
ตอนนี้ใครๆ ก็ไปไต้หวัน คนรอบข้างต่างก็บอกว่าดีอย่างงั้นดีอย่างงี้ อะไรๆ ก็ดีไปหมด
เฮ้ย ! อะไรจะดีขนาดนั้น เอาเป็นว่ามันจะจริงหรือมั่ว เราเลยไปท้าพิสูจน์ ขอบอกว่า นี่คือ
รีวิวที่มาจากประสบการณ์ที่เราเจอ และความคิดเห็นส่วนตัวของเราล้วนๆ อย่าได้เหมาเอามาตัดสิน
ว่าอะไรผิดหรือถูกนะจ๊ะ เราเลยหนีร้อนปลายๆเดือนเมษา (24-28 เม.ย.59)ไปเจอร้อนเบาๆ ที่ไทเป
บอกก่อนว่าการเดินทางครั้งนี้ ไม่คุมงบ ไม่คุมใดๆ ทั้งสิ้น เน้นสบายๆ ไว้ก่อน 555
จะเป็นอย่างไรไปติดตามกันเลย
Day 1 : เที่ยวรอบๆ ไทเป
เราเดินทางด้วยนกสกู๊ต ขึ้นเครื่องตอนตี 3 คนเยอะมาก

ถึงไทเป ประมาณ 8 โมงเช้า (เวลาที่ไต้หวันเร็วกว่าไทย 1 ช.ม.)
ก่อนเข้าไต้หวัน เราได้กรอกใบเข้าเมืองออนไลน์ไว้ล่วงหน้า แค่ยืน Passport อย่างเดียวก็ผ่านฉลุย
ออกจาก Immigration ไปรับ Pocket Wi-Fi ของ i-Wifi ราคาวันละ 100 NTD จองไว้ล่วงหน้าผ่าน
Net ยื่นใบจองที่เคาเตอร์ก็ได้รับ Pocket Wi-Fi มาแล้ว ออกจากสนามบิน เราใช้บริการรถบัสของ KUO-KUANG
โดยเมื่อออกจาก Immigration เดินตามป้าย Bus to City ไปเลยค่ะ ราคาเที่ยวละ 125 NTD สะดวกดี
เดินทางประมาณ 50 นาทีถึง Taipei Main station ก็ของงแพล็บจะไปไหนต่อดี กว้างมากกกกกกก
ตั้งสติหาทางเข้า MRT ให้ได้ ลงไปชั้น B1 เพื่อซื้อบัตร Easy Card โชคร้ายวันอาทิตย์อ๊อฟฟิศเปิด 11 โมง เราเลยซื้อตั๋วเที่ยวเดียว
ไปลงที่สถานีซีเหมิน แล้วค่อยซื้อ Easy Card ที่สถานีซีเหมินแทน (ไม่มีรูปประกอบเพราะมัวแต่ตกใจที่หลงอยู่ 555)
หลังจากหายงงและหลง ก็ขึ้นรถใต้ดินสาย Banna Line มาลงที่สถานีซิเหมิน เอากระเป๋ามาฝากที่ โรงแรม TS Hotel
โรงแรมค่อนข้างเก่า แต่กว้างและสะอาดดีค่ะ

ที่แรกที่ไปคือ ห้าง SOGO เพื่อไปกินเสี่ยวหลงเปา ของร้าน Din Tai Fung อันเลื่องลือ
เนื่องจากกลางวันวันอาทิตย์คิวเยอะมหาศาล เพื่อนบอกว่าดูในเน็ทมีอีกร้านนึงเป็นร้านที่คนไต้หวันกินกัน
เลยลองขึ้นลิฟท์ไป ชั้น 11 เพื่อหาร้าน Dian Shui Lou พอไปถึงก็จองคิว พนักงานบอกว่าให้ไปเดินเล่น
45 นาทีค่อยมาใหม่ เราเลยตัดสินใจกินร้านนี่ เพราะดูท่าจะเร็วกว่า Din Tai Fung ที่นี่มีเมนูภาษาอังกฤษ
แต่มีรูปให้ดูน้อยเราเลย ใช้วิธีชี้เอาแบบโต๊ะข้างๆ ง่ายดี

