ตอนอื่นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/33560601 <<<กำเนิดศรีธนญชัย
ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/33580675 <<<เด็กเจ้าปัญญา
ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/33597502 <<<ศรีธนญชัยเข้าวัง
ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/33614758 <<< ศรีธนญชัยแต่งเมีย
ตอนที่ 5 http://pantip.com/topic/33631507 <<< ประลองธรรม
ตอนที่ 6 http://pantip.com/topic/33647569 <<< ถูกขังที่เมืองจีน
ตอนที่ 7 http://pantip.com/topic/33659957 <<< เป็นเจ้าเมืองใต้
ตอนที่ 8 http://pantip.com/topic/33679115 <<< ประลองปัญญา
ตอนที่ 9 http://pantip.com/topic/33695370 <<< คนเก่งแห่งกรุงศรี
ตอนที่10 http://pantip.com/topic/33715372 <<< อวสานศรีธนญชัย
http://pantip.com/topic/33745551
ตอนที่ 8. ประลองปัญญา
8.1 ช้างเผือกงาดำ
ศรีธนญชัย สุขล้นทรัพย์ รับราชการ เจ้าแผ่นดิน โปรดปราน งานก้าวหน้า
ถึงวันหนึ่ง ใคร่ลอง เชาว์ปัญญา ตรัสใช้หา ช้างถวาย ให้พระองค์
ทรงต้องการ ช้างเผือกดี มีงาดำ เจ้าจงทำ ให้สำเร็จ เสร็จประสงค์
เกินสามวัน เนิ่นช้า อาญาลง ตกใจงง ทั่วฟัง ทั้งเห็นใจ
ศรีธนญชัย รับโจทย์ข้อ ท้อใจนัก ครานี้จัก เพลี่ยงพล้ำ ทำไฉน
ทำใจดี สู้เสือ ถามตรงไป โทษของข้า ระดับใด ไม่ทำตาม
ตรัสเสียงเข้ม จะประหาร ชีวิตเจ้า ทั้งคอเข่า ตกพลัน ครั้นตอบถาม
เพื่อนขุนนาง น้อยใหญ่ ได้ฟังความ ต่างเดินตาม ปลอบจิต มิตรไมตรี
ด้วยรู้อยู่ เต็มจิต คิดหาช้าง ยากหนทาง จนใจ ไปทุกที่
แม้แต่ช้าง ธรรมดา ยากพบมี บัญชานี้ หาช้างเผือก เลือกงาดำ
เห็นทีจะ สิ้นชีพ ก็คราวนี้ เมื่อไม่มี ช้างเผือกดี ที่เลิศล้ำ
ปัญญาดี วันนี้เฉา เศร้าระกำ พลันบุญนำ ประเสริฐ เกิดอุบาย
รีบกลับบ้าน สั่งไพร่ ตัดไม้ไผ่ ผ่าเหลาให้ เกลี้ยงเกลา ก่อนจะสาย
หาช่างช่วย จักสาน เป็นช้างพลาย สมส่วนคล้าย อาจอง ประสงค์มี
ให้ศรีนวล ภรรยา จัดหาเผือก นำปอกเปลือก ฝานบาง มากล้นปรี่
ปะตกแต่ง ช้างไม้ไผ่ ไม่รอรี ผิวช้างสี นวลผ่อง เป็นยองใย
อีกหาไพร่ มือหนึ่ง กลึงไม้โค้ง จนงอนโง้ง ทันตา เป็นงาให้
เอาแป้งเปียก ชโลมงา ทาทั่วไป โรยงาดำ ติดทั่วไว้ คล้ายงดงาม
ครบกำหนด ยกช้างก่อ ขึ้นล้อเลื่อน ลากสะเทือน ตามนัด ทรงตรัสถาม
เอาหุ่นช้าง อะไรมา ไม่ได้ความ แกล้งกริ้วถาม ถึงช้างดี ที่ต้องการ
