สวัสดี เพื่อนชาวพันทิพและบลูแพลนเน็ตทุกท่าน นานๆทีจะมีฟีลมาทำรีวิวบ้าง รูปที่ลงมาก็ถ่ายจากกล้องไอโฟน 6 ธรรมดา อาจจะไม่สวยเท่าไหร่ มาเริ่มกันเลยดีกว่าคับ...กับเป้าหมายของเรา จันทบุรี เหตุที่เลือกจังหวัดนี้ เพราะเห็นรีวิวโฮมสเตย์กินปูเลยเกิดความอยาก แต่พอลองเช็คดูแล้วที่ดังๆต้องใช้เวลาจองนานถ้าต้องการพักวันเสาร์ และข้อจำกัดของเราเองคือ ไม่ชอบนอนรวม ขอแบบที่นอนแยก จึงลังเลๆอยู่ จนวันนึงได้มาเห็นรีวิวที่บ้านเรือ รีสอร์ต สถานที่ใช้ได้ เลยใช้เวลาคุยกัน 1 วัน แล้วทำการจองเลย ซึ่งเรามีเวลาเตรียมตัวก่อนเดินทางประมาณ เดือนนิดๆสบาย หาข้อมูลจากอากู๋(กูเกิ้ล) และเดินทางด้วยน้องจี (จีพีเอส) ซึ่งตกลงร่วมทริปกันไป 4 คน โดยพาป๊ะป๋าไปลุยด้วย กับเพื่อนอีก2คน หลังจากหาข้อมูล เห็นแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ น่าไปทั้งนั้น เลยคุยกันว่านอนคืนเดียวคงเที่ยวกันไม่พอ สงสัยคงต้องไหลเพิ่มอีกวัน เลยทำการหาที่พักเพิ่มเน้นพักสบายๆ สวยๆ ชิลๆ ตามสไตล์เรา ก็ได้ที่ Sand Dunes Chaolao Beach Hotel ใกล้ๆกับบ้านเรือ คืนแรกมาเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นไม่นาน บรรดาน้าๆ มีโปรแกรมจะเที่ยวจันทบุรีก็เลยชวนมาเที่ยววันเดียวกัน และพักที่เดียวกันซะเลย ซึ่งน้าๆเห็นรูปที่พัก ก็ตอบตกลง โดยแบ่งเป็นสองคณะ แยกกันเที่ยว แต่พักที่เดียวกัน เพราะบางที่น้าๆเคยมาแล้ว แต่เรามือใหม่สำหรับจันทบุรีมากๆ และแล้ว วันเดินทางก็มาถึง วันเสาร์ปลายเดือนมิถุนายน พร้อมออกเดินทางตั้งแต่แปดโมงเช้า เป้าหมายคือ สะพานปากแม่น้ำแขมหนูแห่งนี้
ออกจากบางนาเข้ามอเตอร์เวย์ จนถึงจุดพักรถ อ่ะแวะซื้อกาแฟ กระตุ้นร่างกายซะหน่อย แต่พอไปถึงร้าน...ไม่ได้เอากระเป๋าตังค์มา ลืมไว้ในรถอีกคัน อ้าวเสร็จเลย มาจนถึงมอเตอร์เวย์ละ จะย้อนกลับไปก็ใช่ที่ ช่างมันมากะป๊ะป๋าซะอย่าง ที่พักก็จ่ายหมดแล้ว เดี๋ยวกลับไปค่อยคืนป๋าละกัน ลุยต่อ....
