ราอูลล์ มหาเวทย์ป่วนฟ้า (แฟนตาซี) ตอนที่ 10 ความทรงจำ กับ ความรู้สึก

กระทู้สนทนา

ตอนก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
***********************************************

สวัสดีนักอ่านทุกท่านค่ะ  เพิ่งปิดภาคเรียน ปรับตารางชีวิตแทบไม่ทัน อาจวางช้า อาจกระท่อนกระแท่นไปบ้างต้องขออภัยนะคะ

ขอบคุณจากใจเช่นเดิมสำหรับทุกโหวตทุกกิ๊บทุกกำลังใจ จากนักอ่านทุกท่าน

จากหัวกระทู้ ขอบคุณ lovereason ทึ่ง, GTW ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1182478 ขำกลิ้ง, Lady Star 919 ขำกลิ้ง
จากความคิดเห็นที่หนึ่ง ขอบคุณ GTW ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1182478 ถูกใจ, Lady Star 919 ถูกใจ

ขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับสองความคิดเห็นเหนียวแน่นนะคะ ขอยกมาตอบความคิดเห็นในกระทู้นี้เลย

ตอบคุณ สมาชิกหมายเลข1182478 : จารย์ชาล์ลแกเพี้ยนค่ะ แต่คงสมกันดีกับป้าสีมาร์อย่างที่บอกจริงๆ นั่นละนิ ที่จริงราอูลล์ก็มีดีอยู่พอสมควรนะคะ คนเขียนถึงได้เลือกให้เป็นพระเอก  แต่ว่า... แล้วคู่แข่งพระเอก? ...นั่นสิ จนถึงบทนี้ คนเขียนยังไม่ผุดใครขึ้นมาสักคน... เอาไงดี...

เอาเป็นว่า โปรดติดตามนะคะ

ตอบคุณ อาจารย์จีทีดับเบิ้ลยู : คงต้องตามอ่านจากบทนี้ละค่ะ ถึงรู้ว่าความทรงจำของราอูลล์จะเป็นอย่างไรต่อไป ส่วนบรรดาตัวละครอื่นๆ ที่ลองหัดเขียนแนวแฟนตาซีนี้ คิดว่าน่าจะมีเพิ่มเข้ามา พร้อมประวัติความเกี่ยวพันนะคะ และจะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ


ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตามอ่านเรื่องราวของราอูลล์และชาวป่วนนะคะ

*****************************************************************







ราอูลล์ มหาเวทย์ป่วนฟ้า
010
ความทรงจำ กับ ความรู้สึก





เมื่อเขาไม่รักอีกแล้ว ก็ป่วยการจะอยู่ ซีรินซ์จึงรีบออกมา ตั้งใจจะหาทางกลับไปเกาะแก้วมรกตด้วยตัวเอง

แต่...

ทำไมเขาถึงไม่ยอมรับ

ทำไมเขากลับบอกว่า จำไม่ได้

ก็หล่อนรู้อยู่แล้ว ว่านี้คือพี่ราอูลล์ ลูกชายของพี่ชายที่เคยช่วยชีวิตหล่อน การเข้าใจผิดกันบนเกาะนั่น จบลงไปแล้ว หนำซ้ำเขากับหล่อนยังได้แต่งงานกัน มีความสัมพันธ์กันล้ำลึก ความรู้สึกนั้นยังตรึงตรา...

หล่อนยังฝากรอยสำคัญ... เป็นรอยรักที่สลักเอาไว้กลางฝ่ามือ  

ต่อเมื่อ... ลืมรักเมื่อไร จึงเลือน...

แล้วนี้ แค่สองสามวัน รอยนั้นก็จางหาย...

ซีรินซ์แน่ใจว่า มนตราบทนี้ไม่ผิดพลาด แม่เฒ่าสอนไว้สำหรับวัดใจชาย แล้วอย่างไร...

ได้เห็นหัวใจชายแน่ชัด  เรียกว่ารู้ซึ้งเลยละ!

หล่อนพยายามไม่คิดฟุ้งซ่าน เพราะแค่เรื่องราววิกฤติบนเกาะ ก็ยุ่งยากใจมากพออยู่แล้ว แม้ระหว่างทางจะเดินผ่านผู้คน เพื่อมุ่งหน้าไปยังท่าเรือ หล่อนก็ยังคิดไม่ได้เลยว่า นอกจากราอูลล์แล้ว จะหันหน้าไปพึ่งพาใครได้อีก

แต่ซีรินซ์ก็ยังก้าวเดิน อย่างน้อยก็ตัวของหล่อนเองนั่นละ ที่จะเป็นที่พึ่งให้กับตนเอง

“แม่นาง... เอ่อ... คุณ... ท่าน... ท่าน...”

เสียงเรียกสับสนดังตามมา แต่คงไม่ใช่เรียกหาหล่อน

“ท่าน... ท่าน...”

