โวลเทก้าผู้นำของ Death Parade
กำลังเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อ 100 ปีก่อน
"แกคงจะรู้จากนิทานที่เคยฟังมาตอนสมัยเด็กซินะ ว่าโลกสมัยก่อนมันเป็นอย่างไร
โลกที่กลางคืนยังไร้ซึ่งแสงจอมปลอม
ป่าเขาที่ยังไม่ถูกบุกรุก สงครามการฆ่าฟันที่ยังคงไม่สิ้นสุด…
สมัยนั้นน่ะนะ ยุคทองของเหล่าคนตายเลยเชียวล่ะ พื้นที่อุดมไปด้วยธรรมชาติให้พวกเราได้สะสมพลังวิญญาณ
ผู้คนยังคงหวาดกลัวกับสิ่งที่ตนไม่เข้าใจ การท้าทายต่อสิ่งลี้ลับยังคงเป็นข้อต้องห้าม…
เป็นยุคที่เหล่าคนตายสามารถสะสมพลังวิญญาณได้อย่างง่ายดาย จนถึงขนาดที่ว่ากลางคืนนั้นแทบจะกลายเป็นโลกของพวกเราเลยเชียวล่ะ
คนเป็น พวกมันทำได้ก็แค่ก่อกองไฟหลบหนีจากความมืดมิด ผู้คนต่างหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านเมืองอันกระจ้อยร่อยของพวกมัน…พวกเรานั้นเป็นเจ้าของโลกใบนี้…
…แต่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป"
โวลเทก้าหยุดลง
วิลเซอตันได้จังหวะจึงเล่าต่อ
"ราวๆ100ปีก่อน เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ความหวาดกลัวของผู้คนถึงขีดสุด
พวกวิญญาณพวกหนึ่งที่เริ่มทนไม่ไหวกับการค่อยๆสะสมพลังเกิดละเมิดกฎขึ้นมา
…จะเรียกว่ากฎก็คงไม่ถูกหรอกนะ ความจริงมันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคิดจะทำ และไม่มีใครอยากจะทำ…
พวกมันต่างเริ่มล่าคนเป็น!! ใครจะไปคิดว่าจะมีพวกบ้ากล้าทำสิ่งนี้ ถึงยังไงพวกเราทุกคนก็เคยเป็นมนุษย์กันมาทั้งนั้น!
…แต่พวกมันไม่คิดเช่นนั้น พวกมันเริ่มเข่นฆ่าผู้คนในยามค่ำคืน พวกมันต่างสรรหาวิธีฆ่าอันแสนพิสดารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสิงคนเพื่อก่อเหตุ การใส่ร้ายป้ายสี พวกมันทำทุกๆอย่าง ทุกๆอย่างเพื่อที่จะฆ่าคนแล้วกินวิญญาณของพวกเขา - วิญญาณคนที่พึ่งตายที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร"
ชายชราเริ่มส่ายหัวรับไม่ได้กับความจริงที่เคยเกิด
"จากบ้านเป็นหมู่บ้าน จากหมู่บ้านเป็นเมือง พวกมันล่าไม่หยุด ไม่รู้จักพอ ไขว่คว้าหาอำนาจที่เกินพอดี…
แม้ว่าวิญญาณกลุ่มอื่นจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพวกมันก็เถอะ แต่พวกเขาจะไปทำอะไรกับมันได้ล่ะ กับไอ้พวกปีศาจพวกนั้น เหล่าวิญญาณที่ใช้พลังที่ได้มาจากความเสื่อม
…การล่าของพวกมันไม่มีเวลาให้คนเป็นได้หยุดพัก ความกลัวเข้าครอบงำจิตใจผู้คนจนไม่กล้าแม้แต่จะข่มตานอน พวกมันล่า ล่า ล่า จนถึงวันที่ความกลัวเปลี่ยนหมาจนตรอกให้แยกเขี้ยวเข้าสู้…"
หลังจากเล่าถึงตรงนี้วิลเซอตันก็หยุดพูดลุกขึ้นจากเก้าอี้โยกขาเดียวของเขา ขยับก้าวมายืนอยู่ตรงกลางห้อง
"ในหมู่มนุษย์จะมีคนที่เกิดมามีพลังพิเศษ เราเรียกพวกเขาเหล่านี้ว่า อาร์ค
อาร์ค เป็นผู้ที่มองเห็นในพลังวิญญาณ พวกเขามีอำนาจที่คนทั่วไปไม่มี บ้างก็สัมผัสวิญญาณได้ บ้างก็ทำนายโชคชะตาได้ พวกเขามีพลังอันหลากหลาย ยากแท้จะหยั่งถึง พวกเขาเหล่านี้ปกปิดพลัง หลบซ่อนตัวอยู่เงียบๆในสังคมมนุษย์
