ร ถ เ ม ล์ แ ก้ ปั ญ ห า ร ถ ติ ด
ประสิทธิ์ รจิตรังสรรค์ โทร 0906925132
( เ ห็ น ด้ ว ย โ ป ร ด ช่ ว ย แ ช ร์ ๆ ๆ)
เชิญ ศ. หรือ ดร. หรือ นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ (ทุกประเทศในโลกแต่ต้องเป็นภาษาไทยเท่านั้น เพราะผมอ่านได้ภาษาเดียว) หรือ ตำรวจจราจรถึง ผบกจร. หรือ ข้าราชการ ถึงนายก หรือเด็ก หรือ ผู้ใหญ่ คนรวย หรือ จนเรียนมาก หรือ น้อย ก็ได้ เห็นด้วยหรือเห็นต่าง ก็ได้ โปรดช่วยแสดงความเห็น เพื่อมาถกเถียงกัน (ตามหลักวิทยาศาสตร์) เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น (ท่านไม่ต้องเกรงใจผม ผมเองก็ไม่เกรงใจใครอยู่แล้ว) แต่ไม่โกรธไม่เกลียดกันมีแต่ขอบคุณอย่างเดียวครับ
ถ้าท่านดูวีดีโอ และ อ่านข้อความนี้หมด (อย่างมีสมาธิ) จะเห็นแนวทางแก้ปัญหารถติดทันที
ถึงจะเป็นเพียง 1 ใน 100 หรือ 1 ใน ล้าน ถ้ามันถูกมันก็ต้องถูก
เรื่องบางเรื่อง (ที่ยากๆ) ไม่สามารถ ใช้เสียงส่วนใหญ่ มาตัดสินถูกผิดได้
เช่น เรื่อง วิธีแก้รถติดใน วีดีโอ นี้
ทำ ไ ม ปั ญ ห า ร ถ ติ ด จึ ง ยั ง แ ก้ ไม่ ได้ ? ? ?
คำตอบ คือ เพราะรัฐไม่เห็นคุณค่ารถเมล์
รัฐจะต้องทำให้ระบบขนส่งมวลชน (รถเมล์) ดีมากๆ (ก่อน)
แต่รัฐก็ไม่ยอมทำ (ไม่ยอมต้องปรับปรุงรถเมล์ให้ดีๆ ก่อน) แล้วค่อยมาชวน ให้ผู้ใช้รถเก๋งเปลี่ยนไปใช้รถเมล์
แล้วรถเมล์ ไม่ดีอย่างไรหล่ะ ? ? ?
ตอบ ไม่ดีหลายอย่างมากๆ แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ความเร็ว เพราะรถเมล์วิ่งช้ากว่ารถเก๋งมากๆ (ไม่แก้ไม่ได้เด็ดขาด) ส่วนข้อเสียอื่น เช่น ไม่เป็นส่วนตัว ลำบากยากเย็น รถเมล์เอกชนชอบซิ่ง แซง เบียด พูดจาไม่ดี .....ฯลฯ เป็นต้น
รัฐ ดีแต่พูดอ้อนวอน (โปรดมาช่วยกันใช้รถเมล์กันเถิดๆๆๆๆ) มันจึงเป็นคำอ้อนวอนที่เปล่าประโยชน์
รถไฟฟ้า ทุกท่านก็จะบอกว่า ดี มีมาตรฐานเทียบเท่า (ใกล้เคียง) ประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่มีจำนวน (โบกี้) น้อยเกิน และ จำนวนเส้นทาง ไม่ทั่วถึง ดังนั้นมีทางเดียว คือ ต้องรอก่อสร้าง (อีกหลายๆปี) และ ซื้อโบกี้เพิ่ม เท่านั้น
รถไฟฟ้า เปรียบเหมือน พระเอก นางเอก โอกาสจะทำศัลยกรรมให้สวยขึ้น หรือ หล่อขึ้นยากมากๆ
จึงปรับปรุงรถไฟฟ้า ให้ดีขึ้นกว่าปัจจุบันนี้ ยากมากๆหรือ ไม่ได้เลย
ดังนั้น ต่อไปนี้ จึงขอไม่พูดถึงรถไฟฟ้าอีก
รถเมล์ เปรียบเหมือนเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ (ไม่หล่อ ไม่สวย) ดังนั้น ถ้านำไปทำศัลยกรรม โอกาสจะทำให้สวยขึ้น หล่อขึ้นง่ายมากๆ
ดังนั้น ต่อไปนี้ จะพูดถึงเฉพาะรถเมล์เท่านั้น (เพราะยังปรับปรุงได้อีกมากมาย) เช่น ต้องทำให้รถเมล์ วิ่งเร็วกว่ารถเก๋งมากๆ และ ต้องปรับปรุงรถเมล์เอกชน ทั้งคุณภาพ และ บริการ (ถ้ามีเงิน) เป็นต้น
หมายเหตุ รถเมล์ในที่นี้ จะหมายถึง รถตู้ด้วย เพราะวิ่งในช่องบัสเลนเหมือนกัน แต่ขอเรียกสั้นๆว่า "รถเมล์" เพียงอย่างเดียวเท่านั้น (แต่จะหมายถึงรถตู้ด้วยเสมอ)
หมายเหตุ รถเก๋งในที่นี้ จะหมายถึง รถมอเตอร์ไซค์ กับ รถแท็กซี่ ด้วย เพราะ รถทั้ง 3 ชนิดนี้วิ่งในช่องสำหรับรถเก๋งเหมือนกัน แต่ขอเรียก รถทั้ง 3 ชนิดนี้สั้นๆ ว่า "รถเก๋ง" เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะหมายถึง รถมอเตอร์ไซค์ และ แท็กซี่ ด้วยเสมอ
รัฐ ตัดถนนเพิ่ม สร้างทางข้ามสี่แยก ทางลอดสี่แยกเพิ่ม หรือสะพานข้ามแม่นำ้เจ้าพระยาเพิ่ม หรือ สร้างทางด่วนทางพิเศษ เพิ่มขึ้นตลอดเวลา (ทุกปี ๆ)
แต่ทำไม ยังมีรถติดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ???
