รถเมล์แก้รถติด 2

ร ถ เ ม ล์ แ ก้ ปั ญ ห า ร ถ ติ ด

ประสิทธิ์ รจิตรังสรรค์  โทร  0906925132 ( เ ห็ น ด้ ว ย โ ป ร ด ช่ ว ย แ ช ร์ ๆ ๆ)
    
    เชิญ ศ. หรือ ดร. หรือ นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ ทุกประเทศในโลก (แต่ต้องเป็นภาษาไทยเท่านั้น เพราะผมอ่านได้ภาษาเดียว) หรือ ตำรวจจราจรถึง ผบกจร. หรือ ข้าราชการ ถึงนายก หรือเด็ก หรือ ผู้ใหญ่ คนรวย หรือ จนเรียนมาก หรือ น้อย ก็ได้ เห็นด้วยหรือเห็นต่าง ก็ได้ โปรดช่วยแสดงความเห็น เพื่อมาถกเถียงกัน (ต า ม ห ลั ก วิ ท ย า ศ า ส ต ร์) เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น (ท่านไม่ต้องเกรงใจผม ผมเองก็ไม่เกรงใจใครอยู่แล้ว) แต่ไม่โกรธไม่เกลียดกัน มีแต่ขอบคุณอย่างเดียวครับ
      
       ถ้าท่านดูวีดีโอ และ อ่านข้อความนี้หมด (อย่างมีสมาธิ) จะเห็นแนวทางแก้ปัญหารถติดทันที

       จะ 1 ใน 100 หรือ 1 ใน ล้าน ถ้ามันถูกมันก็ต้องถูก  
       เรื่องบางเรื่อง (ที่ยากๆ) ไม่สามารถ ใช้เสียงส่วนใหญ่ มาตัดสินถูกผิดได้
       เช่น การดูเพชรแท้ เพชรเทียม การดูทองปลอม ทองแท้ และ เรื่อง วิธีแก้รถติดใน วีดีโอ นี้ เป็นต้น
       เพราะเรื่องเหล่านี้ จะต้องใช้ผู้มีความรู้ (เชียวชาญมากๆ) ในเรื่องนั้นๆ มาตัดสินถูกและผิด (ไม่ใช่ใช้เสียงส่วนใหญ่)
       ผมจบแค่ ม. 3 (เชื่อว่ารถเมล์เท่านั้น ที่จะสามารถแก้ปัญหาจราจรได้ในทันที)    
      
                                  
                              ทำ ไ ม ปั ญ ห า ร ถ ติ ด จึ ง ยั ง แ ก้ ไม่ ได้ ? ? ?
      
       คำตอบ คือ เพราะรัฐไม่เห็นคุณค่ารถเมล์
      รัฐ ดีแต่พูดอ้อนวอน (โปรดมาช่วยกันใช้รถเมล์กันเถิดๆๆๆๆ) มันจึงเปล่าประโยชน์
       เพราะไม่มีผู้ใช้รถเก๋งเปลี่ยนไปใช้รถเมล์เลย
      
       ดังนั้น รัฐต้องปรับปรุงรถเมล์ให้ดีๆ ก่อน แล้วค่อยมาชวน
      
       แล้วรถเมล์ ไม่ดีอย่างไรหล่ะ ? ? ?
       ตอบ  คือ
       1. ความเร็ว เพราะรถเมล์ในปัจจุบัน วิ่งช้ากว่ารถเก๋งมากๆ (ข้อ 1. นี้ ไม่แก้ไม่ได้เด็ดขาด) ใช้เงินเพียงประมาณ 100 ล้านบาท ถ้ารถเมล์วิ่งเร็วมากๆ จะมีผู้ใช้รถเก๋งเปลี่ยนมาใช้

