(มาให้กำลังใจคนลดความอ้วน) ผมทำได้คุณก็ทำได้ 120-85

สวัสดีครับ ผมขอมาให้กำลังใจกับคนที่จะลดความอ้วนกันซักหน่อยนะครับ ผมเชื่อว่าใครหลายๆคนคงเบื่อกับการออกกำลังกาย เพราะด้วยเหตุผลหลายๆอย่างที่ตัวเองตั้งขึ้น และหลายๆอย่างที่เป็นปัจจัยน่ะครับ แต่ผมเชื่อว่า ผมทำได้ ใครๆก็ทำได้ครับ วันนี้เลยแว๊ะมาให้กำลังใจคนที่กำลังสู้เพื่อลดน้ำหนักกันซักนิดนึง ไม่ได้มาสอนออกกำลังกายหรือสอนกินอาหารคลืนอะเลยทั้งนั้น มาให้กำลังใจล้วนๆน่ะครับ ลองอ่านกันดูนะครับ ถ้าใครชอบก็กด บวกว่าเป็นสาระให้ด้วยนะครับ เพื่อให้เป็นกำลังใจต่อๆกันไป จะเป็นพระคุณสำหรับผมมากๆเลย



Howdy ผมทำได้ พวกคุณก็ทำได้ครับ

ประถม

มัธยมปลาย

มหาวิทยาลัย ประมาณปีสอง

ใช่แล้วครับ แต่ก่อนผมม่างโคตรอ้วน อ้วนตัวแตกของจริงเป็น ตัวเป็นริ่วๆเลย ใครๆก็เรียกผมว่าไออ้วนแว่น ได้ยินแล้วรู้สึกยังไง ก็ขาดความมั่นใจสิครับ โคตรบรรทอนการใช้ชีวิตมากๆเลยนะ กางเกงก็หาใส่ยาก ไซด์ที่พีคสุดก็ 46 โน่น เสื้อก็ต้องใส่ 3XL น้ำหนักหรอ 120 โลแหละ ช่วงนั้นกินยับเลยครับ ของอ้วนๆ เฟรนฟรายลด 50 เปอร์เซน และโดยเฉพาะ น้ำอัดลมเพื่อนรัก ผมกินได้วันละ 2 ลิตรเลยด้วยซ้ำครับ แต่ว่า ทำไมล่ะ ใครจะสน ก็มันคือความสุขนี้เนาะ


ไปค่ายอาสา น.ต.อ.น ตอนนั้นเป็นพี่โต

แล้วถ้าถามว่าทำไมถึงลดน้ำหนัก ตอบแบบแมนๆเลย "ลด เพื่อ หญิง" ใช่แล้ว ผมมีกำลังใจจากผู้หญิงคนหนึ่ง ผมรอเขามาตั้งแต่ช่วง มัธยมปีที่ 2 ถึงช่วงปลายเทอม 2 ของปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัย เธอมีอิทธิพลต่อผมมากๆในช่วงนั้น ตอนนั้นได้กลับมาคุยกันแล้วมันก็พูดแค่ว่า "ลองไปลดน้ำหนักดูสิ เผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้น"


เอาซะหน่อย

เท่านั้นแหละครับ วิ่งชิหายเลยครับ ได้ 5 เดือนแรก ซัดไป 22 โล ลงมาเหลือ 98 ช่วงนั้นเลิกน้ำอัดลมเพื่อนรักไปเลยครับ กินน้อยลง ออกวิ่งทุกวันหน้าบ้าน วันละ 4 โล ทุกวัน ถ้าตอนกลางคืนหิว จะกินน้ำเปล่าแทน หรือไม่ก็จะเป็นเยลลี่แบบซองที่เขาว่าทำให้อิ่มก่อนนอน (ซึ่งไม่เลย)
แต่ก็เท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นก็ได้เดินจากผมไป ช่วงนั้นหมดทุกอย่างไม่มีกำลังใจ บลาๆๆๆ แล้วก็กลับไปกินต่อ จนน้ำหนักขึ้นมาเป็น 110 อีกครั้ง

98

110

จนกระทั้งปีสาม มีเพื่อนผมสองคน ตอนนั้นบ้านอยู่แถวนวลจันทร์ เขาสองคนเลยชวนผมไปเล่นฟิตเนส ก็เล่นแบบงูๆปลาๆไป แต่ก็ยังคงวิ่งอยู่ เคยวิ่งได้พีคสุดก็ 900 กว่าแคล วิ่งไป 90 นาที แต่ตอนนั้นไม่มีกำลังใจอะไร คิดซะว่าอยากลดน้ำหนัก ก็ลงมาเหลือ 95



แล้วพอเริ่มงานภาค(นิเทศฯ ฺBroad 23) ก็หยุดอีก ไม่ว่าง อ้างนู่นนี่นั้น ขี้เกียจ จนน้ำหนักดีดไป 100 อีกทีจนได้ และเหนือสิ่งอื่นใดเลย ก็ไม่ได้ไปยิมกับพวกเพื่อนๆเท่าไหร่ จนจบการทำงานภาค ก็ถึงจะกลับมาเล่นอีกครั้ง แต่ก็เล่นแบบงูๆปลาๆไปเหมือนเดิม แต่เพิ่มความเข้มข้น กินเวย์ด้วย



