สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องราวของผมจะเล่าให้ฟัง จากชายวัยกลางคนที่อ้วนมาตลอดทั้งชีวิต ตั้งแต่จำความได้แต่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะรูปเพียงรูปเดี่ยวที่ขึ้นมาบนฟีด Facebook ทำให้ผมย้อนคิดเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของตัวเองที่ย่ำแย่ จนเริ่มมีความคิดที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่อยากให้เหตุการณ์ที่เลวล้ายแบบในอตีดที่ผมเจอวนนกลับไปเริ่มใหม่อีกครั้ง กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่น่าเป็นกระทู้ที่เป็นเรื่องเป็นราวของผมนะครับ ถ้ามีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยด้วยครับ
อันนี้รูปของผมเมือประมาณ 1-2 เดือนที่แล้วนะครับ

สวัสดีครับ ตอนนี้ผมอายุ 33 ปีแล้วครับ แต่เชื่อไหมก่อนหน้านี้ 1 ปี ผมเป็นคน คนหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องอ้วนมาก แต่ผมก็หลอกลวงตัวเอง มาตลอดว่าโรคอ้วนนะมันไม่เป็นไรหรอก เพราะตอนนี้ก็แข้งแรงสมบูรณ์ดี กินอิ่มนอนหลับได้ดี จะไปกลัวอะไรกับคำว่า “อ้วน” ในตอนนั้น ผมสูง 168 เซ็นติเมตรครับ ส่วนน้ำหนักของผมนะเหรอ 118 กิโลกลัมครับ พูดตรง ๆ ตุ๋มมังกรดี ๆ นี้เองครับ ผมทำอาชีพคือ รับซ่อมคอมพิวเตอร์และซื้อขายพวกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งมือ 1 และมือ 2 ครับ เปิดเป็นธุรกิจของตัวเองครับ ชีวิตประจำวันผมเลยค่อนค้างจะเหลวเหลกอยุ่พอประมาณครับ ผมยอมรับเลยว่าผมเป็นคนขี้เกียดครับ เป็นพวก นอนดึก ตื่นสาย ติดสบาย เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีภาระอะไรมาก เฮฮาไปวัน ๆ ไม่คิดถึงอนาคต ไม่คิดถึงอดีต ไม่ใส่ใจตัวเอง อยากกิน ก็กินโดยเอาแค่คำว่า “อร่อย” เป็นพอ อยากเที่ยว ก็เที่ยว พลัดงานออกไป มั้งเพื่อทำตามใจตัวเอง อยากนอน ก็นอน สรุปคือเป็นการใช้ชีวิตที่สุดเอาแต่ใจ และสุดขี้เกียด
เอาละครับ เข้าเรื่องนะครับ ในขณะที่ผมใช้ชีวิตรไร้สาระของ ผมนั้นละ ผมก็ได้เข้า Facebook ครับ และผมก็ไปเจอฟีดวันนี้ในอดีติอันหนึ่งเด้งขึ้นมา ฟีดนั้นเป็นฟีดที่ผมเช็คอินที่บ้านที่บ้านนอกผมเอง เมือ 4 ปีก่อน
