รีวิวการตัดแว่นสายตาครั้งแรกในชีวิต ณ ร้านพอใจออพติค @ลาดพร้าววังหิน79

เนื่องจากระยะหลังๆมานี้ ผมรู้สึกว่าสายตาแย่ลง มองอะไรไกลๆหน่อยไม่คมชัดเหมือนเมื่อก่อน
ทีแรกผมคิดว่า อาจเป็นเพราะนอนน้อย แต่เวลาผ่านไป ผมเริ่มสังเกตว่า จะนอนน้อย นอนเยอะ นอนพอดี หรือไม่นอน ก็มองเห็นแย่เหมือนเดิม มิหนำซ้ำยังมีอาการปวดหัวบริเวณหน้าผาก และกระบอกตาเข้ามาด้วย ผมจึงเริ่มคิดถึงเรื่อง "สายตาสั้น"

ผมเริ่มหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับความผิดปกติของสายตา แต่พอค้นไปค้นมา ดันเอะใจเรื่องสายตาเอียง
จึงเข้าไปอ่าน และอาการของภาวะสายตาเอียงทั้งหมด ตรงกับอาการที่ผมกำลังเป็นอยู่
ไม่ว่าจะปวดหน้าผาก ปวดกระบอกตา มองเห็นขอบของวัตถุมีแสงเรืองๆ มองเห็นตัวหนังสือมีขอบเหลื่อมๆซ้อนกัน มีปัญหาเวลาขับขี่รถยามค่ำคืนแล้วเห็นแสงไฟหน้ารถ/ท้ายรถฟุ้งกระจายจนแสบตาไปหมด

ผมจึงได้หารูปทดสอบสายตาเอียงได้มารูปหนึ่ง เป็นรูปเส้นตรงๆยาวๆ วางเป็นแนว 180 องศาเหมือนไม้โปรแทรคเตอร์ที่เคยใช้ในวิชาคณิตศาสตร์สมัยเรียนประถม ทราบชื่อทีหลังว่าภาพนี้ มีชื่อเรียกว่า "แฟนกราฟ" (Fan Graph)



คุณพระช่วย!! ภาพที่ผมเห็น คืออาการของผู้ที่มีภาวะสายตาเอียง เส้นดำๆที่ผมเห็นชัดสำหรับตาขวา มีแค่เส้น 90/105/120 ส่วนตาซ้าย เห็นชัดแค่เส้น 90 กับ 105

พอรู้และเข้าใจว่า ภาวะที่ตัวเองเป็นอะไร ผมเริ่มหาข้อมูลต่อทันที เรื่องร้านไหนตัดแว่นดี ราคาไม่แพง ฯลฯ
ผมเองก็ได้ชื่อร้านมาหลายอยู่ ไม่ว่าจะแบรนด์ดังๆที่โฆษณา หรือร้านแว่นที่สยาม

ผมเริ่มจากการไปถามร้านท็อป ที่ห้างซีใหญ่ใกล้บ้าน พนักงานแจ้งว่า กรอบลดราคา 50% (ณ วันที่ 23 กันยายน 2016) เลนส์คู่ละ 450 บาท
แต่มาทราบทีหลังว่า 450 บาทนั้น เป็นเลนส์ธรรมดาๆ ไม่มีเคลือบอะไรทั้งสิ้น ถ้าเลนส์มัลติโค้ท คู่ละ 1,200 บาท (ขุ่นพระ ปล้นกันชัดๆ) ผมจึงบอกพนักงานไปว่า สิ้นเดือนเดี๋ยวมาดูอีกที

จากนั้นผมไปห้างแม็กว.ล. ที่อยู่ใกล้บ้าน(อีกเช่นเคย) ในนั้นผมจำได้ว่ามีบริการวัดสายตาประกอบแว่นอยู่
จึงเข้าไปถามราคา และขอวัดสายตา (เคยขอร้านท็อปวัดให้ แต่เขาแจ้งว่าจะไม่บอกค่าสายตาเรา อารมณ์วัดแล้วต้องตัดเลย)
กรอบราคาไม่แพงมาก ทรงพอใช้ได้ เลนส์มัลติโค้ทคู่ละ 690 บาท ค่อยสมเหตุสมผล

แต่... พอวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์แล้ว ผมออกมาว่า ขวา สั้น -0.75 ซ้าย สั้น -1.25
เจ้าของร้านยังมีการถามด้วยว่า "ไม่เห็นเอียงเลยครับ ลูกค้าคิดไปเองหรือเปล่า"
ผมตอบไปว่า "สายตาเอียงมีคิดไปเองด้วยหรือครับ แล้วที่ผมเห็นตัวหนังสือซ้อนจะเป็นเพราะอะไรได้อีกละครับ
แล้วแฟนกราฟที่ผมเห็นชัดแค่บางเส้นล่ะครับ"