ขอเดชะ ไม่ได้สั่ง คล้องช้างป่า เพียงตรัสหา เร่งเวลา พาจากบ้าน
ช้างตัวนี้ ข้าเพียรทำ ได้ทันการ หาเผือกฝาน เป็นช้างเผือก เลือกงาดำ
…………………………………
ข้อคิด – ในคราวลำบากเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือ ครอบครัว ญาติ มิตร และ
บริวาร ล้วนเป็นที่พึ่งทั้งทางกายและจิตใจ
เมื่อเป็นผู้นำและทำงานสำคัญ ต้องใช้สติปัญญาในการมอบหมายหน้าที่งาน
ให้ถูกคน เพื่อได้ผลงานชิ้นเลิศ ทันกาล งานสำเร็จสมประสงค์
8.2 แกงเผ็ดปริศนา
เจ้าแผ่นดิน อึ้งจำนน จนปัญญา อีกครั้งครา ลึกจิต ทรงคิดขำ
แต่ไม่ยอม แพ้พ่าย คิดร้ายทำ ส่งอาหาร เลิศล้ำ พระราชทาน
เหนือหัวสั่ง นำแกงเผ็ด รสเด็ดนี้ ให้ถึงที่ ศรีธนญชัย ไปถึงบ้าน
เปิดหม้อแกง กรุ่นหอม พร้อมรับประทาน ชิ้นเนื้อฝาน ขาวลอย พลอยตื้นตัน
ภาคภูมิใจ สำนึกใน พระกรุณา เป็นวาสนา ปลื้มจิต ไม่คิดฝัน
กินคนเดียว หมดเกลี้ยง ไม่แบ่งปัน รุ่งอีกวัน เข้ากราบ แทบบาทา
ทูลเดชะ รสเด็ด แกงเผ็ดให้ ชื่นหทัย เป็นบุญ วาสนา
ทรงตรัสถาม แกงอะไร ใช้ปัญญา ลองทายมา อย่าช้า ข้ารอฟัง
แกงเผ็ดไก่ ใช่หรือไม่ พระเจ้าค่ะ แกงนก พระเจ้าค่ะ ทายอีกครั้ง
หรือว่าแกง กระต่าย ทายเสียงดัง แกงกระรอก ก็ยัง ไม่เข้าที
ศรีธนญชัย ใจวุ่น งุนงงนัก ส่ายพระพักตร์ ทุกครั้ง ทั้งยิ้มปรี่
คิดหาคำ ตอบใหม่ ยังไม่มี ทายไม่ถูก หรอกเจ้าศรี แกงอะไร
เพราะแกงนั้น คือแกง เผ็ดอีแร้ง ฟังอ่อนแรง กล้ำกลืน และคลื่นไส้
พะอืดพะอม อยากอาเจียน เสียทันใด เหล่าขุนนาง น้อยใหญ่ หัวเราะครืน
ศรีธนญชัย หลงกล เจ้าแผ่นดิน แพ้เรื่องกิน น่าอาย ร้ายทนฝืน
ทรงตระหนัก เจ้าศรี ต้องเอาคืน วางแผนหา เรื่องอื่น มาป้องกัน
…………………………….
ข้อคิด - ระหว่างบิดามารดาและบุตร กษัตริย์และประชาชน มีเพียงความรักและความเมตตาเท่านั้นที่อยู่เต็มหัวใจ ไม่มีความผิดร้ายแรงใดที่ตัดรักและให้อภัยกันไม่ได้
8.3 เมล็ดฟักทอง
รับสั่งนำ ศรีธนญชัย ไปปล่อยเกาะ สาเหตุเพราะ ให้หิวโหย โรยทางกั้น
อดอยากลืม เวลา แก้แค้นกัน ไม่นานวัน พ้นหนี มีเรือมา
ศรีธนญชัย เห็นเรือ สำเภาจีน ซ่อนตัวปีน เรือใหญ่ ไม่รอช้า
คืนหนึ่งเห็น ลูกเรือ นำฟักมา สองผลผ่า ตามสั่ง ตั้งใจดู
พ่อค้าจีน สั่งแคะ เมล็ดออก กำชับบอก เหลือหนึ่ง เมล็ดอยู่
อีกผลหนึ่ง เหลือสอง เมล็ดดู แล้วสั่งปิด ประกบคู่ เช่นเดิมพลัน
