สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน คงจะยังไม่เบื่อกระทู้แนวๆนี้ใช่ไหมคะ พอดีเราเห็นเพื่อนๆหลายคน แชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักของตัวเองแล้วเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนหลายๆคนได้ เราเลยอยากแชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักของเราบ้างค่ะ
ก่อนอื่นเลยต้องเท้าความไปก่อนว่า เราเป็นเด็กอ้วนตั้งแต่เกิดค่ะ ออกมาจากท้องแม่ก็หนัก 3,7xx กรัมแล้วค่ะ (ไม่รู้แม่อุ้มท้องไหวได้ยังไง 555+) แขน ขา นี่เป็นปล้องๆ เลย กินเยอะตั้งแต่เด็กค่ะ กินมาเรื่อยๆ กินแบบไม่รู้จักอิ่ม กินจนหลับคาจานไก่ย่างก็มี 555+

จนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงมัธยมต้นค่ะ
ช่วงมัธยมต้นจะเป็นช่วงพีคมาก เพราะหนักที่สุดในชีวิตคือ หนัก 90+ กิโลกรัม (พอดีจำน้ำหนักที่แน่นอนไม่ได้ค่ะ รู้แต่ว่าอ้วนมาก) ไปงานแต่งงานกับที่บ้าน ไม่มีใครคิดว่าเป็นเด็กม.ต้น มีแต่คนคิดว่าเป็นเพื่อนแม่ T__T” ก็รู้สึกเครียดนะคะ

จนมาวันนึงนั่งดู UBC ค่ะ (เก่าขนาดไหนถามใจดู) แล้วเห็นช่องกีฬามีแอโรบิคค่ะ!!! ชื่อ Aerobic oz style เป็นของประเทศออสเตรเลีย ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจว่า “ชั้นต้องลดความอ้วน” ก็เลยเริ่มเต้นแอโรบิคตามในทีวีทุกวันค่ะ ตอนเย็นวันละ 1 ชั่วโมง บวกกับลดอาหารค่ะ
ตอนนั้นมีความเชื่อที่ผิดมากคือ “เราต้องไม่กินข้าวเย็น” ก็ไม่กินจริงๆค่ะ แล้วก็เอาแต่เต้นๆๆๆ ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ “ผอมมมมมม” ผอมมากค่ะ ผอมจริงจัง เพราะน้ำหนักลดลงไปเหลือ 55 กิโล ใครเจอก็ทักว่าผอม ภูมิใจมาก แต่ภูมิใจบนความผอมแบบไม่เฟิร์มค่ะ ตัวผอมจริง แต่โบกแท๊กซี่ไม่ได้นะคะ ท้องแขนนี่โบกสะบัด ห้อยโตงเตง ผอมแต่ใส่เสื้อแขนกุดไม่ได้นี่มันเศร้านะคะ
วันเวลาผ่านไป ใช้ชีวิตบนความผอมค่ะ ก็เริ่มขี้เกียจออกกำลังกาย หยุดเลยค่ะ เพราะคิดว่าชั้นผอมแล้ว ก็กลับมากินตามปกติ กินไป กินไป พอเรียนจบ เริ่มทำงาน ยิ่งไม่มีเวลาออกกำลังกาย ทำงานก็เครียด ข้างๆโต๊ะทำงานนี่มีแต่ขนมค่ะ ทำไป กินไป กลับถึงบ้านก็ค่ำ เหนื่อยค่ะ ลืมตามาอีกที โอ้ววววววว เดี๊ยนกลับมาหนัก 80 ค่าาาาาาาา ชีวิตเศร้าหนักมาก แต่ก็ปลอบใจตัวเอง เวลาใส่กางเกงขาสั้นแล้วส่องกระจกว่า เอ้อ ชั้นก็ยังไม่อ้วนนี่นา (สงสัยต้องตัดแว่นใหม่) แล้วก็เป็นสาวหนัก 80 กิโลเรื่อยมาค่ะ

