อัสเดรามินแห่งฟากฟ้า: วิทยาศาสตร์การสงคราม

รูปจาก
http://www.animagonline.com/img/license/
อิคตา โซลอค ผู้นี้มีความฝัน
ความฝันที่จะได้รับเข้าทำงานในฐานะ บรรณารักษ์ประจำห้องสมุดจักรวรรดิในนครหลวง
งานที่แค่คอยให้ยืมหนังสือนิยายประโลมโลกแก่เหล่าขุนนางที่มีเงินและเวลาเหลือเฝือ
งานที่แค่คอยทำความสะอาดหนังสือวิชาการที่ฝุ่นจับอยู่บนชั้นหนังสือ
งานสบายๆที่ค่าตอบแทนงามสุดๆ
ช่างเป็นงานในฝันสำหรับคนตัวสูง(สันหลังยาว) และเปี่ยมไปด้วยความรักแด่เพื่อนมนุษย์(เฉพาะสาวๆ)เสียจริงๆ
ด้วยเหตุนี้เค้าจึงรวมมือกับเพื่อนที่รู้จักกันมานานตั้งแต่เด็กของเค้าผู้เกิดในตระกูลทหารอันมีชื่อเสียงโด่งดัง ยาโทริ
เข้าสอบการคัดเลือกนายทหารระดับสูงด้วยกันและสนับสนุนเธอให้ผ่านการสอบให้ได้ด้วยคะแนนอับดับหนึ่งด้วยสาเหตุ
“ไม่อยากแพ้อีกตระกูลหนึ่ง”
เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆ ทั้งที่ยาโทริเองก็มีความสามารถสอบผ่านได้แน่ๆอยู่แล้ว
เอาเถอะ ถ้าทำสำเร็จยาโทริจะใช้เส้นสายของตระกูลฝากเข้าทำงานเป็นบรรณารักษ์ประจำห้องสมุดจักรวรรดิให้
การสอบข้อเขียนไม่มีปัญหา
การสอบภาคสนามจะต้องขึ้นเรือไปยังหมู่เกาะทางตะวันออกเฉียงใต้ของจักรวรรดิ
ได้พบเพื่อนร่วมทางที่เกือบทั้งหมดมาจากตระกูลดังทั้งนั้น
ทุกอย่างเกือบไปได้สวย ถ้าเรือไม่เจอพายุระหว่างทาง
พวกนักเรียนเตรียมสอบที่ขึ้นเรือเล็กมาได้ก่อนที่เรือจะล่ม บวกเด็กสาวปริศนาอีกหนึ่งคน
พวกเค้าลอยไปจนถึงฝั่งและพบว่าได้ข้ามมาอยู่ในดินแดนของ สาธารณรัฐคิโอก้า ประเทศคู่สงครามของจักรวรรดิ
จะมอบตัวแล้วขอให้ส่งตัวกลับก็ไม่ได้ ลูกท่านหลานเธอทั้งนั้น
งั้นหาวิธีสบายๆลอบข้ามแดนให้ได้ก็พอ
นั้นจึงนำมาสู่จุดเริ่มต้นของ อิตตา โซลอต จอมทัพผู้เกรียงไกรที่สุดเจ้าของฉายา
“ขี้เกียจทุกครั้ง ชนะทุกครา”
เรื่องนี้ตอนหยิบมาไม่ได้คาดหวังอะไรเลย
ปกที่ขึ้นด้วยตัวละครสาวในชุดสไตค์ชาวเกาะแสนเซ็กซี่
เรื่องย่อปกหลังที่อ่านๆแล้วชวนให้คิดถึงแนวฮาเรมทั่วไป
จุดเดียวที่ติดใจคือเรื่องของผู้ที่ถูกขนานนามเป็นนายทหารผู้เกรียงไกร ช่วงที่ต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่วุ่นวายด้วยไฟสงครามในวัยที่ยังไม่พร้อม
พอได้อ่านเท่านั้นล่ะ เข้าไปอยู่ในรายชื่อเรื่องที่ต้องซื้อทันทีที่เห็นไปเรียบร้อย
การดำเนินเรื่องจะดำเนินไปในมุมมองของตัวเอก อิตตา เป็นหลัก
และด้วยคาแรกเตอร์ของ อิตตา นี่ล่ะที่ทำให้เรื่องนี้มีสีสันขึ้นมาก
ขี้เกียจแต่ใช่ว่าไม่มีดี
