หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (12)...พี่ชายที่รัก
ดวงเนตรเตรียมของที่จะทำกับข้าวไปทำที่ห้องพี่น้อย ปล่อยให้พี่หนอยนอนต่อไม่ปลุกประตูห้องยังเปิดคาไว้
“พี่น้อยคะทำผัดกะเพรา ไข่ดาวคนละฟองนะคะ”
“ดีจังกำลังอยากทานอยู่พอดี”
“อ้าว! แล้วหนอยล่ะ”
“เนตรให้นอนก่อนยังไม่ปลุกเขาคงเหนื่อย”
“เนตรจวนเสร็จแล้วใช่ไหม ข้าวพี่น้อยก็หุงไว้แล้ว”
“งั้นพี่แวะไปดูหน่อยเผื่อเขาตื่นแล้ว”
“ค่ะ ๆ ” พี่น้อยเดินมาเจอน้าวิวตรงมุมห้องพอดี เธอชวนทานข้าว แต่น้าวิวบอกว่าสั่งพิซซ่ามาทาน ไม่ต้องห่วง พี่น้อยดึงมือน้าวิวมาแล้วยกนิ้วขึ้น
จุ๊ปาก เป็นสัญณาณให้เงียบไว้ แล้วตรงไปห้องดวงเนตร ห้องเปิดค้างอยู่ เห็นคนสร้างปัญหานอนหนุนหมอนหลับสนิท พี่สองคนมองหน้ากันแล้วส่ายหัว
พี่น้อยดึงมือน้าวิวออกมาคุยเบา ๆ ข้างนอก
“จะเอาไงดีล่ะ น้องหนูเขาวางตัวดี แต่เจ้านี้มันกะล่อนเหมือนเดิม”
“เขาคิดอะไรกันรึเปล่าพี่น้อย”
“ดวงเนตรไม่คิดหรอกพี่น้อยรับประกัน”
“เธอมีแต่ตั้งใจเรียนให้จบ ตามที่สัญญากับเตี่ย แต่คนของเราน่ะคิดอยู่”
“บอกดวงเนตรดีกว่านะ พี่น้อยจะได้ไม่มีใครต้องเจ็บ”
“ค่ะ พี่เห็นด้วย” น้าวิวขอตัวกลับไปก่อน พี่น้อยเข้าไปในห้องอีกรอบปลุกหนอยให้ไปกินข้าว
“ไปกินข้าวได้แล้วหนอย” เขาบิดตัวไปมา แล้วลุกขึ้น ขอพี่น้อยเข้าไปล้างหน้า
“เอ้า! นี่ผ้าเช็ดหน้า ไป ๆ เดี๋ยวข้าวเย็นหมด”
ทั้งสองคนมาถึงห้อง ดวงเนตรเอาผ้าปู แล้วจัดอาหารไว้รอเรียบร้อยแล้ว
“สุดยอด หอมจริง น้ำลายไหลแล้ว” หนอยส่งเสียง
“เบา ๆ จ้ะ นักเรียนส่วนใหญ่เขากลับเข้ามาอยู่หอพักเยอะแล้วนะ ดังรบกวนเขาค่ะ”
“คร้าบพี่น้อย” แล้วมื้อเย็นก็เสร็จเรียบร้อย ไม่เหลือเลยทั้งข้าวและกับ
“ฟ้าเริ่มมืดแล้ว เตรียมกลับเถอะ พี่น้อยเป็นห่วงค่ะ”
“ขอบคุณสำหรับอาหารเลิศรส ไปก่อนนะครับ...บ๊ายบาย”
“เนตรมีเวลาไหมคะ”
“มีค่ะ ทำไมคะ”
“น้าวิวอยากคุยด้วยน่ะ ไป ๆ ด้วยกัน ค่ะ” ดวงเนตรกำลังจะเจอปัญหาอะไรนะ?
