นำบ้านที่ไม่ใช่ของตัวเองมาให้เช่า โดนโกงมัดจำบ้าน

วันที่ 28 ก.ค 2558

เรื่อง ฉ้อโกง หลอกลวง (บ้านเช่า)


เรื่องมีอยู่ว่า ผมได้เช่าบ้านเลขที่ 798 ซ.บางนา27 หมูบ้านไพโรจน์ โครงการ4 ซอย3 เมื่อวันที่ 1 มีนาคา 2558 ค่าเช่า 7,000 บาท/เดือน สัญญา1ปี จ่ายล่วงหน้า 1 เดือน มัดจำอีก2 เดือน มัดจำน้ำ-ไฟ อีก 3000 บาท รวมเป็น 24,000 บาท ทำสัญญากับ นางอำพัน (ขอสงวนนามสุกล ) เป็นที่เรียบร้อย
     อยุ่อาศัย จ่ายค่าเช่าปกติ จนมาถึง เดือน พฤษภาคม ได้มี จนท.จาก บ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพานิช์ ชื่อ วสุธร มาเเจ้งว่า บ้านที่ผมอาศัยอยู่เป็นทรัพย์ของ บจก.บริหารสินทรัพย์ ให้ดำเนินการย้ายออกภายใน2เดือน ผมถามเรื่องราวว่ามันเป็นอย่างไร เจ้าหน้าที่บอกว่า บ้านนี้ เจ้าของชื่อ นางอิงพร (ของสงวนนามสกุล) (เเล้วคุณ อำพัน เป็นใคร?ไม่ใช่เจ้าของบ้าน) ได้ถูกบังคับขายตามคำสังศาล เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2558  ผมจึงได้ติดต่อไปยังเจ้าของบ้านเช่า เเต่ได้คำตอบมาให้อยู่ต่อไปก่อนไม่มีปัญหาอะไร กำลังเคลียกับทาง บ.สินทรัพย์อยู่ ผมจึงได้ติดต่อกลับไปทาง บ. สินทรัพย์อีกทีว่า เรื่องจะจบยังไง เมื่อ(คุณอำพัน) บอกให้อยู่ต่อ ทางสินทรัพย์ เเจ้งว่า ไม่มีการติดต่อใดๆจากเจ้าของบ้าน ส่วนเรื่องที่เจ้าของบ้านให้พักอาศัยต่อนั่นไม่มีสิทธิดำเนินการได้เพราะไม่ใช่เจ้าของบ้านเเล้ว บ้านเป็นของ บ.สินทรัพย์เรียบร้อยเเล้ว เเต่ จนท. สินทรัพย์ บอกให้ผมอยู่ต่อได้อีก2เดือนเพื่อหาที่อยู่ใหม่ โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่า เเล้วก็ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้านตั้งเเต่เดือน มิถุนายน ให้กับ ทาง คุณอำพันเเล้ว เพราะบ้านไม่ใช่ของเค้า (มีเอกสารการโอนทรัพย์สินเป็นของ บ.สินทรัพย์ เรียบร้อย ตั้งเเต่วันที่ 20 พ.ค 58 ) ผมจึงได้ติดต่อไปยังบ้านเช่าอีกครั้งเพื่อเเจ้งรายละเอียด เจ้าของบ้านเช่าก็ตอบกลับมาเหมือนเดิมว่าให้อยู่ไปก่อน พร้อมเก็บค่าเช่า ผมจึงเเจ้งว่าถ้าเป็นอย่างนี้ ผมขอย้ายออก ผมย้ายออกมาจากบ้าน ในวันที่ 9 กรกฎาคม 58
เเต่ทาง คุณอำพัน ได้ส่งคนมาตรวจบ้าน พร้อม ขอกุญเเจคืน เเล้วจะโอนมัดจำให้ในวันที่ 10  กรกฎาคม 58 เเต่ขอหักค่าเช่าบ้าน ในเดือน มิ.ย 58 ด้วย (ไม่ใช่บ้านเค้าผมต้องจ่ายด้วยหรอ)
หลังจากวันที่10 ก.ค 58 ก็ได้ติดตามทวง มาเป็นระยะ เป็นเวลา 3 วัน ไม่มีการดำเนินการโอนเเต่อย่างใด ติดต่อไปไม่รับสาย โทรทุกวัน จึงทำการส่งข้อความไปว่า ถ้าไม่ดำเนินการให้จะทำการเเจ้งความ ก็ยังไม่มีการติดต่อกลับเเต่อย่างใด
    
