ตอนอื่นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/33560601 <<<กำเนิดศรีธนญชัย
ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/33580675 <<<เด็กเจ้าปัญญา
ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/33597502 <<<ศรีธนญชัยเข้าวัง
ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/33614758 <<< สินสอดแต่งเมีย
ตอนที่ 5 http://pantip.com/topic/33631507 <<< ประลองธรรม
ตอนที่ 6 http://pantip.com/topic/33647569 <<< ถูกขังที่เมืองจีน
ตอนที่ 7 http://pantip.com/topic/33659957 <<< เป็นเจ้าเมืองใต้
ตอนที่ 8 http://pantip.com/topic/33679115 <<< ประลองปัญญา
ตอนที่ 9 http://pantip.com/topic/33695370 <<< คนเก่งแห่งกรุงศรี
ตอนที่10 http://pantip.com/topic/33715372 <<< อวสานศรีธนญชัย
http://pantip.com/topic/33745551
ตอนที่ 3. ศรีธนญชัยเข้าวัง
3.1 เข้าวัง
ศรีธนญชัย เป็นหนุ่ม ฉลาดเฉลียว ทั้งปราดเปรียว รูปดี มีครบถ้วน
ปฏิภาณ ไหวพริบ เกินวัยควร ทำงานล้วน พอหทัย เจ้าแผ่นดิน
รับตำแหน่ง มหาดเล็ก วังหลวงได้ ภาคภูมิใจ ตำแหน่ง และทรัพย์สิน
หน้าที่ดี ประพฤติดี มีได้ยิน เจ้าแผ่นดิน โปรดปราน ผลงานมี
เข้าวังได้ ไม่ถึงปี ศรีธนญชัย ตำแหน่งใหม่ คือคุณหลวง ปวงศักดิ์ศรี
สร้างบ้านใหม่ บ่าวไพร่ ล้อมบารมี กตัญญู กตเวที ไม่ลืมตัว
รับพ่อแม่ แก่ชรา มาเลี้ยงดู บ้านเรือนอยู่ ถี่ขยาย ใช้แรงทั่ว
เกณฑ์บ่าวไพร่ ตัดไม้ คุมด้วยตัว ลืมเกรงกลัว ลืมชาติ ขาดราชการ
……………………………………
ข้อคิด– ไม่มีใคร ทำชั่วไปเสียทุกเรื่อง และไม่ว่าเขาเลวทรามเพียงใด หากยัง
หลงเหลือความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดาผู้ให้กำเนิด เขาผู้นั้นก็ถือว่ายัง
มีความดีให้คบหาเป็นเพื่อนได้
3.2 เรือนทอง
หลายเดือนผ่าน เรือนเสร็จ อร่ามล้น สร้างด้วยต้น ทองหลาง เหลืองทั้งบ้าน
จัดฉลอง ครื้นเครง บรรเลงงาน คุณหลวงศรี หลงบ้าน งานไม่ไป
เฝ้าแต่บ้าน ขาดงาน หลายแรมเดือน ถูกติเตือน ตรัสถาม หายไปไหน
สมควรจะ ลงโทษ ศรีธนญชัย ใช่หรือไม่ หลวงศรี จงบอกมา
หลวงศรีว่า เหตุตน ต้องขาดงาน เกรงว่าบ้าน ถูกขโมย จึงหายหน้า