       2. ข้อเสียอื่นๆของรถเมล์ เช่น ไม่เป็นส่วนตัว ลำบากยากเย็น ชอบซิ่ง แซง เบียด พูดจาไม่ดี ....ฯลฯ เป็นต้น ถ้าแก้เรื่องเหล่านี้ ไปด้วยก็จะดีมากขึ้น ใช้เงินประมาณ หมื่นล้านบาทแต่ถ้าไม่มีเงินจริงๆ ข้อ 2. นี้ ไม่แก้ก็ได้
      
      
       รถไฟฟ้า ของเราดี มีมาตรฐานเทียบเท่า (ใกล้เคียง) ประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่มีจำนวน (โบกี้) น้อยเกิน และ จำนวนเส้นทาง ไม่ทั่วถึง ดังนั้นมีทางเดียว คือ ต้องรอก่อสร้าง (อีกหลายๆปี) และ ซื้อโบกี้เพิ่ม เท่านั้น
       จึงปรับปรุงรถไฟฟ้า ให้ดีขึ้นกว่าปัจจุบันนี้ ยากมากๆหรือ ไม่ได้เลย     ดังนั้น ต่อไปนี้ จึงขอไม่พูดถึงรถไฟฟ้าอีก
      
      
       ดังนั้น ต่อไปนี้ จะพูดถึงเฉพาะรถเมล์เท่านั้น (เพราะยังปรับปรุงได้อีกมากมาย) เช่น ต้องทำให้รถเมล์ วิ่งเร็วกว่ารถเก๋งมากๆ
      
       หมายเหตุ รถเมล์ในที่นี้ จะหมายถึง รถตู้ด้วย เพราะวิ่งในช่องบัสเลนเหมือนกัน แต่ขอเรียกสั้นๆว่า "รถเมล์" เพียงอย่างเดียวเท่านั้น (แต่จะหมายถึงรถตู้ด้วยเสมอ)
       หมายเหตุ รถเก๋งในที่นี้ จะหมายถึง รถมอเตอร์ไซค์ กับ รถแท็กซี่  ด้วย เพราะ รถทั้ง 3 ชนิดนี้วิ่งในช่องสำหรับรถเก๋งเหมือนกัน แต่ขอเรียก รถทั้ง 3 ชนิดนี้สั้นๆ ว่า "รถเก๋ง" เพียงอย่างเดียวเท่านั้น  แต่จะหมายถึง รถมอเตอร์ไซค์ และ แท็กซี่ ด้วยเสมอ
      
     ทั้งๆที่ รัฐ ตัดถนนเพิ่ม สร้างทางข้ามสี่แยก ทางลอดสี่แยกเพิ่ม หรือสะพานข้ามแม่นำ้เจ้าพระยาเพิ่ม หรือ สร้างทางด่วนทางพิเศษ เพิ่มขึ้นตลอดเวลา (ทุกปี ๆ)
      
      แต่ทำไม ยังมีรถติดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ???
      ตอบ เพราะ การก่อสร้างทั้งหมดนี้ ทำให้รถเก๋งทั้งหมด ไม่ได้ทำให้รถเมล์เลย
      
      ท่านอาจจะเถียงว่า รถเมล์ กับ รถเก๋ง ในปัจจุบัน มันก็วิ่งปะปนกันนั้นแหล่ะ ดังนั้น ก็น่าจะได้ประโยชน์เท่ากัน ทุกประการ
      มันก็จริง แต่รถเมล์มีภาระจะต้องรับส่งผู้โดยสาร ที่ป้ายรถเมล์ด้วย จึงวิ่งช้ากว่ารถเก๋งมากๆ (ดังนั้นรถเมล์จึงได้ไม่เท่ารถเก๋ง)
      
      นอกจากนั้น รถเก๋ง ยังมีความเป็นส่วนตัว มีแอร์ มีความโก้หรู เร็วกว่า ขนของได้มากกว่า จะเลี้ยวซ้าย หรือ ขวา ได้ตามต้องการ ไม่ต้องต่อรถ ไม่ต้องรอรถ และ .....ฯลฯ
       จึงทำให้ผู้ใช้รถเมล์ เปลี่ยนไปใช้รถเก๋งเพิ่มมากขึ้น (อย่างรวดเร็ว) และ ทำให้ท้ายแถวรถติดยาวมากขึ้นไปด้วย
      

