อาการนี้ทำให้เรายอมเลิกกับแฟนมาแล้ว 4 คน และก็ไม่อยากไปเข้าเรียน เพราะเราห่วงเรื่องภาพลักษณ์ของตัวเองที่คนมองเรา
มันอาจฟังดูไร้สาระแต่มันคือความจริง
ตัวเราเองก็พึ่งรู้ว่ามันเป็นอาการของโรคนี้ได้ครึ่งปี แต่จริงๆเป็นมา 4 ปีแล้วโดยไม่รู้ตัว
โดยพื้นฐานติดความรู้สึกแบบ perfectionist ต้องการให้คนอื่นเห็นภาพลักษณ์ของเราออกมาดูดีทุกด้าน
เริ่มแรกไม่ได้น้ำหนักมากสูง 170 นน. หนัก 52-53 แล้วมีช่วงเป็นเชียร์ลีดเดอร์แล้วกินเยอะซึ่งมันไม่เป็นไรตอนนั้น เพราะต้องเต้นตลอดเวลา
แต่พอจบงานเรากินเท่าเดิม ไม่ออกกำลังกายน้ำหนักก็ขึ้นมาที่ 57 แล้วก็เริ่มวงจรอุบาทว์
คือตอนนั้นลดน้ำหนักด้วยการกินน้อยมากๆแต่ไม่ออกกำลังกายนะ มันก็ผอมลงกว่านน.เดิมอีก คนก็ชมกัน
แต่พอถึงจุดนึง
เรากลับกินไม่หยุดเลย ตอนอยู่บ้านคนเดียว กินเยอะมากๆ 3-5,000 kcal จนพอน้ำหนักกลับมาใกล้ๆ 60อีก
เราไม่อยากเจอหน้าแฟน ไม่อยากออกไปเจอเพื่อน สังคมอะไรทั้งนั้น ไม่อยากให้ใครเห็นตอนอ้วน ชอบให้คนเห็นแต่ตอนที่เราดีๆ
ก็ยอมเลิกกับแฟนไป ดีกว่าไปเจอหน้า คือเราหนีหายไปเลยไม่รับโทรศัพท์ ไม่เปิดบ้าน แย่มากๆไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น
ช่วงนั้นใครชวนไปไหนก็ไม่ไป มันมีผลรุนแรงกับเรามากๆเลย แต่ตอนนั้นไม่รู้ตัว
แล้วเราก็กลับมาฮึดออกกำลังกายหนักมาก ลดอาหาร ผอมประมาณ53-54kg มีแฟน ซักพักเหมือนอิ่มตัว สบายใจ เริ่มกินเยอะ
มีความสุขมากตอนได้อยู่บ้านนั่งหน้าคอมกินอะไรอยู่คนเดียว น้ำหนักขึ้น เลิกกับแฟน ไม่ออกไปไหนกับเพื่อน
ถึงขั้นไม่อยากไปเรียน ไม่อยากให้ใครเห็นตัวเองสภาพนี้
แล้ววงจรอุบาทว์มันก็วนอยู่อย่างนี้ตลอด4ปี
เวลากินเยอะๆก็จะคิดว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวจะออกกำลังกายชดใช้ หรือไม่เป็นไรวันนี้วันสุดท้าย
แต่ไม่เคยล้วงคออ้วงหรือกินเคี้ยวอาหารแต่ไม่กลืนนะคะ
เราเรียนด้านวิทย์สุขภาพแต่ไม่ใช่หมอ ทั้งๆที่รู้ว่าอันไหนดี อันนี้แคลอรี่เท่าไหร่ แต่พอช่วงตบะแตกกลับเลือกกินแต่ของแย่ๆ แคลสูงๆ
อ่านเจอครั้งแรกว่าตัวเองเป็นอาการนี้ ในกระทู้คุณมัดหมี่ จากนั้นก็เซิร์จๆตามบอร์ดนอก รู้สึกเมืองนอกเค้าเป็นกันเยอะ
พอรู้ว่าเป็นก็แก้ได้ช่วงนึง แต่ซักพักก็ยังกลับมาเป็นอีก
เป็นอาการทางจิตแน่ๆ แต่ยังไม่ได้พบจิตแพทย์ ว่าจะลองสู้อีกครั้ง ถ้ายังไม่หายจะไปพบแพทย์แล้วค่ะ
ตอนนี้ก็พึ่งเลิกกับแฟนคนล่าสุดด้วยเรื่องเดิมๆของเรา คือเราหายไป ไม่อยากเจอ ด้วยนน.59-60 kg ตอนนี้
เราไม่ถึงกับร้องไห้ แต่รู้สึกโมโหตัวเองที่ทำไมถึงหายขาดจากอาการนี้ไม่ได้ซักที
อยากหายแล้วค่ะ ใครเคยเป็นช่วยมาแชร์กันหน่อยนะคะ
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