ศรีธนญชัย แอบดู รูช่องโหว่ เสียงคุยโว ลั่นจะ ท้าแข่งขัน
ถึงกรุงศรีฯ เทียบท่า ท้าพนัน ทำนายกัน นับเมล็ด ของฟักทอง
ถ้าทายถูก เมล็ด มีเท่าไร อั๊ว ยอมอยู่ รับใช้ ไม่หายล่อง
หากว่าทาย ผิดไป ให้รับรอง ยึดทรัพย์สิน เงินทอง ท้องพระคลัง
ครั้นถึงกรุง แวะท่า ท้าพนัน ฉุกคิดพลัน ทำไฉน ใจสิ้นหวัง
หวนคิดถึง ศรีธนญชัย ในภวังค์ ปรารภดัง ไม่น่าสั่ง ให้ไกลกาย
ศรีธนญชัย คลานโซ โผล่จากที่ ข้าพระองค์ อยู่นี่ ไม่หนีหาย
เรื่องเมล็ด ฝักทอง พร้อมทำนาย พาวุ่นวาย ตกใจ ไปทั้งวัง
เจ้าแผ่นดิน พอหทัย ไม่ไต่ถาม ไม่ย้อนความ ตอกย้ำ คำความหลัง
ลงเรือเดียว รวมใจ กายกำลัง พายถึงฝั่ง ไม่อายจีน เสียชื่อไทย
แข่งขันเริ่ม พ่อค้า นำฟักทอง จำนวนสอง ผลรอง เคียงผลใหญ่
วางบนโต๊ะ ทายเมล็ด มีเท่าใด ศรีธนญชัย แสร้งคลำ ทำครุ่นคิด
ฟักทองใหญ่ นี้มี หนึ่งเมล็ด ทำนายเสร็จ ผ่าผลดู รู้ไม่ผิด
อีกผลรอง เมล็ดสอง เมื่อตรองคิด ไม่หนักจิต แปลกล้ำ คำรู้จริง
เจ้าแผ่นดิน พระสรวล พอหทัย ได้ทาสใหม่ รับใช้ ในทุกสิ่ง
พระราชทาน พานทอง สมรู้จริง ปลื้มใจยิ่ง รับขวัญศรี ธนญชัย
……………………………….
ข้อคิด - คนเรา ยามเดือดร้อนเป็นทุกข์ จึงมองเห็นเพื่อนแท้
- ยามที่ต้องการความช่วยเหลือ จึงเห็นน้ำใจแท้จริงของคนเคยมองผ่าน
- ความผิดพลาดระหว่างกัน บางครั้ง มองผ่านไม่พูดรื้อฟื้นให้ต่างรู้สึกผิดก็ดี
แค่มองตาให้อภัยกัน เข้าใจกันก็เพียงพอแล้ว
8.4 มาก่อนไก่โห่
ถึงวันหนึ่ง เจ้าแผ่นดิน มีรับสั่ง ให้เจ้าศรี เฝ้าในวัง จงจำไว้
นัดพรุ่งนี้ เช้าตรู่ ห้ามผิดไป ศรีธนญชัย คนตื่นสาย ถามทันควัน
ขอเดชะ เช้าแค่ไหน พระเจ้าค่ะ ตรัสอุบะ ต้องก่อน ไก่โห่ขัน
แม่ศรีนวล ปลุกเช้าตรู่ รุ่งอีกวัน ตื่นจากฝัน แดดผ่อง ส่องหน้าตา
ศรีธนญชัย ตระหนก อกสั่นหาย นอนตื่นสาย ไม่ตั้งใจ ให้มาช้า
คิดถึงโทษ คำตรัส ลั่นวาจา ลงอาญา หาอุบาย ร้ายเล่ห์ลวง
เร่งเข้าเฝ้า เหนือหัว เดินตัวปลิว เห็นทรงกริ้ว ตะหวาดว่า เวลาล่วง
ข้ามิได้ ขัดคำสั่ง ใดทั้งปวง เริ่มกลลวง ชี้ดูไก่ ใส่หลังมา
ขอเดชะ ข้ามาได้ ก่อนไก่ขัน ไก่ตัวนั้น ถูกคล้องคอ รอเห็นหน้า
ปลายเชือกจับ เอวมัด รัดผูกมา หน้าด้านว่า มาก่อนไก่ ไม่ผิดเลย
พูดขาดคำ ไก่นั้น พลันร้องขัน เสียงดังลั่น ใช่แกล้งทำ ย้ำคำเอ่ย
พารอดตัว อีกครั้ง เหมือนดังเคย กำชับเอ่ย คราวพลาด ฟาดหลังลาย
…………………………………….