“น้าวิวเรียกหาเนตรเหรอคะ”
“จ๊ะ เนตรเข้ามาข้างในก่อน นี่ชาร้อนลองชิมดู น้าวิวซื้อตอนไปเที่ยวเซนหลุยส์ หอมมากเลย”
“หอมมากค่ะ”
“น้าขอถามเนตรตรง ๆ เลยนะ”
“ค่ะ” เธอมองหน้าน้าวิว ดวงตาใสไม่มีอะไรแอบแฝงเลยสักนิด
“เนตรคิดอย่างไรกับพี่หนอย”
“เขาใจกว้าง และให้ความช่วยเหลือเนตรดีมาก เนตรเป็นลูกคนโต ถ้าเป็นไปได้ เนตรอยากได้พี่หนอยเป็นพี่ชาย ทำไมเหรอคะ”
“น้าวิวจะเล่าให้ฟังนะ หนอยเขามีคู่หมั้นแล้ว” ดวงเนตรดูแปลกใจ แต่น้าวิวไม่เห็นการแสดงออกว่าเสียใจ หรือผิดหวังอะไรจากสีหน้าดวงเนตร
เลย
“ที่ต้องมายุ่ง คือหนอยมีคู่หมั้นแล้ว เป็นญาติห่าง ๆ ของน้า” ดวงเนตรยิ้มตาใสให้น้าวิว
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ เนตรต้องไม่ทำให้เตี่ยผิดหวังเรื่องอื่นยังไม่เคยคิด ส่วนพี่หนอยเป็นได้แค่พี่ชายค่ะ” ได้ยินเสียงถอนใจอย่างโล่งอกจาก
น้าวิว
“ถ้าของที่มีเจ้าของแล้วเนตรไม่ยุ่งเด็ดขาด เนตรไม่ต้องการเป็นมือที่สามที่ทำให้ความรักของใครร้าวฉาน มันเป็นบาปค่ะ”
“น้าวิวเข้าใจเนตรดีแค่ต้องการความมั่นใจ” เสียงพูดเครือ
“อย่าห่วงเลยค่ะ เนตรจะเคลียร์เรื่องนี้กับพี่หนอยเอง” น้าวิวเข้ามากอด เธอรู้สึกได้ว่าน้าวิวกำลังร้องให้ เธอพลาดไปที่พูดประโยคที่มีคำว่ามือที่
สาม เพราะเท่ากับไปสะกิดแผลที่แห้งให้เจ็บปวดอีก เป็นครั้งแรกที่น้าวิวน้ำตาไหลริน ใช่! ความเจ็บปวดที่ฝั่งรากลึก มันไม่หายไปจากความทรงจำ
ได้ง่าย ๆ ดังที่หลายคนพูดปลอบโยนผู้สูญเสียและเจ็บปวด แผลนั้นยังคงอยู่และอาจเป็นเช่นนั้นตลอดไป
“ขอโทษที...น้าวิวนี่อ่อนแอจริง ๆ ”
“ไม่หรอกค่ะ ถ้าเราร้องไห้แล้วความเจ็บปวดมันเบาบางลงก็ทำเถอะค่ะ ดวงเนตรรักและเคารพน้าวิวนะคะ” ดวงเนตรเปลี่ยนไปชวนคุยเรื่องอื่น
สักครู่ เหมือนน้าวิวจะค่อยสบายใจขึ้น เธอจึงขอตัวไปอาบน้ำ
ดวงเนตรต่อหน้าน้าวิวดูเฉยๆ แต่กลับถึงห้อง...เธอก็อดแปลกใจตัวเองที่ลึก ๆ ก็หวั่นไหวไปกับหนอย ด้วยว่าเขาเข้ากับทุกคนง่ายและ
ช่วยให้เนตรสบายใจ และอุ่นใจเมื่อได้ใกล้ชิด เธอคิดว่าหยุดเพียงนี้คงดีกว่าสำหรับทุกคน
วันนี้เป็นวันแรกของการลงทะเบียน พี่น้อยตื่นแต่เช้า กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็เกือบเที่ยง เธอแวะมาที่ห้องดวงเนตร เสียงเคาะประตู ดวงเนตร
เองกำลังดูทีวีอยู่
“สักครู่ค่ะ” ประตูเปิด..พี่น้อยเดินเข้ามาทักทาย
