Newton Motion V V.S. On Cloudflyer
Newton(นิวตัน) และ On(ออน) เป็นยี่ห้อรองเท้าวิ่ง ซึ่งชื่ออาจไม่ติดหูคนไทยเทียบเท่าเเบรนด์ติดตลาดอย่าง Adidas(อาดิดาส) หรือ Nike(ไนกี้)
แต่สำหรับนักวิ่งที่มุ่งหารองเท้าวิ่งเฉพาะทาง เมื่อเดินเข้าไปร้านขายรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะอย่าง Run2paradise , Ari Running , Rev Runnr , Avarin Running and Triathlon หรือเมื่อเข้าไปในมุมกีฬาในห้างใหญ่บางห้าง อาจจะเห็นสองยี่ห้อนี้
ผมพึ่งกลับมาวิ่งได้ไม่นาน(หลังจากปล่อยตัวอ้วนฉุ) กลับมาวิ่งตอนแรกก็วิ่งอืดๆ pace 7-8 จนเพื่อนๆล้อเลียนว่าเป็นพวก Snail Gang ไม่ใช่ Runner แต่เป็นเเค่ Run Lover จึงพยายามอัพ pace ตัวเอง ฝึกฝนร่างกาย และหาตัวช่วยเสริม นั่นคือ รองเท้า
ผมชอบคอนเซปรองเท้าที่ช่วยดีดให้วิ่งไวขึ้น ก็ลองหาข้อมูลไปเรื่อยๆ จนเจอกับรองเท้า 2 ยี่ห้อนี้ สำหรับรุ่นที่เลือกมา
คือกำหนดเป็นรองเท้า ซัพพอร์ทเล็กน้อย(ผมเท้าแบนนิดๆ Over Pronation นิดๆ) และมีระบบดีดส่ง
Newton Motion V V.S. On Cloudflyer
ราคา-
นิวตันแพงกว่า (4900 บาท) ออนลดราคานะช่วงนี้(4500 บาท) แต่ทั้งคู่ คุณภาพสมราคา มันไม่ใช่แค่รองเท้า แต่มันเป็นนวัตกรรม มันเพิ่มความเร็ว
เพิ่มสมรรถนะการวิ่งให้เรา ไม่ใช่มีแค่ผ้าใบและแผ่นโฟมที่หุ้มเท้า มันส่งตัวเราให้ลอย ดีดส่งเท้าของเราให้จังหวะขาไวขึ้น
สีสัน-
สีแสบดากต้องยกให้นิวตัน ออกแบบสีสันลงตัว แบบวิ่งเก่งไม่เก่งไม่รู้ แต่รองเท้าเด่นมาก
ส่วนออนสีมันพื้นๆ ถ้าเอาสีแสบๆ สีสันก็ไม่ลงตัว ตัดมั่วๆ ดูไม่อาร์ท
On Cloudflyer สีสันทึมสวยดูแพง(55) ร็อค แบล๊ค

Newton Motion V สีสันแสบดากเหมือนติดพิษ แบลค กรีน
ระบบ-
Cloud System ของ On กับ Pop System ของ Newton ดีดเหมือนกัน แต่นิวตันดีดเฉพาะปลายเท้า ออนดีดทั้งฝ่าเท้า ทั้งสองระบบ
ช่วยส่งตัวคุณให้พุ่งไปข้างหน้า ออนนั้นรู้สึกถึงความดีดได้ โดยใช้ท่าวิ่งทั้งแบบลงส้นฮีลสไตรค์ และ ลงปลายเท้าฟอร์ฟุท
ส่วนนิวตันต้องลงปลายเท้าฟอร์ฟุท เพียงอย่างเดียว จึงจะใช้งานระบบดีดได้ อย่างมีประสิทธิภาพ
รูปทรง-
มองรวมๆ ออนดูล้ำกว่า นิวตันต้องหงายฝ่าเท้าโชว์ความล้ำยุคที่พื้นรองเท้า
ความใส่สบาย-
ใส่วิ่งสบายทั้งคู่ ออนเบานิวตันก็เบา แต่นิวตันบังคับให้วิ่งฟอร์ฟุทลงปลายเท้า และที่แย่คือนิวตันบังคับว่าตัวมันเป็นรองเท้าวิ่ง ใส่เดินลำบากโคตรๆ
(เหมือนเอาสตั๊ดวิ่งมาใส่เดินอะ) ทว่าความสบายของทั้งคู่ หากจะวัดเอาแค่ความสบายในการเดิน ยังห่างกับยี่ห้อที่เน้นสวมใส่สบายอย่าง Sketchers
