[SR] Sunday brunch ที่ห้องอาหาร Maya ของโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สุขุมวิท 22


เป็นอีกครั้งที่ได้มากินอาหารที่ห้อง Maya แห่งนี้ หลังจากที่ครั้งก่อนได้มากินเมนู A-la-carte แล้วรู้สึกประทับใจทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นคนที่ปลื้มอาหารอินเดียเลย เพราะว่าอาหารอินเดียที่ Maya นี่จะเน้นอินเดียตอนเหนือที่จะมีรสชาติกล่มกล่อม กลิ่นเครื่องเทศไม่หนักเท่าอินเดียตอนใต้ และทุกวันอาทิตย์ที่ห้องอาหารก็จะจัด Sunday Brunch ขึ้นเหมือนกับหลาย ๆ โรงแรม

ห้องอาหาร Maya จริง ๆ แล้วเป็นห้องอาหารอินเดียของโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ ที่อยู่ปากซอย สุขุมวิท 22 เรื่องบรรยากาศคงไม่พูดถึงเท่าไหร่ เรียบหรูเหมือนเดิม ดูจากรีวิวเก่าได้ http://www.bumres.com/th/restaurant/Maya-Restaurant-Holiday-Inn-Bangkok-Sukhumvit-22/review/6079

ซึ่ง Sunday brunch ที่ Maya นี้ก็มีความพิเศษตรงที่ เขาจะจัดเป็นอาหารนานาชาติ แต่มีเมนูอาหารอินเดียเด่น ๆ หลาย ๆ เมนู จากในเมนู A-la-carte มาอยู่ในไลน์บุฟเฟต์ด้วย หากเทียบกับที่ผมได้เคยกินเมนู A-la-carte เห็นจะขาดสิ่งที่ผมชอบที่สุดไป คือพวก Chicken Tikka และพวก Tandoori ต่าง ๆ เพราะเค้าทำได้ นุ่ม หอม อร่อยกลมกลอ่มมาก ส่วนเมนูหลัก ๆ เด่น ๆ ก็น่าจะครบถ้วนครับ

งั้นเราลองไปดูเมนูต่าง ๆ ในมื้อ Sunday brunch ที่ Maya นี้กันเลยแล้วกันครับ ขอเริ่มจากเมนูนานาชาติกันก่อนแล้วกันนะครับ แล้วเดี๋ยวค่อยไปดูเมนูอินเดียกันต่อทีหลัง

Seafood on Ice
เป็นโซนอาหารทะเลสด ๆ ที่มีทั้ง กุ้ง กั้ง หอยแมลงภู่ หอยนางรม ทุกอย่างสดดีมาก มีน้ำจิ้มซีฟู๊ดแซ่บ ๆ ให้ด้วย กินเพลินเลยทีเดียว เนื้อสดหวานทุกอย่าง โดยเฉพาะหอยนางรม ฟินมากครับ และข้าง ๆ ก็จะมีซาชิมิต่าง ๆ อยู่ด้วย ทั้งแซลมอน ทูน่า ปูอัด และหมึกยักษ์ ผมได้ลองชิมทุกอย่างครับ ที่ผมว่าพอได้คือแซลมอน ส่วนอย่างอื่นผมว่ายังไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ





Appetizer
เป็นโซนที่มีเมนูค่อนข้างหลากหลาย ทั้งแนวอิตาเลี่ยน แนวอินเดียน สลัดต่าง ๆ แลก็มีพวกแซลมอนรมควัน ขนมปัง ก็เลือกกินเอาได้ตามใจชอบครับ ผมคาดว่าแต่ละสัปดาห์เมนูในโซนนี้น่าจะไม่เหมือนกันเท่าไหร่ ใครได้ลองไปก็ลองตักมาทานกันเองดูแล้วกันครับ




Pasta
เป็น Live Station ที่มีเชฟคอยทำให้ ผมว่าเค้าทำได้ดีนะครับ ที่ผมได้ลองก็มี สปาเก็ตตี้ซอสแกะ ซอสอาจจะไม่ได้เข้มข้นมาก แต่รสชาติใช้ได้เลย กลิ่นไม่แรง เส้นสปาเก็ตตี้ก็กำลังดีครับ และก็ได้ลองเมนูอื่น ๆ ด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา ความรู้สึกโดยรวมสำหรับโซนนี้ก็กลาง ๆ ครับ