เขาตอบผมว่า "น่าจะอยู่ที่สภาวะแสงด้วยครับ ว่าแสงพอหรือเปล่าตอนที่มอง"
อืมม์ ผมก็เปิดไฟสว่างพอนะ ตอนที่ดูรูปแฟนกราฟที่บ้าน
ผมถามเขาว่า เครื่องนี้มีความแม่นยำมากแค่ไหน ผิดพลาดได้ไหม เขาบอกว่า แม่นยำที่ 80% ครับ
อ้าว!!! แล้วไอ้อีก 20% ที่เหลือล่ะ มันตกอยู่ที่ผมหรือเปล่า??
ผมจึงบอกว่า "สิ้นเดือนเดี๋ยวมาดูใหม่" ไปอีกตามระเบียบ

ผมถามเพื่อนที่ใส่แว่นคนหนึ่ง เขาแนะนำร้านแว่นที่ตะวันนา และชวนกันไป เนื่องจากเขาต้องไปซ่อมแว่นพอดี (ขาแว่นหัก)
เมื่อไปถึงร้าน ร้านอยู่โซนหน้าๆพอดีครับ ในห้องแอร์นะ จำชื่อร้านไม่ได้ ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
มีกรอบให้เลือกมากมาย ผมกะด้วยสายตาคร่าวๆ น่าจะประมาณ 300-400 อัน
ราคากรอบก็ไม่แพง ประมาณ 200-300 บาท แต่ถ้าตัดเลนส์กับเขา เขาไม่คิดค่ากรอบครับ คือแถมกรอบไปเลย
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกรอบมียี่ห้อ (แบรนด์เนม) ก็มีให้เลือกประมาณ 100-200 อัน ราคาก็ตามยี่ห้อครับ

ผมรอเพื่อนวัดสายตาและลองแว่นเสร็จ จึงลองขอให้เขาวัดสายตา(ด้วยคอมพิวเตอร์)ให้ ผลออกมาว่า
ขวา สั้น -0.50 เอียง -0.50 ที่ 166 องศา
ซ้าย สั้น -1.00 เอียง -0.75 ที่ 180 องศา (เดี๋ยวผมจะบอกค่าสายตาที่วัดได้ร้านสุดท้ายอีกที)

เขาบอกว่า ระดับนี้ถ้ายังไม่ใส่แว่นก็ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่อาจจะมีอาการปวดหน้าผาก และเบ้าตาบ้าง
ผมจึงบอกอาการเขาไป เขาบอกผมว่า ถ้าตัดแว่นก็ดี ถ้าใช้สายตาบ่อย ยิ่งถ้าขับขี่ยานยนต์ ควรตัด อย่างน้อยใช้แค่เวลาทำงานหรือขี่รถก็ยังดี
เขาหยิบแว่นทดลองเลนส์มาให้ผมใส่ โดยใส่เลนส์ดังนี้ ขวา สั้น -0.25 เอียง -0.50
ซ้าย สั้น -0.75 เอียง -0.75

ปรากฏว่าภาพชัดขึ้นมาในทันใด แต่มีอาการตึงๆเบ้าตาซ้ายเล็กน้อย เขาให้ลองอ่านชาร์ตวัดสายตา
โดยมองผ่านกระจกเงาที่สะท้อนชาร์ตที่อยู่บนหัวของเรา (พื้นที่แคบครับ เขาจึงใช้วิธีนี้)
ผมนึกถึงเงาสะท้อนในกระจก ที่อาจบิดเบี้ยวได้ตามพื้นผิวกระจก จึงเอ่ยปากถามไปว่า
"มองผ่านกระจกแล้วจะเชื่อได้หรือครับ เรื่องเงาสะท้อนอาจทำให้การวัดสายตาผิดพลาดได้นะ"
เขาบอกว่า "ก็อาจจะมีบ้างครับ"

อ้าว เวรเอ๊ยยยยย ตกลงมีอะไรแน่นอนไหมเนี่ย
สุดท้ายก็บอกไปว่า สิ้นเดือนเดี๋ยวมาดูใหม่ (ตามระเบียบ)

แต่เมื่อผมได้มาที่ร้านพอใจออพติค มีนักทัศนมาตรมืออาชีพให้คำแนะนำ และทำการวัดสายตาด้วยวิธีที่ถูกต้อง

เขาใช้เครื่องฉายภาพ (โปรเจ็คเตอร์) ฉายภาพไปที่ผนัง โดยภาพที่ฉายก็คือชาร์ตตัวเลข
แบบเดียวกับที่เราๆท่านๆเคยเห็นนี่แหละครับ เพียงแต่อันนี้เขาสามารถปรับขนาดได้ตามมือสั่ง
จากนั้นเขาก็เอาแท่นอะไรสักอย่างที่เหมือนแว่นที่ลอยได้กลางอากาศมาทาบที่หน้าเรา และให้เรามองผ่านรู(แว่น)อันนั้น โดยมองด้วยตาทีละข้าง