ข้อคิด - คำแก้ตัวของคนหน้าด้าน คำโกหกโง่ๆ แบบเอาตัวรอดด้วยอับจนสิ้นหนทาง
บ้างครั้ง...ก็ช่วยให้เอาตัวรอดได้อย่างอัศจรรย์ คล้ายสวรรค์ หรือ นรกเป็นใจ
ไม่อาจรู้ได้
8.5 ช่างเขียนมือเอก
ถึงวันหนึ่ง ช่างเมือง พาราณสี ฝีมือดี ท้าแข่งวาด สัตว์ทั้งหลาย
ให้กรุงศรีฯ คัดช่างดี มีมากมาย ชนะได้ หนึ่งหมื่นชั่ง ตั้งรางวัล
การวาดมี กติกา ท้าวาดโหด ต้องกระโดด วาดบน ผนังกั้น
คนละครั้ง กระโดดวาด ภาพเสร็จพลัน กรุงศรีฯนั้น ช่างเขียน หลายสิบคน
ทรงตรัสใคร อาสา ให้ออกมา ล้วนก้มหน้า ไม่ฟัง ทำไม่สน
ท้องพระโรง เงียบกริบ เหมือนไร้คน ไม่ได้ผล หันพักตร์ ทักศรีธนญชัย
ศรีธนญชัย สะดุ้ง พลันทูลว่า ตัวของข้า มิได้ขลาด วาดไม่ได้
ด้อยฝีมือ เขียนวาด มาแต่ไร อีกไม่ใช่ ช่างเขียน เรียนเชี่ยวชาญ
เจ้าแผ่นดิน ตรัสดัง ขึงขังว่า ครั้งพม่า แข่งควาย ชนะผ่าน
มอญท้าสร้าง เจดีย์ ก็ทันการณ์ ผ่านไม่นาน ฝรั่งเศสท้า ชนะกล
ยากแข่งขัน ล้วนชนะ ได้ทุกครา ครั้งนี้ถ้า แพ้พ่าย ไม่ได้ผล
ข้าจะกุด หัวหลุด จากบ่าตน โทษอับจน แพ้เรื่องง่าย ไม่ได้ความ
แค่ตัวเดียว เขียนสัตว์ ตวัดวาด เสียชื่อชาติ กรุงศรีฯ ที่ถูกหยาม
กระโดดเขียน ครั้งเดียว ยากทำตาม ไม่อาจล่าม รั้งเจ้าทำ ล้ำปัญญา
วันรุ่งขึ้น ถึงเวลา ท้าแข่งขัน ตะลึงงัน ฝีมือดู ผู้แข่งท้า
แปรงจุ่มหมึก ลอยตัว ชั่วพริบตา ภาพสัตว์ป่า ปรากฏ ช่างงดงาม
อัศจรรย์ กระโดด ครั้งเดียววาด ราชสีห์ ผงาด น่าเกรงขาม
ช่างต่างแดน คำนับ สง่างาม ยืนท่ามกลาง ปรบมือ อื้อเกรียวกราว
ศรีธนญชัย ยืนบ้าง ข้างกำแพง ไม่ขอแปรง พู่กัน อันควรกล่าว
กลับใช้นิ้ว ทั้งห้าจุ่ม ชุ่มหมึกพราว เส้นเลื้อยยาว กระโดดลาก บนกำแพง
บรรดาคน เฝ้าอยู่ ดูเงียบกริบ ไม่กระพริบ ตาค้าง ร่างสัตว์แผลง
ต่างไม่รู้ รูปสัตว์ใด วาดแสดง ห้าเส้นแข่ง ราชสีห์ มีประลอง
ช่างต่างแดน มองเส้น ลากวาดไว้ ยิ้มภูมิใจ ชนะแน่ ไม่เป็นสอง
ศรีธนญชัย ค้านว่า ไม่เป็นรอง ท่านจงมอง ภาพคิด พิจารณา
สัตว์ของท่าน งามแน่ แค่ตัวหนึ่ง ที่น่าทึ่ง สัตว์ข้านี้ มีถึงห้า
ล้วนมีจริง ในกรุงศรี อยุธยา ทั่วพารา และตัวข้า รู้จักดี
ที่ท่านมอง ไม่ออก บอกไม่รู้ คงไม่มี อยู่ในกรุง พาราณสี
กติกา ต้องวาดสวย ก็ไม่มี สมควรที่ นับตัวเห็น เป็นเส้นชัย
ช่างต่างเมือง จำนน รับแพ้พ่าย เสียเงินให้ อับอาย เลิกเถียงไถ่
กลับเมืองแบบ งวยงง ปลงทำใจ ศรีธนญชัย เอาตัวรอด ยอดอุบาย
เจ้าอยู่หัว พอหทัย ใจนึกขำ ปัญญาล้ำ ข้องจิต มันคิดได้
ทั้งไม่รู้ ไส้เดือนงู ดูเส้นลาย แก้วแหวนให้ เงินทอง ของกำนัล.