ต่อไปจะเป็นไลน์อาหารอินเดีย และก็มี Live Station อยู่ 1 เมนู ก็คือ เมนู Dosa ที่มีลักษณะคล้ายเครปแบบอินเดีย ๆ หน่อย ไส้จะมีให้เลือก 2 ไส้คือ ชีส และมันฝรั่ง หน้าตาออกมาจะม้วนมาเป็นโรล คล้ายขนมโตเกียว แต่ตัวแป้งจะคล้ายเครปหรือขนมเบื้อง คือจะกรอบ ๆ เบา ๆ เนื้อสัมผัสดีมาก ยิ่งกินกับไส้ข้างในด้วยแล้วว อร่อยเพลินเกินห้ามใจเลย น้ำจิ้มใครใคร่จิ้มจิ้ม แต่สำหรับผมคิดว่าน้ำจิ้มมันกลิ่นแรงไปหน่อย แต่จิ้มเพื่อเพิ่มความชุ่มฉ่ำก็พอได้ครับ




ในไลน์บุฟเฟต์ จะมีตรงโต๊ะกลมที่เป็นเมนูอาหารอินเดียอยู่ปรมาณ 7-8 เมนู และก็มีโต๊ะเล็กไว้วางของทอดอีก 5-6 เมนู ลองดูทีละเมนูเลยครับ



Palak Paneer
เป็น cottage cheese นำไปผัดรวมกับเกรวี่สีเขียวข้นที่ทำจาก ผักโขม กินคู่กับชีสและหอมเจียวที่โรยมา จานนี้ผมว่าอร่อยมากครับ ชีสนุ่ม ๆ มัน ๆ กินกับเกรวี่เข้มข้น รสชาติอ่อน ๆ มันเข้ากันดี กินเปล่า ๆ ก็อร่อย กินกับแป้งนานร้อน ๆ ก็เลิศครับ


Aloo Tadke Wale
เมนูนี้ตอนแรกคิดว่าเป็นเนื้อไก่ทอดอะไรสักอย่าง แต่ไม่ใช่ครับ มันคือมันฝรั่งทอด แล้วนำไปคลุกเคล้ากับเครื่องเทศและสมุนไพรต่าง ๆ ที่รสชาติออกเผ็ดหน่อย ๆ กินเป็นของว่างก็อร่อยเรียกน้ำย่อยได้ดีครับ


Roganjosh
เมนูนี้คือ แกงมัสมั่นแกะ ที่ผมติดใจตั้งแต่ครั้งก่อนที่มากินแบบ A-la-carte แต่ผมว่ายังไม่เปื่อยนุ่มเท่าครั้งก่อนที่ผมมากิน แต่รสชาติยังนัวร์เหมือนเดิม เข้มข้นกลิ่นไม่แรงเกินไป เนื้อแกะชิ้นโต ๆ กินกับแป้งนานอร่อยมากครับ


Malai Broccoli
เป็นเมนูบล็อกโคลี่อบชีส แต่เป็นชีสแบบอินเดีย ๆ เหมือนจะมีส่วนผสมของโยเกิร์ต เพราะว่าจะมีรสเปรี้ยว ๆ หอม ๆ โดยรวมผมว่าใช้ได้นะครับ แต่บางคนอาจจะไม่ชอบเพราะรสมันจะเปรี้ยวหน่อย

Tandoori Chicken
แม้ Brunch จะไม่มี Chicken Tikka และพวก Tandoori ที่ผมเคยกิน แต่ทางห้องอาหารก็ได้เตรียม Tandoori ไว้ให้ 1 เมนู ที่ทำจากปีกไก่ ได้ลองชิมแล้วก็ไม่ผิดหวังครับ สีอาจจะดูเข้มไป แต่ไม่ได้ไหม้นะ มันเป็นสีของเครื่องเทศครับ รสชาติเข้มข้น เนื้อนุ่มมาก ถือว่าเป็นปีกไก่ย่างที่นุ่มที่สุดที่เคยกินเลยครับ อร่อยมาก ชอบมาก