เพราะบ้านเป็น เรือนทอง อร่ามตา จึงตรัสว่า จะไปดู ให้แจ้งใจ
ทรงเห็นว่า คำกล่าว นั้นเกินจริง ทอดพระเนตร ยิ่งกริ้ว พูดปดไว้
ฝ่ายหลวงศรี แกล้งซื่อ ตอบทันใด ข้ามิได้ ทูลว่า เรือนทองคำ
ข้ากราบทูล เพียงว่า เป็นเรือนทอง คือเรือนไม้ ทองหลาง อร่ามล้ำ
มิบังอาจ ทูลเท็จ แม้สักคำ หรือคิดทำ ขุ่นข้อง หมองหทัย
เจ้าแผ่นดิน จนใจ ไม่เอาความ ลึกถูกหยาม คิดแก้เผ็ด ให้จงได้
กลับถึงวัง สั่งสนม กำนัลใน แฝงตัวไป ถ่ายหนักรด ทั่วรอบเรือน
ศรีธนญชัย ใช้หวาย ไล่เฆี่ยนตี สนมหนี วิ่งวน ล้มชนเกลื่อน
กลิ่นถ่ายหนัก เหม็นคลุ้ง ไปทั้งเรือน โมโหเหมือน ถ่ายลง ตรงหัวใจ
เจ้าแผ่นดิน โกรธกริ้ว เรื่องไล่ตี บังอาจที่ ทำร้าย สนมไว้
ล้วนเป็นผู้ ทำตาม รับสั่งไป จึงเรียกให้ ศรีธนญชัย เฝ้าในวัง
ด้วยปัญญา ทูลเดชะ ที่ทำไป เหตุนางใน ทั้งหลาย ขัดคำสั่ง
ขัดพระบรม ราชโองการ ไม่ระวัง นางถ่ายทั้ง หนักเบา เข้าเฆี่ยนตี
ด้วยรับสั่ง ถ่ายหนัก เพียงอย่างเดียว ข้าโกรธเกรี้ยว ไม่เคร่ง ในหน้าที่
ปฏิบัติ เกินคำสั่ง พระภูมี สมควรที่ ลงโทษนาง ไม่ใช่ตน
พระทรงฟัง อึ้งจำนน จนปัญญา ไม่อาจหา โทษผิด สัมฤทธิ์ผล
พระราชทาน รางวัล ว่ายอดคน ทางอับจน เอาตัวรอด ยอดแก้ตัว
หลวงศรีนั้น หน้าที่ ดีขาดหาย แต่ยังได้ รับเมตตา ปรานีทั่ว
ถูกลองเชาว์ โต้ตอบ ไม่เกรงกลัว พายิ้มหัว ครื้นเครงล้อ พอหทัย
อีกตำแหน่ง เป็นดั่ง ตลกหลวง เวลาล่วง โปรดเกล้ารับ ตำแหน่งใหม่
จากคุณหลวง เป็นคุณพระ ก้าวหน้าไกล เรียกรับใช้ ลองเชาว์ เฝ้าเป็นนิจ
…………………………………..
ข้อคิด– คนเกียจคร้านและฉลาดแกมโกง มักใช้ไหวพริบหาโอกาสทำประโยชน์แก่ตน
และมีคำแก้ตัวทุกเรื่อง แม้จับได้คาหนังคาเขาก็ยังเอาตัวรอดอีก
คนจำพวกนี้ต้องคบหาสมาคมด้วยความระมัดระวัง จงใช้สติเรียนรู้ไหวพริบ
เขาเป็นบทเรียนให้เกิดปัญญาใช้ปัญหาแก้ปัญหาให้จงได้เปรียบ
“หนามยอกเอาหนามบ่ง” เช่นนั้น
3.3 บอกหนังสือสังฆราช
มาวันหนึ่ง คุณพระ เข้าวัดผ่าน ทางไปบ้าน เยี่ยมเยือน เพื่อนสนิท
เห็นคัมภีร์ หล่นพื้น เกิดความคิด บอกสะกิด สังฆราช เก็บให้ดี
เพลินเยี่ยมเพื่อนญาติมี หนีขาดงาน ถูกเรียกขาน ตามวุ่น คุณพระศรี
ทรงตรัสขู่ ลงโทษ ตอบไม่ดี สาเหตุหนี ราชการ งานไม่มา