………………………………..
ข้อคิด - คนฉลาด ย่อมรู้จักมองหาสิ่งดี นำจุดด้อยเป็นจุดเด่น เกิดประโยชน์แก่ตนได้
ขอบคุณครับผม
#บทกวีเรื่อง...ศรีธนญชัย ตอนที่ 8#
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถึงวันหนึ่ง ใคร่ลอง เชาว์ปัญญา ตรัสใช้หา ช้างถวาย ให้พระองค์
ทรงต้องการ ช้างเผือกดี มีงาดำ เจ้าจงทำ ให้สำเร็จ เสร็จประสงค์
เกินสามวัน เนิ่นช้า อาญาลง ตกใจงง ทั่วฟัง ทั้งเห็นใจ
ศรีธนญชัย รับโจทย์ข้อ ท้อใจนัก ครานี้จัก เพลี่ยงพล้ำ ทำไฉน
ทำใจดี สู้เสือ ถามตรงไป โทษของข้า ระดับใด ไม่ทำตาม
ตรัสเสียงเข้ม จะประหาร ชีวิตเจ้า ทั้งคอเข่า ตกพลัน ครั้นตอบถาม
เพื่อนขุนนาง น้อยใหญ่ ได้ฟังความ ต่างเดินตาม ปลอบจิต มิตรไมตรี
ด้วยรู้อยู่ เต็มจิต คิดหาช้าง ยากหนทาง จนใจ ไปทุกที่
แม้แต่ช้าง ธรรมดา ยากพบมี บัญชานี้ หาช้างเผือก เลือกงาดำ
เห็นทีจะ สิ้นชีพ ก็คราวนี้ เมื่อไม่มี ช้างเผือกดี ที่เลิศล้ำ
ปัญญาดี วันนี้เฉา เศร้าระกำ พลันบุญนำ ประเสริฐ เกิดอุบาย
รีบกลับบ้าน สั่งไพร่ ตัดไม้ไผ่ ผ่าเหลาให้ เกลี้ยงเกลา ก่อนจะสาย
หาช่างช่วย จักสาน เป็นช้างพลาย สมส่วนคล้าย อาจอง ประสงค์มี
ให้ศรีนวล ภรรยา จัดหาเผือก นำปอกเปลือก ฝานบาง มากล้นปรี่
ปะตกแต่ง ช้างไม้ไผ่ ไม่รอรี ผิวช้างสี นวลผ่อง เป็นยองใย
อีกหาไพร่ มือหนึ่ง กลึงไม้โค้ง จนงอนโง้ง ทันตา เป็นงาให้
เอาแป้งเปียก ชโลมงา ทาทั่วไป โรยงาดำ ติดทั่วไว้ คล้ายงดงาม
ครบกำหนด ยกช้างก่อ ขึ้นล้อเลื่อน ลากสะเทือน ตามนัด ทรงตรัสถาม
เอาหุ่นช้าง อะไรมา ไม่ได้ความ แกล้งกริ้วถาม ถึงช้างดี ที่ต้องการ
ขอเดชะ ไม่ได้สั่ง คล้องช้างป่า เพียงตรัสหา เร่งเวลา พาจากบ้าน
ช้างตัวนี้ ข้าเพียรทำ ได้ทันการ หาเผือกฝาน เป็นช้างเผือก เลือกงาดำ
ข้อคิด – ในคราวลำบากเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือ ครอบครัว ญาติ มิตร และ
บริวาร ล้วนเป็นที่พึ่งทั้งทางกายและจิตใจ
เมื่อเป็นผู้นำและทำงานสำคัญ ต้องใช้สติปัญญาในการมอบหมายหน้าที่งาน
ให้ถูกคน เพื่อได้ผลงานชิ้นเลิศ ทันกาล งานสำเร็จสมประสงค์
