ตอนอื่นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/33560601 <<<กำเนิดศรีธนญชัย
ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/33580675 <<<เด็กเจ้าปัญญา
ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/33597502 <<<ศรีธนญชัยเข้าวัง
ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/33614758 <<< ศรีธนญชัยแต่งเมีย
ตอนที่ 5 http://pantip.com/topic/33631507 <<< ประลองธรรม
ตอนที่ 6 http://pantip.com/topic/33647569 <<< ถูกขังที่เมืองจีน
ตอนที่ 7 http://pantip.com/topic/33659957 <<< เป็นเจ้าเมืองใต้
ตอนที่ 8 http://pantip.com/topic/33679115 <<< ประลองปัญญา
ตอนที่ 9 http://pantip.com/topic/33695370 <<< คนเก่งแห่งกรุงศรี
ตอนที่10 http://pantip.com/topic/33715372 <<< อวสานศรีธนญชัย
http://pantip.com/topic/33745551
ตอนที่ 6. ถูกขังที่เมืองจีน
6.1 ดำน้ำหาไข่ไก่
ในวันหนึ่ง เจ้าแผ่นดิน ทรงเหนื่อยหนัก ต้องการพัก ผ่อนคลาย กายใจชื่น
ด้วยตรากตรำ วรกาย หลายวันคืน กิจดึกดื่น หรรษาน้อย ด้อยเวลา
ทรงตรัสเรียก ขุนนาง เฝ้ารับใช้ มอบไข่ไก่ ซ่อนไว้ ในเสื้อผ้า
รอตรัสสั่ง กระโดดน้ำ ว่ายไปมา แล้วร้องว่า กะต๊าก กะต๊าก ไม่ยากนัก
วันนี้ข้า จะแกล้ง คุณพระศรีฯ เอาชนะ ปัญญาดี ให้ประจักษ์
จึงจะให้ พวกเจ้าเป็น แม่ไก่ฟัก คุณพระจัก ไม่รู้ความ ตามบอกมา
จากนั้นตรัส เรียกตัว ศรีธนญชัย ให้ดำน้ำ หาไข่ มาให้ข้า
ทำตามพร้อม สิบคน เหล่าเสนา ล้วนร้องว่า กะต๊าก ลั่นแปลกใจ
ด้วยไม่รู้ ลำพัง เขาหวังแกล้ง แต่ไม่แย้ง ดำน้ำ ตามตรัสใช้
ยินรับสั่ง กระโดดน้ำ ไม่ขัดใจ ไม่เห็นไข่ สักฟอง มองหาดู
เหล่าเสนา ล้วนมี ไข่ถวาย นึกใจหาย ครื้นเครง ไปทุกผู้
เพียงครู่คิด ร้องกะโต๊ก กะโต๊กกรู เพื่อนล้อมอยู่ โผกอด น้ำกระจาย
เจ้าแผ่นดิน สั่งให้ ขึ้นจากน้ำ ทรงตรัสถาม เหตุไม่มี ไข่ถวาย
ข้าพระองค์ เป็นไก่ เพศผู้ชาย ปล้ำแม่ไก่ ทั้งหลาย ผสมพันธุ์
ถ้าไม่มี ไก่ผู้ อยู่ไล่ปล้ำ ไม่อาจทำ ให้มีไข่ ถวายนั้น
เหล่าเสนา อมยิ้ม มองหน้ากัน เป็นอีกวัน พ่ายแพ้ศรี ธนญชัย
ด้วยเป็น ตลกหลวง ทรงโปรดปราน รับราชการ ระดับ พิเศษได้
ไม่ต้องเข้า ทำงาน ทุกวันไป เว้นเมื่อใด เรียกเข้า เฝ้าพระองค์
………………………………..
