สวัสดีครับทุก ๆ ท่าน
ตอนบ่ายแก่ ๆ เพื่อนบ้านกลับมาจากบ้านสวนที่เชียงราย อุตสาห์มีน้ำใจหิ้วของฝากมาให้เป็นฟักหอมลูกกลมหนึ่งลูกกับหน่อไม้สดหนึ่งหน่อ มื้อเย็นวันนี้ก็เลยต้องนำของฝากมาแปลงเป็นเมนูวันนี้กันครับ
ลูกใหญ่พอสมควรเลยครับเมื่อเทียบกับขวดน้ำดื่มขวดเล็ก
ฟักแบบนี้ไม่เคยกินซะด้วยเพราะเดินตลาดทั่วไปก็จะเจอแต่ฟักเขียวไม่ก็เป็นแฟง
ลองถามอากู๋ดู เขาว่าเปลือกหนาเหนียว มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ต้มแล้วเนื้อยุ่ยกว่าฟักทั่วไปแต่เละยาก ชักจะงง ๆ ว่ามันเป็นยังไงแน่
ได้เวลามื้อเย็นก็เลยมาพิสูจน์กันครับ ผ่าครึ่งก่อน แล้วค่อยผ่าเอามาทำกับข้าวแค่เสี้ยวเดียว ผ่ายากพอสมควรเพราะเปลือกหนาและเหนียว กลิ่นฉุนเหม็นเขียวน้อย ๆ มาจากเปลือก แต่เนื้อกลับหอมอ่อน ๆ กว่าฟักเขียวทั่วไป
ได้เวลาท่าน ผบ.ก็จัดการจี่ไก่กับน้ำมันในหม้อเพื่อให้มีกลิ่นหอมก่อน แล้วค่อยตักน้ำซุปของในร้านเติมลงไป
รอจนน้ำเดือดก็ค่อยใส่ฟัก ตามด้วยเห็ดหอมนิดหน่อย แล้วก็ค่อยใส่พริกไทยเม็ดโขลกหยาบ ๆ หรี่ไฟอ่อน ๆ ตุ๋นไปซักสิบกว่านาที
กลิ่นหอมดีครับ รอจนเนื้อฟักเริ่มใสก็แสดงว่าใช้ได้แล้ว
จากนั้นผมก็ทำการเจียวไข่ใส่แหนม โดยยีเเหนมให้ละเอียดปานหมูสับ ครั้นจะกินเลยก็จืดไปหน่อย ท่าน ผบ.เลยเอาเครื่องเคียงของข้าวคลุกกะปิที่ใช้เหลือมาจัดการทำเป็นยำเพื่อเพิ่มความแซ่บของมื้ออาหารขึ้นมาหน่อย
รวมร่างได้เป็นมื้อเย็นของวันนี้
เนื้อฟักมันออกยุ่ย ๆ ในปากจริง กินแล้วรู้สึกเหมือนว่าเคยกินพวกฟักตุ๋นตามร้านขาหมู ร้านข้าวมันไก่ เจ้าดัง ๆ ที่เขามีเมนูฟักตุ๋นใส่โถแยกขายเลย อธิบายไม่ถูกแต่รู้ว่าเทคเจอร์รสสัมผัสในปากต่างกับฟักเขียวทั่วไปอยู่นะ
ใช้เวลาไม่นานก็เรียบร้อย อิ่มไปอีกมื้อครับ
เดี๋ยวคงต้องคิดหาเมนูเพื่อกำจัดฟักหอมและหน่อไม้ ไม่ให้เสียของกันอีกหลายมื้อแน่ ๆ
ขอขอบคุณที่เข้ามาชม เข้ามาทักทาย
พบกันใหม่โอกาสหน้าครับ สวัสดี
น้า Low Batt :: ต้มฟักหอมลูกกลม & ยำไข่เจียวแหนม
ตอนบ่ายแก่ ๆ เพื่อนบ้านกลับมาจากบ้านสวนที่เชียงราย อุตสาห์มีน้ำใจหิ้วของฝากมาให้เป็นฟักหอมลูกกลมหนึ่งลูกกับหน่อไม้สดหนึ่งหน่อ มื้อเย็นวันนี้ก็เลยต้องนำของฝากมาแปลงเป็นเมนูวันนี้กันครับ
ลูกใหญ่พอสมควรเลยครับเมื่อเทียบกับขวดน้ำดื่มขวดเล็ก
ฟักแบบนี้ไม่เคยกินซะด้วยเพราะเดินตลาดทั่วไปก็จะเจอแต่ฟักเขียวไม่ก็เป็นแฟง
ลองถามอากู๋ดู เขาว่าเปลือกหนาเหนียว มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ต้มแล้วเนื้อยุ่ยกว่าฟักทั่วไปแต่เละยาก ชักจะงง ๆ ว่ามันเป็นยังไงแน่
ได้เวลามื้อเย็นก็เลยมาพิสูจน์กันครับ ผ่าครึ่งก่อน แล้วค่อยผ่าเอามาทำกับข้าวแค่เสี้ยวเดียว ผ่ายากพอสมควรเพราะเปลือกหนาและเหนียว กลิ่นฉุนเหม็นเขียวน้อย ๆ มาจากเปลือก แต่เนื้อกลับหอมอ่อน ๆ กว่าฟักเขียวทั่วไป
ได้เวลาท่าน ผบ.ก็จัดการจี่ไก่กับน้ำมันในหม้อเพื่อให้มีกลิ่นหอมก่อน แล้วค่อยตักน้ำซุปของในร้านเติมลงไป
รอจนน้ำเดือดก็ค่อยใส่ฟัก ตามด้วยเห็ดหอมนิดหน่อย แล้วก็ค่อยใส่พริกไทยเม็ดโขลกหยาบ ๆ หรี่ไฟอ่อน ๆ ตุ๋นไปซักสิบกว่านาที
กลิ่นหอมดีครับ รอจนเนื้อฟักเริ่มใสก็แสดงว่าใช้ได้แล้ว
จากนั้นผมก็ทำการเจียวไข่ใส่แหนม โดยยีเเหนมให้ละเอียดปานหมูสับ ครั้นจะกินเลยก็จืดไปหน่อย ท่าน ผบ.เลยเอาเครื่องเคียงของข้าวคลุกกะปิที่ใช้เหลือมาจัดการทำเป็นยำเพื่อเพิ่มความแซ่บของมื้ออาหารขึ้นมาหน่อย
รวมร่างได้เป็นมื้อเย็นของวันนี้
เนื้อฟักมันออกยุ่ย ๆ ในปากจริง กินแล้วรู้สึกเหมือนว่าเคยกินพวกฟักตุ๋นตามร้านขาหมู ร้านข้าวมันไก่ เจ้าดัง ๆ ที่เขามีเมนูฟักตุ๋นใส่โถแยกขายเลย อธิบายไม่ถูกแต่รู้ว่าเทคเจอร์รสสัมผัสในปากต่างกับฟักเขียวทั่วไปอยู่นะ
ใช้เวลาไม่นานก็เรียบร้อย อิ่มไปอีกมื้อครับ
เดี๋ยวคงต้องคิดหาเมนูเพื่อกำจัดฟักหอมและหน่อไม้ ไม่ให้เสียของกันอีกหลายมื้อแน่ ๆ
ขอขอบคุณที่เข้ามาชม เข้ามาทักทาย
พบกันใหม่โอกาสหน้าครับ สวัสดี