ขออนุญาติยกประเด็นเพื่อง่ายขึ้นกับการค้นหา และให้ความเห็น ครับ
http://pantip.com/topic/33563156
ถูกต้อง ครับ “เหมือน จะ ย้ำคิด ย้ำทำ และ นำเข้าสู่ประเด็น การยึดอำนาจ และ เขียนรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อให้ได้มา ซึ่ง สภาปฏิรูป และ ร่าง รัฐธรรมนูญ นั่น ไม่ชอบธรรม”
จากสถานะการณ์ในขณะนั้น ถ้าจะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา (สากล) และตามบทบัญญัติของ รธน.๕๐ รวมทั้งอำนาจหน้าที่ปฎิบัติการของ จนท.รักษาความปลอดภัย ภายใน เพียงการประกาศใช้ “พรก.ฉุกเฉิน” ไม่ต้องถึงกับ “กฏอัยการศึก” ก็ยังเป็นลักษณะเกินความสมควร เพราะการชุมนุมฯ ยังไม่อยู่ในระดับที่ “มิสามารถ” บริหารราชการตามปรกติได้ หรือเรียกได้ว่า ยังเป็น “สถานะการปรกติ” ครับ
อย่างไรก็ตาม การประกาศใช้ “กฎอัยการศึก” จากตัวบทและเจตนารมณ์ที่สร้างขึ้นบังคับใช้มาประมาณ ๑๐๐ ปีที่ผ่านมา เป็นกฎหมายที่ขาดความครอบคุมกับสถานะการปัจจุบัน และเมื่อเทียบกับบทบัญญัติของ รธน.๕๐ คือ ๑.) อำนาจการตีความหรือประกาศใช้ ยังตกอยู่ในระดับ “ข้าราชการประจำ” แต่มิใช่ระดับ “บริหาร” ๒.) ตัวบทที่ระบุถึงกรณี “เหตุผลจำเป็น” ไม่ชัดเจนหรือรวบรับกับการตีความหมายด้านปฎิบัติ ๓.) สิทธิอำนาจการบังคับใช้ “ขัดหรือแย้ง” กับบทบัญญัติและเจตนารมณ์ใน รธน.๕๐ การใช้ประเพณีปฎิบัติ ที่ยึดถือกับการละเลยความไม่สมบูรณ์ของ รธน.๕๐ เป็นผลให้การประกาศใช้ “กฎอัยการศึก” ทั้งใน สามจังหวัดภาคใต้ และในครั้งหลังสุด เป็น “กรณีชอบธรรม” นั่นเองครับ
ถึงแม้ว่า การประกาศบังคับใช้ “กฎอัยการศึก” ที่ยึดเป็น “กรณีชอบธรรม” ก็ตาม ทั้งในตัวบทและเจตนารมณ์ในการบังคับใช้ มิได้ครอบคุมถึง “การยึดอำนาจ” อันเป็นลักษณะความผิดชัดเจนตาม บทบัญญัติและเจตนารมณ์ ของ รธน.๕๐ โดยทันที ฉนั้นการยึดอำนาจจึงเป็น “กรณีมิชอบธรรม” ที่ทำให้เกิดความจำเป็นในการ “ยกเลิกการบังคับใช้” (ฉีก) รธน.๕๐ เพื่อสร้างความชอบธรรมกับการกระทำ โดยนำเอา รธน.ฉบับชั่วคราว มาบังคับใช้ อัน รธน.ชัวคราว เป็นลักษณะการบริหารราชการในสภาพการการบังคับใช้ ”กฎอัยการศึก” ผสมรวมอยู่ (ม.๔๔) หรือลักษณะ “อัตตาธิปัตย์” นั่นเอง เพราะการบริหารมิได้เป็นไปตามโครงร่าง ของ “ประชาธิปไตย” สมบูรณ์ รวมทั้ง รธน.ชั่วคราว มิได้มีที่มาอย่างชอบธรรม และการกลับสู่การบังคับใช้ รธน.๕๐ เนื่องด้วย การกระทำผิดตามบทบัญญัติ เป็นสิ่งที่กระทำไม่ได้ เป็นเหตุจำเป็นที่จะต้อง ร่าง รธน.ฉบับใหม่ ขึ้นมาบังคับใช้แทน และโดยให้เหตุผลว่า เป็นการ “ปฎิรูป” จุดสำคัญใน ร่าง รธน.ฉบับใหม่ คือการทำให้การ “ยึดอำนาจ” อย่างที่ผ่านมา ที่เป็นความผิดมาเป็นการ “ควบคุมอำนาจในตัว” (ระบบแต่งตั้ง) ในบทบัญญัติของ รธน. รวมทั้งให้ระบุการกระทำ “ยึดอำนาจ” ที่ผ่านมาให้ถือว่า “ชอบธรรม” (ม.๒๙๗) ครับ
ไม่ใช่ ครับ “แม้แต่ เพื่อนสมาชิกที่ แสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้ ก็มุ่งไปที่ การรัฐประหาร และ สภาร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ น่าจะเข้าใจ ถึง เหตุจำเป็น ที่ ทำให้สถานการณ์มาถึงจุดนี้ และ เป็นจุดที่แก้ไขไม่ได้”
