คนที่ทานมะเขือเทศได้ เราว่าโชคดีมากกกกกกกกกกก เพราะไม่ต้องลำบากสรรหาสารพัดตัวช่วย เพื่อสุขภาพดี ผิวสวย อมชมพู จะทานแบบไหน ชีวิตก็ง่ายไปหมด แต่ถ้าใครเป็นเหมือนเรา คือ ทานยากเย็น เข็ญใจ เหลือเกิน เราขอแชร์น้ำมะเขือเทศ ที่เราคิดว่ามันดื่มง่ายมากกก ให้กับเพื่อนๆที่เป็นเหมือนเรา ได้รับชมกันเบาๆค่ะ
สำหรับคาโกเมะ มีน้ำมะเขือเทศด้วยกันหลายแบบ >> มะเขือเทศสกัดเข้มข้น, น้ำมะเขือเทศ 100% ล่าสุดคือ น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้รวม 100% รสอะมาโอ สตรอเบอร์รี่ ค่ะ
วันนี้ขอรีวิว 2 แบบก่อนนะคะ คือ คาโกเมะ น้ำมะเขือเทศ 100% และ คาโกเมะ น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้รวม 100% รสอะมาโอ สตรอเบอร์รี่ เนื่องด้วยราคาเบาๆ ที่สามารถซื้อดื่มได้ทุกวัน และเป็นสินค้าใหม่ เลยขอพูดถึง 2 ตัวนี้ก่อนนะคะ ถ้าใครสนใจตัวที่เป็นสกัดเข้มข้น ครั้งหน้าจะนำมารีวิวให้ดูจ้า
คาโกเมะ น้ำมะเขือเทศ 100% ขนาด 200 มล. ราคา 18 บาท
ส่วนผสม:
น้ำมะเขือเทศ และเกลือบริโภคเสริมไอโอดีน ไม่เติมน้ำตาล ไม่เจือสีสังเคราะห์ และไม่ใช้วัตถุกันเสียค่ะ
มาดูข้อมูลโภชนาการกัน
สูตรนี้ไม่เติมน้ำตาล มีไลโคปีน 25 มก. ต่อ 1 กล่อง และให้พลังงาน 50 กิโลแคลอรี่ โซเดียม 90 มก. หวานจากธรรมชาติ
รสชาติ: กลิ่นมะเขือเทศลอยมาเลย แต่รสชาติจะไม่ใช่มะเขือเทศจ๋า รสหวานนิดๆ ดื่มง่ายกว่าหลายแบรนด์ที่เคยลอง ถ้าเอาไปแช่ให้เย็นๆ ยิ่งอร่อยเลย บางคนบอกว่าพี่ดอยเข้มข้นกว่า แต่สำหรับคนที่ทานยากอย่างเราขอดื่มแบบนี้ดีกว่าจ้า มีตัวเลือกง่ายๆ จะเลือกสิ่งที่ยากกว่าทำไมล่ะเนอะ อิอิ >//<
ต่อไป >>
คาโกเมะ น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้รวม 100% รสอะมาโอ สตรอเบอร์รี่ ขนาด 200 มล. ราคา 18 บาท
ส่วนผสม:
- น้ำมะเขือเทศ
- น้ำแอปเปิ้ล
- น้ำสตรอเบอร์รี่
- วิตามินซี
- ไม่เติมวัตถุให้ความหวาน
- ไม่เจือสีสังเคราะห์
- ไม่ใช้วัตถุกันเสียค่ะ
ข้อมูลโภชนาการมีอะไรบ้างนะ เช็คกันเลย
คนไทยที่ชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นมักจะนำสตรอเบอร์รี่กลับมาจากฟุกุโอกะเป็นสุดยอดสตรอเบอร์รี่จากฟุกุโอกะ ที่มีขนาดใหญ่ อร่อย หอมหวานเป็นพิเศษ มีวิตามินซีด้วยค่ะ ที่สำคัญปลูกได้เฉพาะที่เมืองฟุกุโอกะเท่านั้น ส่วนฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่อร่อยที่ดีที่สุด จะเป็นช่วง พ.ย. – พ.ค. ค่ะ ลูกใหญ่ขนาดไหน ดูในภาพได้เลย เห็นแล้วน่ากินมากกกกกกก เค้าคัดสรรมะเขือเทศและสตอเบอร์รี่จากผู้เชี่ยวชาญ คาโกเมะ ประเทศ ญี่ปุ่นด้วยนะ มีไลโคปีนจากธรรมชาติ ที่คัดพิเศษจาก สายพันธุ์ เฉพาะคาโกเมะ
ภาพจาก: www.facebook.com/fukuoka.wannee
สำหรับน้ำมะเขือเทศ รสอะมาโอ สตรอเบอร์รี่ ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี่ มีไลโคปีน 14 มก. ต่อ 1 กล่อง โซเดียม 20 มก. แคลอรี่มากกว่านิดหน่อย ยังไหวอยู่