ตอบ เพราะ การก่อสร้างทั้งหมดนี้ ทำให้รถเก๋งทั้งหมด ไม่ได้ทำให้รถเมล์เลย
ท่านอาจจะเถียงว่า รถเมล์ กับ รถเก๋ง ในปัจจุบัน มันก็วิ่งปะปนกันนั้นแหล่ะ ดังนั้นรถเก๋งกับรถเมล์ก็น่าจะได้ประโยชน์เท่ากับรถเก๋ง ทุกประการ
มันก็จริง แต่รถเมล์มีภาระจะต้องรับส่งผู้โดยสาร ที่ป้ายรถเมล์ด้วย จึงวิ่งช้ากว่ารถเก๋งมากๆ (ดังนั้นรถเมล์จึงได้ไม่เท่ารถเก๋ง)
นอกจากนั้น รถเก๋ง ยังมีความเป็นส่วนตัว มีแอร์ มีความโก้หรู เร็วกว่า ขนของได้มากกว่า จะเลี้ยวซ้าย หรือ ขวา ได้ตามต้องการ ไม่ต้องต่อรถ ไม่ต้องรอรถ และ .....ฯลฯ
จึงทำให้ผู้ใช้รถเมล์ เปลี่ยนไปใช้รถเก๋งเพิ่มมากขึ้น (อย่างรวดเร็ว) และ ทำให้ท้ายแถวรถติดยาวมากขึ้นไปด้วย
แต่ถ้า รั ฐ ต้ อ ง ก า ร จะ แ ก้ ปั ญ ห า ร ถ ติ ด
รัฐจะต้องหยุดแจกเงินรถเก๋ง ทั้งหมด แล้วเอาเงินทั้งหมด ที่เคยให้รถเก๋ง เปลี่ยน 360 องศา มาให้รถเมล์ เพียงอย่างเดียว (ทั้งหมด) แทน
อ่าว ! ! ! ! แล้วอย่างงี้ รถเก๋ง ไม่อดตาย (ติด) กันหมดหรือ ????
ถ้ารถเก๋ง อดตาย (เลิกใช้รถเก๋ง) กันหมด คงเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง (ขำๆๆ)
แต่ในความเป็นจริง การหยุดตัดถนนเพิ่ม หยุดสร้างทางข้าม ทางลอดสี่แยกเพิ่ม และ หยุดสร้างทางด่วน ทางพิเศษเพิ่ม และ หยุดสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มทั้งหมด (ทันที) จะไม่ทำให้ผู้ใช้รถเก๋งสะดุ้งสะเทือนเลย (แม้แต่น้อย)
เพราะสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ ยังสร้างไม่เสร็จ จึงยังไม่เคยเปิดใช้ (เมื่อไม่เคยได้ ย่อมไม่เสียอะไร) นอกจากโอกาสจะยืดยาวออกไป
ตรงข้าม การหยุดก่อสร้างสิ่งเหล่านี้ จะช่วยเปิดเลนที่เคยถูกปิด (เพื่อก่อสร้าง) ทันที
แต่ ถ้าจะพูดกันตามกฎหมาย (จริงๆ) การสั่งให้หยุด หรือ สั่งให้ชลอการก่อสร้าง สิ่งก่อสร้างเหล่านี้ อาจทำไม่ได้ เพราะได้มีการทำสัญญากันไปแล้ว (ผู้รับเหมาคงไม่ยอม)
งั้นคงต้องเอาแบบ ต า ม มี ต า ม เ กิ ด (ก็ได้) โดยถ้าหยุดโครงการที่สร้างไปแล้วไม่ได้เลย
งั้นก็เอาเฉพาะว่า ต่อไปนี้จะยัง ไ ม่ อ นุ มั ติ โ ค ร ง ก า ร ใ ห ม่ (ทั้งหมด) ที่เกี่ยวกับการ ตัดถนน ทางด่วน ทางพิเศษ (เพิ่ม) และ ทางข้าม ทางลอดสี่แยก (เพิ่ม) สร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา (เพิ่ม) เป็นต้น โดยเด็ดขาด
เพื่อสงวนเงิน (งบประมาณใหม่) นี้ เอาไว้ให้เฉพาะสำหรับรถเมล์ (แท้ๆ ล้วนๆ เท่านั้น)