    จนเมื่อวันที่ 13 ก.ค 58 จึงได้เข้าไปเเจ้งความที่ สน.บางนา เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ทาง ตร.บอกว่า เข้าข่ายฉ้อโกงนะครับ เพราะ นำบ้านที่ไม่ใช่ของตัวเองมาหาผลประโยชน์ โดยการหลอกลวง ให้ผู้อื่นมาเช่าบ้าน ทาง ตร. จึงได้โทร หาทาง คุณอำพัน ว่าเรื่องเช่าบ้านเป็นยังไงกัน ทำไมมีคนมาเเจ้งความ(ผมเเจ้งความ) ทางคุณอำพัน เเจ้งกับทาง ตร. ว่า ทางผมร้อนตัว รีบออกมาจากบ้านก่อน ทั้งที่ ตน บอกให้อยู่ไปก่อน ทางตร.จึงได้เเจ้งกับคุณอำพันว่า จะอยู่ได้อย่างไรในเมื่อบ้านไม่ได้เป็นของคุณ เเล้วคุณอำพัน กับ คุณอิงพร เป็นอะไรกัน (เงียบ เเล้วเอ่ยว่า เป็น ๆ ๆ เพื่อนกันค่ะ) เค้าบอกเค้าเป็นเพื่อนกัน ตร.จึงถามว่ามีเอกสารยืนยัน การมอบอำนาจ ดูเเลบ้านนี้ไหม ทางคุณอำพันตอบว่า มีซิค่ะ ทางตร. เลยถามต่อว่า เเล้วจะคืนค่ามัดจำให้ผมได้เมื่อไร ในเมื่อทางผมย้ายออกมาเเล้ว เลยได้ความว่า ค่านำ้ค่าไฟ ผมยังไม่ได้เคลีย จึงไม่คืนเงินมันจำให้ ผมเลยบอกว่าถ้างั้นให้หักค่ามัดจำน้ำไฟผมไปก็ได้ 3000 บาท สรุปว่า เค้าบอกขอเช็คยอดให้เเน่ใจว่า ค่านำ้ค่าไฟเท่าไร จะได้หักอย่างถูกต้อง (ซึ่งทางผมได้เเจ้งกับทาง สินทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยเเล้วว่าจะเคลียน้ำไฟให้ เเต่ทางคุณอำพันก็ยังยืนยันว่าต้องเคลียทางนี้  ทั้งที่ไม่ได้เป็นเจ้าของบ้าน) จบการ สนทนา ลงบันทึกประจำวันไว้ เเล้วทาง ตร. จะทำการนัดมาไกล่เกลี่ย