เคยมีคนให้ลองกินอาหารเสริมด้วยนะคะ ที่ถ่ายออกมาเป็นมันลอยเต็มโถ โอ้โฮ! เม็ดเดียวจอดเลยค่ะ ไม่เอาอีกแล้ว เลยคิดอยากจะกลับมาออกกำลังกายอีกครั้งค่ะ แต่ก็ยังหาเหตุผลมาสนับสนุนความขี้เกียจของตัวเองอยู่ว่า ไม่มีที่ออกกำลังกายบ้างล่ะ ยิมอยู่ไกลบ้างล่ะ สุดท้ายหนีไม่พ้นค่ะ มาเจอยิมเปิดใหม่อยู่ใกล้บ้านมาก 555+ เลยตัดสินใจไปเข้ายิมค่ะ
เข้ายิมตอนแรกๆก็เขินนะคะ เป็นสาวอ้วนที่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็เลยเริ่มจากเดินบนลู่วิ่ง ปั่นจักรยาน และไปเข้าคลาสเต้นต่างๆ พวกซุมบ้า แอโรบิค ก็สนุกค่ะ ค่อยๆเห็นสัดส่วนเล็กลงหน่อยๆ ก็เริ่มมีกำลังใจ แต่ระหว่างที่อยู่ที่ยิมตอนที่เราเดินอยู่บนลู่วิ่ง เราก็เห็นมีคนจ้างเทรนเนอร์ค่ะ ดูแบบว่าออกกำลังโหดมาก น่าจะผอมเร็ว เลยตัดสินใจจ้างเทรนเนอร์บ้างค่ะ
บอกได้เลยว่า โหดจริงๆ เหนื่อยมากกกกกก จริงๆเรามีเทรนเนอร์ 3 คนนะคะ คนที่1 กับคนที่2 แค่คนละ 2 เดือนกว่าๆ แต่กับพี่เทรนเนอร์คนที่ 3 นี่เกือบปีแล้วค่ะ ตอนที่เทรนกับเทรนเนอร์คนที่1และ 2 เราควบคุมอาหารด้วยการนับแคลไปด้วยค่ะ ยอมรับเลยว่าช่วงนั้นเหมือนคนโรคจิตหน่อยๆเลยนะคะ กินอะไรก็จดบันทึกไว้ในแอพหมด องุ่นลูกเดียวยังจดเลยค่ะ เลยทำให้ผอมเร็วมาก แต่ก็ไม่ได้กระชับเท่าไหร่นะคะ เพราะจะเน้นคาร์ดิโอซะส่วนใหญ่ ตอนนั้นน้ำหนักเราลงจาก 80 กิโล เหลือ 57 กิโลค่ะ

หลังจากมาเข้าโปรแกรมกับพี่เทรนเนอร์คนที่ 3 (คนปัจจุบัน) ทุกอย่างเปลี่ยนค่ะ โปรแกรมการออกกำลังกายก็เปลี่ยนไปแทบจะสิ้นเชิงเลย การกินอาหารก็เปลี่ยน เรากินได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับโปรแกรมการออกกำลังกายที่พี่เค้าเซ็ทไว้ โดยเราจะเทรนสัปดาห์ละ 4 วัน โดยจะมีช่วงที่เน้นเวท และเน้นคาร์ดิโอสลับกันไปค่ะ เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ พอมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น สิ่งที่จะกวนใจเราก็ตามมาคือ “น้ำหนักขึ้น” ค่ะ เริ่มมีคนทักว่า ดูตัวใหญ่ขึ้นนะ ดูสมบูรณ์ขึ้นนะ แรกๆก็นอยค่ะ แต่พี่เทรนเนอร์ก็บอกให้เข้าใจว่า ที่เพิ่มขึ้นคือกล้ามเนื้อ ตอนนี้เราหนักประมาณ 62 กิโลค่ะ แต่หุ่นดูมีกล้ามเนื้อขึ้นเยอะมาก แต่ก็ยังไม่ได้เฟิร์มขนาดเบเบ้นะคะ 555

เรายังต้องใช้เวลาอีกเยอะค่ะ เพราะต้นทุนไขมันเรามีมาเยอะกว่าคนอื่น แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่าเรากลายเป็นคนติดยิมไปแล้วค่ะ อิอิ

ยังไงขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่สละเวลาอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ ไว้ว่างๆ จะมาอัพเดทค่า ^_^
[อยากแชร์] ประสบการณ์ลดน้ำหนักจากเด็กอ้วนสู่สาวติดยิม
ก่อนอื่นเลยต้องเท้าความไปก่อนว่า เราเป็นเด็กอ้วนตั้งแต่เกิดค่ะ ออกมาจากท้องแม่ก็หนัก 3,7xx กรัมแล้วค่ะ (ไม่รู้แม่อุ้มท้องไหวได้ยังไง 555+) แขน ขา นี่เป็นปล้องๆ เลย กินเยอะตั้งแต่เด็กค่ะ กินมาเรื่อยๆ กินแบบไม่รู้จักอิ่ม กินจนหลับคาจานไก่ย่างก็มี 555+
จนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงมัธยมต้นค่ะ
ช่วงมัธยมต้นจะเป็นช่วงพีคมาก เพราะหนักที่สุดในชีวิตคือ หนัก 90+ กิโลกรัม (พอดีจำน้ำหนักที่แน่นอนไม่ได้ค่ะ รู้แต่ว่าอ้วนมาก) ไปงานแต่งงานกับที่บ้าน ไม่มีใครคิดว่าเป็นเด็กม.ต้น มีแต่คนคิดว่าเป็นเพื่อนแม่ T__T” ก็รู้สึกเครียดนะคะ
จนมาวันนึงนั่งดู UBC ค่ะ (เก่าขนาดไหนถามใจดู) แล้วเห็นช่องกีฬามีแอโรบิคค่ะ!!! ชื่อ Aerobic oz style เป็นของประเทศออสเตรเลีย ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจว่า “ชั้นต้องลดความอ้วน” ก็เลยเริ่มเต้นแอโรบิคตามในทีวีทุกวันค่ะ ตอนเย็นวันละ 1 ชั่วโมง บวกกับลดอาหารค่ะ
ตอนนั้นมีความเชื่อที่ผิดมากคือ “เราต้องไม่กินข้าวเย็น” ก็ไม่กินจริงๆค่ะ แล้วก็เอาแต่เต้นๆๆๆ ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ “ผอมมมมมม” ผอมมากค่ะ ผอมจริงจัง เพราะน้ำหนักลดลงไปเหลือ 55 กิโล ใครเจอก็ทักว่าผอม ภูมิใจมาก แต่ภูมิใจบนความผอมแบบไม่เฟิร์มค่ะ ตัวผอมจริง แต่โบกแท๊กซี่ไม่ได้นะคะ ท้องแขนนี่โบกสะบัด ห้อยโตงเตง ผอมแต่ใส่เสื้อแขนกุดไม่ได้นี่มันเศร้านะคะ
วันเวลาผ่านไป ใช้ชีวิตบนความผอมค่ะ ก็เริ่มขี้เกียจออกกำลังกาย หยุดเลยค่ะ เพราะคิดว่าชั้นผอมแล้ว ก็กลับมากินตามปกติ กินไป กินไป พอเรียนจบ เริ่มทำงาน ยิ่งไม่มีเวลาออกกำลังกาย ทำงานก็เครียด ข้างๆโต๊ะทำงานนี่มีแต่ขนมค่ะ ทำไป กินไป กลับถึงบ้านก็ค่ำ เหนื่อยค่ะ ลืมตามาอีกที โอ้ววววววว เดี๊ยนกลับมาหนัก 80 ค่าาาาาาาา ชีวิตเศร้าหนักมาก แต่ก็ปลอบใจตัวเอง เวลาใส่กางเกงขาสั้นแล้วส่องกระจกว่า เอ้อ ชั้นก็ยังไม่อ้วนนี่นา (สงสัยต้องตัดแว่นใหม่) แล้วก็เป็นสาวหนัก 80 กิโลเรื่อยมาค่ะ