ดังนั้น งบประมาณใหม่ของรถเมล์นี้ ถึงจะช้าไปสักหน่อย (ช้าแต่ชัวร์ (ดีกว่าไม่ได้)
หมายเหตุ ส่วนรถไฟฟ้าไม่ควรหยุด หรือ ชลอการก่อสร้าง และ ควรเร่งๆๆ เพิ่มๆๆ ยิ่งมากยิ่งดี (แต่ถ้าเร่งมากเกิน คลังอาจกระเป๋าฉีกได้) เพราะรถไฟฟ้า เป็นการขนส่งมวลชน เช่นเดียวกับรถเมล์ (แต่เสียตรง แพงกว่ารถเมล์หลายร้อยเท่า)
หมายเหตุ แต่ห้ามเอาเงินที่จะให้รถเมล์ไปใช้กับรถไฟฟ้า เพราะรถเมล์ใช้เงินน้อยอยู่แล้ว (เอาเนื้อหนู ไปปะเนื้อช้างไม่ได้) หนูจะตายหมดเสียก่อน ที่จะปะเนื้อช้างได้เต็ม
สรุป
ถ้านำเงิน ห มื่ น ล้ า น ไปปรับปรุงรถเมล์ จะแก้ปัญหารถได้ทั้งหมด หรือเกือบทั้งหมดภายในเวลา 1 ปี (เพราะรถเมล์ใช้เงินน้อยมากๆ)
ถ้านำเงิน ห มื่ น ล้ า น ไปปรับปรุงรถเก๋ง เช่น ตัดถนนเพิ่ม สร้างทางด่วนเพิ่มสร้างทางพิเศษเพิ่ม หรือ สร้างทางข้าม และ ลอด (สี่แยก) เพิ่ม สร้างแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่ม เป็นต้น จะทำให้ปัญหารถติดเพิ่มมากขึ้น (เหมือนในปัจจุบัน) เพราะรถเก๋ง เปรียบเหมือนโจร (ในแง่จราจร) ดังนั้นจึงเหมือนเอาเงินไปให้โจร
ถ้านำเงิน ห มื่ น ล้ า น ไปสร้างรถไฟฟ้า จะได้รถไฟฟ้ามาไม่กี่สายเท่านั้น จะช่วยบรรเทาปัญหารถติดได้เล็กน้อยเท่านั้น เพราะรถไฟฟ้าใช้เงินมากๆๆๆ (ใช้เงินมากกว่ารถเมล์หลายร้อยเท่า)
แต่ถ้ายังปล่อยให้รถเมล์วิ่งปะปนกับรถเก๋ง เหมือนในปัจจุบัน ถึงจะได้เงิน หมื่นล้าน หรือ แสนล้าน หรือ ล้านล้าน (บาท) มาใช้ปรับปรุงรถเมล์ ซื้อรถเมล์ใหม่ ปรับปรุงป้ายรถเมล์ ทั้งหมด เงิน นี้จะหมดความหมาย ในทันที
เพราะถ้ารถเมล์วิ่งช้าเหมือนในปัจจุบัน จะแก้ปัญหารถติดไม่ได้เลย
แต่ ถึงจะไม่ได้เงิน (หมื่น หรือ แสนล้าน) เลย แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้วิธีในวีดีโอ นี้ (ซึ่งใช้เงินเพียงประมาณ 100 ล้าน เท่านั้น) ก็จะทำให้รถเมล์วิ่งเร็วขึ้นประมาณ 3 เท่า ก็จะทำให้ผู้ใช้รถเก๋งเปลี่ยนมาใช้รถเมล์มากๆๆๆ ได้เช่นกัน (แก้ปัญหารถติดได้เช่นกัน)
สรุป ความเร็ว ของรถเมล์ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด (รถเมล์จะต้องวิ่งเร็วกว่ารถเก๋งมากๆๆ) จึงจะสามารถแก้ปัญหารถติดได้ แต่ถ้าได้เงิน (หมื่น หรือ แสนล้าน) มาใช้กับรถเมล์ด้วย จะยิ่งทำให้รถเมล์น่าใช้มากขึ้น และ แก้ปัญหารถติดเร็วมากขึ้นอีก
ดังนั้น จึงควรหยุดใช้เงินเพื่อปรนเปรอรถเก๋งทันที เพราะ จะยิ่งทำให้รถติดมากขึ้นเรื่อยๆ
รถเมล์ x 3 (ตามวิธีในวีดีโอ ข้างล่างนี้) คืออะไร ? ? ?
