คุณพร้อมและกล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับวิญญาณไหม

เคยไหม อยู่ดี ๆ รู้สึกเจ็บตามร่างกายแบบไม่มีสาเหตุ เหมือนไม่ควร จะมีอะไรไปทำให้เป็นต้นเหตุ
หรือบางทีตื่นขึ้นมากลางดึก น้ำตาก็ไหลออกมา ทั้งที่ไม่ได้ฝันร้าย
หรือบางครั้งก็เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ใกล้ตัว แต่พอหันไปดูก็ไม่มีใครเลย

คำถามคือ… ถ้าคุณยังไม่เคยเจออะไรแบบนี้ คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องในหัว หรือแค่คิดไปเอง
ผมเองก็เคยคิดแบบนั้น ไม่เคยเชื่อเรื่องพลังงาน วิญญาณ หรือเจ้ากรรมนายเวร
หลายปีที่ผ่านมา ผมมองคนที่พูดเรื่องพวกนี้ว่าแค่เพ้อเจ้อหรือคิดมากไปเองเหมือนกัน

จนวันหนึ่ง สิ่งที่ผมเคยปฏิเสธทั้งหมดก็เข้ามาหาผมเอง
เจ็บปวดแปลก ๆ บางจุดที่หมอตรวจไม่เจออะไร รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างจับจ้องหรือคอยรบกวนอยู่ตลอดเวลา
มันเกิดซ้ำ ๆ จนผมเริ่มสงสัยว่า นี่มันมากกว่าความคิดไปเอง

ผมเริ่มพูดกับสิ่งที่ผมรู้สึกว่าอยู่รอบตัวในใจ เรียกมันว่าอะไรก็ได้ที่ผมเข้าใจ และสิ่งที่แปลกคือ สิ่งนั้น ฟัง และ ตอบสนอง
กับคำพูดของผมจริง ๆ ผมพูดในใจว่าขอให้มันหยุด หรือขอให้ปล่อยผมไป แล้วความเจ็บหรือความรู้สึกแปลก ๆ ก็ลดลงหรือหายไป

ผมจึงเริ่มเข้าใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้มาแบบบังเอิญ แต่มันเป็นการสื่อสารบางอย่าง ที่อาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวร หรือพลังงานที่ยังไม่รู้จักดีในชีวิตของผม
ในตอนแรก ผมก็ไม่อยากเชื่อคำว่าเจ้ากรรมนายเวร เพราะมันดูเหมือนเรื่องลี้ลับที่คนเล่าขานกัน แต่สิ่งที่ผมเจอมันชัดเจนมาก ทั้งความเจ็บที่เฉพาะเจาะจง เหตุการณ์ที่เกิดซ้ำ ๆ และฝันที่ตามติดเป็นเวลานาน หลายครั้งแค่ขอขมาในใจ ความรู้สึกแย่ ๆ เหล่านั้นก็หายไปเฉย ๆ

ถ้าคุณยังไม่เชื่อ ผมเข้าใจดีที่คุณยังไม่เชื่อ เพราะผมก็เคยไม่เชื่อเหมือนกัน ผมไม่ได้ต้องการบังคับให้คุณเชื่อ
แต่แค่ขอให้คุณเปิดใจว่า คุณอาจจะโชคดีที่ยังไม่เคยเจอประสบการณ์แบบนี้ด้วยตัวเอง

แต่ถ้าวันหนึ่งมันเกิดขึ้นกับคุณ สิ่งที่ผมเล่าไว้ในบทความนี้อาจจะเป็นประโยชน์ และช่วยให้คุณรู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว
ขณะที่คุณกำลังอ่านเรื่องราวนี้ คุณมั่นใจไหมว่า… วิญญาณที่อยู่รอบตัวคุณ ไม่ได้เฝ้ารอวันที่จะมาชดใช้กรรมกับใครบางคน

มันอาจยังไม่ใช่วันนั้น วันแห่งการชำระหนี้ชีวิต ยังไม่มาถึงจริง ๆ แต่เชื่อไหมว่า… วิญญาณพวกนั้นก็กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ด้วยเหมือนกัน
และถ้าใครบางคน ที่กำลังอ่านอยู่ ณ ตอนนี้ คือคนนั้น คือคนที่วันหนึ่งจะต้องเผชิญการชดใช้
คุณคิดไหมว่า ตอนนั้น เขาจะหัวเราะเยาะ หรือร้องไห้ด้วยความเสียใจมากแค่ไหน

ถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่า มีอะไรบางอย่างมากกว่าที่ตาเห็น ตั้งสติ พูดในใจให้ชัดเจน ว่านี่คือร่างกายของคุณ คุณไม่ยอมรับการถูกรบกวน
บันทึกสิ่งที่เกิดขึ้น และหาวิธีสงบจิตใจ เพราะนี่คือการต่อสู้ที่ไม่ได้ใช้กำลังทางกาย ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่
เชื่อผมเถอะว่าความจริงจะมาหาคุณเอง และถ้าคุณเจอมันจริง ๆ
อยากให้คุณรู้ไว้… ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว
และคุณมีพลังที่จะควบคุมจิตใจตัวเองได้มากกว่าที่คิด

คำว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” มักถูกตีความผิดโดยคนที่ไม่เชื่อเลย แต่ความเชื่อนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด
เมื่อถึงเวลาที่ทุกคนต้องจากโลกนี้ไป คุณก็จะกลายเป็นวิญญาณในวันนั้นเอง
และวันนั้น คุณจะเข้าใจทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องมีใครมาช่วยอธิบาย

สำหรับคนที่ชอบลองของ… ผมเองก็เคยทำมาแล้ว
ในสถานที่หนึ่ง ที่ผมต้องการรู้ให้ได้ว่า ณ ที่ตรงนั้น มีวิญญาณอยู่จริงหรือไม่
ผมใช้ความตั้งใจแน่วแน่ ตั้งจิตอธิษฐานไว้ในใจว่า

หากในสถานที่แห่งนี้ มีวิญญาณที่ถูกจองจำ มีความแค้นที่ รอวันชำระแค้น กับใครบางคน หรือเฝ้ารอใครสักคนให้มาปลดปล่อย
ขอให้ท่านแสดงตัวตน ผ่านความเจ็บปวด บนร่างกายของข้าพเจ้า ภายในหนึ่งชั่วโมง

อาการที่เกิดขึ้นเมื่อวิญญาณบางดวงเริ่มแสดงตัว...มันไม่ใช่แค่ลมหายใจสะดุด กลิ่นแปลกๆ ที่ทำให้ต้องขนลุกโดยไม่มีสาเหตุ
แต่คือความรู้สึกที่เริ่มจากหัวจรดเท้า เหมือนมีใครบางคนค่อย ๆ เข้ามาครอบงำร่างกายคุณอย่างช้า ๆ
คุณอาจรู้สึกเหมือนมีมือมาบีบ กด ขยับ เหมือนมีน้ำหนักบางอย่างมาทิ้งตัวลงบนหัวไหล่ หนักจนแทบจะลุกไม่ขึ้น
บางครั้งเจ็บบั้นเอวอย่างไม่มีที่มา ขาไม่มีแรง หรือข้อเท้าเริ่มปวดร้าว มือเท้าเกร็งจนขยับไม่ได้
สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่อาการทางกาย แต่มันคือ ภาษาของวิญญาณ ที่กำลังพยายามบอกอะไรบางอย่างผ่านร่างของคุณ
ผีหรือพลังงานที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็มี  ระดับ  และ  ความถี่ ที่ต่างกันไป
ถ้าคุณรู้สึกได้ที่  ศีรษะ  มักจะเป็นวิญญาณที่มีพลังหรือศักดิ์สูง อาจเป็นเจ้าที่ หรือสิ่งที่รอการบูชาหรือยอมรับ
ถ้าอาการเริ่มจาก  บั้นเอวลงไป  จนถึงขา มักเป็นวิญญาณชั้นล่าง วิญญาณเร่ร่อน หรือถูกจองจำไว้ด้วยกรรม
และถ้าความรู้สึกหน่วง ๆ หรือรู้สึกตะคริวกิน บริเวณ อวัยวะเพศ นั่นอาจเป็นสัญญาณของ  วิญญาณ ที่ติดกาม กำลังลวนลามคุณ
พวกเขาไม่ได้ต้องการแค่สื่อสาร… บางครั้ง พวกเขาเข้ามาเพื่อสะท้อนบางสิ่งที่อยู่ลึกในใจคุณ หรือมาทวงบางอย่างที่คุณอาจลืมไปแล้วด้วยซ้ำ

ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ การเปิดใจฟังร่างกายตัวเอง อาจเป็นวิธีเดียว ที่คุณจะเข้าใจว่า... คุณกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่หรือเปล่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่