นิวตันมีข้อดีอีกอย่าง คือ มีเบอร์ .5 ด้วย เช่น ผมใส่ออน เบอร์ 9 รู้สึกคับ(ปลายเท้าชน) เบอร์ 10 ก็หลวม แต่นิวตันมีเบอร์ 9.5(ว้าว)
สมรรถนะ-
ทั้งคู่เป็นรองเท้า เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการวิ่งอัพเกรด pace หากต้องการความเร็ว เลือกสักคู่ สถิติคุณดีขึ้นแน่นอน
(แต่ถ้าเป็นสายวิ่งลงส้นฮีลสไตรค์ อาจจะใช้นิวตันไม่ได้ เพราะมันบังคับลงปลายเท้า)
ความเซพเท้า-
ไม่ตอบโจทย์ทั้งคู่ ออนดีดสะท้อนไปทั่ว ข้อเท้าเข่าไม่แข็ง เจ็บแน่นอน นิวตันวิ่งเขย่งตลอดเวลา น่องไม่แข็ง ตะคริว-เอาง่ายๆครับ
อื่นๆ-
ทั้งคู่มีปัญหาเมื่อวิ่งถนนบ้านเรา กรวดจะเข้าไปติดในร่องพื้นรองเท้า น่ารำคาญสุดๆ
ออนนี่บางทีข้างนึง หินติดเข้าไปสามก้อน นิวตันติดน้อยกว่า แต่ก็ติดอะนะ
ทดสอบสมรรถนะ-
On Cloudflyer
ผมวิ่งลงส้นฮีลสไตรค์(ท่าถนัดผม) กราฟ HR ขึ้นลงเป็นหนามมากสม่ำเสมอ เหมือนกับเจ้ารองเท้าช่วยในการลอยตัว จังหวะลอยตัวเราได้พัก


Newton Motion V
ผมวิ่งลงปลายเท้าฟอร์ฟุท(มันบังคับอะนะ) ความสม่ำเสมอของวงขามากกว่า แต่เป็นท่าวิ่งที่ผมไม่ถนัด หลังๆวงขาเสียเหนื่อยมาก


สรุป-
ถ้าต้องการรองเท้าเพื่อเซพเท้าตัวเอง ไม่เอาเวลาเร็ว ขอเข้าเส้นแบบหล่อๆ หรือใช้เพื่อสุขภาพเท้า สุขภาพขาเข่า ไปเล่นยี่ห้ออื่นครับ
อย่าง อาดิดาสอัลตราบูท/อัลตราบูทเอสที,ไนกี้ลูนาไกด์/ซูมตรัคเจอร์,เสกทเชอร์โกรัน/โกวอล์ค หรือพวก โฮกา
เจ้าพวกนี้หากคนใส่ไม่ใช่นักวิ่งที่มีความแข็งแรงพอสมควร จะมีโอกาสใส่แล้วตีนเจ็บสูง
แต่ถ้าต้องการเพิ่มสมรรถนะการวิ่ง ต้องการเวลาวิ่งที่ดีขึ้น ทั้งคู่เป็นรองเท้าที่ตอบโจทย์
(แต่คุณอาจจะเข้าเส้นหน้าเหยเกเพราะเจ็บ) ทว่าสถิติดี พุ่งตัวกระชากแซงได้สะใจ
ผมเอง ก็จะเอาเจ้าสองคู่นี้ไว้วิ่งทำเวลา พอเดิน วิ่งเบาๆ หรือเวทเทรนนิ่ง ก็ไปใส่ Sketchers GoRun Forza/Sketchers GoRun Forza 2
เซพเท้าเซพขา ใส่สบายกว่าเยอะครับ แต่เหมือนตื้อๆวิ่งเร็วไม่ค่อยจะไป ราวกับวิ่งบนหมอน(55)


จบการรีวิวเพียงเท่านี้ นี่เป็นความเห็นส่วนตัวจากการทดลองใช้ของผมเพียงคนเดียว หากต้องการอ่านรีวิว(ของฝรั่ง)เพิ่มเติม
ไปที่นี่ครับ
https://runrepeat.com/on-cloudflyer และ
https://runrepeat.com/newton-motion
หวังว่าจะมีประโยชน์กับ คนน้ำหนักมากที่จะหันมาวิ่ง กับ เป็นทางเลือกให้นักวิ่งที่กำลังจะหารองเท้าใหม่ๆครับ
สู้ต่อไป ขบวนการลดพุง!!