เมนู 1 เสี่ยวหลงเปา กัดคำแรกน้ำซุปไหลทะลักออกปาก อร่อยมากถึงมากที่สุด (ให้ 5 ดาว)

เมนู 2 หน่อไม้ฝรั่งขาวผัด รดชาดงั้นๆ (ให้ 2 ดาว)

เมนู 3 กระดูกหมูผัดซอส กรอบนอกนุ่มใน กัดคำแรกเนื้อล่อนออกจากกระดูกเลย อร่อยสุดๆ (ให้ 5 ดาว)

เมนู 4 ฮะเก๋า เนื้อแป้งนุ่มละมุน ไส้หมูกับผักผสมลงตัวมาก ใช้ได้ (ให้ 3 ดาว )

เมนู 5 ปลาราดพริก ปลาสดดี ทอดกรอบมาก แต่น้ำราดเราว่ารสชาดอ่อนไปหน่อยของบ้านเราจี๊ดจ๊าดกว่า (ให้ 3 ดาว)

เมนู 6 หมีผัดซอส XO เส้นนุ่มมาก รสชาดกลมกล่อม (แอบเลี่ยนมันมาก) (ให้ 3 ดาว)
เมนู 7 ไอติมใส่เผือกกวน ไอติมวนิลาเย็นๆ กินกับเผือกกวนร้อนๆ รสชาดเข้ากั้นเข้ากัน (ให้ 4 ดาว)

เครื่องดื่ม ชาอู่หลงจัสมิน หอมมากถึงมากที่สุด ช่วยลดความเลี่ยนของหมี่ผัดไปได้ (ให้ 5 ดาว)

บอกเลยว่าร้านนี้อร่อยกว่า Din Tai Fung ใครไปขอแนะนำเลย สรุปค่าเสียหายมื้อนี้ 3700 NTD
สำหรับใครที่อยากได้กระเป๋า Anello ใต้ห้าง SOGO ตรง MRT ไปหาซื้อได้เลยที่ Metro Mall เลยได้กระเป๋าใหม่กันคนละใบ
อิ่มอร่อยและได้ช้อปกระเป๋าสมใจแล้ว มาวันแรกเราเลยจะไปคารวะบุคคลสำคัญของไต้หวัน นั่นก็คือ ท่านซุนยัดเซ็น
และท่านเจียงไคเช็กที่อนุสรณ์สถาน
ที่อนุสรณ์สถานท่านซุน ที่นี่ให้บรรยากาศเหมือนสวนสาธารณะ คนมีครอบครัวก็พาเด็กๆ มาเดินเล่น
เด็กวัยรุ่นก็มาซ้อมเต้นกันนับได้หลายสิบกลุ่ม อาจเพราะเป็นวันอาทิตย์ที่นี่คนเลยเยอะมาก
ดูสนุกสนานและคึกคักเป็นพิเศษ ที่สำคัญที่นี่มีมุมถ่ายภาพกับตึก 101 ด้วย

มีถุงให้เก็บขี้หมาสำหรับคนที่พาหมามาเดินเล่นที่นี่

หลังจากคารวะท่านซุนแล้วก็ไปคารวะท่านเจียงต่อที่อนุสรณ์สถาน ที่นี่กว้างใหญ่มาก
กว่าจะขึ้นบันไดไปไหว้ท่านเจียงได้ก็เหงื่อซึมเลย ไฮไลท์จะมีการเปลี่ยนเวรยามของทหารให้ดู
แต่ตอนเราไปไม่รู้ว่าพี่ทหารหายไปไหนหมด 555

หลังจากคารวะท่านผู้นำทั้ง 2 ก็ไปต่อตลาดกลางคืนกงกวน ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องรองเท้าถูก ว่ากันว่าใครมาไต้หวันต้องซื้อรองเท้าผ้าใบทุกคน
ที่นี่ถูกกว่าเมืองไทย

เราเลยสอย adidas มาคู่หนึ่ง ราคา 1,459 NTD

หลังจากเสียเงินซื้อรองเท้าผ้าใบไปแล้ว ที่ตลาดกงกวน ยังมีอาหารข้างทางให้ได้ลองลิ้มชิมรสกันด้วย
ร้านแรก แวะซื้อชานมไข่มุกชื่อดังของลุงใส่แว่น เราว่าชานมของเค้าใส่ชาน้อยมากใส่นมเยอะมาก
เลยรู้สึกว่ามันเลี่ยนเกินไป แต่ตัวไข่มุกอร่อยนุ่มลื่นมาก (ให้ 3 ดาว)