…แต่การล่าที่ไม่หยุดยั้งนั้นทำให้มนุษย์เริ่มปกป้องตัวเอง
อาร์คเริ่มทำการค้นหากันและกัน ต่างจับมือเพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
พลังของอาร์คแต่ละคนเมื่อนำมาใช้ร่วมกันก็จะยิ่งก่อให้เกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีก
พวกเขาร่วมกันจัดตั้งองค์กรที่ชื่อว่า The Cross เพื่อทำการแลกเปลี่ยนข่าวสาร ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการ องค์กรของพวกเขาค่อยๆขยายตัวไปเรื่อยๆพวกเขาส่งยอดฝีมือของตัวเองกระจายออกไปทั่วโลก"เขายืน ค่อยๆทำมือผายกางแขนออกไป
"สมัยนั้นก็คงเป็นที่โบสถ์หรือไม่ก็วัดแหละ ที่องค์กรนี้ส่งคนของตนไปประจำการ"ริโก้ช่วยอธิบายอย่างเสียมิได้
วิลเซอตันเริ่มพูดต่อ"หลังการก่อตั้งของ The Cross พวกวิญญาณชั่วร้ายไม่อาจ
จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อีก เหตุการณ์แปลกประหลาดที่ไม่อาจอธิบายได้ต่างถูกรายงานมายังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ที่ซึ่งปัญหาจะได้รับการจัดการแก้ไขด้วยพลังเหนือธรรมชาติของเหล่าอาร์ค…
The Cross ได้รับความเชื่อถือจากสังคมมนุษย์เป็นอย่างมาก คำพูดของพวกเขาไม่ต่างอะไรไปจากคำศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนต่างพากันยกย่องเหล่าอาร์คเป็นฮีโร่ เงินทอง ยศฐาบรรดาศักดิ์ ต่างหลั่งไหลมารวมกันอยู่ที่ The Cross
แต่อะไรที่มันมากไปก็ไม่ดี
แสงที่ส่องมายิ่งสว่างมากเท่าไหร่
เงาก็จะยิ่งดำมืดมากขึ้นเท่านั้น
…เมื่อไม่อาจล่าได้ง่ายๆอีกแล้ว วิญญาณร้ายผู้เสพย์คนเป็น ต่างยอมลดศักดิ์ศรี ระงับความเห็นแก่ตัวเพื่อมาร่วมมือกันกำจัดอุปสรรคชิ้นโตทิ้งซะ The Cross นั่นเอง
…โดยปกติแล้ววิญญาณจะมีโซนของตัวเองและเกลียดการออกไป หรือให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายในโซนของตัวเอง แต่ก็นั่นแหละ The Cross เป็นปัญหาใหญ่มากถึงขนาดทำให้พวกมันหันมาร่วมมือกันได้เลยหละ
…แต่ยังไงเสียก็เถอะ สงครามครั้งแรกระหว่างคนเป็นกับคนตายก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว"พูดจบ ชายชราก็เดินกลับไปนั่งยังที่เดิมของตน
โวเทลก้าที่กำลังมองเซเรนุยที่กำลังนั่งหลับบนเก้าอี้อยู่ตะกี้ ได้หันกลับมาทางผมและเริ่มเล่าต่อ
"แกคงจะคิดว่านี่คือสงครามที่พูดถึงใช่ไหม …เปล่าเลยสงครามครั้งนี้จบลงไปอย่างรวดเร็วและง่ายดาย นี่คือชัยชนะอันเบ็ดเสร็จอยู่เพียงข้างเดียวของ The Cross ไม่มีทางหรอกนะที่พวกวิญญาณที่เพิ่งจับผลัดจับพลูรวมกลุ่มกันมา จะเอาชนะทีมเวิร์คของเหล่าอาร์คไปได้ นี่ยังไม่รวมถึงการออกมาจากโซนของตัวเองอีก คงไม่มีอะไรโง่ไปกว่าการที่พวกมันพาตัวเองไปตายอีกแล้วและคงไม่มีอะไรน่ายินดีไปกว่าผลของสงครามครั้งนี้จริงๆ
…เหล่าวิญญาณร้ายสลายไปหมด โลกของคนตายและคนเป็นแยกจากกันอีกครั้ง"โวลเทก้าหลับตาทำหน้าราวกับกำลังนึกถึงความทรงจำแสนสุข