แต่ก็เล่นไปได้ซักพักก็เรียนจบ ต่างคนต่างมีงาน ทำงานกัน ผมก็เช่นกัน ก็เลยต้องหยุดอีกจนได้ เลิกเล่นไปนานมาก จนน้ำหนักก็ขึ้นอีกที สุดท้ายแล้วผมเองก็มานั่งดูตัวเองว่า ใช่หรอที่ทำมาถูกแล้วหรอ เลิกอะดีแล้วหรอ จากนั้นผมก็ออกจากงานตรงนั้นมาหางานที่ทำใกล้ๆยิมและไปออกกำลังกายเหมือนเดิมครับและหลังจากนั้นก็ผันตัวเองมาเป็นเทรนเนอร์ซะเลย และก็รับฟรีแลนซ์บ้างประปรายเป็นผู้ช่วยตากล้องหรือสต้าฟตามงานต่างๆครับ (ไม่ได้ทิ้งสายงานที่เรียน)
ถ้าถามว่าปัจจุบันน้ำหนักเท่าไหร่ ก็ 85.3 ครับ ตอนนี้ใส่เสื้อไซด์ L เออลืมบอกไป ผมสูง 190 นะ ฮ่าๆๆๆๆ


รูปตอนรับปริญญาหลังจากเลิกทำงานประจำ


น้ำหนักปัจจุบัน

มีหยุดบ้างไหม มีครับ มันเลยช้าลง ใช้ยาลดน้ำหนักไหม ตอบเลยว่าไม่ แต่ถ้าถามว่าใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาไหม ก็ตอบว่าใช่ ใช้
แล้วก็ต้องถามว่าเอา เวลาล่ะ เอาเวลาที่ไหนไป ผมก็จะบอกตรงๆเลยนะครับ ว่า เวลาของคนเรา เท่ากันทุกคน แต่ ใช้ไม่เท่ากันทุกคน ถูกไหมครับ นั้นไง ตอนผมทำงานประจำ ผมก็เข้างาน 9-10 โมง ครับ ออกงานก็ 6 โมง ทุ่ม บางวันมีงานต่อก็ 2 ทุ่มบ้าง หรือบางวันไปออกกอง ก็หายไป2-3 วันเลย แต่..เพราะว่า ผมเลือกที่จะใช้เวลาหลังเลิกงาน ตรงเข้าไปยิมก่อนเลยครับ ใช่ ผมเลือกที่จะไปยิมก่อนกลับบ้าน เห็นไหมครับ หลายๆคนคงจะบอกว่า เห้ยทำงานก็เหนื่อยแล้ว เอาเวลาที่ไหนไปยิม เอ้า ก็หลังเลิกงานไงครับ ก็มีเวลานิ แต่คุณบอกว่าเหนื่อย นิครับ เวลามีแต่ไม่ไปเองมากกว่าหรือเปล่า



อีกอย่างคนอ่านก็ต้องสงสัยว่า เห้ย แล้วกำลังใจล่ะ "ไหนว่าทำอะไรต้องมีกำลังใจไง" บอกเลยว่าตอนนี้ไม่มี มีแค่ว่า "ทำเพื่อตัวเอง" ใช่ ทำเพื่อตัวเองครับ เพื่อสุขภาพ เพื่อความมั่นใจ(ถึงแม้มันจะน้อยเหมือนเดิม) แต่ทำไมถึงบอกว่าผมทำเพื่อตัวเอง ไม่มีกำลังใจอื่นล่ะ
เพราะเชื่อเถอะครับ ถ้าเราทำเพื่อคนอื่น พยายามเพื่อคนอื่น ซักวัน ความพยายามมันก็จะหมดไป ผมเจอมาหลายเคสนะครับ ฟิตมากช่วงแรกๆ แบบ เล่นนู้นนั้นนี้ พยายามเข้ายิม ขยัน เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง...
แต่...พอถึงเวลาซักพักนานเข้า ร่างกายเปลี่ยนแปลงช้าก็เริ่มหมดกำลังใจ ท้อ แล้วยังไงล่ะ "เลิก" ซะงั้น แล้วก็มานั้งบ่นว่าทำไมกูอ้วน ถามผมทำไมเมิงกินแล้วน้ำหนักลด ทำไมมันกินแล้วเพิ่ม เพราะผมออกกำลังกายไงล่ะครับ เพราะผมจริงจังและสู้กับมันไงครับ แล้วคุณก็บอกว่าคุณพยายามแล้ว ผมก็ต้องถามว่า คุณพยายามเพื่อคนอื่นไม่ใช่หรอครับ  เห็นไหมครับ ก็เพราะการพยายามเพื่อคนอื่น มันไม่ได้ดีเลยใช่ไหมล่ะครับ จะทำอะไรให้ใครอย่าใช้คำว่าพยายาม



