อัพเดท การลดน้ำหนักครบ 1ปี จาก 104 กิโลกรัม เหลือ 64 กิโลกรัม เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น >< กับ40kgที่หายไป


สวัสดีค่ะ เนื่องจากครบรอบ 1ปี ของการลดน้ำหนักของตัวเจ้าของกระทู้เอง(เก๊าชื่อฝนน๊าา) ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ เมื่อหลายเดือนก่อนฝนเคยตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์ไปบ้างแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ครั้งนี้ ฝนเลยอยากมาอัพเดทการลดน้ำหนักของตัวเองค่ะ บอกก่อนเลยว่า สำหรับตัวฝนหลักๆทำอยู่ 2อย่างเท่านั้น คือควบคุมอาหารและออกกำลังกายค่ะ
เดี๋ยวฝนจะมีแนวทางการออกกำลังกายของฝนมาฝาก รวมถึงการกินของฝนแบบรวมๆ มาฝากให้หลายๆคนที่ยังไม่รู้จะเริ่มยังไงดีน๊า ได้ดูกันเป็นตัวอย่างด้วยค่ะ ยาวหน่อยแต่อยากให้อ่านกันค่ะ

มาเริ่มกันเลย!!! ด้วยความที่ว่า การกินนั้นสุดแสนจะสุขใจ การออกกำลังกายนั้นไซร้เหนื่อยจุง แล้วเราจะเหนื่อยไปใย กินเท่านั้นสิถึงจะดี(ถูกม่ะ) บุฟเฟ่ต์จัดหนัก ขนมนมเนยจัดเต็ม อย่าให้ขาด บุฟเฟ่นี่อาทิตย์ละ 3ครั้งอย่างต่ำ เค้กกินถี่เลย ไม่รวมไส้กรอก เบคอนที่กินทุกวี่วัน กินเข้าไปโดยไม่คำนึงถึงสุขภาพเลยจ้าาา สุดท้ายย น้ำหนักก็เบาๆ 104-105 กิโลกรัมเท่านั้นเอง ไม่เชื่อหร๊าาา ป่ะพาทัวร์รูปสมัยก่อนและรูปอาหารที่ยัดเข้าไปกันนิดนึง เพื่อให้รู้ว่า ไม่ได้โม้นะจ๊ะ ไม่ได้มาเล่นๆ

เหตุที่สารร่างเป็นเช่นนั้น ก็เพราะพฤติกรรม การกินแบบนี้ไงละ!!

พอกินแบบนั้น ก็จะโดนคนนั้นทักอ้วนขึ้นหรอ คนนี้ทักอ้วนขึ้นหรอ เจอหน้ากันหลังจากไม่เจอนาน มีเรื่องอื่นให้ถามตั้งแต่เยอะ อะไรคือ คำถามแรกมา เห้ยแกร๊อ้วนขึ้นป่ะว๊าา !! คือแบบ อ้วนก็อ้วนที่ตัวเราเหตุใดใยจึงหนักที่คนอื่นเสมอๆ ก็ไม่เข้าใจ แต่ก็หาแคร์ไม่ อ้วนแล้วไง เสื้อผ้าสาวอวบเยอะแยะฉันยังมีเสื้อผ้าให้ใส่อีกมากมายย ของกินก็อร่อยหยุดได้ที่ไหน แล้วที่อ้วนนี่ก็ไม่เห็นเป็นอะไร สุขภาพร่างกายก็ดูปกติดีทุกอย่างนิดน่าาา (นี่คือความคิดจนถึงอายุประมาณ 25!!)