"แต่ก็อย่างที่ตาแก่วิลเซอตันบอกไป อะไรที่มากไปมันก็ไม่ดี The Cross ยิ่งใหญ่มากเกินไปแล้ว…
หลังจากหมดภัยจากวิญญาณร้ายความสงบสุขก็กลับมาสู่สังคมมนุษย์และวิญญาณ แม้จะเป็นเวลาเพียงไม่นาน
แค่เวลาที่ทะเลสงบก่อนพายุจะพัดเข้ามาก็ตาม
เพื่อรักษาไว้ซึ่งอำนาจของตน
The Cross ได้เริ่มภารกิจอันใหม่!
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์วิญญาณร้ายออกอาละวาดแบบที่แล้วมาอีก มาตรการการป้องกันต่างๆได้ถูกดำเนินการ
เริ่มจากการขัดขวางการพัฒนาพลังของเหล่าวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็น
The Cross ได้ใช้ทรัพยากร และคนของตนพัฒนาวิธีการให้แสงสว่างในยามค่ำคืนขึ้นมาบนโลกใบนี้ - แสงจอมปลอมพวกนั้น
คิดค้นวิธีการนำทรัพยากรธรรมชาติออกมาใช้เพื่อลดพื้นที่พักพิงของเหล่าวิญญาณ ธรรมชาติจำนวนมากถูกทำลายเพื่อสนองต่อความต้องการของผู้คน
ช่วงนี้ก็คงจะตรงกับช่วงที่คนเป็นเขาเรียกกันว่า ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมพอดีน่ะนะ
ต่อมานโยบายการขัดขวางการเพิ่มจำนวนของเหล่าวิญญาณก็ถูกใช้
ศาสตร์การแพทย์แขนงต่างๆถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อยื้อเวลาของคนเป็นให้นานออกไปอีก
การใช้อำนาจศักดิ์สิทธิ์บีบบังคับให้ผู้นำในหัวเมืองต่างๆนับถือคำสอนของตนเพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง อันเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาความตายจากสงคราม
รวมถึงการกระจายวัฒนธรรมที่ให้ญาตินำคนตายมาทำพิธีศพตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆออกไปอีก"เขาหยุด
"สำหรับอาร์ค คงไม่มีอะไรง่ายไปกว่าการกำจัดวิญญาณที่เพิ่งออกจากร่างอีกแล้วล่ะ"ชายชราเริ่มพูดอีกครั้ง
"การกระทำของ The Cross คราวนี้ได้ทำลายสมดุลของทั้ง 2 ฝั่งไปอย่างรุนแรง อำนาจของคนตายถูกลดน้อยลงเรื่อยๆ แต่อำนาจของคนเป็นกลับมากขึ้นเรื่อยๆ จากการดำเนินการนี้ตอนนี้ The Cross ได้วางรากฐานแนวคิดของตนลงไปในสังคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เหล่าอาร์คถูกยกย่องขึ้นเป็นคนสำคัญทางประวัติศาสตร์ ชื่อของพวกเขาถูกจารึกชื่อลงในบทเรียน
จากความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆที่ The Cross ส่งคนของตนเข้าไปแทรกแซง ควบคุม รวมถึงทำลาย
ทำให้ในตอนนี้องค์กรใหญ่โตเสียจนมีอำนาจแทรกแซงไปทั่วโลกแล้ว
และเหตุนี้เองที่ The Cross Alliance ได้ถือกำเนิดขึ้น
…ผู้นำอันแข็งแกร่งของเหล่าวิญญาณที่ยังหลงเหลืออยู่จากการกวาดล้างครั้งนี้ ไม่อาจทนอยู่เฉยรอวันล่มสลายของพวกตนได้
เหล่าวิญญาณต่างก็รวมกลุ่มเพื่อหารือกัน เป้าหมายของพวกเขาก็เป็นเช่นเดียวกันกับการรวมกลุ่มของพวกวิญญาณร้ายครั้งก่อน คือการทำลาย The Cross Alliance
…แต่ที่มันแตกต่างก็คือในครั้งนี้ สาเหตุที่พวกเขาทำไปก็เพื่อปกป้องตัวเอง!