[CR] รีวิวรองเท้าวิ่ง Newton Motion V V.S. On Cloudflyer
Newton(นิวตัน) และ On(ออน) เป็นยี่ห้อรองเท้าวิ่ง ซึ่งชื่ออาจไม่ติดหูคนไทยเทียบเท่าเเบรนด์ติดตลาดอย่าง Adidas(อาดิดาส) หรือ Nike(ไนกี้)
แต่สำหรับนักวิ่งที่มุ่งหารองเท้าวิ่งเฉพาะทาง เมื่อเดินเข้าไปร้านขายรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะอย่าง Run2paradise , Ari Running , Rev Runnr , Avarin Running and Triathlon หรือเมื่อเข้าไปในมุมกีฬาในห้างใหญ่บางห้าง อาจจะเห็นสองยี่ห้อนี้
ผมพึ่งกลับมาวิ่งได้ไม่นาน(หลังจากปล่อยตัวอ้วนฉุ) กลับมาวิ่งตอนแรกก็วิ่งอืดๆ pace 7-8 จนเพื่อนๆล้อเลียนว่าเป็นพวก Snail Gang ไม่ใช่ Runner แต่เป็นเเค่ Run Lover จึงพยายามอัพ pace ตัวเอง ฝึกฝนร่างกาย และหาตัวช่วยเสริม นั่นคือ รองเท้า
ผมชอบคอนเซปรองเท้าที่ช่วยดีดให้วิ่งไวขึ้น ก็ลองหาข้อมูลไปเรื่อยๆ จนเจอกับรองเท้า 2 ยี่ห้อนี้ สำหรับรุ่นที่เลือกมา
คือกำหนดเป็นรองเท้า ซัพพอร์ทเล็กน้อย(ผมเท้าแบนนิดๆ Over Pronation นิดๆ) และมีระบบดีดส่ง
Newton Motion V V.S. On Cloudflyer
ราคา-
นิวตันแพงกว่า (4900 บาท) ออนลดราคานะช่วงนี้(4500 บาท) แต่ทั้งคู่ คุณภาพสมราคา มันไม่ใช่แค่รองเท้า แต่มันเป็นนวัตกรรม มันเพิ่มความเร็ว
เพิ่มสมรรถนะการวิ่งให้เรา ไม่ใช่มีแค่ผ้าใบและแผ่นโฟมที่หุ้มเท้า มันส่งตัวเราให้ลอย ดีดส่งเท้าของเราให้จังหวะขาไวขึ้น
สีสัน-
สีแสบดากต้องยกให้นิวตัน ออกแบบสีสันลงตัว แบบวิ่งเก่งไม่เก่งไม่รู้ แต่รองเท้าเด่นมาก
ส่วนออนสีมันพื้นๆ ถ้าเอาสีแสบๆ สีสันก็ไม่ลงตัว ตัดมั่วๆ ดูไม่อาร์ท
On Cloudflyer สีสันทึมสวยดูแพง(55) ร็อค แบล๊ค
Newton Motion V สีสันแสบดากเหมือนติดพิษ แบลค กรีน
ระบบ-
Cloud System ของ On กับ Pop System ของ Newton ดีดเหมือนกัน แต่นิวตันดีดเฉพาะปลายเท้า ออนดีดทั้งฝ่าเท้า ทั้งสองระบบ
ช่วยส่งตัวคุณให้พุ่งไปข้างหน้า ออนนั้นรู้สึกถึงความดีดได้ โดยใช้ท่าวิ่งทั้งแบบลงส้นฮีลสไตรค์ และ ลงปลายเท้าฟอร์ฟุท
ส่วนนิวตันต้องลงปลายเท้าฟอร์ฟุท เพียงอย่างเดียว จึงจะใช้งานระบบดีดได้ อย่างมีประสิทธิภาพ
รูปทรง-
มองรวมๆ ออนดูล้ำกว่า นิวตันต้องหงายฝ่าเท้าโชว์ความล้ำยุคที่พื้นรองเท้า
ความใส่สบาย-
ใส่วิ่งสบายทั้งคู่ ออนเบานิวตันก็เบา แต่นิวตันบังคับให้วิ่งฟอร์ฟุทลงปลายเท้า และที่แย่คือนิวตันบังคับว่าตัวมันเป็นรองเท้าวิ่ง ใส่เดินลำบากโคตรๆ
