หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (12)...พี่ชายที่รัก

กระทู้คำถาม
หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (12)...พี่ชายที่รัก            
 
            ดวงเนตรเตรียมของที่จะทำกับข้าวไปทำที่ห้องพี่น้อย ปล่อยให้พี่หนอยนอนต่อไม่ปลุกประตูห้องยังเปิดคาไว้ 
            “พี่น้อยคะทำผัดกะเพรา ไข่ดาวคนละฟองนะคะ”
            “ดีจังกำลังอยากทานอยู่พอดี”
            “อ้าว! แล้วหนอยล่ะ”
            “เนตรให้นอนก่อนยังไม่ปลุกเขาคงเหนื่อย”
            “เนตรจวนเสร็จแล้วใช่ไหม ข้าวพี่น้อยก็หุงไว้แล้ว”
            “งั้นพี่แวะไปดูหน่อยเผื่อเขาตื่นแล้ว”
            “ค่ะ ๆ ”  พี่น้อยเดินมาเจอน้าวิวตรงมุมห้องพอดี เธอชวนทานข้าว แต่น้าวิวบอกว่าสั่งพิซซ่ามาทาน ไม่ต้องห่วง  พี่น้อยดึงมือน้าวิวมาแล้วยกนิ้วขึ้น
จุ๊ปาก เป็นสัญณาณให้เงียบไว้ แล้วตรงไปห้องดวงเนตร ห้องเปิดค้างอยู่ เห็นคนสร้างปัญหานอนหนุนหมอนหลับสนิท พี่สองคนมองหน้ากันแล้วส่ายหัว
พี่น้อยดึงมือน้าวิวออกมาคุยเบา ๆ ข้างนอก
            “จะเอาไงดีล่ะ น้องหนูเขาวางตัวดี แต่เจ้านี้มันกะล่อนเหมือนเดิม”
            “เขาคิดอะไรกันรึเปล่าพี่น้อย”
            “ดวงเนตรไม่คิดหรอกพี่น้อยรับประกัน”
            “เธอมีแต่ตั้งใจเรียนให้จบ ตามที่สัญญากับเตี่ย แต่คนของเราน่ะคิดอยู่”
            “บอกดวงเนตรดีกว่านะ พี่น้อยจะได้ไม่มีใครต้องเจ็บ”
            “ค่ะ พี่เห็นด้วย” น้าวิวขอตัวกลับไปก่อน พี่น้อยเข้าไปในห้องอีกรอบปลุกหนอยให้ไปกินข้าว
            “ไปกินข้าวได้แล้วหนอย” เขาบิดตัวไปมา แล้วลุกขึ้น ขอพี่น้อยเข้าไปล้างหน้า
            “เอ้า! นี่ผ้าเช็ดหน้า ไป ๆ เดี๋ยวข้าวเย็นหมด”
            
            ทั้งสองคนมาถึงห้อง ดวงเนตรเอาผ้าปู แล้วจัดอาหารไว้รอเรียบร้อยแล้ว
            “สุดยอด หอมจริง น้ำลายไหลแล้ว” หนอยส่งเสียง
            “เบา ๆ  จ้ะ นักเรียนส่วนใหญ่เขากลับเข้ามาอยู่หอพักเยอะแล้วนะ ดังรบกวนเขาค่ะ”
            “คร้าบพี่น้อย”  แล้วมื้อเย็นก็เสร็จเรียบร้อย ไม่เหลือเลยทั้งข้าวและกับ
            “ฟ้าเริ่มมืดแล้ว เตรียมกลับเถอะ พี่น้อยเป็นห่วงค่ะ”
            “ขอบคุณสำหรับอาหารเลิศรส ไปก่อนนะครับ...บ๊ายบาย”
             