…นี่คือจุดกำเนิดของ Death Parade จำไว้ให้ดีละพ่อหนุ่ม
…ข้าและโวลเทก้าต่างก็เข้าร่วมในสงครามครั้งนี้ สงครามครั้งที่ 2
The Great Conflict
พวกข้าต่างเรียนรู้ความผิดพลาดที่เป็นสาเหตุของความพ่ายแพ้ครั้งแรกมาอย่างดีแล้ว การต่อสู้ในครั้งนี้ถูกวางแผนมาอย่างดี พวกเราใช้อุบายต่างๆนาๆ หลอกล่อสมาชิกขององค์กรออกมาจัดการทีละคน ทีละคน ไม่ว่าจะเป็นการปลอมเป็นชาวบ้านออกมาขอความช่วยเหลือ
การปลอมตัวเป็นคนในองค์กรออกคำสั่งผิดๆออกไป
พวกเราพยายามกันอย่างหนักจนในที่สุดพวกเราก็ล่อกองทัพหลักของพวกมันออกมาติดกับดักได้สำเร็จ
การต่อสู้ของคน 1 คนต่อ วิญญาณ 20 ตนภายในโซนของวิญญาณนั้นต่อให้เป็นอาร์คระดับสูง
ก็ใช่ว่าจะเอาตัวรอดไปได้โดยง่าย
อาร์คคนแล้วคนเล่าต่างตายลงที่นั่น กับดักคราวนี้ใช้ได้ผลเป็นอย่างดี หากเพียงแค่พวกเราล้มกองทัพหลักตรงนี้ได้ การจะบุกทำลายกองกำลังที่เหลือก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
กองทัพหลักของอาร์คตายไปคนแล้วคนเล่า จนในที่สุดก็ถึงกลุ่มอาร์คกลุ่มสุดท้ายที่กำลังจะโดนจัดการ ความสำเร็จอยู่แค่เอื้อมแล้ว"
"ตูมมมมมมมมมมมมมมม แล้วทุกอย่างก็หายวับไปเล้ยยยยยยยยยยยยย"เซเรนุยส่งเสียงแหลมแสบหูสอดแทรกขึ้นมา ราวกลับที่เงียบมาตลอดก็เพื่อเก็บเสียงไว้มาตะโกนในจังหวะนี้
โวลเทก้ากำมือแน่นราวกับจะทำลายมือตนเอง
"ใช่ แล้ววันนั้นก็เป็นวันที่ Death Parade สูญสิ้นทุกอย่างไป ชัยชนะที่อยู่ในเอื้อมมือ เหล่าผู้นำวิญญาณทั้งหลาย ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างของพวกเรา
.
.
หายไปกับการตื่นของพลังของนังนั่นเพียงคนเดียว!!"