รสชาติ: แค่เปิดกล่องก็หอมกลิ่นสตรอเบอร์รี่แล้วอ่ะ ส่วนรสชาติยังคงความเป็นมะเขือเทศมากกว่า แต่พอดื่มไปซักพักจะรู้สึกได้ถึงรสสตรอเบอร์รี่ที่ติดอยู่ปลายลิ้นค่ะ แนะนำให้แช่เย็นก่อนดื่มอีกเช่นกันนะ
ต่อไปเราจะมาดูกันว่าสีและความเข้มข้นของ 2 รสชาตินี้จะเป็นยังไง
เสียดายจังที่คลิปใส่กลิ่นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะได้กลิ่นสตรอเบอร์รี่เต็มๆเลยค่ะ ถ้าดูจากสีแล้ว ไม่น่าจะแตกต่างกัน แต่จริงๆแล้วมีความแตกต่างเล็กๆซ่อนอยู่ค่ะ
น้ำมะเขือเทศ 100%
- มีไลโคปีนสูงกว่าแบบผสม แต่ข้างกล่องไม่ได้ระบุว่ามีวิตามินซีหรือเปล่า
- กลิ่นมะเขือเทศชัด คนที่ทานยาก อาจไม่ค่อยกล้าลอง แต่บอกเลยว่ากินลื่นคอมากกก
- หาซื้อง่าย มีขายที่ 7-11
น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้รวม 100% รสอะมาโอ สตรอเบอร์รี่
- มีไลโคปีนน้อยกว่าแบบ 100% แต่ข้างกล่องเขียนไว้ว่ามีวิตามินซี
- กลิ่นสตรอเบอร์รี่ชวนให้ลิ้มลองมากๆ ลองเปิดกล่องในห้องแอร์ กลิ่นหอมฟุ้งไปหมดเลย แอบนอยด์ที่มีรสมะเขือเทศมากกว่า
- ต้องหาซื้อตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
ขอสรุปเลยล่ะนะ ถ้าใครที่ไม่ชอบมะเขือเทศขั้นเกินเยียวยา แนะนำให้ลอง น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้รวม100% รสอะมาโอ สตรอเบอร์รี่ เพราะดื่มง่ายมากๆ แถมหอมกลิ่นสตรอเบอร์รี่สุดๆ ทันทีที่ได้กลิ่นก็อยากกินแล้วล่ะ ถึงจะบอกว่าออกรสมะเขือเทศมากกว่า แต่ก็ยังมีสตรอเบอร์รี่อยู่นะ แต่ถ้าพอทานไหวดื่มแบบ 100% ก็จะได้ไลโคปีนมากกว่า แต่ยังไงก็ดื่มง่ายเหมือนกันทั้ง 2 รส ที่เราบอกไว้ก่อน เผื่อบางคนที่เห็นได้กลิ่น+เห็นสีอันสดใสแล้ว จะไม่กล้ากินน่ะสิคะ ^_^
ดื่มน้ำมะเขือเทศจะขาวขึ้นจริงไหม?
ขอตอบเลยว่าได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะขาวขึ้นแบบข้ามเฉดสี 3 ระดับนะ ก็ต้องดูปัจจัยพื้นฐานด้วยว่าผิวสีอะไร ถ้าผิวสีแทน แต่อยากขาวเป็นกระดาษ อันนี้ก็ต้องมองตามความเป็นจริงนิดนึงล่ะนะ
เพราะไลโคปีนจะช่วยลดเม็ดสีเมลานิน จึงทำให้ผิวของเราขาวกระจ่างใสขึ้นนั่นเอง และยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด นอกจากประโยชน์ด้านความงาม ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยนะคะ
ใครที่กำลังหัดดื่มน้ำมะเขือเทศก็ลองรับคาโกเมะไปพิจารณากันดู ว่าทานแล้วโอเคไหม รสชาติถูกปากหรือเปล่า ถึงจะมีใครมาเขียนบอกว่าอันนั้นอันนี้อร่อยกว่า สุดท้ายแล้วตัวคุณเองต่างหากที่เป็นคนตัดสินใจ เพราะอยู่ที่ความชอบล้วนๆเลยค่ะ
แต่สำหรับเราที่ไม่ทานมะเขือเทศเลย และได้ลองทานยี่ห้อนี้มาตั้งแต่ช่วงปีที่แล้ว ยอมรับว่าติดใจแบรนด์นี้ แถมมีรสใหม่ๆ ออกมาให้ลอง ไม่มีเบื่อซะด้วย ที่สำคัญคือผิวดีขึ้น รอยสิวเริ่มหาย มีคนทักว่าหน้าใสจัง ใช้ครีมอะไร เราก็บอกไปว่าใช้คาโกเมะ 555+
