เมื่อวานไปออกกำลังกายที่ห้างใหญ่ที่สุดแถวบางนา หลังจากออกกำลังกายเสร็จประมาณหกโมงเย็น บังเอิญนึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้วันวิสาขบูชา เลยชวนกันกับสามีไปซื้ออาหารเพื่อเก็บไว้ทานตอนเช้า
วันนั้นทางห้างจัดมหกรรมอาหารวันสุดท้ายพอดี มีขายอาหารหลายหลาก อาหารเหนือ ใต้ อิสาน ญี่ปุ่น เกาหลี ขนม ผลไม้ เลยเลือกไปดูอาหารใต้ เห็นอาหารใส่กาละมังสแตนเลสน่าทาน เลือกแกงไตปลา และแกงซี่โครงหมู เพราะดูเหมือนทำเสร็จใหม่ๆเพราะถั่วฝักยาว หน่อไม้ ยังสีสวยไม่เละ เจ้าของร้านเป็นผู้ชายผิวขาว อายุประมาณ 27-32 เท่านั้น ถือว่ายังเป็นคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจทำมาหากิน สรุปได้กับข้าว 2 อย่าง อย่างละ60 รวม 120บาท ถือว่าแพง แต่เพราะเราเข้าใจว่าขายในห้าง ราคานี้พอรับได้
กลับบ้านก็เอาแกงเข้าตู้เย็นทันที เพราะรู้ดีว่าช่วงนี้อากาศร้อน เดี๋ยวของจะเสียซะก่อน
วันนี้ตอนเช้าตั้งใจหุงข้าว เพื่อทานกับแกงที่ซื้อมา เอาแกงไตปลาอุ่นก่อน แกะกล่องออกมา เห็นก้นกล่องมีเนื้อปลาเละมาก ถั่วฝักยาวบ้างสีเก่า บ้างสีใหม่ แต่ก็ไม่ได้ฉุกคิดอะไรมาก นำเข้าอุ่นไมโครเวฟปกติ พอเปิดเตาออกมา กลิ่นเปรี้ยวมากไม่มีกลิ่นแกงไตปลา อ่ะโอเค...คงไม่มีอะไร มาแกะกล่องแกงหมูต่อ แกงหมูเหมือนมีเมือกๆ ก็คิดว่าน่าจะเป็นไขมันของหมู ลองอุ่นดู อุ่นแกงทั้งสองเสร็จ ก็ตักแกงไตปลาหนึ่งช้อน เลือกหน่อไม้ กลิ่นยังเปรี้ยวๆ พอตักใส่ปากเท่านั้น ...นี่เค้าเอาหน่อไม้ดองมาทำหรือนี่!!! ลองตักถั่วฝักยาวพร้อมจิบน้ำ!! ไม่ใช่ละ แกงเสียแล้ว เพราะมันเปรี้ยวมากๆ หันไปชิมแกงหมู คือตัวซี่โครงเปรี้ยวมากกกกกก รสเดียวกันเลย ดิฉันเลยเรียกแฟนมาชิม แฟนทานเคี้ยวๆ คิดๆไปด้วย แล้วก็คาย
สรุป แกงทั้งสองเสียแล้วทานไม่ได้เลย เจ้าของร้านคงใช้น้ำแกงเก่าเหลือจากวันก่อนมาเติมผักให้ดูสดเพื่อที่จะขายได้อีก ลูกค้าร้านนี้ที่ซื้อกาละมังเดียวกับดิฉันคงเสียความรู้สึกเหมือนกัน สองกาละมังนี้ทางร้านคงได้เงินประมาณ 2,000 เลยล่ะ
เสียความรู้สึกที่ได้ซื้อ เสียใจที่เจอคนขายไร้จรรยาบรรณ ใครเจอแบบดิฉันบ้างคะ 😞
เสียรู้คนขายอาหารไร้จรรยาบรรณ ในห้างใหญ่ที่สุดแถวบางนา
วันนั้นทางห้างจัดมหกรรมอาหารวันสุดท้ายพอดี มีขายอาหารหลายหลาก อาหารเหนือ ใต้ อิสาน ญี่ปุ่น เกาหลี ขนม ผลไม้ เลยเลือกไปดูอาหารใต้ เห็นอาหารใส่กาละมังสแตนเลสน่าทาน เลือกแกงไตปลา และแกงซี่โครงหมู เพราะดูเหมือนทำเสร็จใหม่ๆเพราะถั่วฝักยาว หน่อไม้ ยังสีสวยไม่เละ เจ้าของร้านเป็นผู้ชายผิวขาว อายุประมาณ 27-32 เท่านั้น ถือว่ายังเป็นคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจทำมาหากิน สรุปได้กับข้าว 2 อย่าง อย่างละ60 รวม 120บาท ถือว่าแพง แต่เพราะเราเข้าใจว่าขายในห้าง ราคานี้พอรับได้
กลับบ้านก็เอาแกงเข้าตู้เย็นทันที เพราะรู้ดีว่าช่วงนี้อากาศร้อน เดี๋ยวของจะเสียซะก่อน
วันนี้ตอนเช้าตั้งใจหุงข้าว เพื่อทานกับแกงที่ซื้อมา เอาแกงไตปลาอุ่นก่อน แกะกล่องออกมา เห็นก้นกล่องมีเนื้อปลาเละมาก ถั่วฝักยาวบ้างสีเก่า บ้างสีใหม่ แต่ก็ไม่ได้ฉุกคิดอะไรมาก นำเข้าอุ่นไมโครเวฟปกติ พอเปิดเตาออกมา กลิ่นเปรี้ยวมากไม่มีกลิ่นแกงไตปลา อ่ะโอเค...คงไม่มีอะไร มาแกะกล่องแกงหมูต่อ แกงหมูเหมือนมีเมือกๆ ก็คิดว่าน่าจะเป็นไขมันของหมู ลองอุ่นดู อุ่นแกงทั้งสองเสร็จ ก็ตักแกงไตปลาหนึ่งช้อน เลือกหน่อไม้ กลิ่นยังเปรี้ยวๆ พอตักใส่ปากเท่านั้น ...นี่เค้าเอาหน่อไม้ดองมาทำหรือนี่!!! ลองตักถั่วฝักยาวพร้อมจิบน้ำ!! ไม่ใช่ละ แกงเสียแล้ว เพราะมันเปรี้ยวมากๆ หันไปชิมแกงหมู คือตัวซี่โครงเปรี้ยวมากกกกกก รสเดียวกันเลย ดิฉันเลยเรียกแฟนมาชิม แฟนทานเคี้ยวๆ คิดๆไปด้วย แล้วก็คาย
สรุป แกงทั้งสองเสียแล้วทานไม่ได้เลย เจ้าของร้านคงใช้น้ำแกงเก่าเหลือจากวันก่อนมาเติมผักให้ดูสดเพื่อที่จะขายได้อีก ลูกค้าร้านนี้ที่ซื้อกาละมังเดียวกับดิฉันคงเสียความรู้สึกเหมือนกัน สองกาละมังนี้ทางร้านคงได้เงินประมาณ 2,000 เลยล่ะ
เสียความรู้สึกที่ได้ซื้อ เสียใจที่เจอคนขายไร้จรรยาบรรณ ใครเจอแบบดิฉันบ้างคะ 😞