เสียงใกล้เข้ามา คราวนี้ชัด เมื่อแขนถูกรั้งไว้

ซีรินซ์หันมอง เป็นชายแปลกหน้า วัยหนุ่มไม่น่าอ่อนหรือแก่ว่าราอูลล์สักเท่าไร ใบหน้าคมๆ จะดูหล่อเหลากว่านี้หากจมูกจะเล็กลงสักนิด ทรงผมค่อนข้างกระเซิง หากหวีเรียบกว่านี้ เขาก็จะเป็นหนุ่มทรงเสน่ห์ได้ไม่ยาก

“กระผมเคยเจอท่านที่ไหน... ทำไมหน้าคุ้นๆ จังเลย”

เรมีเพ่งพินิจ แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้คิดไปในทางอกุศลเด็ดขาด แต่ก็ยังถูกฝ่ามือและท่อนแขนแข็งแรงผลักอกให้ไกลห่างหล่อนแทบจะทันที

“นี่...” ราอูลล์ตามมาจนทัน คำรามเหมือนรำคาญ “...เลิกใช้มุกนี้หลีหญิงได้แล้วน่ะ โคตรเชยบรม”

แต่อีกฝ่ายยังเถียง

“จีบอะไรล่ะ นี้เพราะข้าคิดว่า เคยเจอเธอคนนี้ เคยเจอจริงๆ นะ”

ราอูลล์ขยับจะโต้แย้ง ถ้าตนไม่เคยพบหล่อน มีหรือที่คู่หูของเขาจะเคยเห็น

“อ๋อ! ข้านึกออกแล้ว...”

แต่เสียงซีรินซ์ขัดขึ้นก่อน หล่อนเผยรอยยิ้มสดใส ราอูลล์รู้สึกรวดร้าวพิกล เมื่อเห็นว่าหล่อนกำลังยิ้มให้คนอื่น

“...เจ้าคือเรมี่...”

“เอ่าะ!...อ้อ...” แล้วเรมีก็นึกขึ้นได้เช่นกัน “...ท่าน... ท่านคือนางฟ้าบนเกาะวิเศษนี่นา”

“แล้วพ่อเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

ท่าทางราวสนิทสนมกันนั้น ทำให้คนยังยืนเฉยอยู่ ยิ่งไม่สบอารมณ์

“หายแล้วขอรับ หายเป็นปลิดทิ้ง... แถมยังดีกว่าแต่ก่อน”

พูดไม่ทันจบ เรมีก็ถึงกับคุกเข่าลง ทาบฝ่ามือบนพื้น แล้วคำนับหล่อนอย่างให้ความเคารพสูงสุด

“นางฟ้าผู้มีพระคุณ โปรดรับการกราบกรานจากข้าน้อย...”

เขาจรดหน้าผากลงกับพื้น น้ำเสียงแสดงน้ำใจสรรเสริญอันจริงแท้

“นี่...อย่าทำอย่างนี้!”

ซีรินซ์รีบห้าม ประคองให้เรมีลุกขึ้น

และแม้ยืนขึ้นแล้ว เรมียังมีท่าทีนบนอบ จนราอูลล์ต้องกระซิบถาม

“ไอ้เร นี้เจ้าเคยเจอหล่อนมาก่อนจริงๆ น่ะเหรอ”

“ก็จริงน่ะซี...” คนพูดหันไปคำนับให้หญิงสาวอีกครั้ง ก่อนพูดต่อไปว่า “...เธอนี้ละ ที่มอบยาวิเศษให้ข้า เอาไปรักษาพ่อ แล้วนางนี่ละ ต้องเป็นคนให้ยาวิเศษมารักษาป้าสีมาร์”

ประโยคท้าย ทำให้ราอูลล์ยิ่งหนักใจ

หากเป็นเช่นนั้น เป็นตามคำพูดของใครต่อใคร แล้วทำไมเขาถึงจำไม่ได้

“แต่ว่า... แต่ว่าข้า... ข้าจำไม่ได้เลย...”

เขาสารภาพเสียงอ่อน สีหน้าทั้งครุ่นคิดทั้งเบื่อหน่ายตัวเอง

“ช่างมันเถอะ ข้าไม่อยากพูดกับท่านอยู่แล้ว!”

เป็นซีรินซ์ที่พูดออกมาด้วยความแง่งอน แสดงท่าทางห่างเหินให้เห็นกันชัดๆ

“เรมี ท่านมีเรือหรือเปล่า ข้าอยากรีบกลับเกาะวิเศษ”

แต่หล่อนหันไปยิ้มแย้มถามไถ่กับอีกคนได้ไม่ยาก

“อย่าว่าแต่เรือเลยขอรับ  ชีวิตของกระผม ก็ให้ท่านได้นะขอรับ... ตามมาเลย ตามมา”

เรมีถึงกับเบ่งกล้ามผอมกระหร่องให้หล่อนดู ก่อนทำท่าทาง ชักชวนกันไปทางท่าเรือ

ราอูลล์ก็ตามมาเช่นกัน เขาทำเดินเงียบๆ เยื้องอยู่หลังหญิงสาว แต่หล่อนก็ยังรู้สึกคล้ายรำคาญลูกตา

“นี่...” ในที่สุดก็ต้องหันไปถาม “...ยังจะตามมาอีกทำไมล่ะ”

“ก็ ข้าจะไปเกาะวิเศษ เกาะแก้วมรกตอะไรนั่นไง ไปช่วยแม่เฒ่าของเจ้า...”

