เมื่อ Comfort Zone   ผมถูกทำลาย (ภาคต่อ) ... เมื่อผมกำลังจะกลายเป็นเจ้าของกิจการ

เมื่อ Comfort Zone   ผมถูกทำลาย (ภาคต่อ) ... เมื่อผมกำลังจะกลายเป็นเจ้าของกิจการ

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวพันทิปทุกคนครับ ถ้านับเวลาหลังจากที่เคยมาเขียนกระทู้ เมื่อ "Comfort Zone" ของผมกำลังถูกทำลาย และการท้าทายชะตาชีวิตได้เริ่มต้น!!! (http://pantip.com/topic/34125602) ก็เป็นเวลา  1 ปีเศษนิดหน่อย วันนี้ผมจะมาอัพเดทเหตุการณ์ใน 1 ปีที่ผ่านมา ว่าเกิดอะไรขึ้นไปบ้าง หลังจากผมตกงานนนน T_T

หลังจากถูกเลิกจ้างไปเมื่อปีก่อนเนื่องจากบริษัทได้ปิดตัวลง และตั้งมั่นว่าจะไม่หางานแล้ว ตั้งใจจะทำขนมออกมาขายให้ติดตลาดให้ได้ ซึ่งดูเหมือนมันจะง่ายเนาะ ฮ่า ๆ แต่ความจริงแล้ว มันไม่ง่ายเลย เพราะยอดขายขนมนั้นก็ไม่ได้ฮือฮา หวือหวาอะไรเท่าไหร่ มีมาบ้างหายไปเป็นช่วงๆ บ้าง เรียกได้ว่าขายได้เรื่อย ๆ มากกว่า ส่วนการเงินนั้นก็ไม่พอใช้บ้าง เงินที่มีก็ร่อยหรอไปเรื่อย ๆ จนในที่สุด ผมตัดสินใจทำแฮร์คัทบัตรเครดิตไป เพราะไม่มีจ่ายจริง ๆ T_T เครดิตที่ดีมาตลอด พังทลายไปเลย

ช่วงแรก ๆ หลังจากที่ออกจากงานมาอยู่บ้าน (เฉย ๆ ) และทำขนมไปด้วย ยอมรับว่าลำบากอยู่ประมาณนึงเลย เนื่องจากตอนนั้นยังไม่ได้ต่อเติมครัวหลังบ้าน หลังคาก็ยังไม่มี เป็นช่วงหน้าฝนพอดี ฝนตกที ก็หาอะไรมาคลุมเตาอบวุ่นวายไปหมด บางอันโดนฝนหน่อยเดียวก็ต้องเททิ้ง เพราะกลัวขนมจะชื้น จนในที่สุดตัดสินใจเอาเงินก้อนที่ได้จากการถูกเลิกจากที่จะเก็บไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน เอามาทำครัวหลังบ้านเพื่อทำขนม

ชีวิตในแต่ละวัน ผมก็ยังทำขนมซีเรียลเคลือบอบกรอบ (หรือที่เรียกติดปากกันว่าขนมคอนเฟลกส์) พัฒนาไปเรื่อย ๆ โดยพยายามให้แตกต่างจากเจ้าอื่น ๆ เพราะในท้องตลาด ขนมชนิดนี้มีขายมากมายเหลือเกิน ในเมื่อเรามาทีหลัง เราก็ต้องทำให้แตกต่างมากที่สุด ผมจึงได้พยายามพัฒนาสูตร รวมไปถึงบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ให้ออกมาโดดเด่น ดูเตะตะและน่าซื้อ จากที่เริ่มแรก เป็นกระปุกฝาโดมทั่วไปธรรมดา ก็พัฒนามาเป็นกระปุกขนมขาไก่ (เห็นเขาเรียกกันแบบนี้) จนปัจจุบันพัฒนาเป็นกระปุกที่มีฝาดึงปิดมิดชิด สองชั้น พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อขนมเป็น “Be Flakes” หรือ บีเฟลกส์

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ระหว่างนั้นมีงานไหนที่พอมีรายได้มาใช้ ก็ทำ เพื่อนหาคนช่วยออกบูทร้านกาแฟ ก็ไป, รับกรอกข้อมูลในเว็บไซต์, มีตลาดไหนที่ราคาไม่แพงมาก ก็ลองเอาไปวางขาย ก็ไป แต่ปรากฏว่า นั่งตบยุงกันซะส่วนใหญ่ ฮ่าๆ เพราะตลาดที่ราคาถูก ก็มักเป็นตลาดเปิดใหม่ คนเดินไม่เยอะ

ด้วยความตั้งใจทำขนม ใช้ส่วนผสมอย่างดีทั้งหมด เพราะเราคิดว่าถ้าเราทำออกมาดี มันต้องดี และมีคนชอบแน่ๆ จนไม่นานมานี้มีน้องซื้อไปลองทานแล้วชอบ เลยบอกว่าจะลองรับไปขายดู ปรากฏว่าขายดีมาก ผมเลยลองโพสรับสมัครตัวแทนจำหน่ายแบบจริงจังดู ก็มีเพื่อนมาสมัครและขอรับไปขาย ปรากฏว่า ขายดีมากเช่นกัน จากตอนแรกขายปลีกแบบไม่กี่กระปุก เพิ่มเป็น 1 ลัง จนตอนนี้แต่ละคนเข้ามาสั่งทีนึงคนละ 2-5 ลัง มากสุดสำหรับ 1 คนคือ 30 ลัง (ตัวแทนตอนนี้ประมาณ 10  คน)

เมื่อออเดอร์เพิ่มขึ้น การที่ทำในครัวหลังบ้านเล็ก ๆ นั้นก็ไม่เพียงพอเสียแล้ว กำลังการผลิตเพียงแค่ 1-2 คนก็ไม่ไหวแล้ว เพราะออเดอร์เข้าแต่ละทีนั้น ต้องใช้เวลานาน นอนเกือบเช้า ทำออเดอร์ช้า ทำให้ลูกค้ารอนาน

สุดท้ายผมเลยตัดสินใจรวบรวมเงินขายขนมที่มีไปเช่าโรงงานเล็ก ๆ แถวบ้านเพื่อเพิ่มการผลิตให้เพียงพอต่อออเดอร์ที่เข้ามา จ้างพนักงานมาช่วยในการทำขนม 2 คน และกำลังดำเนินการจัดตั้งเป็นบริษัท และขอ อย ให้กับผลิตภัณฑ์

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

มันเป็นความตื่นเต้น ตื้นตัน ดีใจอย่างบอกไม่ถูก กับสิ่งที่เราพยายามทำมากว่า 2 ปี (เริ่มทำประมาณ พฤศจิกายน 2557) มันกำลังจะโตขึ้น ๆ ผมไม่รู้หรอกว่าอนาคตมันจะไปได้ดีขนาดไหน แต่ผมเชื่อมั่นในตัวเองว่า ในเมื่อเราก้าวออกมาแล้ว เราก็ต้องทำให้ได้ เราเคยเกือบล้มมาแล้ว ยังลุกขึ้นมาได้ ทำไมเราจะเดินต่อไปไม่ได้ล่ะ


ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่