แต่....เคยได้ยินไหมว่าคะ ว่าระบบในร่างกายทุกๆสิ่งจะเริ่มเปลี่ยนไปเมื่ออายุ 25ปี ส่วนตัวฝนไม่เคยเชื่อเลย คือแบบก็ดูปกติมาตลอด ถึงจะอ้วนขึ้น104-105โลยัง ก็ยังดูปกติดีนะ 24ปีปกติ พอ25จาเปลี่ยนมันใช่หร๊าาา ไม่เชื่อหรอกไม่มีทาง ใครจะเตือนจะว่ายังไงก็ หาแคร์ไม่ I Don't care.!! แต่....... ผะผะผ่างงงงง ปรากฏว่าพอหลังอายุ 25 ก็เริ่มป่วย เริ่มเปื่อยบ่อยขึ้น เดี๋ยวหาย เดี๋ยวอีกแป๊ปก็เป็นอีก อะไรกันหนักหนาก็ไม่รู้ แต่ก็นะอาจจะเพราะเกิดการสะสมมาหลายปี แล้วเพิ่งจะมีพีคเอาตอนอายุ25พอดีรึเปล่าใครก็ไม่ทราบได้ไง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนอกจะเรื่องป่วยบ่อยจนรู้สึกช่างเป็นแม่หญิงอวบอั๋นตัวน้อยๆ บอบบางซะเหลือเกิน อะไรนิดก็ป่วยอะไรหน่อยก็ป่วยแล้ว ยังไม่รวมกับความอุ้ยอ้ายของร่างกาย เดินไปไหนไม่ไกลก้เหนื่อยละ หอบง่ายเหนื่อยง่าย รู้สึกอ่อนแอมากมาย รู้สึกแน่นตัวอึดอัดไปหมดเลย ใครๆก็เรียกอ้วนๆๆ อิอ้วนน อิช้างงง ต่างๆนาๆ (โถว่ช่างดูน่าสงสาร แม้จะโดนเรียกมาได้สัก 10ปีแล้วก้ตาม ฮ่า) เราก้มองย้อนกลับไป เห้ยยยเราไม่เคยผอมเลยนะ มีแต่ผ่านมาแล้วก็ขึ้นๆตลอด ตอนม.ต้นโดนเรียก ถังแก๊สสส(ถ้าย้อนเวลาไปได้จะจุดไฟละระเบิดใส่คนล้อแม่มเลย) ม.ปลายโดนเรียกว่าน้อยหน่า มหาลัยก็อิอ้วน แหม๊ะชื่อหนูก้มีทำไมไม่เรียกชื่อหนู!!! พอคิดไปคิดมา ก็นะ ตอนนี้แหละเริ่มรู้สึกละ......
รู้สึกละเนี่ยว่าความอ้วนนี้เริ่มหนักตัวหนักหัวตัวเองละจ้าาาาา(ในที่สุดเราก็คิดได้ อื้อหื้อ แม้จะช้าไปนิ๊ดดดดก็ตาม(นิดนานมาก))
เริ่มคิดได้ ก็คิด ก็ยังได้แต่คิด .... เพลงมา .......... รู๊วววแต่มันทำไม่ด๊ายยย อยากจะทำแค่ไหน ทำอย่างไร ฉันก็ทำ ทำอย่างนั้น ทำไม่ไหววว หยุดกินไม่ได้จีจี (โปรดหาเพลง รู้ ของพี่บี พีระพัฒน์ มาฟังประกอบ ..............) อย่างมากที่ทำก็ได้ตอนนั้นคือ แค่อดอาหารอาหารเย็น แต่มื้ออื่นก็ยังแด๊กเยอะอยู่ดี!! ก็ช่วยให้น้ำหนักลง ลงได้ 2-3โล ก็เลิกทำละ ก็กินใหม่ พอกินใหม่ก็เด้งมาเท่าเดิมอยู่ดี (เรื่องออกกำลังกาย ไม่ได้อยู่ในหัวใดๆทั้งสิ้นเลยจ้าาา อยู่นอกสายตาของฉันโครตไกล ไกลมากก)

แต่หลังจากน๊านนน ร่างกายก็แย่ขีดสุด ไอเรื้อรังได้7เดือน กินยาก็ไม่หาย ดีขึ้นก็เป็นใหม่ เหนื่อยง่ายมาก ก็เห้ยยย อายุ25 เองนะเห้ยย นี่เรายังอยากมีชีวิตอยู่อีกนานๆป่ะวะเนี่ย ยังอยากออกแรดเที่ยวที่นั่นที่นี่ ไปญี่ปุ่นบ่อยๆอยู่ไหม หรือจะตายก่อนได้เที่ยวครบทุกที่ๆต้องการ? เกิดเป็นคำถามต่อตัวเองอย่างจริงจังสักที ก็เริ่มคิดได้ว่าเราควรจะต้องลดน้ำหนักอย่างจริงจัง เพราะสุขภาพเริ่มไม่ดีป่วยบ่อยมาก แถมคุณแม่ก็ดันมาป่วยอีก ทั้งเบาหวาน ความดัน อัลไซเมอร์ กล้ามเนื้ออ่อนแรง โอ๊วโห๊วววววววววววววววว ดูแลตัวเองยังลำบากเลยจ้าา จะให้ดูแลแม่ด้วยมันก็แบบไม่ไหว ต้องช่วยอุ้มแม่ แล้วแบบแค่ยกสารร่างตัวเองขึ้นแต่ละทียังเหนื่อยเนี่ยนะ!!! คิดได้ดังนั้นเลยเริ่มอยากเปลี่ยนตัวเอง อยากลองมีหุ่นแบบคนทั่วไปบ้าง อยากลองสัมผัสความรู้สึกนั้นดูบ้าง เพื่อตัวเอง เพื่อไม่เป็นภาระให้ครอบครัวเพิ่มอีก นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจของฝนค่ะ