หลังจากเข้าบ้านบึง ชลบุรีเพื่อจะมายังแกลงระยอง ขับรถมาเรื่อยๆรู้สึกรถเหยียบคันเร่ง 120 แล้วมันกระตุกๆ เอาวะ ช้าหน่อยก็ได้ เหยียบร้อยเดียวพอ ซึ่งก็งง เพราะเพิ่งเช็คระยะที่ศูนย์ไปเมื่อเดือนก่อนเอง ระหว่างนั้นก็โทรถามผู้รู้ ซึ่งเขาแนะนำให้เปลี่ยนไส้กรอง ก็กะว่าเดี๋ยวทางผ่าน ถ้าเจอศูนย์ค่อยเข้าไปเปลี่ยนละกัน เพราะรถยังวิ่งได้ ไม่เป็นไร ไปช้าหน่อย ระหว่างทางค่อยแวะหาอะไรกินกันมื้อสาย แต่หลังจากออกจากเส้นนั้นมา เลี้ยวเข้าเมืองแกลง บนนถนนหลวงหมายเลข 3 รถก็เริ่มเร่งไม่ขึ้น เอาล่ะสิ สุดท้ายต้องจอดข้างทาง เพราะเร่งไม่ไป เลยโทรเรียกศูนย์โชคดีที่อยู่ห่างไปประมาณ 2 กิโล เอารถมาลากและทำการตรวจเช็ค ซึ่งสาเหตุคือมาจากน้ำมันที่เติมสกปรกมีตะกอนเยอะจนไปอุดไส้กรอง ทำให้ไม่จ่ายน้ำมัน ต้องเปลี่ยนไส้กรองและล้างถัง ใช้เวลาไม่นาน ประมาณชั่วโมง แต่โชคร้ายคือขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงตรง พนักงานเขาพักกินข้าว เริ่มทำอีกทีก็บ่ายโมง เราเลยได้แต่กินมาม่าที่ศูนย์เขารอไป

หลังจากบ่ายโมง ช่างก็จัดการคืนสภาพรถให้เรียบร้อยใช้เวลาชม.นิดๆ ค่าเสียหาย 2,300 บาท อืมมมมม จัดไป พอออกจากศูนย์ก็ตรงไปเข้าปั๊มจัดการเติมน้ำมันใหม่เต็มถัง ซึ่งกำหนดการเราคือน่าจะถึงที่พักตั้งกะเที่ยง ซึ่งเราซื้อแพคเกจที่พักรวมอาหาร 3 มื้อ ปกติเขาคิดหัวละ 2,000 บาท แต่อย่างที่บอก เราเน้นสะดวกสบาย ไม่นอนรวม ขอนอนแยกห้อง ห้องละ 2 คน เลยเสียเพิ่มอีกคนละ 300 เป็นหัวละ 2,300 บาท จำนวน 4 ห้อง 8 คน รวมอาหาร ที่พัก และที่นี่ถ้ามีกรุ๊ปเข้า 10 คน เขาจะมีแพเปียกให้นั่งเล่น ซึ่งคนที่ซื้อแพคเกจรวมอาหารนี้จะสามารถลงแพไปเล่นกะเขาได้ ซึ่งกำหนดคือ บ่ายสาม มองดูเวลา ขณะนี้บ่ายสองโมงกว่าๆแล้ว ไม่น่าจะทัน เข้าปั๊มเติมน้ำมันซื้อของกินรองท้องกันนิดหน่อย ก็รีบเหยียบตรงไปเส้นหาดเจ้าหลาวเลยทันที โดยแจ้งทางที่พักว่าคงถึงช้า รถเสีย ให้เก็บมื้อเที่ยงไว้ให้ที ส่วนน้าๆทั้งสี่น่ะเหรอ ไปถึงตั้งกะสิบโมงกว่า เที่ยวสักพักฝนลงหนักเลยเข้าที่พักตั้งกะเที่ยง กินข้าวเรียบร้อย รอเล่นแพเปียกสบายใจ
หลังจากรีบเร่งมาตามทาง ก็มาถึงที่พักจนได้ สิ่งแรกที่เห็นหลังจากลงจากรถก็คือ.....
แพเปียกกำลังออกไป โอ้วววว นี่มันวันอะไร น้าๆโบกไม้โบกมือ จะขึ้นไหมๆ แต่ดูทรงแล้ว ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ที่พักยังไม่ได้เข้า ไม่ไปลงแพละกัน ไปกินข้าวก่อนดีกว่า ซึ่งทางที่พักดีมาก เขาทำกับข้าวให้เราใหม่ๆ กินกันร้อนๆเลย ไม่ใช่กับข้าวเหลือๆที่เขาเก็บไว้ นับว่าเป็นความประทับใจแรกที่มาถึงเลย

อาหารรสชาติดี พยายามบอกกับเพื่อนว่า อย่ากินหนัก มื้อเย็นรออยู่ อีก 2 ชม.เอง ท่องไว้ รองท้องๆๆๆ หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็รับกุญแจ เช็คอินไปยังห้อง

ซึ่งห้องเราจองไว้ชั้น 2 ลักษณะรีสอร์ทเป็นพื้นที่ติดเชิงเขา ด้านหน้าติดแม่น้ำมีสะพานพาดผ่าน สามารถเอารถไปจอดหน้าที่พักด้านบนได้ หรือจะจอดข้างล่างแล้วเดินขึ้นมาก็ไม่ลำบาก เขาทำทางบันไดขึ้นไม่ชันเลย เดินง่ายสะดวก คนมีอายุสบาย เอ้าอิ่มแล้วก็เข้าห้อง ซึ่งเราจองไว้เป็นห้องคู่ระเบียงต่อกัน