มุ่งเน้นไปที่วิธีทางที่ลงแรงน้อยที่สุดแต่มีประสิทธิภาพสูงสุดเสมอ
มีความเป็นผู้นำสูง(ในแบบแปลกๆ)
มีความคิดเป็นตรรกะแบบนักวิทยาศาสตร์
และมุมอื่นๆอีกมากที่เราจะได้เห็นในเล่มหนึ่งนี้ ทั้งด้านที่ดีและร้าย
สำหรับผมนี่เป็นตัวละครที่ค้ำเรื่องทั้งเรื่องไว้ได้เลย และนี่เป็นจุดแข็งที่สุดของเรื่องนี้
จุดแข็งรองลงมาคือกระบวนการแก้ปัญหาและยุทธศาสตร์การศึกของอิตตา
ถึงจะอาจจะดูพื้นๆไปบ้างสำหรับเล่มหนึ่งแต่พออ่านรายละเอียดและกระบวนความคิดก่อนออกมาเป็นแผนการปฏิบัติแล้วน่าสนใจมาก
จุดอ่อนของเรื่องนี้มีสองจุด
หนึ่งคือภาพประกอบในเล่ม เป็นภาพแนวที่มีแต่ลายเส้นลงโทรแค่ส่วนของตาและแสงเงา ทำให้งานภาพดูดรอปลงไป
สองคือจุดที่ทำให้คนอ่านสนใจอยากอ่านต่อ
บังเอิญว่าเรื่องนี้เป็นแนวพิชัยสงครามทำให้ผมติดได้ไม่ยากและสามารถอ่านไปจนถึงจุด พีค ช่วงท้ายเล่มที่ทำให้อยากอ่านต่อได้แต่คนที่ไม่ใช่ล่ะ ผมว่าคงมีหลายคนที่อาจจะเลิกอ่านก่อนไปไม่ถึงจุดสำคัญท้ายเล่ม (เรื่องนี้ยาวสี่ร้อยกว่าหน้า ว่าจะถึงจุดที่ว่าก็ปาไปหน้าที่400แล้ว)
อันที่จริงเรื่องย่อที่ผมเล่านั้นผมเองก็ยังไม่ค่อยพอใจเพราะอย่างที่บอกว่าจุดพีคอยู่ท้ายเล่ม ผู้รู้สึกได้ว่ามันยังเป็นเรื่องย่อที่ไม่ดี
แต่ถ้าเขียนลงไปอาจจะเป็นการทำลายความพีคของเรื่องได้
ดังนั้นผมเลยตัดสินใจลง เรื่องย่อส่วนท้าย ไว้ให้ด้วยเพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจกับเรื่องนี้โดยพยายามเขียนใน spoil ในระดับที่ไม่มากจนเกินไป สามารถเปิดอ่านได้ใน spoil
สรุป สี่ดาว ให้บวกอีกหนึ่งดาวสำหรับคนที่ชอบ code gress, หงสาฯ, พิชัยยุทธซุนวู, marginal operation
เรื่องย่อส่วนท้าย
คำเตือน Spoil ระดับกลาง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อิตตา โซลอค กำลังยืนรออยู่ คอยอะไรบางอย่าง
จากนั้นก็มีรถม้าแล่นเข้ามาจอดต่อหน้า
“ข้าไม่ได้ปล่อยให้เจ้ารอเลยนะ ขึ้นมา”
เค้าขึ้นรถ สารถีปิดประตูรถและควบรถม้าแล่นไป
หลังจากลักลอบสามารถข้ามแดนมาได้สำเร็จ เรื่องราวล้วนไปในทางที่เลวร้ายสำหรับอิตตา
“สำหรับคนอื่นๆคงเป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิต แต่สำหรับฉันแล้วเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ฉันเลือกไม่ถูกเลยว่าวันที่แม่ตายหรือหรือวันนี้วันไหนเลวร้ายกว่ากัน วันที่ฉันได้กลายเป็นสิ่งที่หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ขอเป็นสามอย่างพร้อมกันในวันเดียว”