“กำลังดูทีวีเหรอคะ”
“ค่ะ” อีกหน่อยจะได้พูดเก่งอย่างพี่ ๆ เขา”
“เมื่อคืนเป็นไง”
“เรียบร้อยค่ะ ไม่มีอะไรในกอไผ่”
“ดีแล้วล่ะ มาแวะหาจะบอกว่าพรุ่งนี้เราไปกันแต่เช้า เนตรจะได้ลงทะเบียนเสร็จเร็ว ๆ พี่น้อยไปเป็นพี่เลี้ยงนะ ต้องให้เนตรทำเอง ถ้ามีปัญหา
จริง ๆ ถึงจะช่วย O.K! “
“ทราบแล้วค่ะ “
เสียงเคาะประตูดังอีกครั้งใกล้จะบ่ายสามโมง
“เดี๋ยวนะค่ะ” ดวงเนตรวิ่งไปเปิด พี่หนอยรีบยื่นหน้าเข้ามา
“แวะมาหาวิศาลเลยมาดูน้อง ๆ หน่อยว่า สบายดีไหม” พี่หนอยอ้าง ยิ้มหวานให้ดวงเนตร
“มาก็ดีแล้ว เข้ามาเลยค่ะ เดี๋ยวเนตรจะชงกาแฟให้พี่ชายเนตรกิน”
“ใครเหรอ พี่ชายเนตรน่ะ” พี่หนอยไม่รู้ว่าคนสวยของพี่หนอยจะมาไม้ไหนวันนี้
“ก็พี่หนอยไง นะคะเป็นพี่ชายให้เนตรนะ เนตรเป็นพี่คนโตแต่เนตรอยากมีพี่ชายที่แสนน่ารักอย่างพี่หนอยนะคะ” เสียงอ้อนของดวงเนตรกับตา
ใสซื่อ
“ไม่เป็นพี่ไม่ได้เหรอ อยากเป็นอย่างอื่นน่ะ” ดวงเนตรเอาเก้าอี้มาให้พี่หนอยนั่งใกล้ ๆ เธอ ส่วนตัวเองนั่งที่ปลายเตียง ประตูห้องยังเปิดเหมือน
เดิม
“พี่หนอยฟังเนตรนะคะ ที่จะพูดเพราะรักพี่หนอยเหมือนพี่ชาย เนตรอยากเคลียร์ให้เข้าใจกัน เราสองคนจะได้ไม่มีใครเจ็บปวด” หนอยดูเหมือน
จะเริ่มเข้าใจ เขานิ่งดวงตาดูเศร้าลงนั้นทำให้ดวงเนตรเศร้าไปด้วย
“เนตรคุยกับน้าวิวแล้วเมื่อวาน”
‘นั้นไง’ หนอยคิด แต่เงียบ
“พี่หนอยทำตัวให้ดีได้เนตรเชื่อ และคนที่อยู่คู่กับพี่หนอย คนนั้นคือคนที่โชคดี พี่หนอยต้องรักเขาให้มาก ๆ ร่วมกันสร้างครอบครัวที่แข็งแรง
กับพี่เดือน...เดือนนภา แม้เขาอยู่ไกล แต่เขารักและเป็นห่วงพี่มากนะคะ” สายตาวิงวอนมองตรงมาที่หนอย
สุดท้ายดวงเนตรก็รู้เรื่องคู่หมั้นของเขา แม้การหมั้นนั้นมาจากการตกลงของผู้ใหญ่ก็ตาม ไม่มีใครเคยถามชายหนุ่มถึงความรู้สึกเลย ดวงตา
หนอยออกแดง หัวใจเหน็บหนาว กับคำปฏิเสธของดวงเนตร กาแฟหอมกรุ่นถูกส่งมาให้ หนอยรับแล้ววางไว้บนโต๊ะ กุมมือดวงเนตรไว้มองด้วยสายตา
ที่บอกถึงความปวดร้าว แล้วเขาก็ซบหน้าลงบนฝ่ามืของดวงเนตร เธอรู้สึกถึงน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลริน ดวงเนตรเอามือลูบเบา ๆ ที่ชายผม
“เนตรขอโทษ เนตรไม่คิดว่าเนตรจะทำให้พี่หนอยเสียใจถึงขนาดนี้”