ร้าน 2 ซาลาเปาไส้หมูสับใส่ผักดอง แป้งนุ่มมาก แต่ไส้หมูเนี่ยเราว่ารสชาดมันเลี่ยนๆ ถึงแม้จะใส่ผักดอก ก็ยังเลี่ยนอยู่ (ให้ 2 ดาว)

กลับจากตลาดกงกวนเราแวะกลับมาเก็บของที่โรงแรมแล้วไปเดินเล่นต่อที่ซีเหมินติง
แวะเที่ยวตึกแดง วันเสาร์-อาทิตย์ จะมีของแฮนด์เมดมาขาย ราคาไม่ถูกเลย

เราว่าซีเหมินติง อารมณ์เหมือนสยามสแควร์บ้านเรา แต่แฟชั่นเสื้อผ้าบ้านเราล้ำกว่า ส่วนรองเท้าผ้าใบราคาพอๆ กับกงกวน
แต่ที่กงกวนแบบเยอะกว่าหากใครจะซื้อรองเท้าผ้าใบควรไปซื้อที่กงกวน ส่วนเครื่องสำอางดูที่ร้านวัตสัน ก็มีแบรนด์ญี่ปุ่นบ้างแต่ไม่มาก
ราคาไม่ได้ถูกเท่าไหร่ ยกเว้น Perfect Whip ราคา 99 NTD อีกอย่างใครใส่คอนแทคเลนส์ ที่นี่ราคาถูกของเราเลนส์ตาโต
10 คู่ 199 NTD ลองใส่แล้วดี เลยซื้อกลับบ้านเพียบ
ที่ไต้หวันมีหลายอย่างที่ต้องลองกิน พอได้กินแล้วความรู้สึกของเราเป็นแบบนี้
ส่วนใหญ่จะหากินได้ที่ซีเหมินนะคะ (ภาพประกอบ บางรูปยืมเน็ทมาเพราะส่วนใหญ่ลืมถ่ายรูป 555)
เต้าหู้เหม็น : เหม็นสมชื่อ "เต้าหู้ทอด" น้ำจิ่มถั่วบ้านเราอร่อยกว่า (ให้ 2 ดาว)
ไส้กรอกย่าง : หน้าตาเหมือนกุนเชียงบ้านเรา แต่หวานมาก (ให้ 2 ดาว)
ลูกชิ้นปลาหมึก : ลูกชิ้นหมึกเนื้อแน่นมี ซากปลาหมึกให้เห็นอยู่ด้วย อร่อยดี (ให้ 4 ดาว)
เห็ดทอดกรอบ : เห็ดใหญ่มาก ใส่ผงปรุงรส (ให้ 4 ดาว)
หมี่อาจง : เส้นหมี่นุ่ม น้ำซุปเหมือนกระเพาะปลา รสชาดอร่อย ถ้าเติมเนื้อสัตว์ใส่อีกหน่อยจะดีมาก (ให้ 4 ดาว)
ไก่ทอดฮอทสตาร์ : ไก่ทอดขนาดใหญ่ใส่ผงปรุงรส รสชาดดี (ให้ 4 ดาว)

หมาล่า Hot Pot : บุฟเฟ่ที่ใครไปก็ต้องกิน มีปู หอยเป๋าฮื้อ เนื้อวัว เนื้อหมู และอื่นๆ อีกมาก
มีไอติม Movenpick กับ Haagen-Dazs หลายรสให้เลือก น้ำจิ้มก็เยอะมากเลือกไม่ถูก คิดถึงน้ำจิ้มซีฟู้ดที่สุด (ให้ 3 ดาว)