            “เนตรมีเวลาไหมคะ”
            “มีค่ะ ทำไมคะ”
            “น้าวิวอยากคุยด้วยน่ะ ไป ๆ ด้วยกัน ค่ะ” ดวงเนตรกำลังจะเจอปัญหาอะไรนะ?
            “น้าวิวเรียกหาเนตรเหรอคะ”
            “จ๊ะ เนตรเข้ามาข้างในก่อน นี่ชาร้อนลองชิมดู น้าวิวซื้อตอนไปเที่ยวเซนหลุยส์ หอมมากเลย” 
            “หอมมากค่ะ”
            “น้าขอถามเนตรตรง ๆ เลยนะ”
            “ค่ะ” เธอมองหน้าน้าวิว  ดวงตาใสไม่มีอะไรแอบแฝงเลยสักนิด
            “เนตรคิดอย่างไรกับพี่หนอย”
            “เขาใจกว้าง และให้ความช่วยเหลือเนตรดีมาก เนตรเป็นลูกคนโต ถ้าเป็นไปได้ เนตรอยากได้พี่หนอยเป็นพี่ชาย ทำไมเหรอคะ”
            “น้าวิวจะเล่าให้ฟังนะ หนอยเขามีคู่หมั้นแล้ว”  ดวงเนตรดูแปลกใจ แต่น้าวิวไม่เห็นการแสดงออกว่าเสียใจ หรือผิดหวังอะไรจากสีหน้าดวงเนตร
เลย
            “ที่ต้องมายุ่ง คือหนอยมีคู่หมั้นแล้ว เป็นญาติห่าง ๆ ของน้า” ดวงเนตรยิ้มตาใสให้น้าวิว
            “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ เนตรต้องไม่ทำให้เตี่ยผิดหวังเรื่องอื่นยังไม่เคยคิด  ส่วนพี่หนอยเป็นได้แค่พี่ชายค่ะ” ได้ยินเสียงถอนใจอย่างโล่งอกจาก
น้าวิว
            “ถ้าของที่มีเจ้าของแล้วเนตรไม่ยุ่งเด็ดขาด เนตรไม่ต้องการเป็นมือที่สามที่ทำให้ความรักของใครร้าวฉาน มันเป็นบาปค่ะ”
            “น้าวิวเข้าใจเนตรดีแค่ต้องการความมั่นใจ” เสียงพูดเครือ
            “อย่าห่วงเลยค่ะ เนตรจะเคลียร์เรื่องนี้กับพี่หนอยเอง” น้าวิวเข้ามากอด เธอรู้สึกได้ว่าน้าวิวกำลังร้องให้ เธอพลาดไปที่พูดประโยคที่มีคำว่ามือที่
สาม เพราะเท่ากับไปสะกิดแผลที่แห้งให้เจ็บปวดอีก เป็นครั้งแรกที่น้าวิวน้ำตาไหลริน ใช่! ความเจ็บปวดที่ฝั่งรากลึก มันไม่หายไปจากความทรงจำ
ได้ง่าย ๆ ดังที่หลายคนพูดปลอบโยนผู้สูญเสียและเจ็บปวด  แผลนั้นยังคงอยู่และอาจเป็นเช่นนั้นตลอดไป  
            “ขอโทษที...น้าวิวนี่อ่อนแอจริง ๆ ”
            “ไม่หรอกค่ะ ถ้าเราร้องไห้แล้วความเจ็บปวดมันเบาบางลงก็ทำเถอะค่ะ  ดวงเนตรรักและเคารพน้าวิวนะคะ” ดวงเนตรเปลี่ยนไปชวนคุยเรื่องอื่น
สักครู่ เหมือนน้าวิวจะค่อยสบายใจขึ้น  เธอจึงขอตัวไปอาบน้ำ

            ดวงเนตรต่อหน้าน้าวิวดูเฉยๆ แต่กลับถึงห้อง...เธอก็อดแปลกใจตัวเองที่ลึก ๆ ก็หวั่นไหวไปกับหนอย ด้วยว่าเขาเข้ากับทุกคนง่ายและ
ช่วยให้เนตรสบายใจ และอุ่นใจเมื่อได้ใกล้ชิด เธอคิดว่าหยุดเพียงนี้คงดีกว่าสำหรับทุกคน
 
            วันนี้เป็นวันแรกของการลงทะเบียน พี่น้อยตื่นแต่เช้า กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็เกือบเที่ยง เธอแวะมาที่ห้องดวงเนตร เสียงเคาะประตู ดวงเนตร
เองกำลังดูทีวีอยู่
            “สักครู่ค่ะ”  ประตูเปิด..พี่น้อยเดินเข้ามาทักทาย
            “กำลังดูทีวีเหรอคะ”
            “ค่ะ” อีกหน่อยจะได้พูดเก่งอย่างพี่ ๆ เขา” 
            “เมื่อคืนเป็นไง”  
            “เรียบร้อยค่ะ ไม่มีอะไรในกอไผ่”
            “ดีแล้วล่ะ มาแวะหาจะบอกว่าพรุ่งนี้เราไปกันแต่เช้า เนตรจะได้ลงทะเบียนเสร็จเร็ว ๆ  พี่น้อยไปเป็นพี่เลี้ยงนะ ต้องให้เนตรทำเอง ถ้ามีปัญหา
จริง ๆ ถึงจะช่วย O.K! “
            “ทราบแล้วค่ะ “
 