ตอนต่อไป The Sunshine
สารบัญ
ตอนที่ 1 : Happy? Birthday >>
https://pantip.com/topic/36051517
ตอนที่ 2 : Chain Breaker >>
https://pantip.com/topic/36054730
ตอนที่ 3 : Death Parade >>
https://pantip.com/topic/36055791
[Deathman Story] ตอนที่ 4 : The Cross Alliance
โวลเทก้าผู้นำของ Death Parade
กำลังเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อ 100 ปีก่อน
"แกคงจะรู้จากนิทานที่เคยฟังมาตอนสมัยเด็กซินะ ว่าโลกสมัยก่อนมันเป็นอย่างไร
โลกที่กลางคืนยังไร้ซึ่งแสงจอมปลอม
ป่าเขาที่ยังไม่ถูกบุกรุก สงครามการฆ่าฟันที่ยังคงไม่สิ้นสุด…
สมัยนั้นน่ะนะ ยุคทองของเหล่าคนตายเลยเชียวล่ะ พื้นที่อุดมไปด้วยธรรมชาติให้พวกเราได้สะสมพลังวิญญาณ
ผู้คนยังคงหวาดกลัวกับสิ่งที่ตนไม่เข้าใจ การท้าทายต่อสิ่งลี้ลับยังคงเป็นข้อต้องห้าม…
เป็นยุคที่เหล่าคนตายสามารถสะสมพลังวิญญาณได้อย่างง่ายดาย จนถึงขนาดที่ว่ากลางคืนนั้นแทบจะกลายเป็นโลกของพวกเราเลยเชียวล่ะ
คนเป็น พวกมันทำได้ก็แค่ก่อกองไฟหลบหนีจากความมืดมิด ผู้คนต่างหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านเมืองอันกระจ้อยร่อยของพวกมัน…พวกเรานั้นเป็นเจ้าของโลกใบนี้…
…แต่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป"
โวลเทก้าหยุดลง
วิลเซอตันได้จังหวะจึงเล่าต่อ
"ราวๆ100ปีก่อน เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ความหวาดกลัวของผู้คนถึงขีดสุด
พวกวิญญาณพวกหนึ่งที่เริ่มทนไม่ไหวกับการค่อยๆสะสมพลังเกิดละเมิดกฎขึ้นมา
…จะเรียกว่ากฎก็คงไม่ถูกหรอกนะ ความจริงมันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคิดจะทำ และไม่มีใครอยากจะทำ…
พวกมันต่างเริ่มล่าคนเป็น!! ใครจะไปคิดว่าจะมีพวกบ้ากล้าทำสิ่งนี้ ถึงยังไงพวกเราทุกคนก็เคยเป็นมนุษย์กันมาทั้งนั้น!
…แต่พวกมันไม่คิดเช่นนั้น พวกมันเริ่มเข่นฆ่าผู้คนในยามค่ำคืน พวกมันต่างสรรหาวิธีฆ่าอันแสนพิสดารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสิงคนเพื่อก่อเหตุ การใส่ร้ายป้ายสี พวกมันทำทุกๆอย่าง ทุกๆอย่างเพื่อที่จะฆ่าคนแล้วกินวิญญาณของพวกเขา - วิญญาณคนที่พึ่งตายที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร"
ชายชราเริ่มส่ายหัวรับไม่ได้กับความจริงที่เคยเกิด
"จากบ้านเป็นหมู่บ้าน จากหมู่บ้านเป็นเมือง พวกมันล่าไม่หยุด ไม่รู้จักพอ ไขว่คว้าหาอำนาจที่เกินพอดี…
แม้ว่าวิญญาณกลุ่มอื่นจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพวกมันก็เถอะ แต่พวกเขาจะไปทำอะไรกับมันได้ล่ะ กับไอ้พวกปีศาจพวกนั้น เหล่าวิญญาณที่ใช้พลังที่ได้มาจากความเสื่อม
…การล่าของพวกมันไม่มีเวลาให้คนเป็นได้หยุดพัก ความกลัวเข้าครอบงำจิตใจผู้คนจนไม่กล้าแม้แต่จะข่มตานอน พวกมันล่า ล่า ล่า จนถึงวันที่ความกลัวเปลี่ยนหมาจนตรอกให้แยกเขี้ยวเข้าสู้…"
หลังจากเล่าถึงตรงนี้วิลเซอตันก็หยุดพูดลุกขึ้นจากเก้าอี้โยกขาเดียวของเขา ขยับก้าวมายืนอยู่ตรงกลางห้อง
"ในหมู่มนุษย์จะมีคนที่เกิดมามีพลังพิเศษ เราเรียกพวกเขาเหล่านี้ว่า อาร์ค