(เหมือนเอาสตั๊ดวิ่งมาใส่เดินอะ) ทว่าความสบายของทั้งคู่ หากจะวัดเอาแค่ความสบายในการเดิน ยังห่างกับยี่ห้อที่เน้นสวมใส่สบายอย่าง Sketchers
นิวตันมีข้อดีอีกอย่าง คือ มีเบอร์ .5 ด้วย เช่น ผมใส่ออน เบอร์ 9 รู้สึกคับ(ปลายเท้าชน) เบอร์ 10 ก็หลวม แต่นิวตันมีเบอร์ 9.5(ว้าว)
สมรรถนะ-
ทั้งคู่เป็นรองเท้า เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการวิ่งอัพเกรด pace หากต้องการความเร็ว เลือกสักคู่ สถิติคุณดีขึ้นแน่นอน
(แต่ถ้าเป็นสายวิ่งลงส้นฮีลสไตรค์ อาจจะใช้นิวตันไม่ได้ เพราะมันบังคับลงปลายเท้า)
ความเซพเท้า-
ไม่ตอบโจทย์ทั้งคู่ ออนดีดสะท้อนไปทั่ว ข้อเท้าเข่าไม่แข็ง เจ็บแน่นอน นิวตันวิ่งเขย่งตลอดเวลา น่องไม่แข็ง ตะคริว-เอาง่ายๆครับ
อื่นๆ-
ทั้งคู่มีปัญหาเมื่อวิ่งถนนบ้านเรา กรวดจะเข้าไปติดในร่องพื้นรองเท้า น่ารำคาญสุดๆ
ออนนี่บางทีข้างนึง หินติดเข้าไปสามก้อน นิวตันติดน้อยกว่า แต่ก็ติดอะนะ
ทดสอบสมรรถนะ-
On Cloudflyer
ผมวิ่งลงส้นฮีลสไตรค์(ท่าถนัดผม) กราฟ HR ขึ้นลงเป็นหนามมากสม่ำเสมอ เหมือนกับเจ้ารองเท้าช่วยในการลอยตัว จังหวะลอยตัวเราได้พัก
Newton Motion V
ผมวิ่งลงปลายเท้าฟอร์ฟุท(มันบังคับอะนะ) ความสม่ำเสมอของวงขามากกว่า แต่เป็นท่าวิ่งที่ผมไม่ถนัด หลังๆวงขาเสียเหนื่อยมาก
สรุป-
ถ้าต้องการรองเท้าเพื่อเซพเท้าตัวเอง ไม่เอาเวลาเร็ว ขอเข้าเส้นแบบหล่อๆ หรือใช้เพื่อสุขภาพเท้า สุขภาพขาเข่า ไปเล่นยี่ห้ออื่นครับ
อย่าง อาดิดาสอัลตราบูท/อัลตราบูทเอสที,ไนกี้ลูนาไกด์/ซูมตรัคเจอร์,เสกทเชอร์โกรัน/โกวอล์ค หรือพวก โฮกา
เจ้าพวกนี้หากคนใส่ไม่ใช่นักวิ่งที่มีความแข็งแรงพอสมควร จะมีโอกาสใส่แล้วตีนเจ็บสูง
แต่ถ้าต้องการเพิ่มสมรรถนะการวิ่ง ต้องการเวลาวิ่งที่ดีขึ้น ทั้งคู่เป็นรองเท้าที่ตอบโจทย์
(แต่คุณอาจจะเข้าเส้นหน้าเหยเกเพราะเจ็บ) ทว่าสถิติดี พุ่งตัวกระชากแซงได้สะใจ
ผมเอง ก็จะเอาเจ้าสองคู่นี้ไว้วิ่งทำเวลา พอเดิน วิ่งเบาๆ หรือเวทเทรนนิ่ง ก็ไปใส่ Sketchers GoRun Forza/Sketchers GoRun Forza 2
เซพเท้าเซพขา ใส่สบายกว่าเยอะครับ แต่เหมือนตื้อๆวิ่งเร็วไม่ค่อยจะไป ราวกับวิ่งบนหมอน(55)
จบการรีวิวเพียงเท่านี้ นี่เป็นความเห็นส่วนตัวจากการทดลองใช้ของผมเพียงคนเดียว หากต้องการอ่านรีวิว(ของฝรั่ง)เพิ่มเติม
ไปที่นี่ครับ https://runrepeat.com/on-cloudflyer และ https://runrepeat.com/newton-motion
หวังว่าจะมีประโยชน์กับ คนน้ำหนักมากที่จะหันมาวิ่ง กับ เป็นทางเลือกให้นักวิ่งที่กำลังจะหารองเท้าใหม่ๆครับ
สู้ต่อไป ขบวนการลดพุง!!