“สำหรับข้าซึ่งมอบทุกอย่างที่เจ้าชิงชัง ไม่มีใครจะเหมาะสมให้เป็นผู้รับบทบาทแห่งชะตากรรมนี้ได้ดีไปกว่าเจ้าอีกแล้ว”
“ยังไงซะตามหลักศาสนา เจ้าก็ไม่มีทางได้ขึ้นสวรรค์อยู่แล้ว ถึงจะลงสู่นรกภูมิก็ไม่ต่างกัน”
“อิตตา โซลอค เจ้าจงไต่เต้าสู่ระดับสูงสุดของกองทัพจักรวรรดิในฐานะทหารซะ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อยากทำแต่ห้ามพูดว่าทำไม่ได้ เจ้ามีอัจฉริยะภาพทางทหารที่ยิ่งใหญ่เหลือคณา”
“จงแบบรับความปรารถนา ความภักดี และความเชื่อใจทุกอย่างที่ได้รับมา นำกองทัพแห่งจักรวรรดิเข้ารบกับสาธารณรัฐคิโอก้าและ”
“จงนำความปราชัยมาสู่จักรวรรดิ”
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะเป็นเพื่อนร่วมทางสู่ปรโลกกับเจ้าเอง”
[CR] New LN Review: อัสเดรามินแห่งฟากฟ้า วิทยาศาสตร์การสงคราม
รูปจาก http://www.animagonline.com/img/license/
อิคตา โซลอค ผู้นี้มีความฝัน
ความฝันที่จะได้รับเข้าทำงานในฐานะ บรรณารักษ์ประจำห้องสมุดจักรวรรดิในนครหลวง
งานที่แค่คอยให้ยืมหนังสือนิยายประโลมโลกแก่เหล่าขุนนางที่มีเงินและเวลาเหลือเฝือ
งานที่แค่คอยทำความสะอาดหนังสือวิชาการที่ฝุ่นจับอยู่บนชั้นหนังสือ
งานสบายๆที่ค่าตอบแทนงามสุดๆ
ช่างเป็นงานในฝันสำหรับคนตัวสูง(สันหลังยาว) และเปี่ยมไปด้วยความรักแด่เพื่อนมนุษย์(เฉพาะสาวๆ)เสียจริงๆ
ด้วยเหตุนี้เค้าจึงรวมมือกับเพื่อนที่รู้จักกันมานานตั้งแต่เด็กของเค้าผู้เกิดในตระกูลทหารอันมีชื่อเสียงโด่งดัง ยาโทริ
เข้าสอบการคัดเลือกนายทหารระดับสูงด้วยกันและสนับสนุนเธอให้ผ่านการสอบให้ได้ด้วยคะแนนอับดับหนึ่งด้วยสาเหตุ
“ไม่อยากแพ้อีกตระกูลหนึ่ง”
เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆ ทั้งที่ยาโทริเองก็มีความสามารถสอบผ่านได้แน่ๆอยู่แล้ว
เอาเถอะ ถ้าทำสำเร็จยาโทริจะใช้เส้นสายของตระกูลฝากเข้าทำงานเป็นบรรณารักษ์ประจำห้องสมุดจักรวรรดิให้
การสอบข้อเขียนไม่มีปัญหา
การสอบภาคสนามจะต้องขึ้นเรือไปยังหมู่เกาะทางตะวันออกเฉียงใต้ของจักรวรรดิ
ได้พบเพื่อนร่วมทางที่เกือบทั้งหมดมาจากตระกูลดังทั้งนั้น
ทุกอย่างเกือบไปได้สวย ถ้าเรือไม่เจอพายุระหว่างทาง
พวกนักเรียนเตรียมสอบที่ขึ้นเรือเล็กมาได้ก่อนที่เรือจะล่ม บวกเด็กสาวปริศนาอีกหนึ่งคน
พวกเค้าลอยไปจนถึงฝั่งและพบว่าได้ข้ามมาอยู่ในดินแดนของ สาธารณรัฐคิโอก้า ประเทศคู่สงครามของจักรวรรดิ
จะมอบตัวแล้วขอให้ส่งตัวกลับก็ไม่ได้ ลูกท่านหลานเธอทั้งนั้น
งั้นหาวิธีสบายๆลอบข้ามแดนให้ได้ก็พอ
นั้นจึงนำมาสู่จุดเริ่มต้นของ อิตตา โซลอต จอมทัพผู้เกรียงไกรที่สุดเจ้าของฉายา