“ขอพี่กอดเพียงครั้งเดียว ครั้งเดียวก็พอ แล้วพี่จะทำหน้าที่พี่ชายที่ดี...ของน้องสุดรักคนนี้” หนอยยืนขึ้นโอบดวงเนตรไว้ในวงแขน แล้วสองคนก็ร้องไห้ ให้กับสิ่งที่เกิดโดยไม่ตั้งใจ
*** “สายน้ำ ๆ ไหล แห้งโหย สายลมๆ โชยโปรยลิ่ว”
“สายฝน ๆ หล่นลมปลิว ปลิวกระจายเปียกกายเปียกใจ”
“สายน้ำ ๆ ไหลแห้งโหย สายลม ลมโชยอ่อนแรง”
“สายฝน ๆ แล้งลมแล้ง ฝนแห้ง ๆ กาย ยังเปียกใจ” *** (เป้ สีน้ำ)
วันนี้ดวงเนตรเตรียมเอกสารเพื่อไปลงทะเบียนกับพี่น้อย ตื่นเช้ามาอาบน้ำสระผม แต่งตัว นักเรียน นักศึกษาที่นี่ไม่มีเครื่องแบบ การแต่งกายเป็น
สิทธิส่วนตัว เนตรใส่เสื้อยืดสีเขียวตองอ่อน กางเกงยีน สวมทับด้วยเสื้อกั๊กลายปักพื้นเมืองตัวโปรด เพราะสีสันไม่สูดฉาด และลายปักแบบล้านนาดู
ละเอียดงดงาม ยิ่งไปกว่านั้นตัวนี้เพื่อนสนิททุบกระปุกซื้อให้ดวงเนตรในวันเกิด เธอเอามือลูบไปตามตัวเสื้อ แล้วคิดถึงคนให้ ป่านนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง
นะ เพื่อน ๆ ที่น่ารักทุกคนของดวงเนตร
เธอหยุดความคิดถึงไว้เพียงนั้น แล้วชงกาแฟ เตรียม ขนมปังปิ้งทาแยม ตามด้วยแอ๊บเปิ้ลหนึ่งลูก อาหารเช้าเป็นมื้อที่ต้องเน้นอย่างดีและต้องมี
สารอาหารครบ เพราะมันสำคัญมากกับการเริ่มต้นวันใหม่ เสียงเคาะประตูดัง ขณะที่เธอกำลังแปรงฟันเสร็จพอดี พี่น้อยถาม
“พร้อมจะไปหรือยังคะ”
“เนตรเสร็จพอดีค่ะ”
“เอ้า! ไปกันได้เลย” พี่น้อยยิ้มตาหยี
หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (12)...พี่ชายที่รัก
ดวงเนตรเตรียมของที่จะทำกับข้าวไปทำที่ห้องพี่น้อย ปล่อยให้พี่หนอยนอนต่อไม่ปลุกประตูห้องยังเปิดคาไว้
“พี่น้อยคะทำผัดกะเพรา ไข่ดาวคนละฟองนะคะ”
“ดีจังกำลังอยากทานอยู่พอดี”
“อ้าว! แล้วหนอยล่ะ”
“เนตรให้นอนก่อนยังไม่ปลุกเขาคงเหนื่อย”
“เนตรจวนเสร็จแล้วใช่ไหม ข้าวพี่น้อยก็หุงไว้แล้ว”
“งั้นพี่แวะไปดูหน่อยเผื่อเขาตื่นแล้ว”
“ค่ะ ๆ ” พี่น้อยเดินมาเจอน้าวิวตรงมุมห้องพอดี เธอชวนทานข้าว แต่น้าวิวบอกว่าสั่งพิซซ่ามาทาน ไม่ต้องห่วง พี่น้อยดึงมือน้าวิวมาแล้วยกนิ้วขึ้น
จุ๊ปาก เป็นสัญณาณให้เงียบไว้ แล้วตรงไปห้องดวงเนตร ห้องเปิดค้างอยู่ เห็นคนสร้างปัญหานอนหนุนหมอนหลับสนิท พี่สองคนมองหน้ากันแล้วส่ายหัว
พี่น้อยดึงมือน้าวิวออกมาคุยเบา ๆ ข้างนอก
“จะเอาไงดีล่ะ น้องหนูเขาวางตัวดี แต่เจ้านี้มันกะล่อนเหมือนเดิม”
“เขาคิดอะไรกันรึเปล่าพี่น้อย”
