอมใจในความคิดสร้างสรรค์ของเชฟจริงๆครับ

Chocolate มาพร้อมกับ Sorbet กล้วยและ passion fruit เข้ากันได้ดีมากครับ

ปิดท้ายมื้อนี้ด้วย Mango Parfait เมนูดั้งเดิมตั้งแต่ Gastro Bistro Sunday ยังคงความอร่อยไว้เช่นเดิมครับ

จบจานของหวานจานสุดท้ายด้วยความอิ่มมากๆ แต่ก็ประทับใจกับทุกเมนูซึ่งเชฟตั้งใจทำอย่างพิถีพิถัน รสชาติคือยอดเยี่ยม การจัดแต่งจานในแต่ละเมนูดูสร้างสรรค์ใช้ศิลปะ จริงๆมื้อนี้เป็น a la carte buffet แต่ผมแนะนำว่าขอให้มองเป็น Omakase จะดีกว่า คือดูเมนูก่อนแล้วบอกเชฟว่ามีวัตถุดิบใดที่ไม่สามารถกินได้หรือไม่ ถ้าไม่มีก็ให้เชฟจัดเรียงลำดับอาหารมาเลย ไม่ต้องสั่งให้เสียเวลาเพราะทุกเมนูยอดเยี่ยมและไม่น่าพลาดจริงๆ
ค่าเสียหายสำหรับ Saturday Brunch ที่นี่มี 2 ราคา คือ 3,888++ บาท (รวม non-alcoholic drink) และ 6,588++ บาท (รวม free flow Champagne ไวน์และเบียร์) อาจจะดูว่าราคาค่อนข้างสูงแต่เมื่อเทียบกับคุณภาพอาหารซึ่งไม่ต่างจาก a la carte menu หรือ set menu เลย แถมยังได้ลองชิมหลายๆเมนูอีกต่างหาก ราคานี้สมเหตุสมผลครับ
ชื่อสินค้า:   Saturday Brunch
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่