“ขี้เกียจทุกครั้ง ชนะทุกครา”
เรื่องนี้ตอนหยิบมาไม่ได้คาดหวังอะไรเลย
ปกที่ขึ้นด้วยตัวละครสาวในชุดสไตค์ชาวเกาะแสนเซ็กซี่
เรื่องย่อปกหลังที่อ่านๆแล้วชวนให้คิดถึงแนวฮาเรมทั่วไป
จุดเดียวที่ติดใจคือเรื่องของผู้ที่ถูกขนานนามเป็นนายทหารผู้เกรียงไกร ช่วงที่ต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่วุ่นวายด้วยไฟสงครามในวัยที่ยังไม่พร้อม
พอได้อ่านเท่านั้นล่ะ เข้าไปอยู่ในรายชื่อเรื่องที่ต้องซื้อทันทีที่เห็นไปเรียบร้อย
การดำเนินเรื่องจะดำเนินไปในมุมมองของตัวเอก อิตตา เป็นหลัก
และด้วยคาแรกเตอร์ของ อิตตา นี่ล่ะที่ทำให้เรื่องนี้มีสีสันขึ้นมาก
ขี้เกียจแต่ใช่ว่าไม่มีดี
มุ่งเน้นไปที่วิธีทางที่ลงแรงน้อยที่สุดแต่มีประสิทธิภาพสูงสุดเสมอ
มีความเป็นผู้นำสูง(ในแบบแปลกๆ)
มีความคิดเป็นตรรกะแบบนักวิทยาศาสตร์
และมุมอื่นๆอีกมากที่เราจะได้เห็นในเล่มหนึ่งนี้ ทั้งด้านที่ดีและร้าย
สำหรับผมนี่เป็นตัวละครที่ค้ำเรื่องทั้งเรื่องไว้ได้เลย และนี่เป็นจุดแข็งที่สุดของเรื่องนี้
จุดแข็งรองลงมาคือกระบวนการแก้ปัญหาและยุทธศาสตร์การศึกของอิตตา
ถึงจะอาจจะดูพื้นๆไปบ้างสำหรับเล่มหนึ่งแต่พออ่านรายละเอียดและกระบวนความคิดก่อนออกมาเป็นแผนการปฏิบัติแล้วน่าสนใจมาก
จุดอ่อนของเรื่องนี้มีสองจุด
หนึ่งคือภาพประกอบในเล่ม เป็นภาพแนวที่มีแต่ลายเส้นลงโทรแค่ส่วนของตาและแสงเงา ทำให้งานภาพดูดรอปลงไป
สองคือจุดที่ทำให้คนอ่านสนใจอยากอ่านต่อ
บังเอิญว่าเรื่องนี้เป็นแนวพิชัยสงครามทำให้ผมติดได้ไม่ยากและสามารถอ่านไปจนถึงจุด พีค ช่วงท้ายเล่มที่ทำให้อยากอ่านต่อได้แต่คนที่ไม่ใช่ล่ะ ผมว่าคงมีหลายคนที่อาจจะเลิกอ่านก่อนไปไม่ถึงจุดสำคัญท้ายเล่ม (เรื่องนี้ยาวสี่ร้อยกว่าหน้า ว่าจะถึงจุดที่ว่าก็ปาไปหน้าที่400แล้ว)
อันที่จริงเรื่องย่อที่ผมเล่านั้นผมเองก็ยังไม่ค่อยพอใจเพราะอย่างที่บอกว่าจุดพีคอยู่ท้ายเล่ม ผู้รู้สึกได้ว่ามันยังเป็นเรื่องย่อที่ไม่ดี
แต่ถ้าเขียนลงไปอาจจะเป็นการทำลายความพีคของเรื่องได้
ดังนั้นผมเลยตัดสินใจลง เรื่องย่อส่วนท้าย ไว้ให้ด้วยเพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจกับเรื่องนี้โดยพยายามเขียนใน spoil ในระดับที่ไม่มากจนเกินไป สามารถเปิดอ่านได้ใน spoil
สรุป สี่ดาว ให้บวกอีกหนึ่งดาวสำหรับคนที่ชอบ code gress, หงสาฯ, พิชัยยุทธซุนวู, marginal operation
เรื่องย่อส่วนท้าย
คำเตือน Spoil ระดับกลาง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้