  จนมาถึงวันที่ 19 ก.ค 58 ตร.ได้นัดทางคู่กรณี มาทำการไกล่เกลี่ยกันกับผม ที่ สน.บางนา เวลา 19:00 เเต่คนที่มาพบผม กลับเป็นคุณอิงพร ไม่ใช่ ทางคุณอำพัน ทางคุณอิงพร ถามว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงกัน ผมก็อธิบายไปตามที่กล่าวมาข้างต้น เค้าบอกว่า คุณอำพันเป็นเพื่อนเค้า ให้ดูเเลบ้านให้ ผมบอกว่าผมไม่ได้มีปัญหาอะไรมากเรื่องนี้ ผมขอเเค่มัดจำคืน ทั้งหมด 24000 คุณอิงพรบอกว่า หักเดือน มิถุนายน ด้วยนะ เพราะเราอาศัยอยู่บ้านเค้า (เอกสารโอนบ้านเป็นของ บ. สินทรัพย์ วันที่ 20 พ.ค 58 เเสดงว่า เดือนมิถุนายน ไม่ใช่บ้านของคุณอิงพร เเล้ว) ผมเลยบอกว่า หักได้ไง ไม่ใช่บ้านของคุณ คุณอิงพรบอกว่า สัญญาเข้าพักอาศัยทำไว้1ปี
คุณอยู่ก็ต้องจ่ายซิ ผมก็เลยบอกไปอีกว่าไม่ใช่บ้านของคุณสัญญาก็ใช้ไม่ได้เเล้วนิครับ เพราะคุณผิดสัญญา บ้านโดนยึด คุณอิงพรก็เถียงผมกัลบมาอีกว่า ถ้าสัญญาใช้ไม่ได้คุณก็ไปตามมัดจำกันเองละกัน เค้าจะไม่รับผมชอบ ผมโมโหมาก ผมบอกงั้นให้ ตร. ตัดสิน ตร.บอกว่า ผมเป็นเเค่คนกลาง มาฟังคุณตกลงกัน เพราะคดีนี้เป็น คดีเเพ่ง ผมไม่สามารถส่งเรื่องขึ้นศาลได้
(ผม อึ่งไปสักครู่ คดีฉอโกง เปป็นคดีอาญา เปลี่ยนเป็นคดีเเพ่งไปเเล้ว ผมรู้ตัวเลยว่าต้องมีอะไรสักอย่างที่ไท่ชอบมาพากล เลยเงียบ ให้เเฟนผมคุยต่อ ) ได้เรื่องว่า เค้าจะหัก่ค่าเช่าเดือน มิ.ย 7000 กับ หักนำ้ไฟ ผมอีก 3000 รวมเป็น 10000 บาท จะคืนในวันจันที่ 27 ก.ค 58 ผมก็ตกลง เพราะไม่อยากเสียเวลา จบการสนทนา

   จนมาถึงวันที่ 27 ก.ค 58 ได้ทำการติดต่อไปทางคุณอิงพร ปรากฎว่า ไม่รับสาย โทรไปอีกเหมือนมือเค้าไปโดนปุ่มรับสาย ได้ยินว่า ทางบ้านเช่าโทรมาอีกเเล้วใช่ไหม รำคาญ ให้ตัดสายทิ้งไปเลย (ทุกสายที่โทรผมมีการบัญทึกการสนทนา) สรุปผมโดนโกงค่ามันจำอีก

      ที่ผมเขียนเรื่องราวนี้มา ผมอยากจะขอความเป็นธรรม ครับ ผมทำอะไร คนพวกนี้ไม่ได้เลย
หรอครับ นำบ้านที่มิใช่ของตัวเองมาให้เช่า หลอกลวงมาให้เช่า เข้าข่ายฉ้อโกง ผมเสียหาย ต้องจ่ายค่าย้ายบ้าน ย้ายเเอร์ ค่าใช้จ่ายในการขนย้าย โดยที่ไม่จำเป็น เเล้วยังมาโดนโกงค่า มัดจำบ้านอีก  ต้องมีอีกกี่คนที่ต้องมาเจออย่างผม กับพวกมีอิทธิพลพื้นที่
ตร.ท้องที่ไม่สามารถดำเนินการให้ได้

ที่จิงอยากได้เเค่มันจำคืน ไม่อยากให้เรื่องใหญ่โต ขนาดนี้

    
ยาวไปหน่อย เเต่มันคือเรื่องจิง สังคมเราอยู่ยากขึ้นทุกวัน เอาไว้เป็นบทเรียนชีวิตครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่