ข้ามัวบอก หนังสือ สังฆราช ทำให้ขาด ราชการ งานมาช้า
ขอทรงโปรด ละผิด โทษอาญา คำอ้างว่า สงสัย ในความจริง
ทรงฉงน คำอ้าง คุณพระศรี บังอาจที่ สอนหนังสือ ผู้รู้ยิ่ง
วันต่อมา สังฆราช ทราบอ้างอิง ไม่ประวิง เข้าวัง หวังทูลความ
ศรีธนญชัย รู้ทัน ดักหน้าวัง เตรียมน้ำถัง สาดเปียก จีวรย่าม
ชะลอแกล้ง เลิกเฝ้า เล่าเนื้อความ สุดห้ามปราม ทราบเรื่อง ขุ่นเคืองใจ
ทูลความจริง เพียงบอก เก็บคัมภีร์ ใบลานที่ ตกพื้น ขึ้นมาไว้
มิได้สอน หนังสือท่าน แต่อย่างใด ศรีธนญชัย ยืนกราน ด้านแก้ตัว
ว่าทุกคน เข้าใจผิด คิดเองไป ถึงอย่างไร ไม่ได้ผิด คิดพูดมั่ว
มิได้กล่าวเกินเลย เอ่ยแก้ตัว ได้ยินทั่ว พูดเพียงบอก ยอกย้อนคำ
ไม่สามารถ เอาโทษ โกรธกริ้วนัก ทรงทั้งรัก ทั้งเกลียด เครียดและขำ
มันเจ้าเล่ห์ เพทุบาย ร้ายเล่นคำ เราจะทำ หาเหตุใหม่ ได้เอาความ
จึงตรัสถาม สังฆราช ว่าเหตุใด เปียกโชกไป เช่นนี้ จีวรย่าม
ทูลตอบว่า อาตมา ถูกสาดน้ำ ผลงานทำ คุณพระศรี ธนญชัย
คุณพระอ้าง ว่าช่วย สังฆราช เอาน้ำสาด เกรงว่า ไฟลุกไหม้
อาจเผาผลาญ ราชวัง พังวอดไป ตาเป็นไฟ โกรธดับ รับฉ่ำเย็น
ทรงฟังความ ถ้อยสดับ รับรู้ได้ ศรีธนญชัย แก้ตัว เอาชั่วเร้น
ใช้สำบัด สำนวนแย่ แก้ประเด็น หนักใจเว้น รอมชอม กล่อมอภัย
…………………………………..
ข้อคิด– เรื่องบางเรื่อง ก็ยากจะตัดสินให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชนะเด็ดขาด เพราะไม่เกิด
ประโยชน์ มีแต่ทำให้เกิดปัญหาใหม่เพิ่มการรอมชอมให้ทั้งสองฝ่าย
“อภัยกัน” ดีที่สุด
3.4 ที่ดินเท่าแมวดิ้นตาย
เวลาผ่าน ไปอีกปี คุณพระศรี เกิดอยากได้ อยากมี ที่ดินใหม่
ออกอุบาย กราบทูล ความในใจ ว่าอยากได้ ที่ดิน อีกหนึ่งแปลง
ทรงตรัสมี มากแล้ว เหตุไฉน ขอเพิ่มใหม่ มีสิ่งใด ที่แอบแฝง
ข้าขอแค่ แมวดิ้นตาย กายหมดแรง พระสรวลแย้ง น้อยนิด คิดเพี้ยนไป
แมวดิ้นตาย ความหมาย เพียงคืบเท่า ไม่ขัดเจ้า อนุญาต ดังอยากได้
ศรีธนญชัย ผูกเชือกคอ จูงแมวไป หักก้านไม้ มะยม มัดไล่ตี
แมวถูกเฆี่ยน ร้องดิ้น กลิ้งวิ่งไกล ผ่านทางใด ให้บ่าว ปักกั้นที่
ตลอดวัน บริเวณ แรงเฆี่ยนตี ล้ำเขตที่ ไม่เว้นว่า ไร่นาใคร
ครั้นถูกเรียก ให้หา คราเข้าเฝ้า อ้างเหมือนเก่า ไม่ล้ำ คำขอไว้