Aloo Moti Tikki
จะเป็นเนื้อไก่บด แล้วนำไปย่าง แต่เนื้อไก่มันแห้งไป กินร้อน ๆ อาจจะอร่อยก็ได้ แต่ที่ผมตักมาทานมันวางอยู่พอสมควรแล้ว แต่ถ้าเทียบกับเมนูข้าง ๆ ที่เป็น Chicken Tandoori ผมว่ากิน Chicken Tandoori จะดีกว่า นุ่มกว่า เข้มข้นและกลมกล่อมกว่าครับ



ต่อไปเป็นโซนขนมหวาน ก็มีทั้งเค้ก ขนมไทย ไอศกรีม ผลไม้ และขนมของอินเดียเล็กน้อย เท่าที่ได้ลองเค้กที่เป็นปอนด์ ๆ อร่อยเกือบทุกอย่างครั้ง แต่เค้กที่เป็นชิ้น ๆ ดูจะแห้งไปสักนิด พวกพุดดิ้งต่าง ๆ ก็รสชาติใช้ได้ แต่เหมือนว่าจะใช้น้ำเต้าหู้แทนพวกครีมและนม เพราะได้กลิ่นคล้ายน้ำเต้าหู้ผสมอยู่ด้วย


และเมนูที่เป็นแนวอินเดียก็คือ Moong Dal Halwa เป็นถั่วหลายชนิดบดรวมกันแล้วผสมน้ำตาล มีรสหวานเนื้อสัมผัสคล้ายไส้ขนมเทียนแต่ฉ่ำนุ่มหวาน กว่าอร่อยกว่า ผมลองกินกับแป้งนานดูเพื่อตัดความหวานลงหน่อย รสชาติที่ออกมาก็ใช้ได้นะครับ ใครไม่เคยกินก็คงต้องลองสักหน่อยครับ และเสียดายไม่มีกุหลาบจามูน ที่เป็นเอกลักษณ์ของขนมหวานอินเดียเลย


สรุป ผมว่าห้องอาหาร Maya ของโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ ตรงปากซอยสุขุมวิท 22 ก็ยังถือว่าเป็นห้องอาหารที่น่าสนใจมาก ๆ มีความแตกต่างและโดดเด่นในเรื่องของรสชาติและความกลมกล่อมของเมนูอาหารเพราะว่ามีการนำอาหารอินเดียเข้ามาอยู่ใน Sunday brunch ด้วย เดิมผมไม่ชอบอาหารอินเดียเลย แต่พอได้มาลองที่นี่ก็สามารถทานได้ แต่บางเมนูที่กลิ่นแรง ๆ ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยไหวอยู่ แต่เนื่องจากอินเดียที่นี่จะเน้นไปทางอินเดียตอนเหนือที่รสชาติจะกลมกล่อมกว่า เครื่องเทศต่าง ๆ ก็กลิ่นไม่แรงมาก ทำให้กินได้ง่ายกว่า ราคาของมื้อ Sunday Brunch มื้อนี้อยู่ที่ท่านละ 700++ บาท(รวมน้ำดื่ม) ถ้าเพิ่มเป็นแบบ Free Flow เครื่องดื่มทุกชนิดรวมทั้งแอลกอฮอล์ด้วยก็เป็นท่านละ 1,200++ บาท แต่ตอนนี้รู้สึกว่าจะมีขายดีลกับ Ensogo อยู่ด้วย เรื่องราคาน่าจะเหลือประมาณ 500 นิด ๆ อย่างไรลองไปเช็คราคาที่ Ensogo อีกทีแล้วกันครับ ฉะนั้นถ้าใครที่อยากกินมื้อบุฟเฟต์คุ้ม ๆ และอยากลองอาหารอินเดียไปในตัว พร้อมบรรยากาศหรู ๆ กับวิวสวย ๆ ด้วยแล้วละก็ลองมาใช้บริการที่ Maya ดูก็น่าจะโอเคครับ
ชื่อสินค้า:   Maya ของโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สุขุมวิท 22
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่