      แต่ถ้า รั ฐ ต้ อ ง ก า ร จะ   แ  ก้  ปั  ญ  ห  า  ร  ถ  ติ  ด
      
       รัฐจะต้องหยุดแจกเงินรถเก๋ง ทั้งหมด   แล้วเอาเงินทั้งหมด ที่เคยให้รถเก๋ง เปลี่ยน 360 องศา มาให้รถเมล์ เพียงอย่างเดียว (ทั้งหมด) แทน
      อ่าว ! ! ! ! แล้วอย่างงี้ รถเก๋ง ไม่อดตาย (ติดเพิ่มขึ้น) กันไปใหญ่หรือ ????
      แต่ถ้ารถเก๋ง อดตายนี้ แปลว่า เลิกใช้รถเก๋ง กันหมด คงเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง (ขำๆๆ)
      
      แต่ในความเป็นจริง การหยุดตัดถนนเพิ่ม หยุดสร้างทางข้าม ทางลอดสี่แยกเพิ่ม และ หยุดสร้างทางด่วน ทางพิเศษเพิ่ม และ หยุดสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มทั้งหมด (ทันที) จะไม่ทำให้ผู้ใช้รถเก๋งสะดุ้งสะเทือนเลย (แม้แต่น้อย)
      เพราะสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ ยังสร้างไม่เสร็จ ในปัจจุบัน จึงยังไม่เคยเปิดใช้ (เมื่อไม่เคยได้ ย่อมไม่เสียอะไร) นอกจากโอกาสจะยืดยาวออกไป
      
      ตรงข้าม การหยุดก่อสร้างสิ่งเหล่านี้ จะช่วยเปิดเลนที่เคยถูกปิด (เพื่อก่อสร้าง) ทันที
      
       แต่ ถ้าจะพูดกันตามกฎหมาย (จริงๆ) การสั่งให้หยุด หรือ สั่งให้ชลอการก่อสร้าง สิ่งก่อสร้างเหล่านี้  อาจทำไม่ได้ เพราะได้มีการทำสัญญากันไปแล้ว (ผู้รับเหมาคงไม่ยอม)
      
      งั้นคงต้องเอาแบบ ต า ม มี ต า ม เ กิ ด (ก็ได้)  
      เอาเฉพาะว่า ต่อไปนี้จะยัง ไ ม่ อ นุ มั ติ  โ ค ร ง ก า ร ใ ห ม่  (ทั้งหมด) ที่เกี่ยวกับการ ตัดถนน ทางด่วน ทางพิเศษ (เพิ่ม) และ ทางข้าม ทางลอดสี่แยก (เพิ่ม) สร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา (เพิ่ม) เป็นต้น โดยเด็ดขาด
      เพื่อสงวนเงิน (งบประมาณใหม่) นี้ เอาไว้ให้เฉพาะสำหรับรถเมล์ (แท้ๆ ล้วนๆ เท่านั้น)  ถึงจะช้าไปสักหน่อย (ช้าแต่ชัวร์)
      
       หมายเหตุ  ส่วนรถไฟฟ้าไม่ควรหยุด หรือ ชลอการก่อสร้าง และ ควรเร่งๆๆ เพิ่มๆๆ ยิ่งมากยิ่งดี (ถ้าคลังมีเงิน) เพราะรถไฟฟ้า เป็นการขนส่งมวลชน เช่นเดียวกับรถเมล์ (แต่เสียตรง แพงกว่ารถเมล์หลายร้อย หลายพันเท่า) ประเทศอาจจะล่มจมก่อนที่จะแก้ปัญหารถติดได้ (ถ้าเร่งมากเกิน)
       หมายเหตุ  แต่ห้ามเอาเงินที่จะให้รถเมล์ไปใช้กับรถไฟฟ้า เพราะรถเมล์ใช้เงินน้อยอยู่แล้ว (เอาเนื้อหนู ไปปะเนื้อช้างไม่ได้) หนูจะตายหมดเสียก่อน ที่จะปะเนื้อช้างได้เต็ม
      