บังเอิญแมว ก่อนสิ้น ดิ้นวิ่งไว ดินกว้างไกล มากล้น จนใจคืน
ทรงจำนน ปัญญา อีกคราครั้ง มิอาจยั้ง หาเหตุผิด คิดเป็นอื่น
เสียดินให้ ต้องหา ดินใหม่คืน คุณพระชื่น สุขใจ ในเล่ห์กล
……………………………………
ข้อคิด– เมื่อต้องสนทนากับคนมากเล่ห์เหลี่ยมกลโกง อย่าประมาท ต้องระวังคำพูด
และคิดให้ละเอียดรอบคอบก่อนตกลงรับปากสิ่งใดตามเงื่อนไข เพราะอาจ
พบความเดือดร้อน ทั้งกับตนเองและผู้อื่น
3.5 ยายเป็นลม
หลังได้ดิน ผืนใหญ่ สมใจหมาย คิดอยากได้ เงินซื้อ พืชพันธุ์ผล
ใช้อุบาย ไพร่ขน แกลบรำปน เทลงบน ที่นาตน จนทั่วเต็ม
เก็บเงินค่า รุกล้ำ ย่ำเข้าออก ดักยักยอก ใจกาย คล้ายถูกเข็ม
ได้เงินทอง ไม่น้อย คอยแทะเล็ม ทะเลเค็ม เรียกพี่ หนีผ่านทาง
จนกระทั่ง วันหนึ่ง พายุใหญ่ พัดพาไป แกลบร่ำลิ่ว ปลิวนาว่าง
ไม่เหลือเก็บ ค่าย่ำ ล้ำผ่านทาง โกรธเต้นผาง พาลจับ เจ้าของลม
ผ่านนาเห็น ยายเมี้ยน นั่งเป็นลม สูดยาดม ลายยาหอม ทำหน้าขม
พูดเปรยว่า ลมข้าขึ้น ยายเป็นลม เรื่องเป็นลม ยายเด่น เป็นเจ้าลม
คุณพระถือ โอกาส ร้องต่อศาล ฟ้องยืนกราน ชดใช้ ให้เหมาะสม
กับยายเมี้ยน พบเป็น เจ้าของลม พันธุ์พืชล่ม เสียหาย ต้องใช้คืน
เจ้าหน้าที่ สอบสวน ทวนข้อหา ยายรับว่า เป็นลม ไม่ขัดขืน
ชราหลง ไม่เข้าใจ รับคำยืน เป็นแพะคืน เงินพระศรี เจ้าหนี้พาล.
............................................................
ข้อคิด–“คนโลภ” ไม่รู้จักคำว่า “ พอ ” ไม่สนใจว่าผลประโยชน์นั้น จะได้มาด้วย
วิธีใด เอารัดเอาเปรียบใครบ้างและบางครั้ง... คนที่เราเชื่อถือ ศรัทธา หวังพึ่งพา ก็ไม่ได้ช่วยเหลือยามที่เรา
ต้องการ กลับซ้ำเติมด้วยการนิ่งเฉย ปล่อยให้คนพาล คนร่ำรวยมีอำนาจ รังแกเสียอีก คงมีแต่วิชาและสติปัญญาเท่านั้น เป็นที่พึ่งของตนได้ไม่ผิดหวัง
ขอบคุณครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ
#บทกวีเรื่อง...ศรีธนญชัย ตอนที่ 3#
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปฏิภาณ ไหวพริบ เกินวัยควร ทำงานล้วน พอหทัย เจ้าแผ่นดิน
รับตำแหน่ง มหาดเล็ก วังหลวงได้ ภาคภูมิใจ ตำแหน่ง และทรัพย์สิน
หน้าที่ดี ประพฤติดี มีได้ยิน เจ้าแผ่นดิน โปรดปราน ผลงานมี
เข้าวังได้ ไม่ถึงปี ศรีธนญชัย ตำแหน่งใหม่ คือคุณหลวง ปวงศักดิ์ศรี