ข้อคิด – เมื่อมีรักบริสุทธิ์ และเมตตา มอบให้แก่กันแล้ว อภัยได้ทุกเรื่อง
6.2 ถูกขังที่เมืองจีน
ศรีธนญชัย ว่างงาน นานอยากลอง สำเภาล่อง ค้าขาย หมายประสงค์
เพิ่มทรัพย์สิน เงินทอง ให้มั่นคง จึงมุ่งตรง เข้าวัง หวังเดินทาง
ทรงอนุญาต อำลา เจ้าแผ่นดิน บรรทุกขน สินค้า แต่ฟ้าสาง
เต็มลำเรือ มีล่ามจีน เป็นสื่อกลาง ล่องเรือย่าง เข้าจีน สมตั้งใจ
ถึงเมืองจีน เข้าเฝ้า พระเจ้ากรุง เพื่อหมายมุ่ง เสียธรรมเนียม เตรียมหาไว้
แต่พระเจ้า กรุงจีน ไม่พบใคร ตรัสบอกให้ รับรู้ อยู่นอกวัง
ด้วยพระพักตร์ ค่อนข้าง อัปลักษณ์ ไม่สมัคร ให้ต่างด้าว เฝ้าตามหวัง
แต่ยิ่งห้าม เหมือนยิ่งยุ อยากดูจัง อุบายตั้ง ทูลถวาย ให้ของดี
ศรีธนญชัย อ้างมี อาหารวิเศษ จึงมีเหตุ ขอเฝ้า เล่าถึงที่
ชื่อผักบุ้ง ไต่ราว ตำรับดี แสดงนี้ แทนเครื่อง บรรณาการ
เจ้ากรุงจีน อยากเห็น และสนใจ ความเป็นไป เมืองอื่น ยืนเคียงบ้าน
ทรงตรัสสั่ง ให้เฝ้า ตามต้องการ จึงไม่นาน หาผักบุ้ง มาไต่ราว
ศรีธนญชัย ผูกเชือก ขึงสองข้าง ผักบุ้งจีน ผูกห่าง ระยะเท่า
สาธิตกิน เงยหน้า คล้ายดูดาว โอกาสก้าว เห็นพักตร์ ถนัดเป็น
เจ้ากรุงจีน รู้ทัน ในอุบาย พิโรธร้าย บังอาจ ลวงเฝ้าเห็น
สั่งทหาร จับขัง ตึกลำเค็ญ มากมดเร้น นาชนิด พิษมากมี
เป็นต้นว่า มดคันไฟ มดตะนอย ตัวใหญ่น้อย กัดเจ็บ ไม่อาจหนี
คิดถูกขัง คงตาย วายชีวี วานผู้คุม ใจดี ช่วยก่อนตาย
ขอผู้คุม ซื้ออ้อย ให้หนึ่งมัด ผู้คุมจัด หามา ตามอยากได้
เห็นใจว่า อยากกิน ก่อนต้องตาย อ้อยถูกวาง ล่อไว้ ยังซอกมุม
บรรดามด มีอยู่ กรูดูดกิน ไม่ยลยิน นักโทษ กระโดดกลุ้ม
นั่งตัวลีบ พรางตัว กลัวมดรุม ถูกผู้คุม นำเฝ้า รุ่งเช้าเยือน
เจ้ากรุงจีน แปลกใจ ในเหตุรอด ตายตลอด ก่อนร้อยพัน มันต่างเพื่อน
สั่งขังใหม่ ตึกเย็น ไม่เห็นเดือน กะโหลกเกลื่อน น่ากลัว มองทั่วไป
ด้วยตึกนี้ หนาวเย็น ยามดึกดื่น เพียงค่อนคืน สิ้นใจ ไม่พ้นได้
ศรีธนญชัย คิดแผน เพื่อพ้นตาย ครู่ผ่านไป นักโทษ ใหม่เข้ามา
ต่างกอดตัว เหน็บหนาว ยิ่งก้าวดึก เสียงกึกกึก กระทบฟัน สั่นทั้งหน้า
มือปากเขียว ซีดแข็ง เหมือนแช่ปลา ตัวเหน็บชา ทั้งร่าง สร้างอุบาย
ทำโมโห หาเรื่อง นักโทษจีน รัวมือตีน เตะชกจน ทนไม่ได้
นักโทษจีน งุนงง ตนผิดใด ถามตอบไป ต่างภาษา น่ารำคาญ
โต้ตอบกัน ไม่รู้เรื่อง ยิ่งเคืองโกรธ ถึงบทโหด เหงื่อเปียก เรียกไม่ขาน
ทั้งกอดรัด ฟัดเป็น อันธพาล อบอุ่นซ่าน คลายหนาว ก้าวผ่านคืน
ผู้คุมเห็น รอดชีวิต คิดสงสัย คุมตัวไป เข้าวัง ยังหน้าชื่น
เจ้ากรุงจีน ถามเหตุ รอดผ่านคืน อย่าขัดขืน จงแถลง ให้แจ้งใจ
ศรีธนญชัย กราบทูล เรื่องตามจริง ถ้วนทุกสิ่ง คืออุบาย คลายสงสัย
เจ้ากรุงจีน ทึ่งคิด อย่างจริงใจ รางวัลให้ หนุ่มกรุงศรี มีปัญญา
รับสั่งให้ ปล่อยตัว ศรีธนญชัย จัดเลี้ยงใหญ่ อาหาร สุราหา
นั่งรถลาก ชมจีน ทั่วพารา สั่งสินค้า จีนลง เต็มสำเภา
ถึงกรุงศรี นำของจีน เข้าถวาย ทรัพย์สินได้ มากพ้น ล้นกว่าเก่า
เล่าเรื่องร้าย คลี่คลาย ได้บรรเทา ไม่ลืมเล่า สรรเสริญ เยินยอตน
………………………………………..