ในตอนนั้นชีวิตผมเจอปัญหาครับ คือพ่อผมป่วยหนักมาก ท่านเป็นโรคเบาหวานขั้นรุ่นแรง และมีโรคอื่น ๆ เป็น option ชุดใหญ่ ทั้ง ไต หัวใจ ปอด ความดัน และสมองครับ พูดได้ว่าไปเกือบทุกแผนกของโรงพยาบาลเลยก็ว่าได้ จนโรงพยาบาลท้องถิ่นทำต้องทำเรื่องส่งมาที่โรงพยาบาล จังหวัด เพราะอาการหนักมาก แต่จากบ้านผมมาโรงบาลจังหวัดนี้ห่างกันประมาณ 100 กิโลเมตรครับ อีกทั้งที่บ้านผม ก็มีแต่แม่และพ่อที่อยุ่ด้วยกันครับ จนมาวันแม่ผมโทรมาครับ บอกให้มาหาพ่อที่โรงพยาบาลครับ เพราะท่านวูบเพราะความดันสูง แต่ด้วยว่าผมเปิดร้านอยู่ในเมืองนะครับ ตอนนั้นผมก็เที่ยวไปเที่ยวมา จนท่านเสียครับ จากนั้นผมก้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ให้อ้วนครับ
พอผมเห็นฟีดบน Facebook เท่านั้นละครับ น้ำตามันไหลออกมาแบบอัตโนมัติ ว่าเห้ยเราจะทำให้คนรอบข้างเรามาเดือนร้อนเพราะเราไม่ดูแลตัวเองเหรอ เพราะตอนที่เราไม่สบาย ไม่ใช้มีแต่เราหรอกครับที่ลำบาก คนรอบข้างก็ลำบากไปกับเราด้วย เงินทีหามาทั้งชีวิต ก็จะเอาไปให้หมอหมดครับ ดีไม่ดีเป้นหนี้เพิ่มอีกต่างหากครับ นั้นะครับเลยเริ่มเป็นจุดที่คนคิดว่า ควรจริงจังเรื่องลดน้ำหนักแล้วมั้ง
ผมก็เลยหาที่ปรึกษาครับ และแล้วผมก็ได้ที่ปรึกษามหาชลครับ นั้นคือ Google นั้นเอง พอพิมพ์คำว่า “ลดน้ำหนัก” เท่านั้นละ แม่เจ้า มันเยอะมากจนไม่รู้จะอ่านอันไหนดี เพราะเท่าที่ผมดู เหมือนจะมีทั้งเชื่อได้และเชื่อไม่ได้ แต่ก่อนหน้านั้นประมาณ 2-3 ปี ก่อนผมเคยลองเล่นฟิสเนสละครับ แต่เล่นได้ 2-3 เดือนก็เลิกเพราะท้อ น้ำหนักไม่ลด ผมเลยถอยมาตั้งสติก่อน พร้อมทั้งตั้งคำถามกับตัวเองว่า
“เห้ย เราอ้วนได้ไง?”
เมื่อคนที่มีน้ำหนัก เกิน 115 กิโล มีความคิดจะลดน้ำหนัก โดยไม่มีความรู้
อันนี้รูปของผมเมือประมาณ 1-2 เดือนที่แล้วนะครับ
สวัสดีครับ ตอนนี้ผมอายุ 33 ปีแล้วครับ แต่เชื่อไหมก่อนหน้านี้ 1 ปี ผมเป็นคน คนหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องอ้วนมาก แต่ผมก็หลอกลวงตัวเอง มาตลอดว่าโรคอ้วนนะมันไม่เป็นไรหรอก เพราะตอนนี้ก็แข้งแรงสมบูรณ์ดี กินอิ่มนอนหลับได้ดี จะไปกลัวอะไรกับคำว่า “อ้วน” ในตอนนั้น ผมสูง 168 เซ็นติเมตรครับ ส่วนน้ำหนักของผมนะเหรอ 118 กิโลกลัมครับ พูดตรง ๆ ตุ๋มมังกรดี ๆ นี้เองครับ ผมทำอาชีพคือ รับซ่อมคอมพิวเตอร์และซื้อขายพวกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งมือ 1 และมือ 2 ครับ เปิดเป็นธุรกิจของตัวเองครับ ชีวิตประจำวันผมเลยค่อนค้างจะเหลวเหลกอยุ่พอประมาณครับ ผมยอมรับเลยว่าผมเป็นคนขี้เกียดครับ เป็นพวก นอนดึก ตื่นสาย ติดสบาย เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีภาระอะไรมาก เฮฮาไปวัน ๆ ไม่คิดถึงอนาคต ไม่คิดถึงอดีต ไม่ใส่ใจตัวเอง อยากกิน ก็กินโดยเอาแค่คำว่า “อร่อย” เป็นพอ อยากเที่ยว ก็เที่ยว พลัดงานออกไป มั้งเพื่อทำตามใจตัวเอง อยากนอน ก็นอน สรุปคือเป็นการใช้ชีวิตที่สุดเอาแต่ใจ และสุดขี้เกียด
เอาละครับ เข้าเรื่องนะครับ ในขณะที่ผมใช้ชีวิตรไร้สาระของ ผมนั้นละ ผมก็ได้เข้า Facebook ครับ และผมก็ไปเจอฟีดวันนี้ในอดีติอันหนึ่งเด้งขึ้นมา ฟีดนั้นเป็นฟีดที่ผมเช็คอินที่บ้านที่บ้านนอกผมเอง เมือ 4 ปีก่อน
ในตอนนั้นชีวิตผมเจอปัญหาครับ คือพ่อผมป่วยหนักมาก ท่านเป็นโรคเบาหวานขั้นรุ่นแรง และมีโรคอื่น ๆ เป็น option ชุดใหญ่ ทั้ง ไต หัวใจ ปอด ความดัน และสมองครับ พูดได้ว่าไปเกือบทุกแผนกของโรงพยาบาลเลยก็ว่าได้ จนโรงพยาบาลท้องถิ่นทำต้องทำเรื่องส่งมาที่โรงพยาบาล จังหวัด เพราะอาการหนักมาก แต่จากบ้านผมมาโรงบาลจังหวัดนี้ห่างกันประมาณ 100 กิโลเมตรครับ อีกทั้งที่บ้านผม ก็มีแต่แม่และพ่อที่อยุ่ด้วยกันครับ จนมาวันแม่ผมโทรมาครับ บอกให้มาหาพ่อที่โรงพยาบาลครับ เพราะท่านวูบเพราะความดันสูง แต่ด้วยว่าผมเปิดร้านอยู่ในเมืองนะครับ ตอนนั้นผมก็เที่ยวไปเที่ยวมา จนท่านเสียครับ จากนั้นผมก้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ให้อ้วนครับ
พอผมเห็นฟีดบน Facebook เท่านั้นละครับ น้ำตามันไหลออกมาแบบอัตโนมัติ ว่าเห้ยเราจะทำให้คนรอบข้างเรามาเดือนร้อนเพราะเราไม่ดูแลตัวเองเหรอ เพราะตอนที่เราไม่สบาย ไม่ใช้มีแต่เราหรอกครับที่ลำบาก คนรอบข้างก็ลำบากไปกับเราด้วย เงินทีหามาทั้งชีวิต ก็จะเอาไปให้หมอหมดครับ ดีไม่ดีเป้นหนี้เพิ่มอีกต่างหากครับ นั้นะครับเลยเริ่มเป็นจุดที่คนคิดว่า ควรจริงจังเรื่องลดน้ำหนักแล้วมั้ง
ผมก็เลยหาที่ปรึกษาครับ และแล้วผมก็ได้ที่ปรึกษามหาชลครับ นั้นคือ Google นั้นเอง พอพิมพ์คำว่า “ลดน้ำหนัก” เท่านั้นละ แม่เจ้า มันเยอะมากจนไม่รู้จะอ่านอันไหนดี เพราะเท่าที่ผมดู เหมือนจะมีทั้งเชื่อได้และเชื่อไม่ได้ แต่ก่อนหน้านั้นประมาณ 2-3 ปี ก่อนผมเคยลองเล่นฟิสเนสละครับ แต่เล่นได้ 2-3 เดือนก็เลิกเพราะท้อ น้ำหนักไม่ลด ผมเลยถอยมาตั้งสติก่อน พร้อมทั้งตั้งคำถามกับตัวเองว่า
“เห้ย เราอ้วนได้ไง?”