คห. และความเข้าใจในฐานะสามัญชน ก็คือ ไม่มีเหตุจำเป็นหรือสมควรใดๆ ในขณะนั้นและจนถึงทุกวันนี้ กับกรณี “การรัฐประหาร” หรือ “การมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ” เพราะยังสามารถมีการบังคับใช้ รธน.๕๐ ได้อย่างปรกติ ส่วนความไม่สมบูรณ์ในตัวบทหรือเจตนารมณ์ ก็มีกรอบวิธีการแก้ใขผ่าน กระบวนการนิติบัญญัติ ที่สามารถกระทำได้อยู่แล้ว จากสถานการณ์ในจุดนี้จะแก้ใขได้ทันที โดยประกาศ “ยกเลิก” การยกเลิกบังคับใช้ รธน.๕๐ อันจะมีผลต่อเนื่องถึงการจัดเลือกตั้ง “ผู้แทนราษฎร” ให้เข้ามาแก้ใขตามครรลองที่เป็นไปตาม รธน.๕๐ ครับ
ด้วยความเคารพ ครับ “ส่วนตัว ผม รับได้ ครับ และ หาก ใช้หลักกฏหมายสากล ว่าด้วยการนิรโทษกรรมการกระทำผิดกฏหมายใดๆ เพื่อ ปกป้อง คุณค่า ที่สูงกว่า สิ่งที่ได้ละเมิด ในที่นี้ คือ การละเมิดอำนาจ 3 ฝ่าย เพื่อรักษา หลักที่สูงกว่า คือ หลักการประชาธิปไตย และ หลักสิทธิมนุษยชน”
ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็ควรแยกแยะว่า “การกระทำ เพื่อ ปกป้อง คุณค่า ที่สูงกว่าสิ่งที่ได้ละเมิด” มิได้มีความหมายตรงกันกับ “การยกเลิกกับสิ่งที่ได้ละเมิด” อย่างเช่น การบริหารราชการในสถานะการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความจำเป็นกับการล่วงละเมิดด้วยความจำเป็นเป็นเหตุผลบังคับ อันก็เป็นข้ออนุโลมใน รธน.๕๐ อยู่แล้ว แต่ “การยกเลิก” ก็เป็นข้อต้องห้าม” หรือเป็นลักษณะ “กระทำผิด” ใน รธน.๕๐ เช่นกัน นี่ครับ
.......
ตอบ... ชำระคณะกรรมการปฎิรูป ของ นายไวรัส (๒)
http://pantip.com/topic/33563156
ถูกต้อง ครับ “เหมือน จะ ย้ำคิด ย้ำทำ และ นำเข้าสู่ประเด็น การยึดอำนาจ และ เขียนรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อให้ได้มา ซึ่ง สภาปฏิรูป และ ร่าง รัฐธรรมนูญ นั่น ไม่ชอบธรรม”
จากสถานะการณ์ในขณะนั้น ถ้าจะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา (สากล) และตามบทบัญญัติของ รธน.๕๐ รวมทั้งอำนาจหน้าที่ปฎิบัติการของ จนท.รักษาความปลอดภัย ภายใน เพียงการประกาศใช้ “พรก.ฉุกเฉิน” ไม่ต้องถึงกับ “กฏอัยการศึก” ก็ยังเป็นลักษณะเกินความสมควร เพราะการชุมนุมฯ ยังไม่อยู่ในระดับที่ “มิสามารถ” บริหารราชการตามปรกติได้ หรือเรียกได้ว่า ยังเป็น “สถานะการปรกติ” ครับ
อย่างไรก็ตาม การประกาศใช้ “กฎอัยการศึก” จากตัวบทและเจตนารมณ์ที่สร้างขึ้นบังคับใช้มาประมาณ ๑๐๐ ปีที่ผ่านมา เป็นกฎหมายที่ขาดความครอบคุมกับสถานะการปัจจุบัน และเมื่อเทียบกับบทบัญญัติของ รธน.๕๐ คือ ๑.) อำนาจการตีความหรือประกาศใช้ ยังตกอยู่ในระดับ “ข้าราชการประจำ” แต่มิใช่ระดับ “บริหาร” ๒.) ตัวบทที่ระบุถึงกรณี “เหตุผลจำเป็น” ไม่ชัดเจนหรือรวบรับกับการตีความหมายด้านปฎิบัติ ๓.) สิทธิอำนาจการบังคับใช้ “ขัดหรือแย้ง” กับบทบัญญัติและเจตนารมณ์ใน รธน.๕๐ การใช้ประเพณีปฎิบัติ ที่ยึดถือกับการละเลยความไม่สมบูรณ์ของ รธน.๕๐ เป็นผลให้การประกาศใช้ “กฎอัยการศึก” ทั้งใน สามจังหวัดภาคใต้ และในครั้งหลังสุด เป็น “กรณีชอบธรรม” นั่นเองครับ
