จะว่าไปแล้วเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้พบ ได้เห็นหิ่งห้อยเท่าไหร่แล้ว
การศึกษาจาก Firefly Watch โครงการวิทยาศาสตร์พลเมือง ที่รวบรวมข้อมูลการสำรวจ 24,000 ครั้งในอเมริกาเหนือ พบว่าประชากรหิ่งห้อยในอเมริกาเหนือกำลังลดลง ซึ่งมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยลดลง และแสงประดิษฐ์ที่มากเกินไป
แหล่งที่อยู่อาศัยของหิ่งห้อยมีความเปราะบางอย่างมาก หากสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปแม้เพียงเล็กน้อย เช่น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และระดับน้ำใต้ดินที่ลดลง หิ่งห้อยเหล่านี้ก็จะไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ยิ่งในปัจจุบันที่ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกลายเป็นปัญหาใหญ่ ก็ยิ่งทำให้หิ่งห้อยมีที่อยู่อาศัยลดน้อยลง
การทำลายพื้นที่ป่าเพื่อขยายเมือง เป็นอีกหนึ่งปัญหาหลักที่สร้างผลกระทบหลากหลายประการให้แก่หิ่งห้อย ไม่เพียงแต่จะทำลายที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่การขยายตัวของเมืองยังทำให้สารกำจัดศัตรูพืชปนเปื้อนเข้าสู่สิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำลายความหลากหลายทางชีวภาพของหิ่งห้อย เพราะหิ่งห้อยจะไม่สามารถเจริญเติบโตได้หากไม่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
หิ่งห้อยเบธานีบีช พบในบริเวณชายฝั่งเดลาแวร์ แมริแลนด์ และเวอร์จิเนีย แต่เมื่อมีการพัฒนาบ้านริมชายหาดและโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ หิ่งห้อยเหล่านี้ก็เริ่มไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งหากเมืองพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ หิ่งห้อยชนิดนี้ก็อาจสูญพันธุ์ไปในที่สุด
ขณะเดียวกัน การขยายตัวของเมืองยังทำให้มี “แสงประดิษฐ์” เพิ่มขึ้นด้วย โดยแสงไฟจากบ้านเรือน แสงจ้าจากจอ LED ไฟ ตลอดจนไฟถนนล้วนขัดขวางการเปล่งแสงแมลงเหล่านี้ ซึ่งอาจส่งผลให้การสืบพันธุ์ลดลง
มีหิ่งห้อยหลายสายพันธุ์ที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในปัจจุบันได้ พวกมันกำลังถูกแทนที่ด้วยหิ่งห้อยสายพันธุ์ตะวันออก ที่อาศัยอยู่ได้ทั่วไปและสามารถทนต่อแหล่งที่อยู่อาศัยประเภทต่าง ๆ ได้มากกว่า และเมื่อจำนวนสายพันธุ์ของหิ่งห้อยลดน้อยลง นั่นก็เท่ากับว่าความหลากหลายทางชีวภาพกำลังลดน้อยลง
อ่านต่อ:
https://www.bangkokbiznews.com/environment/1185454?anm=
เราเป็นคนรุ่นสุดท้ายที่จะได้เห็น “หิ่งห้อย” ? หลังแมลงเรืองแสงชนิดนี้กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว
การศึกษาจาก Firefly Watch โครงการวิทยาศาสตร์พลเมือง ที่รวบรวมข้อมูลการสำรวจ 24,000 ครั้งในอเมริกาเหนือ พบว่าประชากรหิ่งห้อยในอเมริกาเหนือกำลังลดลง ซึ่งมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยลดลง และแสงประดิษฐ์ที่มากเกินไป
แหล่งที่อยู่อาศัยของหิ่งห้อยมีความเปราะบางอย่างมาก หากสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปแม้เพียงเล็กน้อย เช่น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และระดับน้ำใต้ดินที่ลดลง หิ่งห้อยเหล่านี้ก็จะไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ยิ่งในปัจจุบันที่ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกลายเป็นปัญหาใหญ่ ก็ยิ่งทำให้หิ่งห้อยมีที่อยู่อาศัยลดน้อยลง
การทำลายพื้นที่ป่าเพื่อขยายเมือง เป็นอีกหนึ่งปัญหาหลักที่สร้างผลกระทบหลากหลายประการให้แก่หิ่งห้อย ไม่เพียงแต่จะทำลายที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่การขยายตัวของเมืองยังทำให้สารกำจัดศัตรูพืชปนเปื้อนเข้าสู่สิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำลายความหลากหลายทางชีวภาพของหิ่งห้อย เพราะหิ่งห้อยจะไม่สามารถเจริญเติบโตได้หากไม่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
หิ่งห้อยเบธานีบีช พบในบริเวณชายฝั่งเดลาแวร์ แมริแลนด์ และเวอร์จิเนีย แต่เมื่อมีการพัฒนาบ้านริมชายหาดและโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ หิ่งห้อยเหล่านี้ก็เริ่มไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งหากเมืองพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ หิ่งห้อยชนิดนี้ก็อาจสูญพันธุ์ไปในที่สุด
ขณะเดียวกัน การขยายตัวของเมืองยังทำให้มี “แสงประดิษฐ์” เพิ่มขึ้นด้วย โดยแสงไฟจากบ้านเรือน แสงจ้าจากจอ LED ไฟ ตลอดจนไฟถนนล้วนขัดขวางการเปล่งแสงแมลงเหล่านี้ ซึ่งอาจส่งผลให้การสืบพันธุ์ลดลง
มีหิ่งห้อยหลายสายพันธุ์ที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในปัจจุบันได้ พวกมันกำลังถูกแทนที่ด้วยหิ่งห้อยสายพันธุ์ตะวันออก ที่อาศัยอยู่ได้ทั่วไปและสามารถทนต่อแหล่งที่อยู่อาศัยประเภทต่าง ๆ ได้มากกว่า และเมื่อจำนวนสายพันธุ์ของหิ่งห้อยลดน้อยลง นั่นก็เท่ากับว่าความหลากหลายทางชีวภาพกำลังลดน้อยลง
อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/environment/1185454?anm=