เปิดเข้ามา ห้องดูสะอาดเรียบร้อย เป๊ะๆเหมือนในเว็บที่ดู อย่างที่บอกเราชอบสบายๆ ห้องน้ำห้องท่าสะดวก แยกส่วนเปียก ส่วนแห้งอย่างดี มีเรนชาวเวอร์ด้วย เตียงใหญ่นอนสบาย ทีวีมีกล่องรับดูได้หลายช่องตามกล่อง เปิดประตูกระจกออกมาเป็นระเบียงต่อกันกับห้องเพื่อนเรา มีโซฟาสองชุด พัดลม 1 ตัว ติดเพดาน โต๊ะทานอาหาร 2 ชุด และแอร์อีก 1 ตัว ซึ่งระเบียงเป็นหน้าต่างกระจกรอบ สามารถชมวิวและตากแอร์ได้แบบสบายๆ ซึ่งเราชอบมาก เพราะสองห้องจะได้มาจอยกันได้ ไม่ใช่พอเข้าห้องก็อยู่แค่สองคน ส่วนที่พักน้าก็หลังถัดไป แบบเดียวกัน ซึ่งหลังจากสำรวจห้องอันเป็นที่น่าประทับใจ กว้างขวาง น่าพักผ่อน ก็เรื่มดูวิวจากห้องพักกันบ้าง

สวย สบายตา สบายกายเปิดแอร์เย็นฉ่ำ เดินเข้าเดินออก หลังจากนั้นพวกน้าๆและแพเปียกก็กลับมากัน ก็ทักทาย ถามไถ่กันเป็นที่เรียบร้อย เตรียมตัวใกล้ๆหกโมงเย็น ลงไปสำรวจสถานที่ ถ่ายรูปเล่นก่อนกินข้าว ซึ่งด้านล่างนั้นมีสระว่ายน้ำ ขนาดกำลังดี พร้อมซาวน่า และที่พักแบบที่ทำจากเรือจริงๆ แต่ถ่ายรูปกันได้ไม่นาน ฝนก็เทลงมาเบาๆ เราเลยเข้าไปที่ห้องอาหาร ซึ่งแขกก็ทยอยลงมาทานมื้อเย็นกันพอดี
[CR] ทริป 3 วัน 2 คืน ไปนอนฟิน กินปู ดูธรรมชาติ จันทบุรี
สวัสดี เพื่อนชาวพันทิพและบลูแพลนเน็ตทุกท่าน นานๆทีจะมีฟีลมาทำรีวิวบ้าง รูปที่ลงมาก็ถ่ายจากกล้องไอโฟน 6 ธรรมดา อาจจะไม่สวยเท่าไหร่ มาเริ่มกันเลยดีกว่าคับ...กับเป้าหมายของเรา จันทบุรี เหตุที่เลือกจังหวัดนี้ เพราะเห็นรีวิวโฮมสเตย์กินปูเลยเกิดความอยาก แต่พอลองเช็คดูแล้วที่ดังๆต้องใช้เวลาจองนานถ้าต้องการพักวันเสาร์ และข้อจำกัดของเราเองคือ ไม่ชอบนอนรวม ขอแบบที่นอนแยก จึงลังเลๆอยู่ จนวันนึงได้มาเห็นรีวิวที่บ้านเรือ รีสอร์ต สถานที่ใช้ได้ เลยใช้เวลาคุยกัน 1 วัน แล้วทำการจองเลย ซึ่งเรามีเวลาเตรียมตัวก่อนเดินทางประมาณ เดือนนิดๆสบาย หาข้อมูลจากอากู๋(กูเกิ้ล) และเดินทางด้วยน้องจี (จีพีเอส) ซึ่งตกลงร่วมทริปกันไป 4 คน โดยพาป๊ะป๋าไปลุยด้วย กับเพื่อนอีก2คน หลังจากหาข้อมูล เห็นแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ น่าไปทั้งนั้น เลยคุยกันว่านอนคืนเดียวคงเที่ยวกันไม่พอ สงสัยคงต้องไหลเพิ่มอีกวัน เลยทำการหาที่พักเพิ่มเน้นพักสบายๆ สวยๆ ชิลๆ ตามสไตล์เรา ก็ได้ที่ Sand Dunes Chaolao Beach Hotel ใกล้ๆกับบ้านเรือ คืนแรกมาเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นไม่นาน บรรดาน้าๆ มีโปรแกรมจะเที่ยวจันทบุรีก็เลยชวนมาเที่ยววันเดียวกัน และพักที่เดียวกันซะเลย ซึ่งน้าๆเห็นรูปที่พัก ก็ตอบตกลง โดยแบ่งเป็นสองคณะ แยกกันเที่ยว แต่พักที่เดียวกัน เพราะบางที่น้าๆเคยมาแล้ว แต่เรามือใหม่สำหรับจันทบุรีมากๆ และแล้ว วันเดินทางก็มาถึง วันเสาร์ปลายเดือนมิถุนายน พร้อมออกเดินทางตั้งแต่แปดโมงเช้า เป้าหมายคือ สะพานปากแม่น้ำแขมหนูแห่งนี้
ออกจากบางนาเข้ามอเตอร์เวย์ จนถึงจุดพักรถ อ่ะแวะซื้อกาแฟ กระตุ้นร่างกายซะหน่อย แต่พอไปถึงร้าน...ไม่ได้เอากระเป๋าตังค์มา ลืมไว้ในรถอีกคัน อ้าวเสร็จเลย มาจนถึงมอเตอร์เวย์ละ จะย้อนกลับไปก็ใช่ที่ ช่างมันมากะป๊ะป๋าซะอย่าง ที่พักก็จ่ายหมดแล้ว เดี๋ยวกลับไปค่อยคืนป๋าละกัน ลุยต่อ....
