คนไข้เคยสงสัยไหมว่า…ทำไมบางคนมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง
แต่บางคนแค่อ่อนเพลียก็อาจเป็นสัญญาณของโรคหัวใจได้

วันนี้พี่หมอฝั่งธน..จะมาให้ความรู้
ใครมีความเสี่ยง “โรคหัวใจ” มากกว่ากัน? เช็กปัจจัยเสี่ยงก่อนสายเกินไป 
บทความนี้จะช่วยให้คนไข้เข้าใจว่าเพศและพฤติกรรมในชีวิตประจำวันมีผลต่อความเสี่ยงของโรคหัวใจอย่างไร
พร้อมเช็กลิสต์ง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณประเมินความเสี่ยงได้ด้วยตัวเอง
ผู้ชาย vs ผู้หญิง: ใครเสี่ยงกว่ากัน 
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ชายมีความเสี่ยงโรคหัวใจสูงกว่าผู้หญิง
และมักจะแสดงอาการของโรคในขณะที่อายุยังน้อยกว่า โดยเฉพาะในช่วงอายุ 45–55 ปี
ซึ่งอาการมักจะรุนแรงและสังเกตได้ง่าย เช่น เจ็บแน่นหน้าอกร้าวไปแขน
ส่วน ผู้หญิงจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหลังวัยหมดประจำเดือน เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง
ซึ่งฮอร์โมนนี้เคยช่วยปกป้องหลอดเลือดหัวใจ อาการของโรคหัวใจในผู้หญิงมักจะไม่ชัดเจนและไม่รุนแรงเท่าผู้ชาย
จึงทำให้ผู้หญิงหลายคนละเลยสัญญาณเตือนเหล่านี้ไป
เช็กลิสต์ ปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจที่คุณควบคุมได้
นอกจากเรื่องของเพศและอายุแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ
ซึ่งคุณสามารถลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน:
-เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง:
โรคประจำตัวเหล่านี้เป็นต้นเหตุสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด
น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์หรืออ้วน:
ภาวะอ้วนทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ
-การสูบบุหรี่:
สารเคมีในบุหรี่ทำลายหลอดเลือดและทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น
-การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป:
การดื่มในปริมาณที่มากและบ่อยครั้งทำร้ายกล้ามเนื้อหัวใจ
-การไม่ออกกำลังกาย:
การขาดการออกกำลังกายทำให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่นและหัวใจทำงานได้ไม่เต็มที่
-ความเครียดสะสม:
ความเครียดเป็นตัวการที่ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติและเพิ่มความดันโลหิต
-อาหาร: การทานอาหารที่มีไขมันสูง, รสจัด, หรือหวานมากเกินไป ล้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจในระยะยาว
เช็กตัวเองง่าย ๆ… คุณมีความเสี่ยงอยู่หรือไม่ 
คุณสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำหรือไม่?
คุณมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูงหรือไม่?
คุณออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน และ 3-5 วันต่อสัปดาห์หรือไม่?
คุณทานอาหารที่มีผักและผลไม้เป็นประจำหรือไม่?
คุณมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก, หายใจลำบาก, หรืออ่อนเพลียผิดปกติหรือไม่?
ป้องกันไว้ ดีกว่ารักษา
การดูแลสุขภาพหัวใจตั้งแต่วันนี้คือการลงทุนที่ดีที่สุดในอนาคต
หากคุณหรือคนใกล้ชิดเริ่มมีอาการที่น่าสงสัย หรือมีปัจจัยเสี่ยงตามเช็กลิสต์ข้างต้น ไม่ควรละเลยเด็ดขาด
การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันทีคือแนวทางที่ดีที่สุดในการป้องกันและรักษาโรคหัวใจอย่างมีประสิทธิภาพ
ศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลธนบุรี พร้อมดูแลคุณด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย
เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาได้อย่างแม่นยำ
ความรู้เพิ่มเติม
https://www.thonburihospital.com/coronary-heart-disease-check/
https://www.thonburihospital.com/who-is-at-higher-risk-of-heart-disease/
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลธนบุรีโทรศัพท์: 1645 กด 1 ต่อ 2150, 2155, 2158
ใครมีความเสี่ยง “โรคหัวใจ” มากกว่ากัน? เช็กปัจจัยเสี่ยงก่อนสายเกินไป