แต่ไม่ยอม แพ้พ่าย คิดร้ายทำ ส่งอาหาร เลิศล้ำ พระราชทาน
เหนือหัวสั่ง นำแกงเผ็ด รสเด็ดนี้ ให้ถึงที่ ศรีธนญชัย ไปถึงบ้าน
เปิดหม้อแกง กรุ่นหอม พร้อมรับประทาน ชิ้นเนื้อฝาน ขาวลอย พลอยตื้นตัน
ภาคภูมิใจ สำนึกใน พระกรุณา เป็นวาสนา ปลื้มจิต ไม่คิดฝัน
กินคนเดียว หมดเกลี้ยง ไม่แบ่งปัน รุ่งอีกวัน เข้ากราบ แทบบาทา
ทูลเดชะ รสเด็ด แกงเผ็ดให้ ชื่นหทัย เป็นบุญ วาสนา
ทรงตรัสถาม แกงอะไร ใช้ปัญญา ลองทายมา อย่าช้า ข้ารอฟัง
แกงเผ็ดไก่ ใช่หรือไม่ พระเจ้าค่ะ แกงนก พระเจ้าค่ะ ทายอีกครั้ง
หรือว่าแกง กระต่าย ทายเสียงดัง แกงกระรอก ก็ยัง ไม่เข้าที
ศรีธนญชัย ใจวุ่น งุนงงนัก ส่ายพระพักตร์ ทุกครั้ง ทั้งยิ้มปรี่
คิดหาคำ ตอบใหม่ ยังไม่มี ทายไม่ถูก หรอกเจ้าศรี แกงอะไร
เพราะแกงนั้น คือแกง เผ็ดอีแร้ง ฟังอ่อนแรง กล้ำกลืน และคลื่นไส้
พะอืดพะอม อยากอาเจียน เสียทันใด เหล่าขุนนาง น้อยใหญ่ หัวเราะครืน
ศรีธนญชัย หลงกล เจ้าแผ่นดิน แพ้เรื่องกิน น่าอาย ร้ายทนฝืน
ทรงตระหนัก เจ้าศรี ต้องเอาคืน วางแผนหา เรื่องอื่น มาป้องกัน
ข้อคิด - ระหว่างบิดามารดาและบุตร กษัตริย์และประชาชน มีเพียงความรักและความเมตตาเท่านั้นที่อยู่เต็มหัวใจ ไม่มีความผิดร้ายแรงใดที่ตัดรักและให้อภัยกันไม่ได้
อดอยากลืม เวลา แก้แค้นกัน ไม่นานวัน พ้นหนี มีเรือมา
ศรีธนญชัย เห็นเรือ สำเภาจีน ซ่อนตัวปีน เรือใหญ่ ไม่รอช้า
คืนหนึ่งเห็น ลูกเรือ นำฟักมา สองผลผ่า ตามสั่ง ตั้งใจดู
พ่อค้าจีน สั่งแคะ เมล็ดออก กำชับบอก เหลือหนึ่ง เมล็ดอยู่
อีกผลหนึ่ง เหลือสอง เมล็ดดู แล้วสั่งปิด ประกบคู่ เช่นเดิมพลัน
ศรีธนญชัย แอบดู รูช่องโหว่ เสียงคุยโว ลั่นจะ ท้าแข่งขัน
ถึงกรุงศรีฯ เทียบท่า ท้าพนัน ทำนายกัน นับเมล็ด ของฟักทอง
ถ้าทายถูก เมล็ด มีเท่าไร อั๊ว ยอมอยู่ รับใช้ ไม่หายล่อง
หากว่าทาย ผิดไป ให้รับรอง ยึดทรัพย์สิน เงินทอง ท้องพระคลัง
ครั้นถึงกรุง แวะท่า ท้าพนัน ฉุกคิดพลัน ทำไฉน ใจสิ้นหวัง
หวนคิดถึง ศรีธนญชัย ในภวังค์ ปรารภดัง ไม่น่าสั่ง ให้ไกลกาย
ศรีธนญชัย คลานโซ โผล่จากที่ ข้าพระองค์ อยู่นี่ ไม่หนีหาย
เรื่องเมล็ด ฝักทอง พร้อมทำนาย พาวุ่นวาย ตกใจ ไปทั้งวัง