            เสียงเคาะประตูดังอีกครั้งใกล้จะบ่ายสามโมง
            “เดี๋ยวนะค่ะ” ดวงเนตรวิ่งไปเปิด พี่หนอยรีบยื่นหน้าเข้ามา  
            “แวะมาหาวิศาลเลยมาดูน้อง ๆ หน่อยว่า สบายดีไหม” พี่หนอยอ้าง ยิ้มหวานให้ดวงเนตร
            “มาก็ดีแล้ว เข้ามาเลยค่ะ เดี๋ยวเนตรจะชงกาแฟให้พี่ชายเนตรกิน”
            “ใครเหรอ พี่ชายเนตรน่ะ” พี่หนอยไม่รู้ว่าคนสวยของพี่หนอยจะมาไม้ไหนวันนี้
            “ก็พี่หนอยไง นะคะเป็นพี่ชายให้เนตรนะ เนตรเป็นพี่คนโตแต่เนตรอยากมีพี่ชายที่แสนน่ารักอย่างพี่หนอยนะคะ” เสียงอ้อนของดวงเนตรกับตา
ใสซื่อ
            “ไม่เป็นพี่ไม่ได้เหรอ อยากเป็นอย่างอื่นน่ะ” ดวงเนตรเอาเก้าอี้มาให้พี่หนอยนั่งใกล้ ๆ เธอ ส่วนตัวเองนั่งที่ปลายเตียง ประตูห้องยังเปิดเหมือน
เดิม
            “พี่หนอยฟังเนตรนะคะ ที่จะพูดเพราะรักพี่หนอยเหมือนพี่ชาย เนตรอยากเคลียร์ให้เข้าใจกัน เราสองคนจะได้ไม่มีใครเจ็บปวด” หนอยดูเหมือน
จะเริ่มเข้าใจ เขานิ่งดวงตาดูเศร้าลงนั้นทำให้ดวงเนตรเศร้าไปด้วย
            “เนตรคุยกับน้าวิวแล้วเมื่อวาน” ‘นั้นไง’ หนอยคิด แต่เงียบ
            “พี่หนอยทำตัวให้ดีได้เนตรเชื่อ และคนที่อยู่คู่กับพี่หนอย คนนั้นคือคนที่โชคดี พี่หนอยต้องรักเขาให้มาก ๆ  ร่วมกันสร้างครอบครัวที่แข็งแรง
กับพี่เดือน...เดือนนภา แม้เขาอยู่ไกล แต่เขารักและเป็นห่วงพี่มากนะคะ” สายตาวิงวอนมองตรงมาที่หนอย
            สุดท้ายดวงเนตรก็รู้เรื่องคู่หมั้นของเขา แม้การหมั้นนั้นมาจากการตกลงของผู้ใหญ่ก็ตาม ไม่มีใครเคยถามชายหนุ่มถึงความรู้สึกเลย ดวงตา
หนอยออกแดง หัวใจเหน็บหนาว กับคำปฏิเสธของดวงเนตร กาแฟหอมกรุ่นถูกส่งมาให้ หนอยรับแล้ววางไว้บนโต๊ะ กุมมือดวงเนตรไว้มองด้วยสายตา
ที่บอกถึงความปวดร้าว แล้วเขาก็ซบหน้าลงบนฝ่ามืของดวงเนตร เธอรู้สึกถึงน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลริน ดวงเนตรเอามือลูบเบา ๆ ที่ชายผม
            “เนตรขอโทษ เนตรไม่คิดว่าเนตรจะทำให้พี่หนอยเสียใจถึงขนาดนี้”
            “ขอพี่กอดเพียงครั้งเดียว ครั้งเดียวก็พอ แล้วพี่จะทำหน้าที่พี่ชายที่ดี...ของน้องสุดรักคนนี้” หนอยยืนขึ้นโอบดวงเนตรไว้ในวงแขน แล้วสองคนก็ร้องไห้ ให้กับสิ่งที่เกิดโดยไม่ตั้งใจ
            
             *** “สายน้ำ ๆ ไหล แห้งโหย สายลมๆ โชยโปรยลิ่ว”
                   “สายฝน ๆ หล่นลมปลิว ปลิวกระจายเปียกกายเปียกใจ”
                    “สายน้ำ ๆ ไหลแห้งโหย สายลม ลมโชยอ่อนแรง”
                    “สายฝน ๆ แล้งลมแล้ง ฝนแห้ง ๆ กาย ยังเปียกใจ” *** (เป้ สีน้ำ)
                     
 
            วันนี้ดวงเนตรเตรียมเอกสารเพื่อไปลงทะเบียนกับพี่น้อย ตื่นเช้ามาอาบน้ำสระผม แต่งตัว นักเรียน นักศึกษาที่นี่ไม่มีเครื่องแบบ การแต่งกายเป็น
สิทธิส่วนตัว  เนตรใส่เสื้อยืดสีเขียวตองอ่อน กางเกงยีน สวมทับด้วยเสื้อกั๊กลายปักพื้นเมืองตัวโปรด เพราะสีสันไม่สูดฉาด และลายปักแบบล้านนาดู
ละเอียดงดงาม ยิ่งไปกว่านั้นตัวนี้เพื่อนสนิททุบกระปุกซื้อให้ดวงเนตรในวันเกิด เธอเอามือลูบไปตามตัวเสื้อ แล้วคิดถึงคนให้ ป่านนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง
นะ เพื่อน ๆ ที่น่ารักทุกคนของดวงเนตร
            เธอหยุดความคิดถึงไว้เพียงนั้น แล้วชงกาแฟ เตรียม ขนมปังปิ้งทาแยม ตามด้วยแอ๊บเปิ้ลหนึ่งลูก อาหารเช้าเป็นมื้อที่ต้องเน้นอย่างดีและต้องมี
สารอาหารครบ เพราะมันสำคัญมากกับการเริ่มต้นวันใหม่ เสียงเคาะประตูดัง ขณะที่เธอกำลังแปรงฟันเสร็จพอดี  พี่น้อยถาม  
            “พร้อมจะไปหรือยังคะ”
            “เนตรเสร็จพอดีค่ะ”
            “เอ้า! ไปกันได้เลย” พี่น้อยยิ้มตาหยี
            
            
            
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่