ไอติมห่อใส่ถั่วใส่ผักชี : แป้งไม่นุ่มเหมือนแป้งโรตีสายไหมบ้านเรา ไอติมไม่อร่อย ถั่วตัดรสชาดดี (ให้ 3 ดาว)
น้ำแข็งใสเกล็ดหิมะ : น้ำแข็งนุ่มละมุนลิ้นมาก ผลไม้ที่ใส่ไม่หวานจัด (ให้ 4 ดาว)
น้ำมะระปั่นใส่น้ำผึ้ง : รสชาดหวานอมขม ดีกว่าที่คิด (ให้ 4 ดาว)
Day 2 : เที่ยวเส้นทางรถไฟสายผิงซี แวะโฉบไปเมืองโบราณจิ่วเฟิน
เช้าวันนี้ต้องขึ้นรถไฟธรรมดา (TRA) ไปลงสถานี Ruifang จากน้ันก็ไปต่อทางรถไฟสายผิงซี
ทางรถไฟสายนี้เราเลือกที่จะแวะเที่ยว 2 สถานีคือ Shifen เพื่อดูการปล่อยโคมลอย และน้ำตก Shifen(ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของไต้หวัน)
และสถานี Houtong เพื่อตามล่าหาน้องแมว ของคณะทาสแมว การเดินทางก็ง่ายๆ ค่ะ แค่ไปที่ไทเปเมน เพื่อไปต่อ TRA
ที่สำคัญ บัตร Easy Card จ่ายได้หมดค่ะ เราแค่ดูตารางและหาชานชลาให้ถูกก็ขึ้นรถไฟได้แล้ว

วิวข้างทาง เราเริ่มออกนอกไทเปแล้ว อากาศดีมากค่ะ

นั่งรถไฟประมาณ 1 ช.ม.ก็ถึงสถานี Ruifang เดินไปตามทางเพื่อเปลี่ยนไปเส้นทางผิงซี

ขึ้นรถไฟสายผิงซีต่อเลยค่ะ ก่อนขึ้นต้องแตะบัตร Easy Card ก่อนนะคะ
วันนี้สายผิงซีคนแน่นมาก เรายืนไปลงที่สถานี Shifen ใช้เวลาเกือบ 40 นาทีแนะ ในตู้โบกี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว

เมื่อถึง Shife
ไต้หวัน Landing ใหม่ของคนไทย : เที่ยวเองชิวๆ เรื่อยๆ ไม่กลัวหลง
ตอนนี้ใครๆ ก็ไปไต้หวัน คนรอบข้างต่างก็บอกว่าดีอย่างงั้นดีอย่างงี้ อะไรๆ ก็ดีไปหมด
เฮ้ย ! อะไรจะดีขนาดนั้น เอาเป็นว่ามันจะจริงหรือมั่ว เราเลยไปท้าพิสูจน์ ขอบอกว่า นี่คือ
รีวิวที่มาจากประสบการณ์ที่เราเจอ และความคิดเห็นส่วนตัวของเราล้วนๆ อย่าได้เหมาเอามาตัดสิน
ว่าอะไรผิดหรือถูกนะจ๊ะ เราเลยหนีร้อนปลายๆเดือนเมษา (24-28 เม.ย.59)ไปเจอร้อนเบาๆ ที่ไทเป
บอกก่อนว่าการเดินทางครั้งนี้ ไม่คุมงบ ไม่คุมใดๆ ทั้งสิ้น เน้นสบายๆ ไว้ก่อน 555
จะเป็นอย่างไรไปติดตามกันเลย
Day 1 : เที่ยวรอบๆ ไทเป
เราเดินทางด้วยนกสกู๊ต ขึ้นเครื่องตอนตี 3 คนเยอะมาก
ถึงไทเป ประมาณ 8 โมงเช้า (เวลาที่ไต้หวันเร็วกว่าไทย 1 ช.ม.)
ก่อนเข้าไต้หวัน เราได้กรอกใบเข้าเมืองออนไลน์ไว้ล่วงหน้า แค่ยืน Passport อย่างเดียวก็ผ่านฉลุย
ออกจาก Immigration ไปรับ Pocket Wi-Fi ของ i-Wifi ราคาวันละ 100 NTD จองไว้ล่วงหน้าผ่าน
Net ยื่นใบจองที่เคาเตอร์ก็ได้รับ Pocket Wi-Fi มาแล้ว ออกจากสนามบิน เราใช้บริการรถบัสของ KUO-KUANG
โดยเมื่อออกจาก Immigration เดินตามป้าย Bus to City ไปเลยค่ะ ราคาเที่ยวละ 125 NTD สะดวกดี
เดินทางประมาณ 50 นาทีถึง Taipei Main station ก็ของงแพล็บจะไปไหนต่อดี กว้างมากกกกกกก
ตั้งสติหาทางเข้า MRT ให้ได้ ลงไปชั้น B1 เพื่อซื้อบัตร Easy Card โชคร้ายวันอาทิตย์อ๊อฟฟิศเปิด 11 โมง เราเลยซื้อตั๋วเที่ยวเดียว
ไปลงที่สถานีซีเหมิน แล้วค่อยซื้อ Easy Card ที่สถานีซีเหมินแทน (ไม่มีรูปประกอบเพราะมัวแต่ตกใจที่หลงอยู่ 555)
หลังจากหายงงและหลง ก็ขึ้นรถใต้ดินสาย Banna Line มาลงที่สถานีซิเหมิน เอากระเป๋ามาฝากที่ โรงแรม TS Hotel
โรงแรมค่อนข้างเก่า แต่กว้างและสะอาดดีค่ะ
ที่แรกที่ไปคือ ห้าง SOGO เพื่อไปกินเสี่ยวหลงเปา ของร้าน Din Tai Fung อันเลื่องลือ
เนื่องจากกลางวันวันอาทิตย์คิวเยอะมหาศาล เพื่อนบอกว่าดูในเน็ทมีอีกร้านนึงเป็นร้านที่คนไต้หวันกินกัน
เลยลองขึ้นลิฟท์ไป ชั้น 11 เพื่อหาร้าน Dian Shui Lou พอไปถึงก็จองคิว พนักงานบอกว่าให้ไปเดินเล่น
45 นาทีค่อยมาใหม่ เราเลยตัดสินใจกินร้านนี่ เพราะดูท่าจะเร็วกว่า Din Tai Fung ที่นี่มีเมนูภาษาอังกฤษ
แต่มีรูปให้ดูน้อยเราเลย ใช้วิธีชี้เอาแบบโต๊ะข้างๆ ง่ายดี
เมนู 1 เสี่ยวหลงเปา กัดคำแรกน้ำซุปไหลทะลักออกปาก อร่อยมากถึงมากที่สุด (ให้ 5 ดาว)
เมนู 2 หน่อไม้ฝรั่งขาวผัด รดชาดงั้นๆ (ให้ 2 ดาว)
เมนู 3 กระดูกหมูผัดซอส กรอบนอกนุ่มใน กัดคำแรกเนื้อล่อนออกจากกระดูกเลย อร่อยสุดๆ (ให้ 5 ดาว)