อาร์ค เป็นผู้ที่มองเห็นในพลังวิญญาณ พวกเขามีอำนาจที่คนทั่วไปไม่มี บ้างก็สัมผัสวิญญาณได้ บ้างก็ทำนายโชคชะตาได้ พวกเขามีพลังอันหลากหลาย ยากแท้จะหยั่งถึง พวกเขาเหล่านี้ปกปิดพลัง หลบซ่อนตัวอยู่เงียบๆในสังคมมนุษย์
…แต่การล่าที่ไม่หยุดยั้งนั้นทำให้มนุษย์เริ่มปกป้องตัวเอง
อาร์คเริ่มทำการค้นหากันและกัน ต่างจับมือเพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
พลังของอาร์คแต่ละคนเมื่อนำมาใช้ร่วมกันก็จะยิ่งก่อให้เกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีก
พวกเขาร่วมกันจัดตั้งองค์กรที่ชื่อว่า The Cross เพื่อทำการแลกเปลี่ยนข่าวสาร ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการ องค์กรของพวกเขาค่อยๆขยายตัวไปเรื่อยๆพวกเขาส่งยอดฝีมือของตัวเองกระจายออกไปทั่วโลก"เขายืน ค่อยๆทำมือผายกางแขนออกไป
"สมัยนั้นก็คงเป็นที่โบสถ์หรือไม่ก็วัดแหละ ที่องค์กรนี้ส่งคนของตนไปประจำการ"ริโก้ช่วยอธิบายอย่างเสียมิได้
วิลเซอตันเริ่มพูดต่อ"หลังการก่อตั้งของ The Cross พวกวิญญาณชั่วร้ายไม่อาจ
จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อีก เหตุการณ์แปลกประหลาดที่ไม่อาจอธิบายได้ต่างถูกรายงานมายังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ที่ซึ่งปัญหาจะได้รับการจัดการแก้ไขด้วยพลังเหนือธรรมชาติของเหล่าอาร์ค…
The Cross ได้รับความเชื่อถือจากสังคมมนุษย์เป็นอย่างมาก คำพูดของพวกเขาไม่ต่างอะไรไปจากคำศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนต่างพากันยกย่องเหล่าอาร์คเป็นฮีโร่ เงินทอง ยศฐาบรรดาศักดิ์ ต่างหลั่งไหลมารวมกันอยู่ที่ The Cross
แต่อะไรที่มันมากไปก็ไม่ดี
แสงที่ส่องมายิ่งสว่างมากเท่าไหร่
เงาก็จะยิ่งดำมืดมากขึ้นเท่านั้น
…เมื่อไม่อาจล่าได้ง่ายๆอีกแล้ว วิญญาณร้ายผู้เสพย์คนเป็น ต่างยอมลดศักดิ์ศรี ระงับความเห็นแก่ตัวเพื่อมาร่วมมือกันกำจัดอุปสรรคชิ้นโตทิ้งซะ The Cross นั่นเอง
…โดยปกติแล้ววิญญาณจะมีโซนของตัวเองและเกลียดการออกไป หรือให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายในโซนของตัวเอง แต่ก็นั่นแหละ The Cross เป็นปัญหาใหญ่มากถึงขนาดทำให้พวกมันหันมาร่วมมือกันได้เลยหละ
…แต่ยังไงเสียก็เถอะ สงครามครั้งแรกระหว่างคนเป็นกับคนตายก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว"พูดจบ ชายชราก็เดินกลับไปนั่งยังที่เดิมของตน
โวเทลก้าที่กำลังมองเซเรนุยที่กำลังนั่งหลับบนเก้าอี้อยู่ตะกี้ ได้หันกลับมาทางผมและเริ่มเล่าต่อ
"แกคงจะคิดว่านี่คือสงครามที่พูดถึงใช่ไหม …เปล่าเลยสงครามครั้งนี้จบลงไปอย่างรวดเร็วและง่ายดาย นี่คือชัยชนะอันเบ็ดเสร็จอยู่เพียงข้างเดียวของ The Cross ไม่มีทางหรอกนะที่พวกวิญญาณที่เพิ่งจับผลัดจับพลูรวมกลุ่มกันมา จะเอาชนะทีมเวิร์คของเหล่าอาร์คไปได้ นี่ยังไม่รวมถึงการออกมาจากโซนของตัวเองอีก คงไม่มีอะไรโง่ไปกว่าการที่พวกมันพาตัวเองไปตายอีกแล้วและคงไม่มีอะไรน่ายินดีไปกว่าผลของสงครามครั้งนี้จริงๆ