รถเมล์วิ่งเร็วขึ้นประมาณ 3 เท่า (จากประมาณ 8 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน เป็น 24 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน) เพราะ วิ่งในช่องบัสเลน และ ติดไฟแดงน้อยลง (ประมาณ 1.24 นาที เท่านั้น)
รถเมล์รับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 3 เท่า เพราะปรกติ (ปัจจุบัน) รถเมล์เคยวิ่ง 1 รอบ ใช้เวลา 60 นาที จะลดลงเหลือ 20 นาที / 1 รอบ เท่านั้น (ในเวลาเร่งด่วน)
ใช้เวลารอรถเมล์ (ที่ป้ายรถเมล์) นานน้อยลง 3 เท่า เพราะเมื่อรถเมล์ วิ่งเร็วขึ้น 3 เท่า (มาถี่ขึ้น 3 เท่า) ทำให้เวลาในการยืนหรือนั่งรอรถเมล์ น้อยลง 3 เท่า
ทำให้อากาศร้อนอบอ้าว (ในรถเมล์ร้อน) ลดลง เพราะรถเมล์วิ่งเร็วขึ้นมากๆ และ เวลาที่รถเมล์จอดติดไฟแดงลดลง เช่น จากที่ปัจจุบันเคยติดไฟแดงประมาณ 3 - 30 นาที / 1 สี่แยก เหลือประมาณ 1.24 นาที / 1 สี่แยก เท่านั้น
จึงทำให้เวลาเฉลี่ย ในการเดินทางทั้งหมดลดลงไปด้วย
จะทำให้เก็บเงินได้มากขึ้นประมาณ 3 เท่า (ในเวลาเร่งด่วน) และ ทำให้รถเมล์มีกำไรได้ เพราะใช้จำนวนรถเมล์เท่าเดิม คนขับและกระเป๋า เท่าเดิม แต่รับคนได้เพิ่มมากขึ้น 3 เท่า ได้เงินเพิ่มขึ้น 3 เท่า (ถึงจะใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น 2 เท่าก็ตาม)
หมายเหตุ สาเหตุที่ใช้น้ำมัน เพิ่มขึ้น (เพียง) ประมาณ 2 เท่า ไม่ใช่ 3 เท่า เพราะเวลารอไฟแดงลดลง และรถเมล์วิ่งเร็วขึ้น จึงทำให้ใช้น้ำมันลดลง จากที่ควรเป็น 3 เท่า เหลือ 2 เท่า(โดยประมาณ)
ดังนั้น จึงทำให้รถเมล์ (ขสมก. และ เอกชน) จากที่เคยขาดทุนมากๆๆ กลับมากำไรมากๆๆ ได้ จึงสามารถนำเงินกำไรนี้ ไปปรับปรุง คุณภาพ และ บริการ รถเมล์ให้ดีขึ้นอีกมากมาย
วงจรบุบาทว์ (รถเมล์เอกชนห่วย ซิ่ง แซง เบียด ด่า)
ที่แก้ไม่ได้มานานหลายสิบปี เกิดจาก "เงิน" ตัวเดียวเท่านั้น โดย
เมื่อ ขสมก. ขาดทุน มากๆ รัฐจึงเปิดสัมปทาน (โยนบาป) ไปให้ให้บริษัทเอกชน ประมูลเส้นทางรถเมล์ (ที่มีกำไรน้อยมากๆๆ)
จากนั้น บริษัทเอกชนนี้ จึงโยนบาป ไปให้ให้คนขับ และ กระเป๋ารถเมล์ โดยการใช้วิธีหักเปอร์เซ็นต์ตั๋ว ที่เก็บได้ (ถ้าเก็บตั๋วโดยสารได้น้อยก็จะได้เงินน้อย ถ้าเก็บตั๋วได้มากก็จะได้เงินมากขึ้น)
จากนั้น คนขับ และ กระเป๋า จึง โยนบาป ไปให้ให้ผู้โดยสาร และ รถในถนน โดยการ ซิ่ง แซง เบียด เพื่อแย่งผู้โดยสาร กับรถเมล์เอกชนด้วยกัน และ กับรถเมล์ของ ขสมก. ด้วย (แต่ก็ยังได้เงินน้อยอยู่ดี) จึงเป็นเหตุให้โชว์เฟอร์ และ กระเป๋า ของรถเมล์เอกชน "เครียด" และ เบื่อหน่าย (ไม่พอใจในอาชีพของเขา) แสดงให้เห็นโดยการพูดจาไม่เพาะกับผู้โดยสาร หรือ ทะเลาะกับผู้โดยสาร หรือ จะเฉี่ยว จะชน กับใครเขาก็ไม่แคร์ เป็นต้น
ดังนั้น จึงเชื่อว่า จะทำให้ผู้ใช้รถเก๋งเปลี่ยนมาใช้รถเมล์ เพิ่มมากขึ้น มากๆๆๆ และ
ทำให้ท้ายแถวรถติดหดสั้นลงมากๆๆๆ ทำให้ปัญหาจราจรลดน้อยลงมากๆๆ ได้ตามต้องการ
เพราะใช้ความเร็วที่มากขึ้น และ บริการที่ดีขึ้น ของรถเมล์นี้ แลกเปลี่ยนกับ ความเป็นส่วน
ตัว ความสะดวกสบาย และ ..... ฯลฯ ในรถเก๋งได้
โดยใช้หลักการ (คำขวัญ) ว่า ถ้าไม่รีบ ให้ใช้รถเก๋ง ต่อไป แต่ถ้ารีบให้เปลี่ยนมา
ใช้รถเมล์
ดูวิธี รถเมล์ x 3 (ในวีดีโอ ข้างล่างนี้) หรือดูข้อมูลเพิ่ม โดยเข้าเว็บพันทิป พิมพ์ "รู้ไว้ใช่
ว่า" เลือกหัวข้อที่เกี่ยวกับ รถเมล์ x 3
(อ่านต่อที่ความคิดเห็นที่ 1)
รถเมล์ แก้รถติด