เจ้าแผ่นดิน พอหทัย ไม่ไต่ถาม ไม่ย้อนความ ตอกย้ำ คำความหลัง
ลงเรือเดียว รวมใจ กายกำลัง พายถึงฝั่ง ไม่อายจีน เสียชื่อไทย
แข่งขันเริ่ม พ่อค้า นำฟักทอง จำนวนสอง ผลรอง เคียงผลใหญ่
วางบนโต๊ะ ทายเมล็ด มีเท่าใด ศรีธนญชัย แสร้งคลำ ทำครุ่นคิด
ฟักทองใหญ่ นี้มี หนึ่งเมล็ด ทำนายเสร็จ ผ่าผลดู รู้ไม่ผิด
อีกผลรอง เมล็ดสอง เมื่อตรองคิด ไม่หนักจิต แปลกล้ำ คำรู้จริง
เจ้าแผ่นดิน พระสรวล พอหทัย ได้ทาสใหม่ รับใช้ ในทุกสิ่ง
พระราชทาน พานทอง สมรู้จริง ปลื้มใจยิ่ง รับขวัญศรี ธนญชัย
ข้อคิด - คนเรา ยามเดือดร้อนเป็นทุกข์ จึงมองเห็นเพื่อนแท้
- ยามที่ต้องการความช่วยเหลือ จึงเห็นน้ำใจแท้จริงของคนเคยมองผ่าน
- ความผิดพลาดระหว่างกัน บางครั้ง มองผ่านไม่พูดรื้อฟื้นให้ต่างรู้สึกผิดก็ดี
แค่มองตาให้อภัยกัน เข้าใจกันก็เพียงพอแล้ว
นัดพรุ่งนี้ เช้าตรู่ ห้ามผิดไป ศรีธนญชัย คนตื่นสาย ถามทันควัน
ขอเดชะ เช้าแค่ไหน พระเจ้าค่ะ ตรัสอุบะ ต้องก่อน ไก่โห่ขัน
แม่ศรีนวล ปลุกเช้าตรู่ รุ่งอีกวัน ตื่นจากฝัน แดดผ่อง ส่องหน้าตา
ศรีธนญชัย ตระหนก อกสั่นหาย นอนตื่นสาย ไม่ตั้งใจ ให้มาช้า
คิดถึงโทษ คำตรัส ลั่นวาจา ลงอาญา หาอุบาย ร้ายเล่ห์ลวง
เร่งเข้าเฝ้า เหนือหัว เดินตัวปลิว เห็นทรงกริ้ว ตะหวาดว่า เวลาล่วง
ข้ามิได้ ขัดคำสั่ง ใดทั้งปวง เริ่มกลลวง ชี้ดูไก่ ใส่หลังมา
ขอเดชะ ข้ามาได้ ก่อนไก่ขัน ไก่ตัวนั้น ถูกคล้องคอ รอเห็นหน้า
ปลายเชือกจับ เอวมัด รัดผูกมา หน้าด้านว่า มาก่อนไก่ ไม่ผิดเลย
พูดขาดคำ ไก่นั้น พลันร้องขัน เสียงดังลั่น ใช่แกล้งทำ ย้ำคำเอ่ย
พารอดตัว อีกครั้ง เหมือนดังเคย กำชับเอ่ย คราวพลาด ฟาดหลังลาย
ข้อคิด - คำแก้ตัวของคนหน้าด้าน คำโกหกโง่ๆ แบบเอาตัวรอดด้วยอับจนสิ้นหนทาง
บ้างครั้ง...ก็ช่วยให้เอาตัวรอดได้อย่างอัศจรรย์ คล้ายสวรรค์ หรือ นรกเป็นใจ
ไม่อาจรู้ได้
ให้กรุงศรีฯ คัดช่างดี มีมากมาย ชนะได้ หนึ่งหมื่นชั่ง ตั้งรางวัล
การวาดมี กติกา ท้าวาดโหด ต้องกระโดด วาดบน ผนังกั้น
คนละครั้ง กระโดดวาด ภาพเสร็จพลัน กรุงศรีฯนั้น ช่างเขียน หลายสิบคน
ทรงตรัสใคร อาสา ให้ออกมา ล้วนก้มหน้า ไม่ฟัง ทำไม่สน
ท้องพระโรง เงียบกริบ เหมือนไร้คน ไม่ได้ผล หันพักตร์ ทักศรีธนญชัย
ศรีธนญชัย สะดุ้ง พลันทูลว่า ตัวของข้า มิได้ขลาด วาดไม่ได้
ด้อยฝีมือ เขียนวาด มาแต่ไร อีกไม่ใช่ ช่างเขียน เรียนเชี่ยวชาญ
เจ้าแผ่นดิน ตรัสดัง ขึงขังว่า ครั้งพม่า แข่งควาย ชนะผ่าน
มอญท้าสร้าง เจดีย์ ก็ทันการณ์ ผ่านไม่นาน ฝรั่งเศสท้า ชนะกล
ยากแข่งขัน ล้วนชนะ ได้ทุกครา ครั้งนี้ถ้า แพ้พ่าย ไม่ได้ผล
ข้าจะกุด หัวหลุด จากบ่าตน โทษอับจน แพ้เรื่องง่าย ไม่ได้ความ
แค่ตัวเดียว เขียนสัตว์ ตวัดวาด เสียชื่อชาติ กรุงศรีฯ ที่ถูกหยาม
กระโดดเขียน ครั้งเดียว ยากทำตาม ไม่อาจล่าม รั้งเจ้าทำ ล้ำปัญญา
วันรุ่งขึ้น ถึงเวลา ท้าแข่งขัน ตะลึงงัน ฝีมือดู ผู้แข่งท้า
แปรงจุ่มหมึก ลอยตัว ชั่วพริบตา ภาพสัตว์ป่า ปรากฏ ช่างงดงาม
อัศจรรย์ กระโดด ครั้งเดียววาด ราชสีห์ ผงาด น่าเกรงขาม
ช่างต่างแดน คำนับ สง่างาม ยืนท่ามกลาง ปรบมือ อื้อเกรียวกราว
ศรีธนญชัย ยืนบ้าง ข้างกำแพง ไม่ขอแปรง พู่กัน อันควรกล่าว
กลับใช้นิ้ว ทั้งห้าจุ่ม ชุ่มหมึกพราว เส้นเลื้อยยาว กระโดดลาก บนกำแพง
บรรดาคน เฝ้าอยู่ ดูเงียบกริบ ไม่กระพริบ ตาค้าง ร่างสัตว์แผลง
ต่างไม่รู้ รูปสัตว์ใด วาดแสดง ห้าเส้นแข่ง ราชสีห์ มีประลอง
ช่างต่างแดน มองเส้น ลากวาดไว้ ยิ้มภูมิใจ ชนะแน่ ไม่เป็นสอง
ศรีธนญชัย ค้านว่า ไม่เป็นรอง ท่านจงมอง ภาพคิด พิจารณา
สัตว์ของท่าน งามแน่ แค่ตัวหนึ่ง ที่น่าทึ่ง สัตว์ข้านี้ มีถึงห้า
ล้วนมีจริง ในกรุงศรี อยุธยา ทั่วพารา และตัวข้า รู้จักดี
ที่ท่านมอง ไม่ออก บอกไม่รู้ คงไม่มี อยู่ในกรุง พาราณสี
กติกา ต้องวาดสวย ก็ไม่มี สมควรที่ นับตัวเห็น เป็นเส้นชัย
ช่างต่างเมือง จำนน รับแพ้พ่าย เสียเงินให้ อับอาย เลิกเถียงไถ่
กลับเมืองแบบ งวยงง ปลงทำใจ ศรีธนญชัย เอาตัวรอด ยอดอุบาย
เจ้าอยู่หัว พอหทัย ใจนึกขำ ปัญญาล้ำ ข้องจิต มันคิดได้
ทั้งไม่รู้ ไส้เดือนงู ดูเส้นลาย แก้วแหวนให้ เงินทอง ของกำนัล.
ข้อคิด - คนฉลาด ย่อมรู้จักมองหาสิ่งดี นำจุดด้อยเป็นจุดเด่น เกิดประโยชน์แก่ตนได้
ขอบคุณครับผม