สะพานร้องไห้....
ทำถึงต้องร้องไห้....
ที่ต้องร้องไห้ ก็เพราะมันโศกเศร้าอะดิ !
...แฮ่....
ไม่ใช่อะไรหรอกครับ...
เป็นเพราะว่าสะพานนี้ เป็นสะพานที่เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เพื่อให้การสัญจรไปมาสะดวกขึ้นเนื่องจากบริเวณนี้เป็นที่รวมของถนนหลายสาย
เป็นสะพานข้ามคลองมหานาค...
เริ่มจากบริเวณต่อเนื่องจากสะพานผ่านฟ้า ถนนหลานหลวง
คลองที่ว่านี้ คือคลองโอ่งอ่าง จากบางลำพู มาบรรจบกับคลองมหานาค (ต้นทางคลองแสนแสบนั่นแหละ)
พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๕ ไม่ทันได้ก่อสร้าง
พระองค์เสด็จสวรรคตเสียก่อน เลยค้างเติ่งอยู่นาน
พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ทรงรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่
โดยสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย
ร่วมกับข้าราชการของกระทรวงทั่วประเทศร่วมกันบริจาคค่าก่อสร้าง
สิ้นค่าก่อสร้างไปทั้งสิ้น 57,053 บาท 29 สตางค์
เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่สร้างขึ้นตามรูปแบบสถาปัตยกรรมยุโรป
ค่อนข้างสวยทีเดียวเชียวแหละ ตรงกลางสะพานเป็นปูนปั้น
รูปผู้หญิงอุ้มเด็ก ถือช่อซ่อนกลิ่น กำลังยืนร้องไห้ และรูปผู้ชายยืนกอดเด็ก
เป็นรูปชาวบ้าน ทั้งสองรูป ...
เป็นการแสดงออกถึงความรัก และอาลัยต่อการจากไปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
ผู้ทรงคุณอนันต์แก่พสกนิกรชาวสยาม
สะพานแคบๆ ในสายตาของคนยุคปัจจุบัน
แต่ในยุคสมัยอดีตกว่าร้อยปีที่ผ่านมา ในสายตาของผู้คนยุคนั้น คงกว้างน่าดู
เป็นสะพานที่เชื่อมสองฝั่งคลอง มองเห็นภูเขาทองเบื้องหน้าไม่ไกลนัก
สถาปัตยกรรมที่งดงาม เห็นจะเป็นลายปูนปั้นที่อยู่สองฝากราวสะพาน
เป็นรูปมาลัยดอกไม้ สัญญลักษณ์แห่งการรำลึก และอาลัย
สะพานนี้มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า สะพานมหาดไทยอุทิศ
ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๕๗
พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖
เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธี เปิดใช้เป็นทางการเมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๗
ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคต ของสมเด็จพระปิยมหาราช รัชกาลที่ ๕
แต่เชื่อมั้ย...
ถ้าถามหาสะพานมหาดไทยอุทิศ
มีแต่คนส่ายหัว...ไม่รู้จัก
แต่ถ้าถามว่า รู้จักสะพานร้องไห้มั้ย...
หลายคนจะร้อง อ๋อ...
โดยเฉพาะผู้เฒ่าชาวกรุงเทพดั้งเดิม...!!
=========================== สะพานร้องไห้ =======================
ทำถึงต้องร้องไห้....
ที่ต้องร้องไห้ ก็เพราะมันโศกเศร้าอะดิ !
...แฮ่....
ไม่ใช่อะไรหรอกครับ...
เป็นเพราะว่าสะพานนี้ เป็นสะพานที่เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เพื่อให้การสัญจรไปมาสะดวกขึ้นเนื่องจากบริเวณนี้เป็นที่รวมของถนนหลายสาย
เป็นสะพานข้ามคลองมหานาค...
เริ่มจากบริเวณต่อเนื่องจากสะพานผ่านฟ้า ถนนหลานหลวง
คลองที่ว่านี้ คือคลองโอ่งอ่าง จากบางลำพู มาบรรจบกับคลองมหานาค (ต้นทางคลองแสนแสบนั่นแหละ)
พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๕ ไม่ทันได้ก่อสร้าง
พระองค์เสด็จสวรรคตเสียก่อน เลยค้างเติ่งอยู่นาน
พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ทรงรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่
โดยสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย
ร่วมกับข้าราชการของกระทรวงทั่วประเทศร่วมกันบริจาคค่าก่อสร้าง
สิ้นค่าก่อสร้างไปทั้งสิ้น 57,053 บาท 29 สตางค์
เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่สร้างขึ้นตามรูปแบบสถาปัตยกรรมยุโรป
ค่อนข้างสวยทีเดียวเชียวแหละ ตรงกลางสะพานเป็นปูนปั้น
รูปผู้หญิงอุ้มเด็ก ถือช่อซ่อนกลิ่น กำลังยืนร้องไห้ และรูปผู้ชายยืนกอดเด็ก
เป็นรูปชาวบ้าน ทั้งสองรูป ...
เป็นการแสดงออกถึงความรัก และอาลัยต่อการจากไปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
ผู้ทรงคุณอนันต์แก่พสกนิกรชาวสยาม
สะพานแคบๆ ในสายตาของคนยุคปัจจุบัน
แต่ในยุคสมัยอดีตกว่าร้อยปีที่ผ่านมา ในสายตาของผู้คนยุคนั้น คงกว้างน่าดู
เป็นสะพานที่เชื่อมสองฝั่งคลอง มองเห็นภูเขาทองเบื้องหน้าไม่ไกลนัก
สถาปัตยกรรมที่งดงาม เห็นจะเป็นลายปูนปั้นที่อยู่สองฝากราวสะพาน
เป็นรูปมาลัยดอกไม้ สัญญลักษณ์แห่งการรำลึก และอาลัย
สะพานนี้มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า สะพานมหาดไทยอุทิศ
ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๕๗
พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖
เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธี เปิดใช้เป็นทางการเมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๗
ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคต ของสมเด็จพระปิยมหาราช รัชกาลที่ ๕
แต่เชื่อมั้ย...
ถ้าถามหาสะพานมหาดไทยอุทิศ
มีแต่คนส่ายหัว...ไม่รู้จัก
แต่ถ้าถามว่า รู้จักสะพานร้องไห้มั้ย...
หลายคนจะร้อง อ๋อ...
โดยเฉพาะผู้เฒ่าชาวกรุงเทพดั้งเดิม...!!