ข้อคิด – คนที่มีสติปัญญา ไหวพริบ และรู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์ ย่อมพ้นภัย
6.3 สร้างวัดมือเปล่า
ศรีธนญชัย รวยออม พร้อมยศศักดิ์ คิดใคร่จัก สร้างวัด เพื่อหวังผล
เป็นประโยชน์ ชาตินี้ ที่เป็นคน บำเพ็ญกุศล ชาติใหม่ ได้พึ่งพา
จึงสืบเสาะ พบวัด เก่าชานเมือง สมควรเรื่อง ซ่อมแซม ด้วยทรัพย์หา
แต่สมภาร ตระหนี่นัก เพื่อนทักมา เล่ากันว่า มะม่วงลูก ไม่ได้กิน
พ่อศรีเอ๋ย วัดนี้ มีมะม่วง ห้อยเป็นพวง ดกเห็น เป็นนิจสิน
ไม่มีเลย ใครขอ แล้วได้กิน แม่สักชิ้น อย่าหวัง สมตั้งใจ
ศรีธนญชัย ฟังคึก นึกสนุก มะม่วงชุก ลองพนัน กันดีไหม
ถ้าเอาได้ ชนะขอ ไม่มากไป เพียงแรงใช้ สร้างวัด ถนัดงาน
ด้วยเพื่อนรัก รับงาน การก่อสร้าง คิดหาทาง ใช้แรงเปล่า เข้าประสาน
พนันขอ มะม่วงดี จากสมภาร สำเร็จงาน เขารับท้า กล้าพนัน
เพื่อนมั่นใจ ชนะแน่ แพ้ไม่เกิด เหนียวเป็นเลิศ เห็นรู้ อยู่เช่นนั้น
คงคราวนี้ ศรีธนญชัย ต้องแพ้กัน เรื่องวัดนั้น สร้างเปล่า เจ้าฝันไป
ศรีธนญชัย เข้าพบ เจ้าอาวาส กล่าวฉลาด ขอซ่อมจัด ตัดต้นไม้
อนุญาต ไม้ต้นเล็ก ให้ตัดไป ยกเว้นไว้ ต้นมะม่วง ออกพวงงาม
จริงขอรับ มะม่วงท่าน หวานอร่อย ขอกระผม ชิมหน่อย ค่อยซักถาม
สมภารตอบ รสเปรี้ยว ไม่ได้ความ รีบตัดถาม อ้างไม่สุก อยากลุกไกล
มะม่วงดิบ รสเปรี้ยว กินเสียวฟัน กินพร้อมกัน กับกะปิ ดีใช่ไหม
หรือกินกับ น้ำปลาหวาน น่าสนใจ จริงใช่ไหม ครับท่าน ด้านขอชิม
ศรีธนญชัย รุกเร้า กระเซ้าขอ กล่าวเยินยอ หว่านล้อม ให้ยอมลิ้ม
เจ้าอาวาส ทนฟัง คนอยากกิน เกรงใจลิ้น คนสร้างวัด จัดให้โยม
ศรีธนญชัย สั่งไพร่ สอยมะม่วง ขย่มร่วง หมดต้น หลายคนโหม
เหลือแต่ต้น ใบลู่ กิ่งคู้โทรม อยากล้มโครม เป็นลม ข่มเสียดาย
จะไม่ให้ อย่างไร ตรงใจคิด เขาตั้งจิต ซ่อมวัด จัดสร้างให้
บูรณ ปฏิสังขรณ์ วัดห่างไกล ยากมีใคร คิดจอง ต้องหลับตา
เจ้าอาวาส มากดี มีกิเลส ด้วยมีเหตุ ไม่พ้น ธรรมศึกษา
ศรีธนญชัย แค่คน ธรรมดา กิเลสหนา ร่วมด้วย ต่างช่วยกัน
เพื่อนแพ้ต้อง สร้างวัด ไร้ค่าแรง สร้างไม่แพง ดังจิต คิดก่อนนั้น
ด้วยมีผู้ บริจาค ทรัพย์มากครัน อีกส่วนนั้น ได้จาก เจ้าแผ่นดิน
สร้างวัดเสร็จ จัดเจิม เฉลิมฉลอง เต้นรำร้อง ครื้นเครง บรรเลงถิ่น
สำราญด้วย ของดี มีล้นกิน เสียทรัพย์สิน น้อยนิด คิดนับดู
ถือได้ว่า ครั้งนี้ ศรีธนญชัย สร้างวัดได้ มือเปล่า เล่าลือรู้
งดงามโต คู่กรุงศรี น่าเชิดชู ยากใครสู้ ทัดเทียม เหลี่ยมปัญญา
……………………………………..
