วันนึ้เมื่อปีที่แล้ว 14 ตุลาคม 2559 กับฉากหนึ่งในสี่แผ่นดิน

วันนี้เป็นวันที่กรุงเทพมหานครเต็มไปด้วยน้ำรอระบาย แม้แต่ย่านธุรกิจสำคัญ ๆ อย่างสุขุมวิท แต่หากย้อนไปเมื่อปีที่แล้วในวันนี้ เป็นอีกวันที่น้ำตาของพี่น้องไทยไหลนองแผ่นดินไม่ต่างจากน้ำที่ท่วมในวันนี้

วันนี้เมื่อปีที่แล้ว เป็นวันที่มีการอัญเชิญพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจากโรงพยาบาลศิริราชมาเพื่อประกอบพิธีสรงน้ำพระบรมศพ ณ พระที่นั่งพิมานรัตยา ก่อนจะอัญเชิญพระบรมศพขึ้นประดิษฐานในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทต่อไป

ผมเองก็เป็นส่วนหนึ่งของการอัญเชิญพระบรมศพในวันนั้นด้วย

วันนั้นตอนแรกผมนั่งรถเมล์สาย 43 จากหน้าบ้านแล้วก็ไปลงที่ดิโอลด์สยาม จากนั้นก็เดินเท้าไปเรื่อย ๆ แล้วไปข้ามสะพานช้างโรงสีตรงหน้ากระทรวงมหาดไทย แล้วก็เดินเลียบกำแพงพระบรมมหาราชวัง สุดท้ายผมก็ยึดทำเลที่ในสนามหลวงฝั่งตรงข้ามศาลหลักเมือง

วันนั้นคนไปกันมืดฟ้ามัวดิน บนทางเท้า ในสนามหลวง เต็มไปด้วยพสกนิกรที่สวมชุดดำ คนเยอะมากจนผมนั่งขัดสมาธิไม่ได้ ต้องคุกเข่า สัญญาณมือถือก็ไม่ค่อยมี ต้องยืนถึงจะโทรได้

ชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า ในที่สุดขบวนอัญเชิญพระบรมศพก็มาถึง เมื่อรถสีเงินคาดแถบสีฟ้าผ่านหน้าไป ก็มีเสียงสะอื้นดังแทรกความเงียบขึ้นมา ขับให้ความเศร้าออกมามากขึ้น ผมเองก็น้ำตาคลอไปด้วย

หลังจากนั้นไม่นาน ผมมีโอกาสได้อ่านนวนิยายสี่แผ่นดิน เมื่อถึงฉากรัชกาลที่ 5 สวรรคต ผมก็รู้สึกได้ว่ามีหลายอย่างที่เหมือนกับสิ่งที่ผมเพิ่งประสบมาไม่นานตอนรัชกาลที่ 9 สวรรคต

ตั้งแต่ฉากที่แม่พลอยเห็นยายเทียบหัวหน้าคนครัวร้องไห้ ก็ถามว่าเป็นอะไร เมื่อได้คำตอบว่า "ในหลวงสวรรคต" แม่พลอยก็แทบไม่อยากเชื่อ และไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร

ต่อมาแม่พลอยและยายพิศคนรับใช้ได้ไปนั่งรอรับขบวนอัญเชิญพระบรมศพของรัชกาลที่ 5 (รัชกาลที่ 5 สวรรคตที่พระที่นั่งอัมพรสถาน จึงต้องอัญเชิญพระบรมศพมายังพระบรมมหาราชวัง)

วันนั้นแม่พลอยนั่งรถม้าไปลงที่สะพานช้างโรงสีและเดินปะปนไปกับฝูงชนที่ใส่ชุดดำ และไปนั่งที่ริมถนนราชดำเนินใน (จุดใกล้เคียงกับผมในวันนั้น แต่ของผมจะนั่งในช่วงโค้งต่อถนนหน้าพระลานแล้ว) พอขบวนอัญเชิญพระบรมศพผ่านมา ผู้คนต่างก็พากันร้องไห้สะอึกสะอื้นกันทั้งสิ้น เหมือนที่ผมเจอจริง ๆ ไม่มีผิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่