ประสิทธิ์ รจิตรังสรรค์ โทร 0906925132 ( เ ห็ น ด้ ว ย โ ป ร ด ช่ ว ย แ ช ร์ ๆ ๆ)
เชิญ ศ. หรือ ดร. หรือ นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ (ทุกประเทศในโลกแต่ต้องเป็นภาษาไทยเท่านั้น เพราะผมอ่านได้ภาษาเดียว) หรือ ตำรวจจราจรถึง ผบกจร. หรือ ข้าราชการ ถึงนายก หรือเด็ก หรือ ผู้ใหญ่ คนรวย หรือ จนเรียนมาก หรือ น้อย ก็ได้ เห็นด้วยหรือเห็นต่าง ก็ได้ โปรดช่วยแสดงความเห็น เพื่อมาถกเถียงกัน (ตามหลักวิทยาศาสตร์) เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น (ท่านไม่ต้องเกรงใจผม ผมเองก็ไม่เกรงใจใครอยู่แล้ว) แต่ไม่โกรธไม่เกลียดกันมีแต่ขอบคุณอย่างเดียวครับ
ถ้าท่านดูวีดีโอ และ อ่านข้อความนี้หมด (อย่างมีสมาธิ) จะเห็นแนวทางแก้ปัญหารถติดทันที
ถึงจะเป็นเพียง 1 ใน 100 หรือ 1 ใน ล้าน ถ้ามันถูกมันก็ต้องถูก
เรื่องบางเรื่อง (ที่ยากๆ) ไม่สามารถ ใช้เสียงส่วนใหญ่ มาตัดสินถูกผิดได้
เช่น เรื่อง วิธีแก้รถติดใน วีดีโอ นี้
ทำ ไ ม ปั ญ ห า ร ถ ติ ด จึ ง ยั ง แ ก้ ไม่ ได้ ? ? ?
คำตอบ คือ เพราะรัฐไม่เห็นคุณค่ารถเมล์
รัฐจะต้องทำให้ระบบขนส่งมวลชน (รถเมล์) ดีมากๆ (ก่อน)
แต่รัฐก็ไม่ยอมทำ (ไม่ยอมต้องปรับปรุงรถเมล์ให้ดีๆ ก่อน) แล้วค่อยมาชวน ให้ผู้ใช้รถเก๋งเปลี่ยนไปใช้รถเมล์
แล้วรถเมล์ ไม่ดีอย่างไรหล่ะ ? ? ?
ตอบ ไม่ดีหลายอย่างมากๆ แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ความเร็ว เพราะรถเมล์วิ่งช้ากว่ารถเก๋งมากๆ (ไม่แก้ไม่ได้เด็ดขาด) ส่วนข้อเสียอื่น เช่น ไม่เป็นส่วนตัว ลำบากยากเย็น รถเมล์เอกชนชอบซิ่ง แซง เบียด พูดจาไม่ดี .....ฯลฯ เป็นต้น
รัฐ ดีแต่พูดอ้อนวอน (โปรดมาช่วยกันใช้รถเมล์กันเถิดๆๆๆๆ) มันจึงเป็นคำอ้อนวอนที่เปล่าประโยชน์
รถไฟฟ้า ทุกท่านก็จะบอกว่า ดี มีมาตรฐานเทียบเท่า (ใกล้เคียง) ประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่มีจำนวน (โบกี้) น้อยเกิน และ จำนวนเส้นทาง ไม่ทั่วถึง ดังนั้นมีทางเดียว คือ ต้องรอก่อสร้าง (อีกหลายๆปี) และ ซื้อโบกี้เพิ่ม เท่านั้น
รถไฟฟ้า เปรียบเหมือน พระเอก นางเอก โอกาสจะทำศัลยกรรมให้สวยขึ้น หรือ หล่อขึ้นยากมากๆ
จึงปรับปรุงรถไฟฟ้า ให้ดีขึ้นกว่าปัจจุบันนี้ ยากมากๆหรือ ไม่ได้เลย
ดังนั้น ต่อไปนี้ จึงขอไม่พูดถึงรถไฟฟ้าอีก
รถเมล์ เปรียบเหมือนเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ (ไม่หล่อ ไม่สวย) ดังนั้น ถ้านำไปทำศัลยกรรม โอกาสจะทำให้สวยขึ้น หล่อขึ้นง่ายมากๆ
ดังนั้น ต่อไปนี้ จะพูดถึงเฉพาะรถเมล์เท่านั้น (เพราะยังปรับปรุงได้อีกมากมาย) เช่น ต้องทำให้รถเมล์ วิ่งเร็วกว่ารถเก๋งมากๆ และ ต้องปรับปรุงรถเมล์เอกชน ทั้งคุณภาพ และ บริการ (ถ้ามีเงิน) เป็นต้น
หมายเหตุ รถเมล์ในที่นี้ จะหมายถึง รถตู้ด้วย เพราะวิ่งในช่องบัสเลนเหมือนกัน แต่ขอเรียกสั้นๆว่า "รถเมล์" เพียงอย่างเดียวเท่านั้น (แต่จะหมายถึงรถตู้ด้วยเสมอ)
หมายเหตุ รถเก๋งในที่นี้ จะหมายถึง รถมอเตอร์ไซค์ กับ รถแท็กซี่ ด้วย เพราะ รถทั้ง 3 ชนิดนี้วิ่งในช่องสำหรับรถเก๋งเหมือนกัน แต่ขอเรียก รถทั้ง 3 ชนิดนี้สั้นๆ ว่า "รถเก๋ง" เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะหมายถึง รถมอเตอร์ไซค์ และ แท็กซี่ ด้วยเสมอ
รัฐ ตัดถนนเพิ่ม สร้างทางข้ามสี่แยก ทางลอดสี่แยกเพิ่ม หรือสะพานข้ามแม่นำ้เจ้าพระยาเพิ่ม หรือ สร้างทางด่วนทางพิเศษ เพิ่มขึ้นตลอดเวลา (ทุกปี ๆ)
แต่ทำไม ยังมีรถติดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ???