พอคิดได้แล้ว เราก็ต้องเริ่มลงมือทำ มาเริ่มกันเลย โดยฝนได้เริ่มหาข้อมูลรวมถึงปรึกษาคนที่ออกกำลังกาย หาข้อมูลอย่างจริงจัง และตัดสินใจที่จะลดน้ำหนักโดยวิธีที่คนทั่วไปทำกัน นั่นคือควบคุมอาหาร และออกกำลังกายเริ่มแรกฝนตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะทำให้ครบ 3เดือน ให้ได้ ต้องทำให้ได้ในการคุมอาหารและออกกำลังกายตลอด 3เดือน โดยไม่มีการCheat mealหรือ Cheat day เลย เนื่องจากฝนรู้นิสัยตัวเองว่า ถ้ามีการเผลอกิน ฝนจะไม่สามารถห้ามตัวเองได้ เลยจำเป็นต้องสร้างนิสัยการกินใหม่ก่อน จึงยังไม่ควรมีการ Cheatใดๆ เพื่อตัวเองค่ะ >< และออกกำลังกาย 5วัน ต่อสัปดาห์ เนื่องจากอาหารเป็นสิ่งสำคัญสุด ถือเป็น 70-80 เปอร์เซ็นในการลดน้ำหนัก ส่วนออกกำลังกายคือ 20-30 เปอร์เซ็นที่เหลือในการลดน้ำหนัก

โดยเริ่มแรกฝนทานอาหาร วันละ 4มื้อ เฉลี่ย วันละ 1200 แคล วันพักไม่เกิน1500แคล (อันนี้สำหรับตัวฝนเองนะ คนอื่นสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับตัวเองได้ค่ะ) หลักๆเลยคือ ลดหวาน เลี่ยงเค็ม งดทอดค่ะ
มื้อเช้า ทานก่อน 9โมง เน้นเป็น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน เป็นหลัก ผักด้วยก็ดี เพราะ 1มื้อเราครวรทานให้ครบ 5หมู่
มื้อเที่ยง ทาน 12.00-13.00น. มื้อนี่ควรกินให้ครบ 5หมู่เลยนะน๊าาาา
มื้อบ่าย ทานเวลา 15.00-16.00น. เป็นการทานรองท้อง ก่อนมื้อเย็น เพื่อไม่ให้มื้อเย็นหิวโหยยมากนัก
มื้อเย็น ก่อนเวลา 19.00น. เน้นเป็นผักกับโปรตีน (จริงๆแล้วทานตอนไหนก็ได้ แต่ต้องเว้นห่างจากเวลานอน 2-3ชม.นะคะ)
**แต่ถ้าใครออกกำลังกายช่วงค่ำ มื้อเย็นควรทานคาร์โบไฮเดรตด้วยนะคะ เพราะการออกกำลังประเภทคาร์ดิโอ้ จำเป็นต้องใช้แป้งมาช่วย