สร้างบ้านใหม่ บ่าวไพร่ ล้อมบารมี กตัญญู กตเวที ไม่ลืมตัว
รับพ่อแม่ แก่ชรา มาเลี้ยงดู บ้านเรือนอยู่ ถี่ขยาย ใช้แรงทั่ว
เกณฑ์บ่าวไพร่ ตัดไม้ คุมด้วยตัว ลืมเกรงกลัว ลืมชาติ ขาดราชการ
ข้อคิด– ไม่มีใคร ทำชั่วไปเสียทุกเรื่อง และไม่ว่าเขาเลวทรามเพียงใด หากยัง
หลงเหลือความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดาผู้ให้กำเนิด เขาผู้นั้นก็ถือว่ายัง
มีความดีให้คบหาเป็นเพื่อนได้
จัดฉลอง ครื้นเครง บรรเลงงาน คุณหลวงศรี หลงบ้าน งานไม่ไป
เฝ้าแต่บ้าน ขาดงาน หลายแรมเดือน ถูกติเตือน ตรัสถาม หายไปไหน
สมควรจะ ลงโทษ ศรีธนญชัย ใช่หรือไม่ หลวงศรี จงบอกมา
หลวงศรีว่า เหตุตน ต้องขาดงาน เกรงว่าบ้าน ถูกขโมย จึงหายหน้า
เพราะบ้านเป็น เรือนทอง อร่ามตา จึงตรัสว่า จะไปดู ให้แจ้งใจ
ทรงเห็นว่า คำกล่าว นั้นเกินจริง ทอดพระเนตร ยิ่งกริ้ว พูดปดไว้
ฝ่ายหลวงศรี แกล้งซื่อ ตอบทันใด ข้ามิได้ ทูลว่า เรือนทองคำ
ข้ากราบทูล เพียงว่า เป็นเรือนทอง คือเรือนไม้ ทองหลาง อร่ามล้ำ
มิบังอาจ ทูลเท็จ แม้สักคำ หรือคิดทำ ขุ่นข้อง หมองหทัย
เจ้าแผ่นดิน จนใจ ไม่เอาความ ลึกถูกหยาม คิดแก้เผ็ด ให้จงได้
กลับถึงวัง สั่งสนม กำนัลใน แฝงตัวไป ถ่ายหนักรด ทั่วรอบเรือน
ศรีธนญชัย ใช้หวาย ไล่เฆี่ยนตี สนมหนี วิ่งวน ล้มชนเกลื่อน
กลิ่นถ่ายหนัก เหม็นคลุ้ง ไปทั้งเรือน โมโหเหมือน ถ่ายลง ตรงหัวใจ
เจ้าแผ่นดิน โกรธกริ้ว เรื่องไล่ตี บังอาจที่ ทำร้าย สนมไว้
ล้วนเป็นผู้ ทำตาม รับสั่งไป จึงเรียกให้ ศรีธนญชัย เฝ้าในวัง
ด้วยปัญญา ทูลเดชะ ที่ทำไป เหตุนางใน ทั้งหลาย ขัดคำสั่ง
ขัดพระบรม ราชโองการ ไม่ระวัง นางถ่ายทั้ง หนักเบา เข้าเฆี่ยนตี
ด้วยรับสั่ง ถ่ายหนัก เพียงอย่างเดียว ข้าโกรธเกรี้ยว ไม่เคร่ง ในหน้าที่
ปฏิบัติ เกินคำสั่ง พระภูมี สมควรที่ ลงโทษนาง ไม่ใช่ตน
พระทรงฟัง อึ้งจำนน จนปัญญา ไม่อาจหา โทษผิด สัมฤทธิ์ผล
พระราชทาน รางวัล ว่ายอดคน ทางอับจน เอาตัวรอด ยอดแก้ตัว
หลวงศรีนั้น หน้าที่ ดีขาดหาย แต่ยังได้ รับเมตตา ปรานีทั่ว
ถูกลองเชาว์ โต้ตอบ ไม่เกรงกลัว พายิ้มหัว ครื้นเครงล้อ พอหทัย
อีกตำแหน่ง เป็นดั่ง ตลกหลวง เวลาล่วง โปรดเกล้ารับ ตำแหน่งใหม่