ข้อคิด – บุญและความดีคงมั่น ใครทำก็ดี คนดีทำก็ดี คนชั่วทำก็ดี
เมื่อทำบุญ - ย่อมได้บุญทันทีทันใดตามมุ่งหมาย ได้ดอกเบี้ยสุขใจ
ไม่ต้องรอผล
พระธรรมหลักคำสอน – ถูกต้อง เป็นจริง ไม่เสื่อมด้วยบุคคลและสิ่งใด
6.4 ท้าชกมวย
ไม่นานนัก เมืองแขก ส่งทหาร เยือนถึงบ้าน ร่างใหญ่ เข้าแข่งท้า
พนันมวย คนกรุงศรี อยุธยา ให้จัดหา ทหารกล้า มาแข่งกัน
ทหารแขก สูงกำยำ ล่ำสันนัก ราวกับยักษ์ ตนนี้ มีจริงนั่น
เจ้าแผ่นดิน เรียกเฝ้า ปรึกษาพลัน ศึกนี้มัน ใหญ่นัก ยักษ์ท้าชิง
ศรีธนญชัย กราบทูล ขออาสา ทรงตรัสว่า อาจพา อับอายยิ่ง
เพราะตัวเจ้า ผอมบาง คือความจริง เข้าท้าชิง อย่างไร ไม่เข้าที
ข้าแพ้พ่าย เอาหัว เป็นเดิมพัน กล่าวแข็งขัน มั่นใจ ในคำนี้
ข้าทักท้วง เพราะห่วง หรอกเจ้าศรี คิดตรองดี ตามใจ ไม่ขัดแย้ง
ศรีธนญชัย สั่งหา ชายฉกรรจ์ สูงล่ำสัน มาให้ ใช้แอบแฝง
บังคับจ้าง ถอนฟัน ไม่ต้องแปรง โกนตัดแต่ง หนวดผม จนโล่งเตียน
สั่งผูกเปล ระหว่าง ต้นไม้คู่ ทารกยักษ์ นอนอยู่ ดูไม่เพี้ยน
เปลือยล่อนจ้อน อ่อนวัย ไม่ต้องเรียน ไกวเปลเวียน หลับพริ้ม จิ้มลิ้มนัก
ทั้งชาวเมือง ต่างบ้าน ผ่านมุงดู โจษจันอยู่ ว่าผู้ใด ไม่รู้จัก
นั่งร้องเพลง กล่อมลูก ไม่กล้าทัก ลูกเป็นยักษ์ คงพ่อยักษ์ ซักกันไกล
ฝ่ายทหาร เมืองแขก ได้ยินข่าว เร่งเดินเท้า อยากเห็น เป็นไฉน
เอ่ยถามว่า ชายคนนี้ เป็นอะไร จึงทำให้ คล้ายอ่อน นอนในแปล
หญิงหามา ปลอมแปลง แสร้งตอบว่า ตัวฉันเป็น มารดา ไร้เหลี่ยมเล่ห์
คือเด็กอ่อน มิใช่ชาย วัยเกเร คลอดคะเน เจ็ดวัน นั้นพอดี
ดูสิมี หนวดผม ที่ไหนกัน แม้แต่ฟัน ยังไม่ ขึ้นสักซี่
บ๊ะเจ็ดวัน ยังตัว ใหญ่เท่านี้ กายามี คงเท่าข้า ถ้าหนึ่งเดือน
แล้วพ่อเด็ก ใคร่รู้ ผู้ใดหนอ สืบถามต่อ เป็นใคร คงใหญ่เหมือน
พ่อเด็กเป็น นักมวย สู้แขกเยือน ฉันมาเพื่อน พร้อมลูก ปลูกปลุกใจ
ทหารแขก ฟังล้วน ไม่ครวญคิด วิตกจริต ตาเบิก เลิกถามไถ่
ตกตะลึง เลิกคิด ชกชิงชัย ไม่ลาใคร หนีลับ กลับเมืองตน
เจ้าแผ่นดิน รู้ข่าว เล่าหัวเราะ ชนะเพราะ อุบาย ได้สมผล
เหตุขลาดกลัว สติไร้ นิสัยคน พาผ่านพ้น ภัยพาล บ้านเมืองเย็น
……………………………………..