ขอบคุณที่ติดตามรีวิวจนจบนะคะ
- ありがとう ございます。-
รีวิว คาโกเมะ น้ำมะเขือเทศ ที่ใครๆ ก็ดื่มได้
สำหรับคาโกเมะ มีน้ำมะเขือเทศด้วยกันหลายแบบ >> มะเขือเทศสกัดเข้มข้น, น้ำมะเขือเทศ 100% ล่าสุดคือ น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้รวม 100% รสอะมาโอ สตรอเบอร์รี่ ค่ะ
วันนี้ขอรีวิว 2 แบบก่อนนะคะ คือ คาโกเมะ น้ำมะเขือเทศ 100% และ คาโกเมะ น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้รวม 100% รสอะมาโอ สตรอเบอร์รี่ เนื่องด้วยราคาเบาๆ ที่สามารถซื้อดื่มได้ทุกวัน และเป็นสินค้าใหม่ เลยขอพูดถึง 2 ตัวนี้ก่อนนะคะ ถ้าใครสนใจตัวที่เป็นสกัดเข้มข้น ครั้งหน้าจะนำมารีวิวให้ดูจ้า
คาโกเมะ น้ำมะเขือเทศ 100% ขนาด 200 มล. ราคา 18 บาท
ส่วนผสม:
น้ำมะเขือเทศ และเกลือบริโภคเสริมไอโอดีน ไม่เติมน้ำตาล ไม่เจือสีสังเคราะห์ และไม่ใช้วัตถุกันเสียค่ะ
มาดูข้อมูลโภชนาการกัน
สูตรนี้ไม่เติมน้ำตาล มีไลโคปีน 25 มก. ต่อ 1 กล่อง และให้พลังงาน 50 กิโลแคลอรี่ โซเดียม 90 มก. หวานจากธรรมชาติ
รสชาติ: กลิ่นมะเขือเทศลอยมาเลย แต่รสชาติจะไม่ใช่มะเขือเทศจ๋า รสหวานนิดๆ ดื่มง่ายกว่าหลายแบรนด์ที่เคยลอง ถ้าเอาไปแช่ให้เย็นๆ ยิ่งอร่อยเลย บางคนบอกว่าพี่ดอยเข้มข้นกว่า แต่สำหรับคนที่ทานยากอย่างเราขอดื่มแบบนี้ดีกว่าจ้า มีตัวเลือกง่ายๆ จะเลือกสิ่งที่ยากกว่าทำไมล่ะเนอะ อิอิ >//<
ต่อไป >> คาโกเมะ น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้รวม 100% รสอะมาโอ สตรอเบอร์รี่ ขนาด 200 มล. ราคา 18 บาท
ส่วนผสม:
- น้ำมะเขือเทศ
- น้ำแอปเปิ้ล
- น้ำสตรอเบอร์รี่
- วิตามินซี
- ไม่เติมวัตถุให้ความหวาน
- ไม่เจือสีสังเคราะห์
- ไม่ใช้วัตถุกันเสียค่ะ
ข้อมูลโภชนาการมีอะไรบ้างนะ เช็คกันเลย
คนไทยที่ชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นมักจะนำสตรอเบอร์รี่กลับมาจากฟุกุโอกะเป็นสุดยอดสตรอเบอร์รี่จากฟุกุโอกะ ที่มีขนาดใหญ่ อร่อย หอมหวานเป็นพิเศษ มีวิตามินซีด้วยค่ะ ที่สำคัญปลูกได้เฉพาะที่เมืองฟุกุโอกะเท่านั้น ส่วนฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่อร่อยที่ดีที่สุด จะเป็นช่วง พ.ย. – พ.ค. ค่ะ ลูกใหญ่ขนาดไหน ดูในภาพได้เลย เห็นแล้วน่ากินมากกกกกกก เค้าคัดสรรมะเขือเทศและสตอเบอร์รี่จากผู้เชี่ยวชาญ คาโกเมะ ประเทศ ญี่ปุ่นด้วยนะ มีไลโคปีนจากธรรมชาติ ที่คัดพิเศษจาก สายพันธุ์ เฉพาะคาโกเมะ
ภาพจาก: www.facebook.com/fukuoka.wannee
สำหรับน้ำมะเขือเทศ รสอะมาโอ สตรอเบอร์รี่ ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี่ มีไลโคปีน 14 มก. ต่อ 1 กล่อง โซเดียม 20 มก. แคลอรี่มากกว่านิดหน่อย ยังไหวอยู่