จากคุณหลวง เป็นคุณพระ ก้าวหน้าไกล เรียกรับใช้ ลองเชาว์ เฝ้าเป็นนิจ
ข้อคิด– คนเกียจคร้านและฉลาดแกมโกง มักใช้ไหวพริบหาโอกาสทำประโยชน์แก่ตน
และมีคำแก้ตัวทุกเรื่อง แม้จับได้คาหนังคาเขาก็ยังเอาตัวรอดอีก
คนจำพวกนี้ต้องคบหาสมาคมด้วยความระมัดระวัง จงใช้สติเรียนรู้ไหวพริบ
เขาเป็นบทเรียนให้เกิดปัญญาใช้ปัญหาแก้ปัญหาให้จงได้เปรียบ
“หนามยอกเอาหนามบ่ง” เช่นนั้น
เห็นคัมภีร์ หล่นพื้น เกิดความคิด บอกสะกิด สังฆราช เก็บให้ดี
เพลินเยี่ยมเพื่อนญาติมี หนีขาดงาน ถูกเรียกขาน ตามวุ่น คุณพระศรี
ทรงตรัสขู่ ลงโทษ ตอบไม่ดี สาเหตุหนี ราชการ งานไม่มา
ข้ามัวบอก หนังสือ สังฆราช ทำให้ขาด ราชการ งานมาช้า
ขอทรงโปรด ละผิด โทษอาญา คำอ้างว่า สงสัย ในความจริง
ทรงฉงน คำอ้าง คุณพระศรี บังอาจที่ สอนหนังสือ ผู้รู้ยิ่ง
วันต่อมา สังฆราช ทราบอ้างอิง ไม่ประวิง เข้าวัง หวังทูลความ
ศรีธนญชัย รู้ทัน ดักหน้าวัง เตรียมน้ำถัง สาดเปียก จีวรย่าม
ชะลอแกล้ง เลิกเฝ้า เล่าเนื้อความ สุดห้ามปราม ทราบเรื่อง ขุ่นเคืองใจ
ทูลความจริง เพียงบอก เก็บคัมภีร์ ใบลานที่ ตกพื้น ขึ้นมาไว้
มิได้สอน หนังสือท่าน แต่อย่างใด ศรีธนญชัย ยืนกราน ด้านแก้ตัว
ว่าทุกคน เข้าใจผิด คิดเองไป ถึงอย่างไร ไม่ได้ผิด คิดพูดมั่ว
มิได้กล่าวเกินเลย เอ่ยแก้ตัว ได้ยินทั่ว พูดเพียงบอก ยอกย้อนคำ
ไม่สามารถ เอาโทษ โกรธกริ้วนัก ทรงทั้งรัก ทั้งเกลียด เครียดและขำ
มันเจ้าเล่ห์ เพทุบาย ร้ายเล่นคำ เราจะทำ หาเหตุใหม่ ได้เอาความ
จึงตรัสถาม สังฆราช ว่าเหตุใด เปียกโชกไป เช่นนี้ จีวรย่าม
ทูลตอบว่า อาตมา ถูกสาดน้ำ ผลงานทำ คุณพระศรี ธนญชัย
คุณพระอ้าง ว่าช่วย สังฆราช เอาน้ำสาด เกรงว่า ไฟลุกไหม้
อาจเผาผลาญ ราชวัง พังวอดไป ตาเป็นไฟ โกรธดับ รับฉ่ำเย็น
ทรงฟังความ ถ้อยสดับ รับรู้ได้ ศรีธนญชัย แก้ตัว เอาชั่วเร้น
ใช้สำบัด สำนวนแย่ แก้ประเด็น หนักใจเว้น รอมชอม กล่อมอภัย
ข้อคิด– เรื่องบางเรื่อง ก็ยากจะตัดสินให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชนะเด็ดขาด เพราะไม่เกิด
ประโยชน์ มีแต่ทำให้เกิดปัญหาใหม่เพิ่มการรอมชอมให้ทั้งสองฝ่าย
“อภัยกัน” ดีที่สุด
ออกอุบาย กราบทูล ความในใจ ว่าอยากได้ ที่ดิน อีกหนึ่งแปลง