ข้อคิด – การพ่ายแพ้ของคนเรา บ้างครั้งก็ไม่ได้เกิดเพราะการแข่งขันชิงชัย
แต่เกิดทันทีที่ใจคิดท้อแท้ แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้สู้ คนฉลาดรู้จุดอ่อนเอาชนะคนขลาด และ
ขาดสติ ได้ไม่ยากไม่ต้องออกแรง
#บทกวีเรื่อง...ศรีธนญชัย ตอนที่ 6#
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ด้วยตรากตรำ วรกาย หลายวันคืน กิจดึกดื่น หรรษาน้อย ด้อยเวลา
ทรงตรัสเรียก ขุนนาง เฝ้ารับใช้ มอบไข่ไก่ ซ่อนไว้ ในเสื้อผ้า
รอตรัสสั่ง กระโดดน้ำ ว่ายไปมา แล้วร้องว่า กะต๊าก กะต๊าก ไม่ยากนัก
วันนี้ข้า จะแกล้ง คุณพระศรีฯ เอาชนะ ปัญญาดี ให้ประจักษ์
จึงจะให้ พวกเจ้าเป็น แม่ไก่ฟัก คุณพระจัก ไม่รู้ความ ตามบอกมา
จากนั้นตรัส เรียกตัว ศรีธนญชัย ให้ดำน้ำ หาไข่ มาให้ข้า
ทำตามพร้อม สิบคน เหล่าเสนา ล้วนร้องว่า กะต๊าก ลั่นแปลกใจ
ด้วยไม่รู้ ลำพัง เขาหวังแกล้ง แต่ไม่แย้ง ดำน้ำ ตามตรัสใช้
ยินรับสั่ง กระโดดน้ำ ไม่ขัดใจ ไม่เห็นไข่ สักฟอง มองหาดู
เหล่าเสนา ล้วนมี ไข่ถวาย นึกใจหาย ครื้นเครง ไปทุกผู้
เพียงครู่คิด ร้องกะโต๊ก กะโต๊กกรู เพื่อนล้อมอยู่ โผกอด น้ำกระจาย
เจ้าแผ่นดิน สั่งให้ ขึ้นจากน้ำ ทรงตรัสถาม เหตุไม่มี ไข่ถวาย
ข้าพระองค์ เป็นไก่ เพศผู้ชาย ปล้ำแม่ไก่ ทั้งหลาย ผสมพันธุ์
ถ้าไม่มี ไก่ผู้ อยู่ไล่ปล้ำ ไม่อาจทำ ให้มีไข่ ถวายนั้น
เหล่าเสนา อมยิ้ม มองหน้ากัน เป็นอีกวัน พ่ายแพ้ศรี ธนญชัย
ด้วยเป็น ตลกหลวง ทรงโปรดปราน รับราชการ ระดับ พิเศษได้
ไม่ต้องเข้า ทำงาน ทุกวันไป เว้นเมื่อใด เรียกเข้า เฝ้าพระองค์
ข้อคิด – เมื่อมีรักบริสุทธิ์ และเมตตา มอบให้แก่กันแล้ว อภัยได้ทุกเรื่อง
เพิ่มทรัพย์สิน เงินทอง ให้มั่นคง จึงมุ่งตรง เข้าวัง หวังเดินทาง
ทรงอนุญาต อำลา เจ้าแผ่นดิน บรรทุกขน สินค้า แต่ฟ้าสาง
เต็มลำเรือ มีล่ามจีน เป็นสื่อกลาง ล่องเรือย่าง เข้าจีน สมตั้งใจ
ถึงเมืองจีน เข้าเฝ้า พระเจ้ากรุง เพื่อหมายมุ่ง เสียธรรมเนียม เตรียมหาไว้
แต่พระเจ้า กรุงจีน ไม่พบใคร ตรัสบอกให้ รับรู้ อยู่นอกวัง
ด้วยพระพักตร์ ค่อนข้าง อัปลักษณ์ ไม่สมัคร ให้ต่างด้าว เฝ้าตามหวัง
แต่ยิ่งห้าม เหมือนยิ่งยุ อยากดูจัง อุบายตั้ง ทูลถวาย ให้ของดี
ศรีธนญชัย อ้างมี อาหารวิเศษ จึงมีเหตุ ขอเฝ้า เล่าถึงที่