เป็น binge eating disorder หนักจนถึงขั้นยอมเลิกกับแฟนเพราะไม่กล้าไปเจอหน้า รบกวนเข้ามาช่วยทีค่ะ
มันอาจฟังดูไร้สาระแต่มันคือความจริง
ตัวเราเองก็พึ่งรู้ว่ามันเป็นอาการของโรคนี้ได้ครึ่งปี แต่จริงๆเป็นมา 4 ปีแล้วโดยไม่รู้ตัว
โดยพื้นฐานติดความรู้สึกแบบ perfectionist ต้องการให้คนอื่นเห็นภาพลักษณ์ของเราออกมาดูดีทุกด้าน
เริ่มแรกไม่ได้น้ำหนักมากสูง 170 นน. หนัก 52-53 แล้วมีช่วงเป็นเชียร์ลีดเดอร์แล้วกินเยอะซึ่งมันไม่เป็นไรตอนนั้น เพราะต้องเต้นตลอดเวลา
แต่พอจบงานเรากินเท่าเดิม ไม่ออกกำลังกายน้ำหนักก็ขึ้นมาที่ 57 แล้วก็เริ่มวงจรอุบาทว์
คือตอนนั้นลดน้ำหนักด้วยการกินน้อยมากๆแต่ไม่ออกกำลังกายนะ มันก็ผอมลงกว่านน.เดิมอีก คนก็ชมกัน
แต่พอถึงจุดนึง
เรากลับกินไม่หยุดเลย ตอนอยู่บ้านคนเดียว กินเยอะมากๆ 3-5,000 kcal จนพอน้ำหนักกลับมาใกล้ๆ 60อีก
เราไม่อยากเจอหน้าแฟน ไม่อยากออกไปเจอเพื่อน สังคมอะไรทั้งนั้น ไม่อยากให้ใครเห็นตอนอ้วน ชอบให้คนเห็นแต่ตอนที่เราดีๆ
ก็ยอมเลิกกับแฟนไป ดีกว่าไปเจอหน้า คือเราหนีหายไปเลยไม่รับโทรศัพท์ ไม่เปิดบ้าน แย่มากๆไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น
ช่วงนั้นใครชวนไปไหนก็ไม่ไป มันมีผลรุนแรงกับเรามากๆเลย แต่ตอนนั้นไม่รู้ตัว
แล้วเราก็กลับมาฮึดออกกำลังกายหนักมาก ลดอาหาร ผอมประมาณ53-54kg มีแฟน ซักพักเหมือนอิ่มตัว สบายใจ เริ่มกินเยอะ
มีความสุขมากตอนได้อยู่บ้านนั่งหน้าคอมกินอะไรอยู่คนเดียว น้ำหนักขึ้น เลิกกับแฟน ไม่ออกไปไหนกับเพื่อน
ถึงขั้นไม่อยากไปเรียน ไม่อยากให้ใครเห็นตัวเองสภาพนี้
แล้ววงจรอุบาทว์มันก็วนอยู่อย่างนี้ตลอด4ปี
เวลากินเยอะๆก็จะคิดว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวจะออกกำลังกายชดใช้ หรือไม่เป็นไรวันนี้วันสุดท้าย
แต่ไม่เคยล้วงคออ้วงหรือกินเคี้ยวอาหารแต่ไม่กลืนนะคะ
เราเรียนด้านวิทย์สุขภาพแต่ไม่ใช่หมอ ทั้งๆที่รู้ว่าอันไหนดี อันนี้แคลอรี่เท่าไหร่ แต่พอช่วงตบะแตกกลับเลือกกินแต่ของแย่ๆ แคลสูงๆ
อ่านเจอครั้งแรกว่าตัวเองเป็นอาการนี้ ในกระทู้คุณมัดหมี่ จากนั้นก็เซิร์จๆตามบอร์ดนอก รู้สึกเมืองนอกเค้าเป็นกันเยอะ
พอรู้ว่าเป็นก็แก้ได้ช่วงนึง แต่ซักพักก็ยังกลับมาเป็นอีก
เป็นอาการทางจิตแน่ๆ แต่ยังไม่ได้พบจิตแพทย์ ว่าจะลองสู้อีกครั้ง ถ้ายังไม่หายจะไปพบแพทย์แล้วค่ะ
ตอนนี้ก็พึ่งเลิกกับแฟนคนล่าสุดด้วยเรื่องเดิมๆของเรา คือเราหายไป ไม่อยากเจอ ด้วยนน.59-60 kg ตอนนี้
เราไม่ถึงกับร้องไห้ แต่รู้สึกโมโหตัวเองที่ทำไมถึงหายขาดจากอาการนี้ไม่ได้ซักที
อยากหายแล้วค่ะ ใครเคยเป็นช่วยมาแชร์กันหน่อยนะคะ
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