“ดวงเนตรไม่คิดหรอกพี่น้อยรับประกัน”
“เธอมีแต่ตั้งใจเรียนให้จบ ตามที่สัญญากับเตี่ย แต่คนของเราน่ะคิดอยู่”
“บอกดวงเนตรดีกว่านะ พี่น้อยจะได้ไม่มีใครต้องเจ็บ”
“ค่ะ พี่เห็นด้วย” น้าวิวขอตัวกลับไปก่อน พี่น้อยเข้าไปในห้องอีกรอบปลุกหนอยให้ไปกินข้าว
“ไปกินข้าวได้แล้วหนอย” เขาบิดตัวไปมา แล้วลุกขึ้น ขอพี่น้อยเข้าไปล้างหน้า
“เอ้า! นี่ผ้าเช็ดหน้า ไป ๆ เดี๋ยวข้าวเย็นหมด”
ทั้งสองคนมาถึงห้อง ดวงเนตรเอาผ้าปู แล้วจัดอาหารไว้รอเรียบร้อยแล้ว
“สุดยอด หอมจริง น้ำลายไหลแล้ว” หนอยส่งเสียง
“เบา ๆ จ้ะ นักเรียนส่วนใหญ่เขากลับเข้ามาอยู่หอพักเยอะแล้วนะ ดังรบกวนเขาค่ะ”
“คร้าบพี่น้อย” แล้วมื้อเย็นก็เสร็จเรียบร้อย ไม่เหลือเลยทั้งข้าวและกับ
“ฟ้าเริ่มมืดแล้ว เตรียมกลับเถอะ พี่น้อยเป็นห่วงค่ะ”
“ขอบคุณสำหรับอาหารเลิศรส ไปก่อนนะครับ...บ๊ายบาย”
“เนตรมีเวลาไหมคะ”
“มีค่ะ ทำไมคะ”
“น้าวิวอยากคุยด้วยน่ะ ไป ๆ ด้วยกัน ค่ะ” ดวงเนตรกำลังจะเจอปัญหาอะไรนะ?
“น้าวิวเรียกหาเนตรเหรอคะ”
“จ๊ะ เนตรเข้ามาข้างในก่อน นี่ชาร้อนลองชิมดู น้าวิวซื้อตอนไปเที่ยวเซนหลุยส์ หอมมากเลย”
“หอมมากค่ะ”
“น้าขอถามเนตรตรง ๆ เลยนะ”
“ค่ะ” เธอมองหน้าน้าวิว ดวงตาใสไม่มีอะไรแอบแฝงเลยสักนิด
“เนตรคิดอย่างไรกับพี่หนอย”
“เขาใจกว้าง และให้ความช่วยเหลือเนตรดีมาก เนตรเป็นลูกคนโต ถ้าเป็นไปได้ เนตรอยากได้พี่หนอยเป็นพี่ชาย ทำไมเหรอคะ”
“น้าวิวจะเล่าให้ฟังนะ หนอยเขามีคู่หมั้นแล้ว” ดวงเนตรดูแปลกใจ แต่น้าวิวไม่เห็นการแสดงออกว่าเสียใจ หรือผิดหวังอะไรจากสีหน้าดวงเนตร
เลย
“ที่ต้องมายุ่ง คือหนอยมีคู่หมั้นแล้ว เป็นญาติห่าง ๆ ของน้า” ดวงเนตรยิ้มตาใสให้น้าวิว
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ เนตรต้องไม่ทำให้เตี่ยผิดหวังเรื่องอื่นยังไม่เคยคิด ส่วนพี่หนอยเป็นได้แค่พี่ชายค่ะ” ได้ยินเสียงถอนใจอย่างโล่งอกจาก
น้าวิว
“ถ้าของที่มีเจ้าของแล้วเนตรไม่ยุ่งเด็ดขาด เนตรไม่ต้องการเป็นมือที่สามที่ทำให้ความรักของใครร้าวฉาน มันเป็นบาปค่ะ”
“น้าวิวเข้าใจเนตรดีแค่ต้องการความมั่นใจ” เสียงพูดเครือ
“อย่าห่วงเลยค่ะ เนตรจะเคลียร์เรื่องนี้กับพี่หนอยเอง” น้าวิวเข้ามากอด เธอรู้สึกได้ว่าน้าวิวกำลังร้องให้ เธอพลาดไปที่พูดประโยคที่มีคำว่ามือที่