       สรุป
       ถ้านำเงิน ห มื่ น ล้ า น  ไปปรับปรุงรถเมล์ จะแก้ปัญหารถได้ทั้งหมด หรือเกือบทั้งหมดภายในเวลา 1 ปี (เพราะรถเมล์ใช้เงินน้อยมากๆ)
       ถ้านำเงิน ห มื่ น ล้ า น  ไปปรับปรุงรถเก๋ง เหมือนที่ผ่านๆมา  จะทำให้ปัญหารถติดเพิ่มมากขึ้นๆ (เหมือนในปัจจุบัน) เพราะรถเก๋ง เปรียบเหมือนโจร (ในแง่จราจร)
       ดังนั้นจึงเหมือนเอาเงินไปให้โจร ทำให้โจร (รถเก๋ง) แข็งแรง และ มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นๆๆๆ อย่างรวดเร็ว (เหมือนในปัจจุบัน)
       ถ้านำเงิน ห มื่ น ล้ า น ไปสร้างรถไฟฟ้า จะได้รถไฟฟ้ามาไม่กี่สายเท่านั้น จะช่วยบรรเทาปัญหารถติดได้เล็กน้อยเท่านั้น เพราะรถไฟฟ้าใช้เงินมากๆๆๆ (มากกว่ารถเมล์ หลายร้อย หลายพันเท่า)
        
        ถึงจะให้เงิน หมื่นล้าน หรือ แสนล้าน หรือ ล้านล้าน (บาท) มาใช้ปรับปรุงรถเมล์ และ ซื้อรถเมล์ใหม่ และ ปรับปรุงป้ายรถเมล์ ทั้งหมด  แต่ถ้ายังปล่อยให้รถเมล์วิ่งปะปนกับรถเก๋ง เหมือนในปัจจุบัน  เงินหมืนล้านนี้จะหมดความหมาย ในทันที
       เพราะจะทำให้รถเมล์วิ่งช้าเหมือนในปัจจุบัน จะแก้ปัญหารถติดไม่ได้เลย
      
       แต่ ถ้าให้เงินเพียง 100 ล้าน เพื่อเปลี่ยนไปใช้วิธีในวีดีโอ นี้ ก็จะทำให้รถเมล์วิ่งเร็วขึ้นประมาณ 3 เท่า  จะสามารถแก้ปัญหารถติดได้ภายใน 1 ปี)
      
       สรุป    เงิน 100 ล้านบาท แก้ได้  แต่เงิน หมื่นล้านแก้ไม่ได้ ? ? ?
      
       ตอบ     เพราะ ค ว า ม เ ร็ ว ของรถเมล์ สำ คั ญ ก ว่ า เ งิ น ห มื่ น ล้ า น หรือ แ ส น ล้ า น บ า ท
      
      
      
                        รถเมล์ x 3 (ตามวิธีในวีดีโอ ข้างล่างนี้) คืออะไร ? ? ?
      