ชื่อผักบุ้ง ไต่ราว ตำรับดี แสดงนี้ แทนเครื่อง บรรณาการ
เจ้ากรุงจีน อยากเห็น และสนใจ ความเป็นไป เมืองอื่น ยืนเคียงบ้าน
ทรงตรัสสั่ง ให้เฝ้า ตามต้องการ จึงไม่นาน หาผักบุ้ง มาไต่ราว
ศรีธนญชัย ผูกเชือก ขึงสองข้าง ผักบุ้งจีน ผูกห่าง ระยะเท่า
สาธิตกิน เงยหน้า คล้ายดูดาว โอกาสก้าว เห็นพักตร์ ถนัดเป็น
เจ้ากรุงจีน รู้ทัน ในอุบาย พิโรธร้าย บังอาจ ลวงเฝ้าเห็น
สั่งทหาร จับขัง ตึกลำเค็ญ มากมดเร้น นาชนิด พิษมากมี
เป็นต้นว่า มดคันไฟ มดตะนอย ตัวใหญ่น้อย กัดเจ็บ ไม่อาจหนี
คิดถูกขัง คงตาย วายชีวี วานผู้คุม ใจดี ช่วยก่อนตาย
ขอผู้คุม ซื้ออ้อย ให้หนึ่งมัด ผู้คุมจัด หามา ตามอยากได้
เห็นใจว่า อยากกิน ก่อนต้องตาย อ้อยถูกวาง ล่อไว้ ยังซอกมุม
บรรดามด มีอยู่ กรูดูดกิน ไม่ยลยิน นักโทษ กระโดดกลุ้ม
นั่งตัวลีบ พรางตัว กลัวมดรุม ถูกผู้คุม นำเฝ้า รุ่งเช้าเยือน
เจ้ากรุงจีน แปลกใจ ในเหตุรอด ตายตลอด ก่อนร้อยพัน มันต่างเพื่อน
สั่งขังใหม่ ตึกเย็น ไม่เห็นเดือน กะโหลกเกลื่อน น่ากลัว มองทั่วไป
ด้วยตึกนี้ หนาวเย็น ยามดึกดื่น เพียงค่อนคืน สิ้นใจ ไม่พ้นได้
ศรีธนญชัย คิดแผน เพื่อพ้นตาย ครู่ผ่านไป นักโทษ ใหม่เข้ามา
ต่างกอดตัว เหน็บหนาว ยิ่งก้าวดึก เสียงกึกกึก กระทบฟัน สั่นทั้งหน้า
มือปากเขียว ซีดแข็ง เหมือนแช่ปลา ตัวเหน็บชา ทั้งร่าง สร้างอุบาย
ทำโมโห หาเรื่อง นักโทษจีน รัวมือตีน เตะชกจน ทนไม่ได้
นักโทษจีน งุนงง ตนผิดใด ถามตอบไป ต่างภาษา น่ารำคาญ
โต้ตอบกัน ไม่รู้เรื่อง ยิ่งเคืองโกรธ ถึงบทโหด เหงื่อเปียก เรียกไม่ขาน
ทั้งกอดรัด ฟัดเป็น อันธพาล อบอุ่นซ่าน คลายหนาว ก้าวผ่านคืน
ผู้คุมเห็น รอดชีวิต คิดสงสัย คุมตัวไป เข้าวัง ยังหน้าชื่น
เจ้ากรุงจีน ถามเหตุ รอดผ่านคืน อย่าขัดขืน จงแถลง ให้แจ้งใจ
ศรีธนญชัย กราบทูล เรื่องตามจริง ถ้วนทุกสิ่ง คืออุบาย คลายสงสัย
เจ้ากรุงจีน ทึ่งคิด อย่างจริงใจ รางวัลให้ หนุ่มกรุงศรี มีปัญญา
รับสั่งให้ ปล่อยตัว ศรีธนญชัย จัดเลี้ยงใหญ่ อาหาร สุราหา
นั่งรถลาก ชมจีน ทั่วพารา สั่งสินค้า จีนลง เต็มสำเภา
ถึงกรุงศรี นำของจีน เข้าถวาย ทรัพย์สินได้ มากพ้น ล้นกว่าเก่า
เล่าเรื่องร้าย คลี่คลาย ได้บรรเทา ไม่ลืมเล่า สรรเสริญ เยินยอตน
ข้อคิด – คนที่มีสติปัญญา ไหวพริบ และรู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์ ย่อมพ้นภัย