ตอบ เพราะ การก่อสร้างทั้งหมดนี้ ทำให้รถเก๋งทั้งหมด ไม่ได้ทำให้รถเมล์เลย
ท่านอาจจะเถียงว่า รถเมล์ กับ รถเก๋ง ในปัจจุบัน มันก็วิ่งปะปนกันนั้นแหล่ะ ดังนั้นรถเก๋งกับรถเมล์ก็น่าจะได้ประโยชน์เท่ากับรถเก๋ง ทุกประการ
มันก็จริง แต่รถเมล์มีภาระจะต้องรับส่งผู้โดยสาร ที่ป้ายรถเมล์ด้วย จึงวิ่งช้ากว่ารถเก๋งมากๆ (ดังนั้นรถเมล์จึงได้ไม่เท่ารถเก๋ง)
นอกจากนั้น รถเก๋ง ยังมีความเป็นส่วนตัว มีแอร์ มีความโก้หรู เร็วกว่า ขนของได้มากกว่า จะเลี้ยวซ้าย หรือ ขวา ได้ตามต้องการ ไม่ต้องต่อรถ ไม่ต้องรอรถ และ .....ฯลฯ
จึงทำให้ผู้ใช้รถเมล์ เปลี่ยนไปใช้รถเก๋งเพิ่มมากขึ้น (อย่างรวดเร็ว) และ ทำให้ท้ายแถวรถติดยาวมากขึ้นไปด้วย
แต่ถ้า รั ฐ ต้ อ ง ก า ร จะ แ ก้ ปั ญ ห า ร ถ ติ ด
รัฐจะต้องหยุดแจกเงินรถเก๋ง ทั้งหมด แล้วเอาเงินทั้งหมด ที่เคยให้รถเก๋ง เปลี่ยน 360 องศา มาให้รถเมล์ เพียงอย่างเดียว (ทั้งหมด) แทน
อ่าว ! ! ! ! แล้วอย่างงี้ รถเก๋ง ไม่อดตาย (ติด) กันหมดหรือ ????
ถ้ารถเก๋ง อดตาย (เลิกใช้รถเก๋ง) กันหมด คงเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง (ขำๆๆ)
แต่ในความเป็นจริง การหยุดตัดถนนเพิ่ม หยุดสร้างทางข้าม ทางลอดสี่แยกเพิ่ม และ หยุดสร้างทางด่วน ทางพิเศษเพิ่ม และ หยุดสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มทั้งหมด (ทันที) จะไม่ทำให้ผู้ใช้รถเก๋งสะดุ้งสะเทือนเลย (แม้แต่น้อย)
เพราะสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ ยังสร้างไม่เสร็จ จึงยังไม่เคยเปิดใช้ (เมื่อไม่เคยได้ ย่อมไม่เสียอะไร) นอกจากโอกาสจะยืดยาวออกไป
ตรงข้าม การหยุดก่อสร้างสิ่งเหล่านี้ จะช่วยเปิดเลนที่เคยถูกปิด (เพื่อก่อสร้าง) ทันที
แต่ ถ้าจะพูดกันตามกฎหมาย (จริงๆ) การสั่งให้หยุด หรือ สั่งให้ชลอการก่อสร้าง สิ่งก่อสร้างเหล่านี้ อาจทำไม่ได้ เพราะได้มีการทำสัญญากันไปแล้ว (ผู้รับเหมาคงไม่ยอม)
งั้นคงต้องเอาแบบ ต า ม มี ต า ม เ กิ ด (ก็ได้) โดยถ้าหยุดโครงการที่สร้างไปแล้วไม่ได้เลย
งั้นก็เอาเฉพาะว่า ต่อไปนี้จะยัง ไ ม่ อ นุ มั ติ โ ค ร ง ก า ร ใ ห ม่ (ทั้งหมด) ที่เกี่ยวกับการ ตัดถนน ทางด่วน ทางพิเศษ (เพิ่ม) และ ทางข้าม ทางลอดสี่แยก (เพิ่ม) สร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา (เพิ่ม) เป็นต้น โดยเด็ดขาด
เพื่อสงวนเงิน (งบประมาณใหม่) นี้ เอาไว้ให้เฉพาะสำหรับรถเมล์ (แท้ๆ ล้วนๆ เท่านั้น)