       รถเมล์วิ่งเร็วขึ้นประมาณ 3 เท่า (จากประมาณ 8 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน   เป็น 24 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน) เพราะ วิ่งในช่องบัสเลน และ ติดไฟแดงน้อยลง (ประมาณ 1.24 นาที เท่านั้น)
       รถเมล์รับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 3 เท่า เพราะปรกติ (ปัจจุบัน) รถเมล์เคยวิ่ง 1 รอบ ใช้เวลา 60 นาที จะลดลงเหลือ 20 นาที / 1 รอบ เท่านั้น (ในเวลาเร่งด่วน)
       ใช้เวลารอรถเมล์ (ที่ป้ายรถเมล์) นานน้อยลง 3 เท่า เพราะเมื่อรถเมล์ วิ่งเร็วขึ้น 3 เท่า (มาถี่ขึ้น 3 เท่า) ทำให้เวลาในการยืนหรือนั่งรอรถเมล์ น้อยลง 3 เท่า
       ทำให้อากาศร้อนอบอ้าว (ในรถเมล์ร้อน) ลดลง เพราะรถเมล์วิ่งเร็วขึ้นมากๆ และ เวลาที่รถเมล์จอดติดไฟแดงลดลง เช่น จากที่ปัจจุบันเคยติดไฟแดงประมาณ 3 - 30 นาที / 1 สี่แยก จะเหลือประมาณ 1.24 นาที / 1 สี่แยก เท่านั้น
       จึงทำให้เวลาเฉลี่ย ในการเดินทางทั้งหมดลดลงไปด้วย
       เก็บเงินได้มากขึ้นประมาณ 3 เท่า จะทำให้รถเมล์มีกำไรได้ เพราะใช้จำนวนรถเมล์เท่าเดิม คนขับและกระเป๋า เท่าเดิม แต่รับผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้น 3 เท่า (ในเวลาเร่งด่วน) จึงได้เงินเพิ่มขึ้น 3 เท่า
       หมายเหตุ ใช้น้ำมัน เพิ่มขึ้น (เพียง) ประมาณ 2 เท่า ไม่ใช่ 3 เท่า เพราะเวลาติดไฟแดงลดลง และรถเมล์วิ่งเร็วขึ้น จึงประหยัดน้ำ จากที่ควรเป็น 3 เท่า เหลือ 2 เท่า(โดยประมาณ)
       ดังนั้น จึงทำให้รถเมล์ (ทั้ง ขสมก. และ เอกชน) กลับมากำไรมากๆๆ ได้
       จึงสามารถนำเงินกำไรนี้ ไปปรับปรุง คุณภาพ และ บริการได้
      
       วงจรบุบาทว์ (รถเมล์เอกชนห่วย ซิ่ง แซง เบียด ด่า)
      
       วงจรอุบาทว์ ที่แก้ไม่ได้มานานหลายสิบปี  เกิดจาก "เงิน" ตัวเดียวเท่านั้น โดย
       เมื่อ ขสมก. ขาดทุน มากๆ รัฐจึงเปิดสัมปทาน (โยนบาป) ต่อไปให้บริษัทเอกชน ประมูลเส้นทางรถเมล์ (ที่มีกำไรน้อยมากๆๆ)
       จากนั้น บริษัทเอกชนนี้  จึงโยนบาป ต่อไปให้คนขับ และ กระเป๋ารถเมล์ โดยการใช้วิธีหักเปอร์เซ็นต์ตั๋ว ที่เก็บได้ (ถ้าเก็บตั๋วโดยสารได้น้อยก็จะได้เงินน้อย ถ้าเก็บตั๋วได้มากก็จะได้เงินมากขึ้น)
       จากนั้น คนขับ และ กระเป๋า จึง โยนบาป ต่อไปให้ผู้โดยสาร และ รถในถนน โดยการ ซิ่ง แซง เบียด เพื่อแย่งผู้โดยสาร กับรถเมล์เอกชนด้วยกัน และ กับรถเมล์ของ ขสมก. ด้วย (แต่ก็ยังได้เงินน้อยอยู่ดี) จึง "เครียด" และ เบื่อหน่าย (ไม่พอใจในอาชีพของเขา) แสดงให้เห็นโดยการพูดจาไม่เพาะกับผู้โดยสาร หรือ ทะเลาะกับผู้โดยสาร หรือ ถึงจะเฉี่ยว จะชนใคร เขา (คนขับ) ก็ไม่ค่อยแคร์ เป็นต้น
          (ทำนองว่า ฉันไม่อยากทำอาชีพคนขับ และกระเป๋า รถเมล์ นี้แล้วโว้ย)

       ดังนั้น "เงิน" จึงเป็นต้นเหตุของ วงจรอุบาทว์ (โยนบาปใส่กันเป็นทอดๆ)      

       (อ่านต่อที่ความคิดเห็นที่ 1)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่