ถึงแม้ว่า การประกาศบังคับใช้ “กฎอัยการศึก” ที่ยึดเป็น “กรณีชอบธรรม” ก็ตาม ทั้งในตัวบทและเจตนารมณ์ในการบังคับใช้ มิได้ครอบคุมถึง “การยึดอำนาจ” อันเป็นลักษณะความผิดชัดเจนตาม บทบัญญัติและเจตนารมณ์ ของ รธน.๕๐ โดยทันที ฉนั้นการยึดอำนาจจึงเป็น “กรณีมิชอบธรรม” ที่ทำให้เกิดความจำเป็นในการ “ยกเลิกการบังคับใช้” (ฉีก) รธน.๕๐ เพื่อสร้างความชอบธรรมกับการกระทำ โดยนำเอา รธน.ฉบับชั่วคราว มาบังคับใช้ อัน รธน.ชัวคราว เป็นลักษณะการบริหารราชการในสภาพการการบังคับใช้ ”กฎอัยการศึก” ผสมรวมอยู่ (ม.๔๔) หรือลักษณะ “อัตตาธิปัตย์” นั่นเอง เพราะการบริหารมิได้เป็นไปตามโครงร่าง ของ “ประชาธิปไตย” สมบูรณ์ รวมทั้ง รธน.ชั่วคราว มิได้มีที่มาอย่างชอบธรรม และการกลับสู่การบังคับใช้ รธน.๕๐ เนื่องด้วย การกระทำผิดตามบทบัญญัติ เป็นสิ่งที่กระทำไม่ได้ เป็นเหตุจำเป็นที่จะต้อง ร่าง รธน.ฉบับใหม่ ขึ้นมาบังคับใช้แทน และโดยให้เหตุผลว่า เป็นการ “ปฎิรูป” จุดสำคัญใน ร่าง รธน.ฉบับใหม่ คือการทำให้การ “ยึดอำนาจ” อย่างที่ผ่านมา ที่เป็นความผิดมาเป็นการ “ควบคุมอำนาจในตัว” (ระบบแต่งตั้ง) ในบทบัญญัติของ รธน. รวมทั้งให้ระบุการกระทำ “ยึดอำนาจ” ที่ผ่านมาให้ถือว่า “ชอบธรรม” (ม.๒๙๗) ครับ
ไม่ใช่ ครับ “แม้แต่ เพื่อนสมาชิกที่ แสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้ ก็มุ่งไปที่ การรัฐประหาร และ สภาร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ น่าจะเข้าใจ ถึง เหตุจำเป็น ที่ ทำให้สถานการณ์มาถึงจุดนี้ และ เป็นจุดที่แก้ไขไม่ได้”
คห. และความเข้าใจในฐานะสามัญชน ก็คือ ไม่มีเหตุจำเป็นหรือสมควรใดๆ ในขณะนั้นและจนถึงทุกวันนี้ กับกรณี “การรัฐประหาร” หรือ “การมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ” เพราะยังสามารถมีการบังคับใช้ รธน.๕๐ ได้อย่างปรกติ ส่วนความไม่สมบูรณ์ในตัวบทหรือเจตนารมณ์ ก็มีกรอบวิธีการแก้ใขผ่าน กระบวนการนิติบัญญัติ ที่สามารถกระทำได้อยู่แล้ว จากสถานการณ์ในจุดนี้จะแก้ใขได้ทันที โดยประกาศ “ยกเลิก” การยกเลิกบังคับใช้ รธน.๕๐ อันจะมีผลต่อเนื่องถึงการจัดเลือกตั้ง “ผู้แทนราษฎร” ให้เข้ามาแก้ใขตามครรลองที่เป็นไปตาม รธน.๕๐ ครับ
ด้วยความเคารพ ครับ “ส่วนตัว ผม รับได้ ครับ และ หาก ใช้หลักกฏหมายสากล ว่าด้วยการนิรโทษกรรมการกระทำผิดกฏหมายใดๆ เพื่อ ปกป้อง คุณค่า ที่สูงกว่า สิ่งที่ได้ละเมิด ในที่นี้ คือ การละเมิดอำนาจ 3 ฝ่าย เพื่อรักษา หลักที่สูงกว่า คือ หลักการประชาธิปไตย และ หลักสิทธิมนุษยชน”
ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็ควรแยกแยะว่า “การกระทำ เพื่อ ปกป้อง คุณค่า ที่สูงกว่าสิ่งที่ได้ละเมิด” มิได้มีความหมายตรงกันกับ “การยกเลิกกับสิ่งที่ได้ละเมิด” อย่างเช่น การบริหารราชการในสถานะการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความจำเป็นกับการล่วงละเมิดด้วยความจำเป็นเป็นเหตุผลบังคับ อันก็เป็นข้ออนุโลมใน รธน.๕๐ อยู่แล้ว แต่ “การยกเลิก” ก็เป็นข้อต้องห้าม” หรือเป็นลักษณะ “กระทำผิด” ใน รธน.๕๐ เช่นกัน นี่ครับ
.......