เป็นประโยชน์ ชาตินี้ ที่เป็นคน บำเพ็ญกุศล ชาติใหม่ ได้พึ่งพา
จึงสืบเสาะ พบวัด เก่าชานเมือง สมควรเรื่อง ซ่อมแซม ด้วยทรัพย์หา
แต่สมภาร ตระหนี่นัก เพื่อนทักมา เล่ากันว่า มะม่วงลูก ไม่ได้กิน
พ่อศรีเอ๋ย วัดนี้ มีมะม่วง ห้อยเป็นพวง ดกเห็น เป็นนิจสิน
ไม่มีเลย ใครขอ แล้วได้กิน แม่สักชิ้น อย่าหวัง สมตั้งใจ
ศรีธนญชัย ฟังคึก นึกสนุก มะม่วงชุก ลองพนัน กันดีไหม
ถ้าเอาได้ ชนะขอ ไม่มากไป เพียงแรงใช้ สร้างวัด ถนัดงาน
ด้วยเพื่อนรัก รับงาน การก่อสร้าง คิดหาทาง ใช้แรงเปล่า เข้าประสาน
พนันขอ มะม่วงดี จากสมภาร สำเร็จงาน เขารับท้า กล้าพนัน
เพื่อนมั่นใจ ชนะแน่ แพ้ไม่เกิด เหนียวเป็นเลิศ เห็นรู้ อยู่เช่นนั้น
คงคราวนี้ ศรีธนญชัย ต้องแพ้กัน เรื่องวัดนั้น สร้างเปล่า เจ้าฝันไป
ศรีธนญชัย เข้าพบ เจ้าอาวาส กล่าวฉลาด ขอซ่อมจัด ตัดต้นไม้
อนุญาต ไม้ต้นเล็ก ให้ตัดไป ยกเว้นไว้ ต้นมะม่วง ออกพวงงาม
จริงขอรับ มะม่วงท่าน หวานอร่อย ขอกระผม ชิมหน่อย ค่อยซักถาม
สมภารตอบ รสเปรี้ยว ไม่ได้ความ รีบตัดถาม อ้างไม่สุก อยากลุกไกล
มะม่วงดิบ รสเปรี้ยว กินเสียวฟัน กินพร้อมกัน กับกะปิ ดีใช่ไหม
หรือกินกับ น้ำปลาหวาน น่าสนใจ จริงใช่ไหม ครับท่าน ด้านขอชิม
ศรีธนญชัย รุกเร้า กระเซ้าขอ กล่าวเยินยอ หว่านล้อม ให้ยอมลิ้ม
เจ้าอาวาส ทนฟัง คนอยากกิน เกรงใจลิ้น คนสร้างวัด จัดให้โยม
ศรีธนญชัย สั่งไพร่ สอยมะม่วง ขย่มร่วง หมดต้น หลายคนโหม
เหลือแต่ต้น ใบลู่ กิ่งคู้โทรม อยากล้มโครม เป็นลม ข่มเสียดาย
จะไม่ให้ อย่างไร ตรงใจคิด เขาตั้งจิต ซ่อมวัด จัดสร้างให้
บูรณ ปฏิสังขรณ์ วัดห่างไกล ยากมีใคร คิดจอง ต้องหลับตา
เจ้าอาวาส มากดี มีกิเลส ด้วยมีเหตุ ไม่พ้น ธรรมศึกษา
ศรีธนญชัย แค่คน ธรรมดา กิเลสหนา ร่วมด้วย ต่างช่วยกัน
เพื่อนแพ้ต้อง สร้างวัด ไร้ค่าแรง สร้างไม่แพง ดังจิต คิดก่อนนั้น
ด้วยมีผู้ บริจาค ทรัพย์มากครัน อีกส่วนนั้น ได้จาก เจ้าแผ่นดิน
สร้างวัดเสร็จ จัดเจิม เฉลิมฉลอง เต้นรำร้อง ครื้นเครง บรรเลงถิ่น
สำราญด้วย ของดี มีล้นกิน เสียทรัพย์สิน น้อยนิด คิดนับดู
ถือได้ว่า ครั้งนี้ ศรีธนญชัย สร้างวัดได้ มือเปล่า เล่าลือรู้
งดงามโต คู่กรุงศรี น่าเชิดชู ยากใครสู้ ทัดเทียม เหลี่ยมปัญญา