ดังนั้น งบประมาณใหม่ของรถเมล์นี้ ถึงจะช้าไปสักหน่อย (ช้าแต่ชัวร์ (ดีกว่าไม่ได้)
หมายเหตุ ส่วนรถไฟฟ้าไม่ควรหยุด หรือ ชลอการก่อสร้าง และ ควรเร่งๆๆ เพิ่มๆๆ ยิ่งมากยิ่งดี (แต่ถ้าเร่งมากเกิน คลังอาจกระเป๋าฉีกได้) เพราะรถไฟฟ้า เป็นการขนส่งมวลชน เช่นเดียวกับรถเมล์ (แต่เสียตรง แพงกว่ารถเมล์หลายร้อยเท่า)
หมายเหตุ แต่ห้ามเอาเงินที่จะให้รถเมล์ไปใช้กับรถไฟฟ้า เพราะรถเมล์ใช้เงินน้อยอยู่แล้ว (เอาเนื้อหนู ไปปะเนื้อช้างไม่ได้) หนูจะตายหมดเสียก่อน ที่จะปะเนื้อช้างได้เต็ม
สรุป
ถ้านำเงิน ห มื่ น ล้ า น ไปปรับปรุงรถเมล์ จะแก้ปัญหารถได้ทั้งหมด หรือเกือบทั้งหมดภายในเวลา 1 ปี (เพราะรถเมล์ใช้เงินน้อยมากๆ)
ถ้านำเงิน ห มื่ น ล้ า น ไปปรับปรุงรถเก๋ง เช่น ตัดถนนเพิ่ม สร้างทางด่วนเพิ่มสร้างทางพิเศษเพิ่ม หรือ สร้างทางข้าม และ ลอด (สี่แยก) เพิ่ม สร้างแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่ม เป็นต้น จะทำให้ปัญหารถติดเพิ่มมากขึ้น (เหมือนในปัจจุบัน) เพราะรถเก๋ง เปรียบเหมือนโจร (ในแง่จราจร) ดังนั้นจึงเหมือนเอาเงินไปให้โจร
ถ้านำเงิน ห มื่ น ล้ า น ไปสร้างรถไฟฟ้า จะได้รถไฟฟ้ามาไม่กี่สายเท่านั้น จะช่วยบรรเทาปัญหารถติดได้เล็กน้อยเท่านั้น เพราะรถไฟฟ้าใช้เงินมากๆๆๆ (ใช้เงินมากกว่ารถเมล์หลายร้อยเท่า)
แต่ถ้ายังปล่อยให้รถเมล์วิ่งปะปนกับรถเก๋ง เหมือนในปัจจุบัน ถึงจะได้เงิน หมื่นล้าน หรือ แสนล้าน หรือ ล้านล้าน (บาท) มาใช้ปรับปรุงรถเมล์ ซื้อรถเมล์ใหม่ ปรับปรุงป้ายรถเมล์ ทั้งหมด เงิน นี้จะหมดความหมาย ในทันที
เพราะถ้ารถเมล์วิ่งช้าเหมือนในปัจจุบัน จะแก้ปัญหารถติดไม่ได้เลย
แต่ ถึงจะไม่ได้เงิน (หมื่น หรือ แสนล้าน) เลย แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้วิธีในวีดีโอ นี้ (ซึ่งใช้เงินเพียงประมาณ 100 ล้าน เท่านั้น) ก็จะทำให้รถเมล์วิ่งเร็วขึ้นประมาณ 3 เท่า ก็จะทำให้ผู้ใช้รถเก๋งเปลี่ยนมาใช้รถเมล์มากๆๆๆ ได้เช่นกัน (แก้ปัญหารถติดได้เช่นกัน)
สรุป ความเร็ว ของรถเมล์ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด (รถเมล์จะต้องวิ่งเร็วกว่ารถเก๋งมากๆๆ) จึงจะสามารถแก้ปัญหารถติดได้ แต่ถ้าได้เงิน (หมื่น หรือ แสนล้าน) มาใช้กับรถเมล์ด้วย จะยิ่งทำให้รถเมล์น่าใช้มากขึ้น และ แก้ปัญหารถติดเร็วมากขึ้นอีก
ดังนั้น จึงควรหยุดใช้เงินเพื่อปรนเปรอรถเก๋งทันที เพราะ จะยิ่งทำให้รถติดมากขึ้นเรื่อยๆ
รถเมล์ x 3 (ตามวิธีในวีดีโอ ข้างล่างนี้) คืออะไร ? ? ?
