ผมเป็นโรคไตเรื้อรังตั้งแต่อายุ 21 อยากจะระบายให้ฟังครับ

สวัสดีครับ ผมเป็นผู้ป่วยโรคไตนะครับ เป็นโรคไตมาได้ 3 ปีแล้ว ปัจจุบันกำลังรอการเปลี่ยนไตกับญาติอยู่ ซึ่ง ณ ปัจจุบันหมอยังไม่ได้คอนเฟิร์มวันให้ แต่คุยกับพยาบาลแล้วบอกว่าจะได้ผ่าในช่วงเดือนตุลาคมค่อนข้างแน่ครับ ผมอยากเล่าตั้งแต่ต้นเลยแล้วกันครับ

เนื่องจากว่าหมอไม่ได้วินิจฉัยโดยตรงว่าโรคไตของผมเกิดจากอะไร เลยต้องเดา ๆ เอาครับ แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะเกิดจากการกินอาหารเพราะผมยังอายุไม่เยอะเลย และผมไม่ได้เป็นคนติดเค็มขนาดนั้นครับ ผมกินอาหารไม่ปรุงเพิ่มเลย ในช่วงมัธยมผมมีปัญหาเรื่องสิวครับ สิวขึ้นตั้งแต่ม.1เลย และเพื่อนจะชอบล้อกันครับ ผมพยายามหาวิธีรักษาสิวมาตลอด แต่เนื่องด้วยที่บ้านผมไม่ค่อยมีเงิน ก็เลยไม่สนับสนุนให้ผมไปโรงพยาบาลหรือคลีนิคเพื่อรักษาสิว ผมก็เลยต้องหาวิธีต่าง ๆ นา ช่วงแรก ๆ ก็เป็นการหาผลิตภัณฑ์มาทาครับ พอมาช่วงม.ปลายผมเริ่มมีเงินเก็บเยอะขึ้น มีเพื่อนแนะนำคลีนิครักษาสิวมาก็ไปที่นั่นก่อน ผมจำไม่ได้แล้วว่ามีให้กินยาหรือไม่ แต่รักษาที่นี่ประมาณเกือบครึ่งปีแต่ไม่หาย เลยตัดสินใจไปรักษากับรพรัฐชื่อดังริมแม่น้ำฝั่งธนครับ(ไม่รู้เอ่ยชื่อถึงได้มั้ย ไปคิดกันเองนะครับว่าโรงพยาบาลไหน) ที่นี่ตอนแรกให้รักษาโดยการกินยาครับ จำไม่ได้แล้วว่ายาที่ใช้เป็นยาตัวไหน ก่อนจะให้เลือกว่าจะรักษาโดยการแต้มกรดหรือยิงเลเซอร์ ด้วยความที่แต้มกรดราคาถูกกว่าค่อนข้างเยอะ(หลักร้อยกับหลักพัน) ผมเลยเลือกแบบนั้นไปครับ หลังจากนั้นพอมาปี 1 ผมก็เริ่มไม่ได้ไปรักษาแล้วครับ เนื่องจากสิวเริ่มลดลงจนสังเกตเห็นได้แล้ว

ปกติแล้วผมเป็นคนที่แทบจะไม่ไปโรงพยาบาลเลยครับ คิดว่าตัวเองเป็นคนสุขภาพแข็งแรงมาตลอด ตอนโควิดก็ไม่เคยติดเลย ผมไม่เคยได้ไปตรวจสุขภาพเลยตอนที่ยังเรียนอยู่ เพราะที่บ้านไม่มีเงินครับ ถ้าโรงเรียนไม่มีตรวจสุขภาพก็จะไม่ได้ไปตรวจเอง ที่ตรวจกับโรงเรียนก็ไม่ค่อยจะละเอียดซักเท่าไหร่ ก็เลยไม่รู้ว่าเริ่มมีปัญหาตอนไหน

ตอนที่เข้ามหาลัยมีให้ตรวจสุขภาพก่อนเข้า พบว่าในปัสสาวะผมมีเม็ดเลือดปนมาด้วย คุณหมอที่โรงพยาบาลที่ไปตรวจบอกว่าให้ลองไปตรวจต่อดู ผมลองไปถามกับที่บ้าน ที่บ้านบอกว่าไม่ต้องไปหรอก แพง ผมไม่รู้ว่าผมเริ่มเป็นตั้งแต่ตอนนั้นหรือเปล่า แต่ตอนนี้ยังไม่มีอาการอะไรครับ

หลังจากนั้นจนถึงช่วงปี 3 ผมมีอาการเท้าบวมจนเดินไม่ได้ไปวันนึงครับ ไปหาหมอ หมอให้รอดูอาการอีก 1 ปี ถ้าไม่มีอาการก็จะไม่มีปัญหาอะไรครับ ปรากฏว่าอีกประมาณ 3-4 เดือนต่อมา ผมก็มีอาการเดิมซ้ำอีกครั้ง หมอเลยวินิจฉัยว่าเป็นโรคเก๊าท์แล้วให้ยามาครับ ต่อมาในช่วงที่ผมกำลังฝึกงานอยู่ก็ครบกำหนดหมอเรียกไปตรวจซ้ำ ครั้งนี้หมอตรวจค่าไตด้วยก็พบว่าค่าไตของผมไม่ดีเลย เลยส่งให้หมอไตดูต่อครับ

หมอวินิจฉัยว่าผมเป็นโรค Chronic Kidney Disease ในวัย 21 ปี และอยู่ใน stage 3 ที่กำลังจะไป stage 4 แล้ว