เรามาลงรายละเอียดกันนิดนึงงง ว่าเราควรเลือกทานอะไรแบบไหนบ้าง
คาร์โบไฮเดรต คืออาหารจำพวกแป้ง ที่เราควรรับประทานควรเป็นแป้งไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท เป็นต้น
โปรตีน ควรทานเป็นเนื้อขาว มากกว่าเนื้อแดง เช่น อกไก่ ปลา ไข่ขาว(อันนี้ทานได้ไม่อั้น)เป็นต้น แต่จริงๆทานได้ทุกอย่างค่ะแต่แค่เลือกตรงที่ไม่มีมันเนอะ
ผัก และผลไม้ ควรเลือกทานให้มากขึ้น กินเยอะๆได้เลยผัก แต่ผลไม้ควรเลือกทานแต่พอดีแล้วก็เลือกที่น้ำตาลน้อยๆนะคะ เช่น ฝรั่ง เป็นต้น
ไขมัน ควรกินไม่ควรงดไปเลย แต่ให้เลือกเป็นไขมันดีค่ะ เช่นจาก ถั่ว อัลม่อนด์ อโวคาโด้ โอเมก้า 3จากปลาแซลม่อนไรพวกเน้เนอะ
จากเมื่อก่อนฝนไม่กินผักเลย ผักข้างจานก็ไม่แตะ พอมาลดน้ำหนักฝนต้องเริ่มทานผักให้มากขึ้น พยายามทานโดยใช้น้ำสลัดงาช่วยในช่วงแรก แต่พอทานไปเรื่อยๆ มันก็โอเคนะคะ ตอนนี้สามารถทานผักโดยไม่ต้องมีน้ำสลัดก็ได้ ><
รวมถึงพวกบรรดาเครื่องปรุงด้วยค่ะ ฝนเลือกซื้อแบบ โลว์โซเดียม ลดเค็ม น้ำตาลก็ซื้อเป็นพวก หญ้าหวานมาทานแทน น้ำมันก็เลือกน้ำมันดีๆนิดนึง เน้นใช้น้ำมันสเปรย์ หรือใช้น้ำแทน บางคนอยากทานไส้กรอก มันจะมีไส้กรอกแบบลดไขมัน 4เท่า แคลต่ำ สามารถหาได้จากห้างทั่วไปเลยค่ะ ลองไปเลือกดู
อ่อ อยากทำความเข้าในเรื่องโซเดียมกันนิดนะจ๊ะ โซเดียม วันนึงเราไม่ควรได้รับเกิน 2400mg โซเดียมไม่ได้ทำให้อ้วนค่ะ แค่ทำให้บวมน้ำ ถ้าวันนี้เราทานโซเดียมเยอะร่างกายก็จะต้องการน้ำ ทำให้เราทานน้ำเยอะขึ้น พออีกวันเราไปชั่งน้ำหนัก ปรากฏมันขึ้นเยอะมาก อันนั้นเป็นน้ำหนักน้ำค่ะ
นอกจากนี้แล้วทานโซเดียมเยอะ ก็จะทำให้ตัวบวม หน้าบวมด้วยน๊าา

พอหลังจากทำได้ครบเป้าหมายแล้ว คือออกกำลังกายและควบคุมอาหาร ได้ 3เดือน ฝนก็ตั้งเป้าหมายใหม่ โดยตั้งใจจะทำให้ได้ 6เดือน โดยควบคุมอาหาร จันทร์ -เสาร์ แล้ววันอาทิตย์ มีCheat meal 1 มื้อ และยังคงออกกำลังกาย 5วันต่อสัปดาห์เหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือ ฝนเริ่มทานเป็น 5มื้อต่อวัน โดยเพิ่มมื้อหลังออกกำลังกายค่ะ เนื่องจากบางทีพอออกกำลังกายเสร็จก็จะหิวมาก เลยต้องทานรองท้องนิดนึง เช่น น้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาล นมจืด **บางคนทานแบบไม่ใส่น้ำตาลไม่ได้ ฝนแนะนำให้หาน้ำตาลหญ้าหวานมาใส่นะคะจะดีกว่าน้ำตาลทั่วไป พอครบ 6เดือนแล้ววว รู้สึกทะลุเป้าหมายมาก ไม่คิดเลยว่า เราจะสามารถอดทนควมคุมอาหารและออกกำลังกายได้นานขนาดนี้ เนื่องจากเป็นคนที่ไม่เคยชอบเลยกับการออกกำลังกายค่ะ แต่ตอนนี้รู้สึกสนุกและถ้าไม่ได้ทำก็เบื่อนะ หลังจากครบ 6เดือนแล้ว ฝนก็เปลี่ยนจากCheat meal มาเป็น Cheat day 1วัน และอีก6วันก็ยังควบคุมอาหารตามปกติค่ะ รวมถึงก็ยังออกกำลัง 5วันต่อสัปดาห์เหมือนเดิมเลย เป้าต่อมาก็คือ ทำให้ครบ 1ปี เพื่อตัวเอง เพราะคิดว่าเห้ยยแกร๊ เราทำร้ายตัวเองมา 25ปีแล้วนะ ทำเพื่อตัวเองสัก1ปีไม่ได้หรอ ก็เลยทำมาเรื่อยๆเลยค่ะ และในที่สุด!!! ก็ครบ 1ปีแล้ว เอ๊าาาฉลองสิ ฉลอง รออะไรล๊าาาา มาดูรูปกันดีกว่าค่ะ ว่าตอนนี้เป็นยังไงกันบ้าง ฝนลงวันที่กำกับรูปไว้ด้วยน๊า
เดี๋ยวต่อในความเห็นนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่