สาม เพราะเท่ากับไปสะกิดแผลที่แห้งให้เจ็บปวดอีก เป็นครั้งแรกที่น้าวิวน้ำตาไหลริน ใช่! ความเจ็บปวดที่ฝั่งรากลึก มันไม่หายไปจากความทรงจำ
ได้ง่าย ๆ ดังที่หลายคนพูดปลอบโยนผู้สูญเสียและเจ็บปวด แผลนั้นยังคงอยู่และอาจเป็นเช่นนั้นตลอดไป
“ขอโทษที...น้าวิวนี่อ่อนแอจริง ๆ ”
“ไม่หรอกค่ะ ถ้าเราร้องไห้แล้วความเจ็บปวดมันเบาบางลงก็ทำเถอะค่ะ ดวงเนตรรักและเคารพน้าวิวนะคะ” ดวงเนตรเปลี่ยนไปชวนคุยเรื่องอื่น
สักครู่ เหมือนน้าวิวจะค่อยสบายใจขึ้น เธอจึงขอตัวไปอาบน้ำ
ดวงเนตรต่อหน้าน้าวิวดูเฉยๆ แต่กลับถึงห้อง...เธอก็อดแปลกใจตัวเองที่ลึก ๆ ก็หวั่นไหวไปกับหนอย ด้วยว่าเขาเข้ากับทุกคนง่ายและ
ช่วยให้เนตรสบายใจ และอุ่นใจเมื่อได้ใกล้ชิด เธอคิดว่าหยุดเพียงนี้คงดีกว่าสำหรับทุกคน
วันนี้เป็นวันแรกของการลงทะเบียน พี่น้อยตื่นแต่เช้า กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็เกือบเที่ยง เธอแวะมาที่ห้องดวงเนตร เสียงเคาะประตู ดวงเนตร
เองกำลังดูทีวีอยู่
“สักครู่ค่ะ” ประตูเปิด..พี่น้อยเดินเข้ามาทักทาย
“กำลังดูทีวีเหรอคะ”
“ค่ะ” อีกหน่อยจะได้พูดเก่งอย่างพี่ ๆ เขา”
“เมื่อคืนเป็นไง”
“เรียบร้อยค่ะ ไม่มีอะไรในกอไผ่”
“ดีแล้วล่ะ มาแวะหาจะบอกว่าพรุ่งนี้เราไปกันแต่เช้า เนตรจะได้ลงทะเบียนเสร็จเร็ว ๆ พี่น้อยไปเป็นพี่เลี้ยงนะ ต้องให้เนตรทำเอง ถ้ามีปัญหา
จริง ๆ ถึงจะช่วย O.K! “
“ทราบแล้วค่ะ “
เสียงเคาะประตูดังอีกครั้งใกล้จะบ่ายสามโมง
“เดี๋ยวนะค่ะ” ดวงเนตรวิ่งไปเปิด พี่หนอยรีบยื่นหน้าเข้ามา
“แวะมาหาวิศาลเลยมาดูน้อง ๆ หน่อยว่า สบายดีไหม” พี่หนอยอ้าง ยิ้มหวานให้ดวงเนตร
“มาก็ดีแล้ว เข้ามาเลยค่ะ เดี๋ยวเนตรจะชงกาแฟให้พี่ชายเนตรกิน”
“ใครเหรอ พี่ชายเนตรน่ะ” พี่หนอยไม่รู้ว่าคนสวยของพี่หนอยจะมาไม้ไหนวันนี้
“ก็พี่หนอยไง นะคะเป็นพี่ชายให้เนตรนะ เนตรเป็นพี่คนโตแต่เนตรอยากมีพี่ชายที่แสนน่ารักอย่างพี่หนอยนะคะ” เสียงอ้อนของดวงเนตรกับตา
ใสซื่อ
“ไม่เป็นพี่ไม่ได้เหรอ อยากเป็นอย่างอื่นน่ะ” ดวงเนตรเอาเก้าอี้มาให้พี่หนอยนั่งใกล้ ๆ เธอ ส่วนตัวเองนั่งที่ปลายเตียง ประตูห้องยังเปิดเหมือน
เดิม
“พี่หนอยฟังเนตรนะคะ ที่จะพูดเพราะรักพี่หนอยเหมือนพี่ชาย เนตรอยากเคลียร์ให้เข้าใจกัน เราสองคนจะได้ไม่มีใครเจ็บปวด” หนอยดูเหมือน
จะเริ่มเข้าใจ เขานิ่งดวงตาดูเศร้าลงนั้นทำให้ดวงเนตรเศร้าไปด้วย