รสชาติ: แค่เปิดกล่องก็หอมกลิ่นสตรอเบอร์รี่แล้วอ่ะ ส่วนรสชาติยังคงความเป็นมะเขือเทศมากกว่า แต่พอดื่มไปซักพักจะรู้สึกได้ถึงรสสตรอเบอร์รี่ที่ติดอยู่ปลายลิ้นค่ะ แนะนำให้แช่เย็นก่อนดื่มอีกเช่นกันนะ
ต่อไปเราจะมาดูกันว่าสีและความเข้มข้นของ 2 รสชาตินี้จะเป็นยังไง
เสียดายจังที่คลิปใส่กลิ่นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะได้กลิ่นสตรอเบอร์รี่เต็มๆเลยค่ะ ถ้าดูจากสีแล้ว ไม่น่าจะแตกต่างกัน แต่จริงๆแล้วมีความแตกต่างเล็กๆซ่อนอยู่ค่ะ
น้ำมะเขือเทศ 100%
- มีไลโคปีนสูงกว่าแบบผสม แต่ข้างกล่องไม่ได้ระบุว่ามีวิตามินซีหรือเปล่า
- กลิ่นมะเขือเทศชัด คนที่ทานยาก อาจไม่ค่อยกล้าลอง แต่บอกเลยว่ากินลื่นคอมากกก
- หาซื้อง่าย มีขายที่ 7-11
น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้รวม 100% รสอะมาโอ สตรอเบอร์รี่
- มีไลโคปีนน้อยกว่าแบบ 100% แต่ข้างกล่องเขียนไว้ว่ามีวิตามินซี
- กลิ่นสตรอเบอร์รี่ชวนให้ลิ้มลองมากๆ ลองเปิดกล่องในห้องแอร์ กลิ่นหอมฟุ้งไปหมดเลย แอบนอยด์ที่มีรสมะเขือเทศมากกว่า
- ต้องหาซื้อตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
ขอสรุปเลยล่ะนะ ถ้าใครที่ไม่ชอบมะเขือเทศขั้นเกินเยียวยา แนะนำให้ลอง น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้รวม100% รสอะมาโอ สตรอเบอร์รี่ เพราะดื่มง่ายมากๆ แถมหอมกลิ่นสตรอเบอร์รี่สุดๆ ทันทีที่ได้กลิ่นก็อยากกินแล้วล่ะ ถึงจะบอกว่าออกรสมะเขือเทศมากกว่า แต่ก็ยังมีสตรอเบอร์รี่อยู่นะ แต่ถ้าพอทานไหวดื่มแบบ 100% ก็จะได้ไลโคปีนมากกว่า แต่ยังไงก็ดื่มง่ายเหมือนกันทั้ง 2 รส ที่เราบอกไว้ก่อน เผื่อบางคนที่เห็นได้กลิ่น+เห็นสีอันสดใสแล้ว จะไม่กล้ากินน่ะสิคะ ^_^
ดื่มน้ำมะเขือเทศจะขาวขึ้นจริงไหม?
ขอตอบเลยว่าได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะขาวขึ้นแบบข้ามเฉดสี 3 ระดับนะ ก็ต้องดูปัจจัยพื้นฐานด้วยว่าผิวสีอะไร ถ้าผิวสีแทน แต่อยากขาวเป็นกระดาษ อันนี้ก็ต้องมองตามความเป็นจริงนิดนึงล่ะนะ
เพราะไลโคปีนจะช่วยลดเม็ดสีเมลานิน จึงทำให้ผิวของเราขาวกระจ่างใสขึ้นนั่นเอง และยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด นอกจากประโยชน์ด้านความงาม ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยนะคะ
ใครที่กำลังหัดดื่มน้ำมะเขือเทศก็ลองรับคาโกเมะไปพิจารณากันดู ว่าทานแล้วโอเคไหม รสชาติถูกปากหรือเปล่า ถึงจะมีใครมาเขียนบอกว่าอันนั้นอันนี้อร่อยกว่า สุดท้ายแล้วตัวคุณเองต่างหากที่เป็นคนตัดสินใจ เพราะอยู่ที่ความชอบล้วนๆเลยค่ะ
แต่สำหรับเราที่ไม่ทานมะเขือเทศเลย และได้ลองทานยี่ห้อนี้มาตั้งแต่ช่วงปีที่แล้ว ยอมรับว่าติดใจแบรนด์นี้ แถมมีรสใหม่ๆ ออกมาให้ลอง ไม่มีเบื่อซะด้วย ที่สำคัญคือผิวดีขึ้น รอยสิวเริ่มหาย มีคนทักว่าหน้าใสจัง ใช้ครีมอะไร เราก็บอกไปว่าใช้คาโกเมะ 555+
ขอบคุณที่ติดตามรีวิวจนจบนะคะ
- ありがとう ございます。-