ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ "เจ้ากรรมนายเวร"
ไม่มีคำสอนอยู่ในพระสูตรไหน ในพระไตรปิฏกเล่มไหน ที่ท่านได้สอนเอาไว้ว่า มี "เจ้ากรรมนายเวร" เป็นผีแอบมาคอยให้คุณให้โทษเรา ท่านสอนแต่ ให้แก้กรรมโดยการ ใช้สติหยุด วิบากตนเอง แล้วเดินตามทางแห่ง มรรค 8 ซึ่งเป็นการแก้กรรม ที่ถูกต้อง ชีวิตเราจะหลุดพ้นจากกระแสของวิบากกรรมเอง เพราะ วิบากกรรม มันคือพลังงานที่สะสมอยู่ใน วิญญาณธาตุ ของเราซึ่งมันเป็นพลังงานที่คอยกำหนด วิถี "ความคิดของเรา" "ทัศนคติของเรา" "ความชอบของเรา" เราจึงเห็นว่าตนเองเองคิด "ถูก" เสมอ หากพลังงานวิบากที่อยู่ในวิญญาณธาตุของเรามัน เป็นพลังงานอกุศล (ทำชั่วมาเยอะ) วิถีความคิดของบุคคลก็จะไปในทิศทางชั่วตลอด คือเห็นผิดเป็นชอบ เพราะเห็นแต่ความคิดตนเองถูกต้องเสมอ การดำเนินชีวิตที่ผิดพลาดอยู่ตลอดเวลาของเราจึงเกิดขึ้นเสมอ เพราะพลังงานวิบากของเราเอง มันไม่มีเจ้ากรรมนายเวรไหน มาคอยให้คุณให้โทษเรา
.............."พลังงานวิบาก" มันมาจากไหน มันก็มาจาก อดีตของเรา ซึ่งมาก่อนชาตินี้อีก มันสั่งสมอารมณ์ในขณะที่มันมีร่างกายในแต่ละภพแต่ละชาติ มันสั่งสมลงไปในวิญญาณธาตุของเรา และม้วนกลับออกมาจนกลายมาเป็นบุคลิกภาพของเรา กลายเป็นสันดานก็ไช่ กลายเป็นพื้นฐานจิตใจก็ไช่ เราสั่งสม กระแสแห่งวิบากกรรมมาตั้งแต่เป็นสัตว์เป็นพืชเซลล์เดียว สั่งสมอุปนิสัยเบียดเบียน ไล่ล่า ฆ่าเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ในการดำรงชีวิต พลังงานนี้มันเลยเป็น รูปแบบสัญชาตญาณของสัตว์ หิวก็ต้องกิน เพื่อรักษาชีวิต ใครจะตกเปนเหยื่อเราก็ไม่สนใจ นี่แหละคืออุปนิสัยความเห็นแก่ตัว เป็นพลังงานบาป ที่มันสั่งสมมานับชาติไม่ถ้วน สุดท้ายปัจจุบันในชาตินี้ เราก็ยังอาศัย พลังงานวิบาก นี่นำพาชีวิตต่อไป เราจึงไปประสบเคราะห์กรรมต่างๆนานา แล้วแต่แต่ละคนจะเจอ
..........พระพุทธเจ้า ท่านจึงสอนการหยุดพลังงานวิบากนี้ โดยการใช้การฝึก "สติ" ให้เห็นการเกิดขึ้นของจิต ที่ถูกปรุงแต่งโดย "พลังงานวิบาก" ของเรา ให้เห็น ความโกรธ โลภ หลง(โดยเฉพาะความรักแบบหนุ่มสาว) บางคนรู้ไม่ทันก็ไปแต่งงานกับผู้ชายผู้หญิงที่ตนเองเห็นว่าเป็นเทพบุตร แต่สุดท้ายมันแปลงร่างเป็นซาตาน ความทุกข์ของเราก็เกิดขึ้น บางคนโชคร้ายถูกมันฆ่าตายก็มี
............... พระพุทธเจ้าท่านเลยคิด สติปัฏฐาน 4 ขึ้นมาเพื่อเป็น คัตเอาท์ หยุดยั้งจิตอกุศล หรือ วิถี วิบากกรรมชั่ว ของเรา แต่มันยากที่จะทำใจได้ "เพราะ ความคิดที่มันปรุงแต่งขึ้นมา มันคือความคิด ความชอบของเรา คือทิฏฐิของเรา" ถึงแม้ที่เป็นความคิดแบบหายนะ เราก็จะมองไม่เห็นอันตราย ใครเตือนเราก็ไม่ฟัง นี่แหละคือ "เจ้ากรรมนายเวร" ตัวจริงเสียงจริง ผมนี่กลัวจนขึ้นสมอง ทุกวันนี้