มันเฟล ผมเข้าใจ มันเฟล ลูบหัวเรียงคน แต่ทำไมไม่เอาความที่เฟล มาพัฒนาตัวเองต่อล่ะครับ เป็นแรงพลักดันในการออกกำลังกายไงครับ มันจะไปยากอะไรครับ พยายามเพื่อคนอื่นมันยากมาก พยายามเพื่อตัวเองดิครับ ไม่มีใครเสียหาย แล้วเราก็เล่นเองได้เองด้วยซ้ำ

ปีหนึ่ง

พ.ย. ปลายปีที่แล้ว

นี่ขนาดผมไปค่ายรับน้องมา 4 วัน ผมกินแบบไม่เลือก กินเยอะมาก มิ้อละ800-1000 แคลเลยด้วยซ้ำ แต่น้ำหนักผมลง เพราะอะไร เพราะกล้ามเนื้อมันกินไขมันไงครับ เพราะผมขยันในตอนแรก ที่ไม่ท้อในการออกกำลังกายไงครับมันเลยกินได้โดยที่น้ำหนักขึ้นยากขึ้น แค่นั้นเอง

ถึงแม้สุดท้าย ผมเองจะยังดูไม่มีซีคแพคที่ชัด เพราะหนังที่ผมเคยอ้วนจนตัวแตกมันหยอนยาน มันเอาไม่ออก มีทางเอามันออกแค่สองทางที่ผมทราบครับ คือ
1 ศัลยกรรมตัดออก
2 เพิ่มน้ำหนักและค่อยๆลดช้าๆ
ซึ่งทางแรกผมไม่มีทางมีเงินขนาดนั้นไปผ่าตัดมันออกได้หรอกครับ และมันดูยากและลำบากมากเลยใช่ไหมล่ะครับ ทางที่ 2 น่ะ...

แต่ผมก็ไม่ท้อครับ ผมเชื่อว่าวันนึงมันจะหายไปจากผม เหนือสิ่งอื่นใด ก็จะบอกเลยว่า "ขยัน" "ใจ" "อดทน" ครับ สามคำที่อยู่กับผมมาตลอด
และก็ต้องบอกอีกว่า ผมจาก ไออ้วนขี้เกียจ กลับกลายเป็นชอบออกกำลังกายเลยนะครับ เรียกได้ว่า "เสพติดการออกกำลังกาย" วันไหนไม่ได้ไปออก ก็จะมานั้งนึกและ กุนี่อ้วนขึ้นเปล่าว๊า ฮ่าๆๆๆๆ ตลกดีนะครับ แต่เอาจริงๆผมชอบมากนะ เปรียบเป็นไลฟ์สไตล์ผมไปเลยก็ว่าได้ และตอนนี้ผมก็เป็นเทรนเนอร์เต็มตัวละด้วย


ขี่ไดโนเสาร์ที่ยิมโชว์ซะเลย

สุดท้ายแล้ว ใจจริงผมก็ต้องขอบคุณกำลังใจแรกผมนะ (ขอไม่บอกชื่อ) เธอน่ารักมาก และตอนนี้ก็ยังคงน่ารักเหมือนเดิม(มั่ง) ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นแค่คนเคยรู้จักกัน แต่เธอก็ทำให้ผมมีวันนี้ได้ ก็ต้องขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ ถ้าวันนั้นผมไม่ได้เริ่มจากคำที่มันบอกผมว่าผมก็คงไม่ออกกำลังกายจนติดได้ขนาดนี้หรอกครับ (ใครใจดีแคปไปให้มันดูที)
สุดท้ายผมถึงได้บอกไงว่า กำลังใจสร้างจากคนอื่นเดี๋ยวก็หมดไป แต่ถ้าสร้างจากตัวเอง มันก็จะคงอยู่กับเราไปจนตาย

"เอาหน่อยๆ"

"ผมทำได้ พวกคุณก็ทำได้"

สวัสดี TN กัญจน์



"ความเจ็บปวดในวันนี้คือความแข็งแรงที่เราจะรู้สึกได้ในวันพรุ่งนี้"
"สิ่งดีๆ ไม่ได้มาง่ายๆ ต้องสู้ไม่รู้จักยอม ถ้าเอาชนะใจตัวเองไม่ได้ จะเอาชนะเรื่องอื่นได้อย่างไร"
CR.Mark Abbott ThaiTopFitness

ปล.รับเทรนนะครับ ราคาไม่แพง Inbox สอบถามได้นะคร้าบ อยากเทรนมากช่วงนี้ว่าง ไม่มีเงินกินข้าวแล้ว ราคากันเองสุดๆแทบจะไม่อยากเชื่อว่า ถูกขนาดนี้เลยนะครับ ผมจะประจำอยู่ที่ยิม Fitness Zone อยู่ตรงถนน นวลจันทร์นะครับ (แถวๆโรงเรียนนวมินทรฯกรุงเทพ นมก.) ครับ
ถ้าสนใจติดต่อได้ที่ Line Soloistz (กัน)
หรือ
Facebook https://www.facebook.com/Gunz.jata (กติกาคือทัก Chat message มาก่อนนะครับ)
และ IG Gunsoloist

สะดวกทางไหนติดต่อทางนั้นได้เลยครับได้เลยครับผม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่