หลังจากเข้าบ้านบึง ชลบุรีเพื่อจะมายังแกลงระยอง ขับรถมาเรื่อยๆรู้สึกรถเหยียบคันเร่ง 120 แล้วมันกระตุกๆ เอาวะ ช้าหน่อยก็ได้ เหยียบร้อยเดียวพอ ซึ่งก็งง เพราะเพิ่งเช็คระยะที่ศูนย์ไปเมื่อเดือนก่อนเอง ระหว่างนั้นก็โทรถามผู้รู้ ซึ่งเขาแนะนำให้เปลี่ยนไส้กรอง ก็กะว่าเดี๋ยวทางผ่าน ถ้าเจอศูนย์ค่อยเข้าไปเปลี่ยนละกัน เพราะรถยังวิ่งได้ ไม่เป็นไร ไปช้าหน่อย ระหว่างทางค่อยแวะหาอะไรกินกันมื้อสาย แต่หลังจากออกจากเส้นนั้นมา เลี้ยวเข้าเมืองแกลง บนนถนนหลวงหมายเลข 3 รถก็เริ่มเร่งไม่ขึ้น เอาล่ะสิ สุดท้ายต้องจอดข้างทาง เพราะเร่งไม่ไป เลยโทรเรียกศูนย์โชคดีที่อยู่ห่างไปประมาณ 2 กิโล เอารถมาลากและทำการตรวจเช็ค ซึ่งสาเหตุคือมาจากน้ำมันที่เติมสกปรกมีตะกอนเยอะจนไปอุดไส้กรอง ทำให้ไม่จ่ายน้ำมัน ต้องเปลี่ยนไส้กรองและล้างถัง ใช้เวลาไม่นาน ประมาณชั่วโมง แต่โชคร้ายคือขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงตรง พนักงานเขาพักกินข้าว เริ่มทำอีกทีก็บ่ายโมง เราเลยได้แต่กินมาม่าที่ศูนย์เขารอไป
หลังจากบ่ายโมง ช่างก็จัดการคืนสภาพรถให้เรียบร้อยใช้เวลาชม.นิดๆ ค่าเสียหาย 2,300 บาท อืมมมมม จัดไป พอออกจากศูนย์ก็ตรงไปเข้าปั๊มจัดการเติมน้ำมันใหม่เต็มถัง ซึ่งกำหนดการเราคือน่าจะถึงที่พักตั้งกะเที่ยง ซึ่งเราซื้อแพคเกจที่พักรวมอาหาร 3 มื้อ ปกติเขาคิดหัวละ 2,000 บาท แต่อย่างที่บอก เราเน้นสะดวกสบาย ไม่นอนรวม ขอนอนแยกห้อง ห้องละ 2 คน เลยเสียเพิ่มอีกคนละ 300 เป็นหัวละ 2,300 บาท จำนวน 4 ห้อง 8 คน รวมอาหาร ที่พัก และที่นี่ถ้ามีกรุ๊ปเข้า 10 คน เขาจะมีแพเปียกให้นั่งเล่น ซึ่งคนที่ซื้อแพคเกจรวมอาหารนี้จะสามารถลงแพไปเล่นกะเขาได้ ซึ่งกำหนดคือ บ่ายสาม มองดูเวลา ขณะนี้บ่ายสองโมงกว่าๆแล้ว ไม่น่าจะทัน เข้าปั๊มเติมน้ำมันซื้อของกินรองท้องกันนิดหน่อย ก็รีบเหยียบตรงไปเส้นหาดเจ้าหลาวเลยทันที โดยแจ้งทางที่พักว่าคงถึงช้า รถเสีย ให้เก็บมื้อเที่ยงไว้ให้ที ส่วนน้าๆทั้งสี่น่ะเหรอ ไปถึงตั้งกะสิบโมงกว่า เที่ยวสักพักฝนลงหนักเลยเข้าที่พักตั้งกะเที่ยง กินข้าวเรียบร้อย รอเล่นแพเปียกสบายใจ
หลังจากรีบเร่งมาตามทาง ก็มาถึงที่พักจนได้ สิ่งแรกที่เห็นหลังจากลงจากรถก็คือ.....