…เหล่าวิญญาณร้ายสลายไปหมด โลกของคนตายและคนเป็นแยกจากกันอีกครั้ง"โวลเทก้าหลับตาทำหน้าราวกับกำลังนึกถึงความทรงจำแสนสุข
"แต่ก็อย่างที่ตาแก่วิลเซอตันบอกไป อะไรที่มากไปมันก็ไม่ดี The Cross ยิ่งใหญ่มากเกินไปแล้ว…
หลังจากหมดภัยจากวิญญาณร้ายความสงบสุขก็กลับมาสู่สังคมมนุษย์และวิญญาณ แม้จะเป็นเวลาเพียงไม่นาน
แค่เวลาที่ทะเลสงบก่อนพายุจะพัดเข้ามาก็ตาม
เพื่อรักษาไว้ซึ่งอำนาจของตน
The Cross ได้เริ่มภารกิจอันใหม่!
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์วิญญาณร้ายออกอาละวาดแบบที่แล้วมาอีก มาตรการการป้องกันต่างๆได้ถูกดำเนินการ
เริ่มจากการขัดขวางการพัฒนาพลังของเหล่าวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็น
The Cross ได้ใช้ทรัพยากร และคนของตนพัฒนาวิธีการให้แสงสว่างในยามค่ำคืนขึ้นมาบนโลกใบนี้ - แสงจอมปลอมพวกนั้น
คิดค้นวิธีการนำทรัพยากรธรรมชาติออกมาใช้เพื่อลดพื้นที่พักพิงของเหล่าวิญญาณ ธรรมชาติจำนวนมากถูกทำลายเพื่อสนองต่อความต้องการของผู้คน
ช่วงนี้ก็คงจะตรงกับช่วงที่คนเป็นเขาเรียกกันว่า ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมพอดีน่ะนะ
ต่อมานโยบายการขัดขวางการเพิ่มจำนวนของเหล่าวิญญาณก็ถูกใช้
ศาสตร์การแพทย์แขนงต่างๆถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อยื้อเวลาของคนเป็นให้นานออกไปอีก
การใช้อำนาจศักดิ์สิทธิ์บีบบังคับให้ผู้นำในหัวเมืองต่างๆนับถือคำสอนของตนเพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง อันเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาความตายจากสงคราม
รวมถึงการกระจายวัฒนธรรมที่ให้ญาตินำคนตายมาทำพิธีศพตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆออกไปอีก"เขาหยุด
"สำหรับอาร์ค คงไม่มีอะไรง่ายไปกว่าการกำจัดวิญญาณที่เพิ่งออกจากร่างอีกแล้วล่ะ"ชายชราเริ่มพูดอีกครั้ง
"การกระทำของ The Cross คราวนี้ได้ทำลายสมดุลของทั้ง 2 ฝั่งไปอย่างรุนแรง อำนาจของคนตายถูกลดน้อยลงเรื่อยๆ แต่อำนาจของคนเป็นกลับมากขึ้นเรื่อยๆ จากการดำเนินการนี้ตอนนี้ The Cross ได้วางรากฐานแนวคิดของตนลงไปในสังคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เหล่าอาร์คถูกยกย่องขึ้นเป็นคนสำคัญทางประวัติศาสตร์ ชื่อของพวกเขาถูกจารึกชื่อลงในบทเรียน
จากความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆที่ The Cross ส่งคนของตนเข้าไปแทรกแซง ควบคุม รวมถึงทำลาย
ทำให้ในตอนนี้องค์กรใหญ่โตเสียจนมีอำนาจแทรกแซงไปทั่วโลกแล้ว
และเหตุนี้เองที่ The Cross Alliance ได้ถือกำเนิดขึ้น
…ผู้นำอันแข็งแกร่งของเหล่าวิญญาณที่ยังหลงเหลืออยู่จากการกวาดล้างครั้งนี้ ไม่อาจทนอยู่เฉยรอวันล่มสลายของพวกตนได้
เหล่าวิญญาณต่างก็รวมกลุ่มเพื่อหารือกัน เป้าหมายของพวกเขาก็เป็นเช่นเดียวกันกับการรวมกลุ่มของพวกวิญญาณร้ายครั้งก่อน คือการทำลาย The Cross Alliance
…แต่ที่มันแตกต่างก็คือในครั้งนี้ สาเหตุที่พวกเขาทำไปก็เพื่อปกป้องตัวเอง!