“เนตรคุยกับน้าวิวแล้วเมื่อวาน” ‘นั้นไง’ หนอยคิด แต่เงียบ
“พี่หนอยทำตัวให้ดีได้เนตรเชื่อ และคนที่อยู่คู่กับพี่หนอย คนนั้นคือคนที่โชคดี พี่หนอยต้องรักเขาให้มาก ๆ ร่วมกันสร้างครอบครัวที่แข็งแรง
กับพี่เดือน...เดือนนภา แม้เขาอยู่ไกล แต่เขารักและเป็นห่วงพี่มากนะคะ” สายตาวิงวอนมองตรงมาที่หนอย
สุดท้ายดวงเนตรก็รู้เรื่องคู่หมั้นของเขา แม้การหมั้นนั้นมาจากการตกลงของผู้ใหญ่ก็ตาม ไม่มีใครเคยถามชายหนุ่มถึงความรู้สึกเลย ดวงตา
หนอยออกแดง หัวใจเหน็บหนาว กับคำปฏิเสธของดวงเนตร กาแฟหอมกรุ่นถูกส่งมาให้ หนอยรับแล้ววางไว้บนโต๊ะ กุมมือดวงเนตรไว้มองด้วยสายตา
ที่บอกถึงความปวดร้าว แล้วเขาก็ซบหน้าลงบนฝ่ามืของดวงเนตร เธอรู้สึกถึงน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลริน ดวงเนตรเอามือลูบเบา ๆ ที่ชายผม
“เนตรขอโทษ เนตรไม่คิดว่าเนตรจะทำให้พี่หนอยเสียใจถึงขนาดนี้”
“ขอพี่กอดเพียงครั้งเดียว ครั้งเดียวก็พอ แล้วพี่จะทำหน้าที่พี่ชายที่ดี...ของน้องสุดรักคนนี้” หนอยยืนขึ้นโอบดวงเนตรไว้ในวงแขน แล้วสองคนก็ร้องไห้ ให้กับสิ่งที่เกิดโดยไม่ตั้งใจ
*** “สายน้ำ ๆ ไหล แห้งโหย สายลมๆ โชยโปรยลิ่ว”
“สายฝน ๆ หล่นลมปลิว ปลิวกระจายเปียกกายเปียกใจ”
“สายน้ำ ๆ ไหลแห้งโหย สายลม ลมโชยอ่อนแรง”
“สายฝน ๆ แล้งลมแล้ง ฝนแห้ง ๆ กาย ยังเปียกใจ” *** (เป้ สีน้ำ)
วันนี้ดวงเนตรเตรียมเอกสารเพื่อไปลงทะเบียนกับพี่น้อย ตื่นเช้ามาอาบน้ำสระผม แต่งตัว นักเรียน นักศึกษาที่นี่ไม่มีเครื่องแบบ การแต่งกายเป็น
สิทธิส่วนตัว เนตรใส่เสื้อยืดสีเขียวตองอ่อน กางเกงยีน สวมทับด้วยเสื้อกั๊กลายปักพื้นเมืองตัวโปรด เพราะสีสันไม่สูดฉาด และลายปักแบบล้านนาดู
ละเอียดงดงาม ยิ่งไปกว่านั้นตัวนี้เพื่อนสนิททุบกระปุกซื้อให้ดวงเนตรในวันเกิด เธอเอามือลูบไปตามตัวเสื้อ แล้วคิดถึงคนให้ ป่านนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง
นะ เพื่อน ๆ ที่น่ารักทุกคนของดวงเนตร
เธอหยุดความคิดถึงไว้เพียงนั้น แล้วชงกาแฟ เตรียม ขนมปังปิ้งทาแยม ตามด้วยแอ๊บเปิ้ลหนึ่งลูก อาหารเช้าเป็นมื้อที่ต้องเน้นอย่างดีและต้องมี
สารอาหารครบ เพราะมันสำคัญมากกับการเริ่มต้นวันใหม่ เสียงเคาะประตูดัง ขณะที่เธอกำลังแปรงฟันเสร็จพอดี พี่น้อยถาม
“พร้อมจะไปหรือยังคะ”
“เนตรเสร็จพอดีค่ะ”
“เอ้า! ไปกันได้เลย” พี่น้อยยิ้มตาหยี