เคยมีคนให้ลองกินอาหารเสริมด้วยนะคะ ที่ถ่ายออกมาเป็นมันลอยเต็มโถ โอ้โฮ! เม็ดเดียวจอดเลยค่ะ ไม่เอาอีกแล้ว เลยคิดอยากจะกลับมาออกกำลังกายอีกครั้งค่ะ แต่ก็ยังหาเหตุผลมาสนับสนุนความขี้เกียจของตัวเองอยู่ว่า ไม่มีที่ออกกำลังกายบ้างล่ะ ยิมอยู่ไกลบ้างล่ะ สุดท้ายหนีไม่พ้นค่ะ มาเจอยิมเปิดใหม่อยู่ใกล้บ้านมาก 555+ เลยตัดสินใจไปเข้ายิมค่ะ
เข้ายิมตอนแรกๆก็เขินนะคะ เป็นสาวอ้วนที่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็เลยเริ่มจากเดินบนลู่วิ่ง ปั่นจักรยาน และไปเข้าคลาสเต้นต่างๆ พวกซุมบ้า แอโรบิค ก็สนุกค่ะ ค่อยๆเห็นสัดส่วนเล็กลงหน่อยๆ ก็เริ่มมีกำลังใจ แต่ระหว่างที่อยู่ที่ยิมตอนที่เราเดินอยู่บนลู่วิ่ง เราก็เห็นมีคนจ้างเทรนเนอร์ค่ะ ดูแบบว่าออกกำลังโหดมาก น่าจะผอมเร็ว เลยตัดสินใจจ้างเทรนเนอร์บ้างค่ะ
บอกได้เลยว่า โหดจริงๆ เหนื่อยมากกกกกก จริงๆเรามีเทรนเนอร์ 3 คนนะคะ คนที่1 กับคนที่2 แค่คนละ 2 เดือนกว่าๆ แต่กับพี่เทรนเนอร์คนที่ 3 นี่เกือบปีแล้วค่ะ ตอนที่เทรนกับเทรนเนอร์คนที่1และ 2 เราควบคุมอาหารด้วยการนับแคลไปด้วยค่ะ ยอมรับเลยว่าช่วงนั้นเหมือนคนโรคจิตหน่อยๆเลยนะคะ กินอะไรก็จดบันทึกไว้ในแอพหมด องุ่นลูกเดียวยังจดเลยค่ะ เลยทำให้ผอมเร็วมาก แต่ก็ไม่ได้กระชับเท่าไหร่นะคะ เพราะจะเน้นคาร์ดิโอซะส่วนใหญ่ ตอนนั้นน้ำหนักเราลงจาก 80 กิโล เหลือ 57 กิโลค่ะ
หลังจากมาเข้าโปรแกรมกับพี่เทรนเนอร์คนที่ 3 (คนปัจจุบัน) ทุกอย่างเปลี่ยนค่ะ โปรแกรมการออกกำลังกายก็เปลี่ยนไปแทบจะสิ้นเชิงเลย การกินอาหารก็เปลี่ยน เรากินได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับโปรแกรมการออกกำลังกายที่พี่เค้าเซ็ทไว้ โดยเราจะเทรนสัปดาห์ละ 4 วัน โดยจะมีช่วงที่เน้นเวท และเน้นคาร์ดิโอสลับกันไปค่ะ เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ พอมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น สิ่งที่จะกวนใจเราก็ตามมาคือ “น้ำหนักขึ้น” ค่ะ เริ่มมีคนทักว่า ดูตัวใหญ่ขึ้นนะ ดูสมบูรณ์ขึ้นนะ แรกๆก็นอยค่ะ แต่พี่เทรนเนอร์ก็บอกให้เข้าใจว่า ที่เพิ่มขึ้นคือกล้ามเนื้อ ตอนนี้เราหนักประมาณ 62 กิโลค่ะ แต่หุ่นดูมีกล้ามเนื้อขึ้นเยอะมาก แต่ก็ยังไม่ได้เฟิร์มขนาดเบเบ้นะคะ 555
เรายังต้องใช้เวลาอีกเยอะค่ะ เพราะต้นทุนไขมันเรามีมาเยอะกว่าคนอื่น แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่าเรากลายเป็นคนติดยิมไปแล้วค่ะ อิอิ
ยังไงขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่สละเวลาอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ ไว้ว่างๆ จะมาอัพเดทค่า ^_^