เมนู 4 ฮะเก๋า เนื้อแป้งนุ่มละมุน ไส้หมูกับผักผสมลงตัวมาก ใช้ได้ (ให้ 3 ดาว )
เมนู 5 ปลาราดพริก ปลาสดดี ทอดกรอบมาก แต่น้ำราดเราว่ารสชาดอ่อนไปหน่อยของบ้านเราจี๊ดจ๊าดกว่า (ให้ 3 ดาว)
เมนู 6 หมีผัดซอส XO เส้นนุ่มมาก รสชาดกลมกล่อม (แอบเลี่ยนมันมาก) (ให้ 3 ดาว)
เมนู 7 ไอติมใส่เผือกกวน ไอติมวนิลาเย็นๆ กินกับเผือกกวนร้อนๆ รสชาดเข้ากั้นเข้ากัน (ให้ 4 ดาว)
เครื่องดื่ม ชาอู่หลงจัสมิน หอมมากถึงมากที่สุด ช่วยลดความเลี่ยนของหมี่ผัดไปได้ (ให้ 5 ดาว)
บอกเลยว่าร้านนี้อร่อยกว่า Din Tai Fung ใครไปขอแนะนำเลย สรุปค่าเสียหายมื้อนี้ 3700 NTD
สำหรับใครที่อยากได้กระเป๋า Anello ใต้ห้าง SOGO ตรง MRT ไปหาซื้อได้เลยที่ Metro Mall เลยได้กระเป๋าใหม่กันคนละใบ
อิ่มอร่อยและได้ช้อปกระเป๋าสมใจแล้ว มาวันแรกเราเลยจะไปคารวะบุคคลสำคัญของไต้หวัน นั่นก็คือ ท่านซุนยัดเซ็น
และท่านเจียงไคเช็กที่อนุสรณ์สถาน
ที่อนุสรณ์สถานท่านซุน ที่นี่ให้บรรยากาศเหมือนสวนสาธารณะ คนมีครอบครัวก็พาเด็กๆ มาเดินเล่น
เด็กวัยรุ่นก็มาซ้อมเต้นกันนับได้หลายสิบกลุ่ม อาจเพราะเป็นวันอาทิตย์ที่นี่คนเลยเยอะมาก
ดูสนุกสนานและคึกคักเป็นพิเศษ ที่สำคัญที่นี่มีมุมถ่ายภาพกับตึก 101 ด้วย
มีถุงให้เก็บขี้หมาสำหรับคนที่พาหมามาเดินเล่นที่นี่
หลังจากคารวะท่านซุนแล้วก็ไปคารวะท่านเจียงต่อที่อนุสรณ์สถาน ที่นี่กว้างใหญ่มาก
กว่าจะขึ้นบันไดไปไหว้ท่านเจียงได้ก็เหงื่อซึมเลย ไฮไลท์จะมีการเปลี่ยนเวรยามของทหารให้ดู
แต่ตอนเราไปไม่รู้ว่าพี่ทหารหายไปไหนหมด 555
หลังจากคารวะท่านผู้นำทั้ง 2 ก็ไปต่อตลาดกลางคืนกงกวน ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องรองเท้าถูก ว่ากันว่าใครมาไต้หวันต้องซื้อรองเท้าผ้าใบทุกคน
ที่นี่ถูกกว่าเมืองไทย
เราเลยสอย adidas มาคู่หนึ่ง ราคา 1,459 NTD
หลังจากเสียเงินซื้อรองเท้าผ้าใบไปแล้ว ที่ตลาดกงกวน ยังมีอาหารข้างทางให้ได้ลองลิ้มชิมรสกันด้วย
ร้านแรก แวะซื้อชานมไข่มุกชื่อดังของลุงใส่แว่น เราว่าชานมของเค้าใส่ชาน้อยมากใส่นมเยอะมาก
เลยรู้สึกว่ามันเลี่ยนเกินไป แต่ตัวไข่มุกอร่อยนุ่มลื่นมาก (ให้ 3 ดาว)
ร้าน 2 ซาลาเปาไส้หมูสับใส่ผักดอง แป้งนุ่มมาก แต่ไส้หมูเนี่ยเราว่ารสชาดมันเลี่ยนๆ ถึงแม้จะใส่ผักดอก ก็ยังเลี่ยนอยู่ (ให้ 2 ดาว)
กลับจากตลาดกงกวนเราแวะกลับมาเก็บของที่โรงแรมแล้วไปเดินเล่นต่อที่ซีเหมินติง
แวะเที่ยวตึกแดง วันเสาร์-อาทิตย์ จะมีของแฮนด์เมดมาขาย ราคาไม่ถูกเลย
เราว่าซีเหมินติง อารมณ์เหมือนสยามสแควร์บ้านเรา แต่แฟชั่นเสื้อผ้าบ้านเราล้ำกว่า ส่วนรองเท้าผ้าใบราคาพอๆ กับกงกวน