ข้อคิด – บุญและความดีคงมั่น ใครทำก็ดี คนดีทำก็ดี คนชั่วทำก็ดี
เมื่อทำบุญ - ย่อมได้บุญทันทีทันใดตามมุ่งหมาย ได้ดอกเบี้ยสุขใจ
ไม่ต้องรอผล
พระธรรมหลักคำสอน – ถูกต้อง เป็นจริง ไม่เสื่อมด้วยบุคคลและสิ่งใด
พนันมวย คนกรุงศรี อยุธยา ให้จัดหา ทหารกล้า มาแข่งกัน
ทหารแขก สูงกำยำ ล่ำสันนัก ราวกับยักษ์ ตนนี้ มีจริงนั่น
เจ้าแผ่นดิน เรียกเฝ้า ปรึกษาพลัน ศึกนี้มัน ใหญ่นัก ยักษ์ท้าชิง
ศรีธนญชัย กราบทูล ขออาสา ทรงตรัสว่า อาจพา อับอายยิ่ง
เพราะตัวเจ้า ผอมบาง คือความจริง เข้าท้าชิง อย่างไร ไม่เข้าที
ข้าแพ้พ่าย เอาหัว เป็นเดิมพัน กล่าวแข็งขัน มั่นใจ ในคำนี้
ข้าทักท้วง เพราะห่วง หรอกเจ้าศรี คิดตรองดี ตามใจ ไม่ขัดแย้ง
ศรีธนญชัย สั่งหา ชายฉกรรจ์ สูงล่ำสัน มาให้ ใช้แอบแฝง
บังคับจ้าง ถอนฟัน ไม่ต้องแปรง โกนตัดแต่ง หนวดผม จนโล่งเตียน
สั่งผูกเปล ระหว่าง ต้นไม้คู่ ทารกยักษ์ นอนอยู่ ดูไม่เพี้ยน
เปลือยล่อนจ้อน อ่อนวัย ไม่ต้องเรียน ไกวเปลเวียน หลับพริ้ม จิ้มลิ้มนัก
ทั้งชาวเมือง ต่างบ้าน ผ่านมุงดู โจษจันอยู่ ว่าผู้ใด ไม่รู้จัก
นั่งร้องเพลง กล่อมลูก ไม่กล้าทัก ลูกเป็นยักษ์ คงพ่อยักษ์ ซักกันไกล
ฝ่ายทหาร เมืองแขก ได้ยินข่าว เร่งเดินเท้า อยากเห็น เป็นไฉน
เอ่ยถามว่า ชายคนนี้ เป็นอะไร จึงทำให้ คล้ายอ่อน นอนในแปล
หญิงหามา ปลอมแปลง แสร้งตอบว่า ตัวฉันเป็น มารดา ไร้เหลี่ยมเล่ห์
คือเด็กอ่อน มิใช่ชาย วัยเกเร คลอดคะเน เจ็ดวัน นั้นพอดี
ดูสิมี หนวดผม ที่ไหนกัน แม้แต่ฟัน ยังไม่ ขึ้นสักซี่
บ๊ะเจ็ดวัน ยังตัว ใหญ่เท่านี้ กายามี คงเท่าข้า ถ้าหนึ่งเดือน
แล้วพ่อเด็ก ใคร่รู้ ผู้ใดหนอ สืบถามต่อ เป็นใคร คงใหญ่เหมือน
พ่อเด็กเป็น นักมวย สู้แขกเยือน ฉันมาเพื่อน พร้อมลูก ปลูกปลุกใจ
ทหารแขก ฟังล้วน ไม่ครวญคิด วิตกจริต ตาเบิก เลิกถามไถ่
ตกตะลึง เลิกคิด ชกชิงชัย ไม่ลาใคร หนีลับ กลับเมืองตน
เจ้าแผ่นดิน รู้ข่าว เล่าหัวเราะ ชนะเพราะ อุบาย ได้สมผล
เหตุขลาดกลัว สติไร้ นิสัยคน พาผ่านพ้น ภัยพาล บ้านเมืองเย็น
ข้อคิด – การพ่ายแพ้ของคนเรา บ้างครั้งก็ไม่ได้เกิดเพราะการแข่งขันชิงชัย
แต่เกิดทันทีที่ใจคิดท้อแท้ แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้สู้ คนฉลาดรู้จุดอ่อนเอาชนะคนขลาด และ
ขาดสติ ได้ไม่ยากไม่ต้องออกแรง