ทรงตรัสมี มากแล้ว เหตุไฉน ขอเพิ่มใหม่ มีสิ่งใด ที่แอบแฝง
ข้าขอแค่ แมวดิ้นตาย กายหมดแรง พระสรวลแย้ง น้อยนิด คิดเพี้ยนไป
แมวดิ้นตาย ความหมาย เพียงคืบเท่า ไม่ขัดเจ้า อนุญาต ดังอยากได้
ศรีธนญชัย ผูกเชือกคอ จูงแมวไป หักก้านไม้ มะยม มัดไล่ตี
แมวถูกเฆี่ยน ร้องดิ้น กลิ้งวิ่งไกล ผ่านทางใด ให้บ่าว ปักกั้นที่
ตลอดวัน บริเวณ แรงเฆี่ยนตี ล้ำเขตที่ ไม่เว้นว่า ไร่นาใคร
ครั้นถูกเรียก ให้หา คราเข้าเฝ้า อ้างเหมือนเก่า ไม่ล้ำ คำขอไว้
บังเอิญแมว ก่อนสิ้น ดิ้นวิ่งไว ดินกว้างไกล มากล้น จนใจคืน
ทรงจำนน ปัญญา อีกคราครั้ง มิอาจยั้ง หาเหตุผิด คิดเป็นอื่น
เสียดินให้ ต้องหา ดินใหม่คืน คุณพระชื่น สุขใจ ในเล่ห์กล
ข้อคิด– เมื่อต้องสนทนากับคนมากเล่ห์เหลี่ยมกลโกง อย่าประมาท ต้องระวังคำพูด
และคิดให้ละเอียดรอบคอบก่อนตกลงรับปากสิ่งใดตามเงื่อนไข เพราะอาจ
พบความเดือดร้อน ทั้งกับตนเองและผู้อื่น
ใช้อุบาย ไพร่ขน แกลบรำปน เทลงบน ที่นาตน จนทั่วเต็ม
เก็บเงินค่า รุกล้ำ ย่ำเข้าออก ดักยักยอก ใจกาย คล้ายถูกเข็ม
ได้เงินทอง ไม่น้อย คอยแทะเล็ม ทะเลเค็ม เรียกพี่ หนีผ่านทาง
จนกระทั่ง วันหนึ่ง พายุใหญ่ พัดพาไป แกลบร่ำลิ่ว ปลิวนาว่าง
ไม่เหลือเก็บ ค่าย่ำ ล้ำผ่านทาง โกรธเต้นผาง พาลจับ เจ้าของลม
ผ่านนาเห็น ยายเมี้ยน นั่งเป็นลม สูดยาดม ลายยาหอม ทำหน้าขม
พูดเปรยว่า ลมข้าขึ้น ยายเป็นลม เรื่องเป็นลม ยายเด่น เป็นเจ้าลม
คุณพระถือ โอกาส ร้องต่อศาล ฟ้องยืนกราน ชดใช้ ให้เหมาะสม
กับยายเมี้ยน พบเป็น เจ้าของลม พันธุ์พืชล่ม เสียหาย ต้องใช้คืน
เจ้าหน้าที่ สอบสวน ทวนข้อหา ยายรับว่า เป็นลม ไม่ขัดขืน
ชราหลง ไม่เข้าใจ รับคำยืน เป็นแพะคืน เงินพระศรี เจ้าหนี้พาล.
ข้อคิด–“คนโลภ” ไม่รู้จักคำว่า “ พอ ” ไม่สนใจว่าผลประโยชน์นั้น จะได้มาด้วย
วิธีใด เอารัดเอาเปรียบใครบ้างและบางครั้ง... คนที่เราเชื่อถือ ศรัทธา หวังพึ่งพา ก็ไม่ได้ช่วยเหลือยามที่เรา
ต้องการ กลับซ้ำเติมด้วยการนิ่งเฉย ปล่อยให้คนพาล คนร่ำรวยมีอำนาจ รังแกเสียอีก คงมีแต่วิชาและสติปัญญาเท่านั้น เป็นที่พึ่งของตนได้ไม่ผิดหวัง
ขอบคุณครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