…นี่คือจุดกำเนิดของ Death Parade จำไว้ให้ดีละพ่อหนุ่ม
…ข้าและโวลเทก้าต่างก็เข้าร่วมในสงครามครั้งนี้ สงครามครั้งที่ 2
The Great Conflict
พวกข้าต่างเรียนรู้ความผิดพลาดที่เป็นสาเหตุของความพ่ายแพ้ครั้งแรกมาอย่างดีแล้ว การต่อสู้ในครั้งนี้ถูกวางแผนมาอย่างดี พวกเราใช้อุบายต่างๆนาๆ หลอกล่อสมาชิกขององค์กรออกมาจัดการทีละคน ทีละคน ไม่ว่าจะเป็นการปลอมเป็นชาวบ้านออกมาขอความช่วยเหลือ
การปลอมตัวเป็นคนในองค์กรออกคำสั่งผิดๆออกไป
พวกเราพยายามกันอย่างหนักจนในที่สุดพวกเราก็ล่อกองทัพหลักของพวกมันออกมาติดกับดักได้สำเร็จ
การต่อสู้ของคน 1 คนต่อ วิญญาณ 20 ตนภายในโซนของวิญญาณนั้นต่อให้เป็นอาร์คระดับสูง
ก็ใช่ว่าจะเอาตัวรอดไปได้โดยง่าย
อาร์คคนแล้วคนเล่าต่างตายลงที่นั่น กับดักคราวนี้ใช้ได้ผลเป็นอย่างดี หากเพียงแค่พวกเราล้มกองทัพหลักตรงนี้ได้ การจะบุกทำลายกองกำลังที่เหลือก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
กองทัพหลักของอาร์คตายไปคนแล้วคนเล่า จนในที่สุดก็ถึงกลุ่มอาร์คกลุ่มสุดท้ายที่กำลังจะโดนจัดการ ความสำเร็จอยู่แค่เอื้อมแล้ว"
"ตูมมมมมมมมมมมมมมม แล้วทุกอย่างก็หายวับไปเล้ยยยยยยยยยยยยย"เซเรนุยส่งเสียงแหลมแสบหูสอดแทรกขึ้นมา ราวกลับที่เงียบมาตลอดก็เพื่อเก็บเสียงไว้มาตะโกนในจังหวะนี้
โวลเทก้ากำมือแน่นราวกับจะทำลายมือตนเอง
"ใช่ แล้ววันนั้นก็เป็นวันที่ Death Parade สูญสิ้นทุกอย่างไป ชัยชนะที่อยู่ในเอื้อมมือ เหล่าผู้นำวิญญาณทั้งหลาย ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างของพวกเรา
.
.
หายไปกับการตื่นของพลังของนังนั่นเพียงคนเดียว!!"
ตอนต่อไป The Sunshine
สารบัญ
ตอนที่ 1 : Happy? Birthday >> https://pantip.com/topic/36051517
ตอนที่ 2 : Chain Breaker >> https://pantip.com/topic/36054730
ตอนที่ 3 : Death Parade >> https://pantip.com/topic/36055791