เจ้ากรรมนายเวร
ไม่มีคำสอนอยู่ในพระสูตรไหน ในพระไตรปิฏกเล่มไหน ที่ท่านได้สอนเอาไว้ว่า มี "เจ้ากรรมนายเวร" เป็นผีแอบมาคอยให้คุณให้โทษเรา ท่านสอนแต่ ให้แก้กรรมโดยการ ใช้สติหยุด วิบากตนเอง แล้วเดินตามทางแห่ง มรรค 8 ซึ่งเป็นการแก้กรรม ที่ถูกต้อง ชีวิตเราจะหลุดพ้นจากกระแสของวิบากกรรมเอง เพราะ วิบากกรรม มันคือพลังงานที่สะสมอยู่ใน วิญญาณธาตุ ของเราซึ่งมันเป็นพลังงานที่คอยกำหนด วิถี "ความคิดของเรา" "ทัศนคติของเรา" "ความชอบของเรา" เราจึงเห็นว่าตนเองเองคิด "ถูก" เสมอ หากพลังงานวิบากที่อยู่ในวิญญาณธาตุของเรามัน เป็นพลังงานอกุศล (ทำชั่วมาเยอะ) วิถีความคิดของบุคคลก็จะไปในทิศทางชั่วตลอด คือเห็นผิดเป็นชอบ เพราะเห็นแต่ความคิดตนเองถูกต้องเสมอ การดำเนินชีวิตที่ผิดพลาดอยู่ตลอดเวลาของเราจึงเกิดขึ้นเสมอ เพราะพลังงานวิบากของเราเอง มันไม่มีเจ้ากรรมนายเวรไหน มาคอยให้คุณให้โทษเรา
.............."พลังงานวิบาก" มันมาจากไหน มันก็มาจาก อดีตของเรา ซึ่งมาก่อนชาตินี้อีก มันสั่งสมอารมณ์ในขณะที่มันมีร่างกายในแต่ละภพแต่ละชาติ มันสั่งสมลงไปในวิญญาณธาตุของเรา และม้วนกลับออกมาจนกลายมาเป็นบุคลิกภาพของเรา กลายเป็นสันดานก็ไช่ กลายเป็นพื้นฐานจิตใจก็ไช่ เราสั่งสม กระแสแห่งวิบากกรรมมาตั้งแต่เป็นสัตว์เป็นพืชเซลล์เดียว สั่งสมอุปนิสัยเบียดเบียน ไล่ล่า ฆ่าเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ในการดำรงชีวิต พลังงานนี้มันเลยเป็น รูปแบบสัญชาตญาณของสัตว์ หิวก็ต้องกิน เพื่อรักษาชีวิต ใครจะตกเปนเหยื่อเราก็ไม่สนใจ นี่แหละคืออุปนิสัยความเห็นแก่ตัว เป็นพลังงานบาป ที่มันสั่งสมมานับชาติไม่ถ้วน สุดท้ายปัจจุบันในชาตินี้ เราก็ยังอาศัย พลังงานวิบาก นี่นำพาชีวิตต่อไป เราจึงไปประสบเคราะห์กรรมต่างๆนานา แล้วแต่แต่ละคนจะเจอ
..........พระพุทธเจ้า ท่านจึงสอนการหยุดพลังงานวิบากนี้ โดยการใช้การฝึก "สติ" ให้เห็นการเกิดขึ้นของจิต ที่ถูกปรุงแต่งโดย "พลังงานวิบาก" ของเรา ให้เห็น ความโกรธ โลภ หลง(โดยเฉพาะความรักแบบหนุ่มสาว) บางคนรู้ไม่ทันก็ไปแต่งงานกับผู้ชายผู้หญิงที่ตนเองเห็นว่าเป็นเทพบุตร แต่สุดท้ายมันแปลงร่างเป็นซาตาน ความทุกข์ของเราก็เกิดขึ้น บางคนโชคร้ายถูกมันฆ่าตายก็มี
............... พระพุทธเจ้าท่านเลยคิด สติปัฏฐาน 4 ขึ้นมาเพื่อเป็น คัตเอาท์ หยุดยั้งจิตอกุศล หรือ วิถี วิบากกรรมชั่ว ของเรา แต่มันยากที่จะทำใจได้ "เพราะ ความคิดที่มันปรุงแต่งขึ้นมา มันคือความคิด ความชอบของเรา คือทิฏฐิของเรา" ถึงแม้ที่เป็นความคิดแบบหายนะ เราก็จะมองไม่เห็นอันตราย ใครเตือนเราก็ไม่ฟัง นี่แหละคือ "เจ้ากรรมนายเวร" ตัวจริงเสียงจริง ผมนี่กลัวจนขึ้นสมอง ทุกวันนี้