ผมช็อคไปเลยครับ ช่วงแรก ๆ ผมไม่เชื่อหมอและผลแลปเลย แปลผลผิดหรือเปล่า เจาะเลือดมาแล้วสลับกับคนอื่นหรือเปล่า เพราะทำไมเด็กอายุเท่านี้ถึงเป็นโรคเรื้อรังแบบนี้ได้ ซึ่งถึงจะไม่เชื่อแต่ผมก็พยายามปรับตัวตามที่หมอสั่งทุกอย่างครับ ชีวิตกลับตารปัดไปเลย

เมื่อตอนเด็ก ๆ ที่บ้านผมจนครับ การได้ไปกินของนอกบ้านปีนึงนี่แทบจะนับครั้งได้ พิซซ่านี่ไม่เกิน 1-2 ครั้งต่อปี และเวลาไปโรงพยาบาลก็ไปแต่โรงพยาบาลรัฐครับ ผมคิดมาตลอดว่าถ้าได้ทำงานมีเงินเดือนเป็นของตัวเองแล้ว ผมจะเอาไปเงินไปทำประกันสุขภาพให้ตัวเอง จะได้ไม่ต้องไปโรงพยาบาลรัฐ อยากเข้าโรงพยาบาลเอกชนกับเค้าบ้าง แล้วก็อยากกินอาหารที่ตัวเองอยากกิน ช่วงโมโม่เข้ามาไทยใหม่ ๆ ผมอยากลองกินมาก แต่ด้วยความที่ราคามันสูงมาก ๆ สำหรับผมที่ยังหาเงินเองไม่ได้ บอกตรง ๆ ผมไม่กล้าเอาเงินไปใช้ส่วนนี้ ผมสัญญากับตัวเองไว้ว่า พอได้เงินเดือน เดือนแรกแล้วจะเอาไปกินโมโม่ครับ ปัจจุบัน ผมทำงานมาแล้วสองปีกว่า ๆ ยังไม่ได้กินเลยครับ

ผมยังไม่เคยได้ใช้ชีวิตวัยทำงานแบบคนทั่วไปเลยครับ ทุกวันนี้ผมต้องกินข้าวที่ทำเองเกือบทุกมื้อ การไปกินข้าวข้างนอกก็คือต้องจำกัดมาก ๆ กินนู่นก็ไม่ได้ กินนี่ก็ไม่ได้ แอลกอฮอล์นี่ผมไม่ได้แตะมา 3 ปีแล้ว ทุกครั้งที่เพื่อนกินเลี้ยงกันผมต้องปฎิเสธทุกครั้ง เพราะผมไปก็คงไม่ได้กินอะไรเลย

ปัจจุบันผมฟอกไตมาประมาณปีนึงแล้ว เป็นการฟอกผ่านเส้น AVF บนแขนครับ เนื่องจากที่บ้านผมอยู่ค่อนข้างใกล้กับศูนย์ฟอกไต(ขับรถไปประมาณ 10 นาที) เลยตัดสินใจเลือกเป็นการฟอกผ่านเส้น AVF ไปครับ คิดว่าถ้าเปลี่ยนไตแล้วกลับมาเป็นอีกรอบคงไม่กลับมาฟอกแบบนี้แล้วครับ ถ้าเลือกได้คงไปฟอกผ่านช่องท้องแบบฟอกตอนกลางคืนแทน

ในเรื่องร้าย ๆ ก็ยังมีเรื่องที่ดีบ้างคือไตของพ่อผม compatible กับผมครับ พ่อผมเลยตัดสินใจบริจาคไตให้กับผม ปัจจุบันก็ดำเนินการมาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ก็คือการรอผ่าตัดครับ ผมผ่าที่ศิริราชครับ ในการผ่าตัดเปลี่ยนไตในญาติ จะต้องมีการตรวจเลือดที่ละเอียดมาก ๆ ต้องเอาให้แน่ใจจริง ๆ ว่าสามารถเข้ากันได้ ก่อนจะนำผลทั้งหมดไปประชุมกัน เมื่อผ่านแล้วก็จะนัดวันผ่าตัดครับ ซึ่งปัจจุบันล่าสุดที่มีอัพเดทคือ มีการประชุมกันแล้ว และหมอให้ผ่าได้แล้วครับ เหลือที่รอหมอคอนเฟิร์มวันให้ ซึ่งตอนนี้ยิ่งทรมานหนักเลยครับ

การรอตอนนี้ก็คือรอแบบไม่มีวันกำหนด ซึ่งมันยากมากครับสำหรับผม มันรู้สึกเหมือนเรากำลังรออะไรที่ไม่รู้ว่าจะมาวันไหน ทรมานมากครับ ทุกวันนี้ผมเห็นอะไรก็อยากกินไปหมด แต่เนื่องจากไตผมทำงานน้อยมาก กินอะไรไปนิดหน่อยก็น้ำหนักขึ้นมาแล้ว เพราะไตผมน่าจะกรองของเสียไม่ได้เลย ตอนนี้ผมก็เลยจดเป็นลิสต์ไว้ว่าอยากกินอะไรในวันนั้น ๆ ไว้ เวลาเปลี่ยนไตไปแล้วค่อยไปกินที่ละอย่าง ๆ เอาครับ

ผมไม่รู้ว่าหมอจะคอนเฟิร์มวันให้วันไหน หรือจะต้องเลื่อนไปผ่าเดือนพฤศจิกายน หรือเดือนธันวาคมเลยมั้ย มันทรมานจริง ๆ ครับ อย่างน้อยผมอยากรู้วันมาก ๆ แต่ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องรออย่างเดียวครับ ตอนนี้ผมรู้สึกได้เลยว่าผมไม่มีความสุขในการทำอะไรเลยซักอย่าง เพราะในใจผมคือนึกถึงแต่เรื่องนี้ทั้งวันทั้งคืนครับ ได้แต่คิดว่าเมื่อไหร่เค้าจะโทรมา ๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่