แต่ที่กงกวนแบบเยอะกว่าหากใครจะซื้อรองเท้าผ้าใบควรไปซื้อที่กงกวน ส่วนเครื่องสำอางดูที่ร้านวัตสัน ก็มีแบรนด์ญี่ปุ่นบ้างแต่ไม่มาก
ราคาไม่ได้ถูกเท่าไหร่ ยกเว้น Perfect Whip ราคา 99 NTD อีกอย่างใครใส่คอนแทคเลนส์ ที่นี่ราคาถูกของเราเลนส์ตาโต
10 คู่ 199 NTD ลองใส่แล้วดี เลยซื้อกลับบ้านเพียบ
ที่ไต้หวันมีหลายอย่างที่ต้องลองกิน พอได้กินแล้วความรู้สึกของเราเป็นแบบนี้
ส่วนใหญ่จะหากินได้ที่ซีเหมินนะคะ (ภาพประกอบ บางรูปยืมเน็ทมาเพราะส่วนใหญ่ลืมถ่ายรูป 555)
เต้าหู้เหม็น : เหม็นสมชื่อ "เต้าหู้ทอด" น้ำจิ่มถั่วบ้านเราอร่อยกว่า (ให้ 2 ดาว)
ไส้กรอกย่าง : หน้าตาเหมือนกุนเชียงบ้านเรา แต่หวานมาก (ให้ 2 ดาว)
ลูกชิ้นปลาหมึก : ลูกชิ้นหมึกเนื้อแน่นมี ซากปลาหมึกให้เห็นอยู่ด้วย อร่อยดี (ให้ 4 ดาว)
เห็ดทอดกรอบ : เห็ดใหญ่มาก ใส่ผงปรุงรส (ให้ 4 ดาว)
หมี่อาจง : เส้นหมี่นุ่ม น้ำซุปเหมือนกระเพาะปลา รสชาดอร่อย ถ้าเติมเนื้อสัตว์ใส่อีกหน่อยจะดีมาก (ให้ 4 ดาว)
ไก่ทอดฮอทสตาร์ : ไก่ทอดขนาดใหญ่ใส่ผงปรุงรส รสชาดดี (ให้ 4 ดาว)
หมาล่า Hot Pot : บุฟเฟ่ที่ใครไปก็ต้องกิน มีปู หอยเป๋าฮื้อ เนื้อวัว เนื้อหมู และอื่นๆ อีกมาก
มีไอติม Movenpick กับ Haagen-Dazs หลายรสให้เลือก น้ำจิ้มก็เยอะมากเลือกไม่ถูก คิดถึงน้ำจิ้มซีฟู้ดที่สุด (ให้ 3 ดาว)
ไอติมห่อใส่ถั่วใส่ผักชี : แป้งไม่นุ่มเหมือนแป้งโรตีสายไหมบ้านเรา ไอติมไม่อร่อย ถั่วตัดรสชาดดี (ให้ 3 ดาว)
น้ำแข็งใสเกล็ดหิมะ : น้ำแข็งนุ่มละมุนลิ้นมาก ผลไม้ที่ใส่ไม่หวานจัด (ให้ 4 ดาว)
น้ำมะระปั่นใส่น้ำผึ้ง : รสชาดหวานอมขม ดีกว่าที่คิด (ให้ 4 ดาว)
Day 2 : เที่ยวเส้นทางรถไฟสายผิงซี แวะโฉบไปเมืองโบราณจิ่วเฟิน
เช้าวันนี้ต้องขึ้นรถไฟธรรมดา (TRA) ไปลงสถานี Ruifang จากน้ันก็ไปต่อทางรถไฟสายผิงซี
ทางรถไฟสายนี้เราเลือกที่จะแวะเที่ยว 2 สถานีคือ Shifen เพื่อดูการปล่อยโคมลอย และน้ำตก Shifen(ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของไต้หวัน)
และสถานี Houtong เพื่อตามล่าหาน้องแมว ของคณะทาสแมว การเดินทางก็ง่ายๆ ค่ะ แค่ไปที่ไทเปเมน เพื่อไปต่อ TRA
ที่สำคัญ บัตร Easy Card จ่ายได้หมดค่ะ เราแค่ดูตารางและหาชานชลาให้ถูกก็ขึ้นรถไฟได้แล้ว
วิวข้างทาง เราเริ่มออกนอกไทเปแล้ว อากาศดีมากค่ะ
นั่งรถไฟประมาณ 1 ช.ม.ก็ถึงสถานี Ruifang เดินไปตามทางเพื่อเปลี่ยนไปเส้นทางผิงซี
ขึ้นรถไฟสายผิงซีต่อเลยค่ะ ก่อนขึ้นต้องแตะบัตร Easy Card ก่อนนะคะ
วันนี้สายผิงซีคนแน่นมาก เรายืนไปลงที่สถานี Shifen ใช้เวลาเกือบ 40 นาทีแนะ ในตู้โบกี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว
เมื่อถึง Shife