แพเปียกกำลังออกไป โอ้วววว นี่มันวันอะไร น้าๆโบกไม้โบกมือ จะขึ้นไหมๆ แต่ดูทรงแล้ว ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ที่พักยังไม่ได้เข้า ไม่ไปลงแพละกัน ไปกินข้าวก่อนดีกว่า ซึ่งทางที่พักดีมาก เขาทำกับข้าวให้เราใหม่ๆ กินกันร้อนๆเลย ไม่ใช่กับข้าวเหลือๆที่เขาเก็บไว้ นับว่าเป็นความประทับใจแรกที่มาถึงเลย
อาหารรสชาติดี พยายามบอกกับเพื่อนว่า อย่ากินหนัก มื้อเย็นรออยู่ อีก 2 ชม.เอง ท่องไว้ รองท้องๆๆๆ หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็รับกุญแจ เช็คอินไปยังห้อง
ซึ่งห้องเราจองไว้ชั้น 2 ลักษณะรีสอร์ทเป็นพื้นที่ติดเชิงเขา ด้านหน้าติดแม่น้ำมีสะพานพาดผ่าน สามารถเอารถไปจอดหน้าที่พักด้านบนได้ หรือจะจอดข้างล่างแล้วเดินขึ้นมาก็ไม่ลำบาก เขาทำทางบันไดขึ้นไม่ชันเลย เดินง่ายสะดวก คนมีอายุสบาย เอ้าอิ่มแล้วก็เข้าห้อง ซึ่งเราจองไว้เป็นห้องคู่ระเบียงต่อกัน
เปิดเข้ามา ห้องดูสะอาดเรียบร้อย เป๊ะๆเหมือนในเว็บที่ดู อย่างที่บอกเราชอบสบายๆ ห้องน้ำห้องท่าสะดวก แยกส่วนเปียก ส่วนแห้งอย่างดี มีเรนชาวเวอร์ด้วย เตียงใหญ่นอนสบาย ทีวีมีกล่องรับดูได้หลายช่องตามกล่อง เปิดประตูกระจกออกมาเป็นระเบียงต่อกันกับห้องเพื่อนเรา มีโซฟาสองชุด พัดลม 1 ตัว ติดเพดาน โต๊ะทานอาหาร 2 ชุด และแอร์อีก 1 ตัว ซึ่งระเบียงเป็นหน้าต่างกระจกรอบ สามารถชมวิวและตากแอร์ได้แบบสบายๆ ซึ่งเราชอบมาก เพราะสองห้องจะได้มาจอยกันได้ ไม่ใช่พอเข้าห้องก็อยู่แค่สองคน ส่วนที่พักน้าก็หลังถัดไป แบบเดียวกัน ซึ่งหลังจากสำรวจห้องอันเป็นที่น่าประทับใจ กว้างขวาง น่าพักผ่อน ก็เรื่มดูวิวจากห้องพักกันบ้าง
สวย สบายตา สบายกายเปิดแอร์เย็นฉ่ำ เดินเข้าเดินออก หลังจากนั้นพวกน้าๆและแพเปียกก็กลับมากัน ก็ทักทาย ถามไถ่กันเป็นที่เรียบร้อย เตรียมตัวใกล้ๆหกโมงเย็น ลงไปสำรวจสถานที่ ถ่ายรูปเล่นก่อนกินข้าว ซึ่งด้านล่างนั้นมีสระว่ายน้ำ ขนาดกำลังดี พร้อมซาวน่า และที่พักแบบที่ทำจากเรือจริงๆ แต่ถ่ายรูปกันได้ไม่นาน ฝนก็เทลงมาเบาๆ เราเลยเข้าไปที่ห้องอาหาร ซึ่งแขกก็ทยอยลงมาทานมื้อเย็นกันพอดี