ราอูลล์พยายามตอบตามตรง ไม่ค่อยกล้าสบสายตาตัดพ้อ ที่จ้องมองมาสักเท่าไร

“ไม่ต้องยุ่งแล้วละ ขอบใจ”

หล่อนปฏิเสธง่าย แต่เขายังไม่ยอม

“ไม่ได้สิ เรื่องเดือดร้อนของเจ้า ถ้าข้าไม่รู้ก็แล้วไป แต่ตอนนี้เมื่อรู้แล้ว ข้าก็ต้องไปให้ได้ ขอโทษเถอะ ถ้าเป็นเรื่องไปช่วยคน ข้าต้องยุ่งด้วยแล้วละ”

เขาพูดตามความรู้สึกที่แท้จริง ซึ่งแน่นอนว่า ปราศจากวี่แววแห่งความรักที่มีให้ต่อหญิงสาวตรงหน้าแม้เพียงสักนิด ก็... หล่อนเป็นแค่คนแปลกหน้าที่ต้องการความช่วยเหลือ...ไม่ใช่หรือ... ที่มอบให้ได้ ก็อาจจะแค่เพียงความสงสาร...

ซีรินซ์เม้มปาก กล้ำกลืนถ้อยคำที่อยากจะตัดพ้อต่อว่า

“อย่างนั้นขอถามสักหน่อย... เจ้าเป็นอะไรกับข้า”

คำถามสั้น ชัด และจริงจังที่สุด

เรมีถึงกับเก็บจอนผมเอาทัดหู เพื่อฟังคำตอบให้ถนัดๆ

ส่วนคนถูกถามทำหน้าไม่ถูก

“เอ่อ... เจ้า... เจ้าคงไม่บอกอีกนะว่า... เจ้าเป็นเมียข้า”

เรมีผงะ เกือบจะถีบเพื่อนเข้าให้แล้ว ตอนที่ราอูลล์ใช้หลังมือแตะปับ เข้าที่หน้าผากของหญิงสาว ที่เขาเคารพบูชาในฐานะผู้มีพระคุณ

“ตัวรุมๆ เจ้าไม่สบายหรือเปล่าเนี่ย...”

ราอูลล์ถามหล่อนจริงๆ

“ท่านสิไม่สบาย จำไม่ได้หรือไง ท่านเป็นสามีข้า ข้าเป็นภรรยาท่าน เป็นเมียท่าน!”

ซีรินซ์อยากตะโกนให้ลั่นเพราะความอึดอัด ไม่สนใจหรอกว่า เรมีแทบจะยืนชิดเพื่อรับฟังให้ได้ทุกถ้อยกระทงความ

ราอูลล์หน้าเหย... นี้เป็นกลางตลาด หล่อนยังกล้ายืนยัน หากไม่ได้ใช้ความกล้าหาญอย่างมาก หรือจดจำเขาเป็นคนอื่นไปจริงๆ ก็เหลืออยู่เหตุผลเดียว... นั่นคือ มันเป็นความจริง

“ตะ... แต่ว่า... ไม่ใช่มั้ง...”

“ใช่... ใช่ซีพี่ราอูลล์ ข้าเป็นภรรยาท่าน เป็นเมียท่าน แล้วท่านก็เป็นสามีของข้า”

เสียงที่ดังยิ่งขึ้น ทำให้ผู้คนซึ่งเห็นวีรบุรุษกตัญญูตั้งแต่แรก เริ่มล้อมวงเข้ามา

รวมทั้ง... พี่น้องสองสาวที่ติดพันอยู่กับชายหนุ่มทั้งสอง

“โอ้โห! ผู้หญิงอะไรพูดจาแบบนี้ ไม่อายบ้างหรือไง”

บรีเซียร์ผู้เป็นพี่เริ่มก่อนทันที

ราอูลล์หันขวับ จะเอ่ยปากห้ามปราม ไม่ให้พูดจาอะไรมากความ แต่ก็ไม่ทันพวกหล่อน  เพราะปรารีสต่อปากจากพี่สาวได้ทันที

“จะบอกให้นะ พี่ราอูลล์น่ะ เป็นของเรา แค่ของเราสองพี่น้องแค่นั้นย่ะ!”

ทั้งสองสาวตั้งท่าขันแข็ง พร้อมลุยเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการปะทะฝีปากหรือฝีมือ แต่ก็ผิดคาด เพราะซีรินซ์แค่ยิ้มๆ เหมือนเห็นดอกไม้หักๆ สักแจกัน คือทั้งสงสารทั้งระคนเวทนา

“ไปกันเถอะเรมี”

หล่อนหันเดินจากมาทันที

หญิงสาวมีคู่หูของเขาวิ่งตามไปแล้ว แต่ราอูลล์ยังถูกสองพี่น้องรั้งสองแขนเอาไว้

“นี่...” เขาพยายามสะบัดให้หลุด “...พวกเจ้านี้มันอะไรกันนักหนา...”

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่