เขาไล่ขนาดของตัวเลขลงเรื่อยๆจนมาถึงจุดหนึ่งที่ผมอ่านตัวเลขไม่ได้เลย
เขาจึงเริ่มใส่เลนส์ให้ แล้วถามเราว่า แบบที่หนึ่ง กับแบบที่สอง อันไหนชัดกว่ากัน ไล่ไปเรื่อยๆ
จนเสร็จขั้นตอนการวัดสายตา ใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที พี่เค้าใจเย็นมากครับ
เพราะบางเลนส์ ผมแทบแยกไม่ออกว่าอันไหนชัดกว่า เพราะบางที มันก็ชัดพอๆกัน

สรุปค่าสายตาของผมที่วัดโดยนักทัศนมาตรมืออาชีพ
ขวา สั้น -0.50 เอียง -0.50 ที่แกน 172 องศา
ซ้าย สั้น -0.75 เอียง -0.75 ที่แกน 178 องศา

เขาก็เอาแว่นทดลองเลนส์มาให้ผมลองใส่ โดยใช้เลนส์แก้เอียงเท่ากับค่าสายตา และสายตาสั้น -0.50
คุณพระช่วย ภาพรอบๆตัวชัดขึ้น และการมองระยะไกลเป็นอะไรที่แจ่มว้าวแบบที่ไม่เคยเห็นมาหลายปี
ตัวหนังสือที่เคยเห็นซ้อนๆกันในระยะ 20+ เมตรก็กลับมาคมกริบเหมือนเดิม แต่ด้วยเลนส์แก้เอียงที่พอดีเกินไป
ทำให้ผมรู้สึกตึงๆตา(อีกแล้ว) พื้นไม่ลอยนะครับ เพราะไม่ได้เอียงเยอะ แต่ตึงตาสุดๆ เขาเลยแนะนำว่า ครั้งแรกไม่ควรใส่เลนส์พอดีค่าสายตา
เพราะยังไม่ชิน เขาแนะนำเลนส์แก้เอียงแค่ -0.50 ก็พอ ทั้งสองข้างเลย ส่วนเลนส์สายตาสั้น เขาแนะนำให้ดรอปลงมาเช่นกัน

สรุป ค่าสายตาที่ผมใส่แล้วรู้สึกสบายตา และมองเห็นชัดนั้น ผมตัดมาที่ สั้น -0.25 และแก้เอียง -0.50 เท่ากันทั้งสองข้างเลยครับ
ส่วนแกนที่เอียงไม่เท่ากันทั้งสองข้างนั้น ก็ปรับองศาเอียงตามสายตาของผมครับ

ความจริงสายตาระดับนี้ ถ้าไม่ใส่แว่นก็ไม่มีผลอะไรมากหรอกครับ แต่อาการปวดหัว ปวดหน้าผาก ปวดกระบอกตา
แสบตาเพราะเจอแสงไฟตอนกลางคืน จนแสงฟุ้งไปหมด มีแน่ๆครับ ก็อย่างที่ผมบอกตอนเปิดกระทู้มา ว่าผมเป็นมาสักพัก แต่ไม่รู้ตัว

สำหรับตอนนี้ ผมมองเห็นทุกอย่างคมชัดมากๆครับ เวลาอ่านป้ายต่างๆก็ไม่ต้องเพ่งแล้ว
เวลาเล่นโทรศัพท์ก็ไม่ต้องเอาจอมาจ่อใกล้ตา ตัวหนังสือระยะ 20+ เมตรที่เคยเห็นเป็นตัวซ้อนๆเหลื่อมๆกันก็หายไปเลย
รู้สึกโลกสดใสขึ้น เหมือนเปลี่ยนจากจอ LCD ระดับ 1K มาเป็นจอ UHD 4K เลยทีเดียว



นี่ครับ แว่นตาอันแรกของผม
เลนส์มัลติโค้ทธรรมดาครับ 600 บาท
กรอบ ผมชอบทรงกลมๆแบบนี้ อันนี้กรอบยี่ห้อ Slimflo รุ่น EXR เป็นผลิตภัณฑ์จากเกาหลีใต้ ราคาเต็ม 4,500 บาท ทางร้านลด 30% เหลือ 3,150 บาทครับ
เบ็ดเสร็จรวมราคา 3,750 บาท แถมกล่องใส่แว่นอีกอันต่างหาก นอกเหนือจากกล่องของตัวแบรนด์เอง
ของดี บริการดี ครั้งแรกก็ประทับใจเลยครับ ในอนาคตได้มาใช้บริการอีกแน่ๆ

ปล.จริงๆผมมาที่นี่เป็นที่ที่สอง ก่อนร้านที่ตะวันนาอีก แต่ก็เช่นเคย รอเงินตอนสิ้นเดือนจึงมาตัดได้
ผมไม่ได้ค่าโฆษณานะ แต่ที่แชร์เพราะรู้สึกโอเคกับร้านนี้จริงๆ