รถเมล์วิ่งเร็วขึ้นประมาณ 3 เท่า (จากประมาณ 8 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน เป็น 24 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน) เพราะ วิ่งในช่องบัสเลน และ ติดไฟแดงน้อยลง (ประมาณ 1.24 นาที เท่านั้น)
รถเมล์รับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 3 เท่า เพราะปรกติ (ปัจจุบัน) รถเมล์เคยวิ่ง 1 รอบ ใช้เวลา 60 นาที จะลดลงเหลือ 20 นาที / 1 รอบ เท่านั้น (ในเวลาเร่งด่วน)
ใช้เวลารอรถเมล์ (ที่ป้ายรถเมล์) นานน้อยลง 3 เท่า เพราะเมื่อรถเมล์ วิ่งเร็วขึ้น 3 เท่า (มาถี่ขึ้น 3 เท่า) ทำให้เวลาในการยืนหรือนั่งรอรถเมล์ น้อยลง 3 เท่า
ทำให้อากาศร้อนอบอ้าว (ในรถเมล์ร้อน) ลดลง เพราะรถเมล์วิ่งเร็วขึ้นมากๆ และ เวลาที่รถเมล์จอดติดไฟแดงลดลง เช่น จากที่ปัจจุบันเคยติดไฟแดงประมาณ 3 - 30 นาที / 1 สี่แยก เหลือประมาณ 1.24 นาที / 1 สี่แยก เท่านั้น
จึงทำให้เวลาเฉลี่ย ในการเดินทางทั้งหมดลดลงไปด้วย
จะทำให้เก็บเงินได้มากขึ้นประมาณ 3 เท่า (ในเวลาเร่งด่วน) และ ทำให้รถเมล์มีกำไรได้ เพราะใช้จำนวนรถเมล์เท่าเดิม คนขับและกระเป๋า เท่าเดิม แต่รับคนได้เพิ่มมากขึ้น 3 เท่า ได้เงินเพิ่มขึ้น 3 เท่า (ถึงจะใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น 2 เท่าก็ตาม)
หมายเหตุ สาเหตุที่ใช้น้ำมัน เพิ่มขึ้น (เพียง) ประมาณ 2 เท่า ไม่ใช่ 3 เท่า เพราะเวลารอไฟแดงลดลง และรถเมล์วิ่งเร็วขึ้น จึงทำให้ใช้น้ำมันลดลง จากที่ควรเป็น 3 เท่า เหลือ 2 เท่า(โดยประมาณ)
ดังนั้น จึงทำให้รถเมล์ (ขสมก. และ เอกชน) จากที่เคยขาดทุนมากๆๆ กลับมากำไรมากๆๆ ได้ จึงสามารถนำเงินกำไรนี้ ไปปรับปรุง คุณภาพ และ บริการ รถเมล์ให้ดีขึ้นอีกมากมาย
วงจรบุบาทว์ (รถเมล์เอกชนห่วย ซิ่ง แซง เบียด ด่า)
ที่แก้ไม่ได้มานานหลายสิบปี เกิดจาก "เงิน" ตัวเดียวเท่านั้น โดย
เมื่อ ขสมก. ขาดทุน มากๆ รัฐจึงเปิดสัมปทาน (โยนบาป) ไปให้ให้บริษัทเอกชน ประมูลเส้นทางรถเมล์ (ที่มีกำไรน้อยมากๆๆ)
จากนั้น บริษัทเอกชนนี้ จึงโยนบาป ไปให้ให้คนขับ และ กระเป๋ารถเมล์ โดยการใช้วิธีหักเปอร์เซ็นต์ตั๋ว ที่เก็บได้ (ถ้าเก็บตั๋วโดยสารได้น้อยก็จะได้เงินน้อย ถ้าเก็บตั๋วได้มากก็จะได้เงินมากขึ้น)
จากนั้น คนขับ และ กระเป๋า จึง โยนบาป ไปให้ให้ผู้โดยสาร และ รถในถนน โดยการ ซิ่ง แซง เบียด เพื่อแย่งผู้โดยสาร กับรถเมล์เอกชนด้วยกัน และ กับรถเมล์ของ ขสมก. ด้วย (แต่ก็ยังได้เงินน้อยอยู่ดี) จึงเป็นเหตุให้โชว์เฟอร์ และ กระเป๋า ของรถเมล์เอกชน "เครียด" และ เบื่อหน่าย (ไม่พอใจในอาชีพของเขา) แสดงให้เห็นโดยการพูดจาไม่เพาะกับผู้โดยสาร หรือ ทะเลาะกับผู้โดยสาร หรือ จะเฉี่ยว จะชน กับใครเขาก็ไม่แคร์ เป็นต้น
ดังนั้น จึงเชื่อว่า จะทำให้ผู้ใช้รถเก๋งเปลี่ยนมาใช้รถเมล์ เพิ่มมากขึ้น มากๆๆๆ และ
ทำให้ท้ายแถวรถติดหดสั้นลงมากๆๆๆ ทำให้ปัญหาจราจรลดน้อยลงมากๆๆ ได้ตามต้องการ
เพราะใช้ความเร็วที่มากขึ้น และ บริการที่ดีขึ้น ของรถเมล์นี้ แลกเปลี่ยนกับ ความเป็นส่วน
ตัว ความสะดวกสบาย และ ..... ฯลฯ ในรถเก๋งได้
โดยใช้หลักการ (คำขวัญ) ว่า ถ้าไม่รีบ ให้ใช้รถเก๋ง ต่อไป แต่ถ้ารีบให้เปลี่ยนมา
ใช้รถเมล์
ดูวิธี รถเมล์ x 3 (ในวีดีโอ ข้างล่างนี้) หรือดูข้อมูลเพิ่ม โดยเข้าเว็บพันทิป พิมพ์ "รู้ไว้ใช่
ว่า" เลือกหัวข้อที่เกี่ยวกับ รถเมล์ x 3
(อ่านต่อที่ความคิดเห็นที่ 1)