ข้อสังเกตุถึงความชอบธรรมในอำนาจตุลาการ ใน รธน.ฉบับชั่วคราว

เป็นความชัดแจ้งอยู่แล้วว่า รธน.๕๐ ถูกยกเลิกบังคับใช้ในวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ยกเว้นหมวด ๒ พระมหากษัตริย์ อันหมายถึงว่า บทบัญญัติใน รธน.๕๐ หมวด ๑๐ ศาล ม. ๑๙๗ – ม. ๒๒๘ มีอันสิ้นสุดลงไป อันตามหลักกฎหมายแล้วการปฎิบัติหน้าที่ของ จนท.รัฐ โดยเฉพาะในส่วนของ บุคคลากรตุลาการ มีสองทางเลือกระหว่าง

๑.) ในกรณียอมรับอำนาจรัฐาธิปัตย์ ก็ต้องอาศัยความชอบธรรมในการปฎิบัติหน้าที่ ตามบทบัญญัติ ของ รธน.ฉบับชั่วคราว อันใน รธน.ฉบับชั่วคราว ม. ๒๖ ระบุรับรองอำนาจ ตุลาการ ในการพิจารณาอรรถคดี เช่นเดียวกันกับ รธน.๕๐ ม. ๑๙๗ วรรค ๑ และ ๒ เพียงมาตราเดียว โดยมิได้มีบทบัญญัติแยกแยะกับส่วนอื่นๆ อันเป็นกรอบการปฎิบัติหน้าที่รวมทั้งที่มาของ บุคคลากรตุลาการต่างๆ อันเป็นเหตุให้ บุคคลากรตุลาการ ตาม รธน.๕๐ ขาดความชอบธรรมในการปฎิบัติหน้าที่ลงไป

๒.) ในกรณีไม่ยอมรับรัฐาธิปัตย์ ก็คือการมีสิทธิอำนาจหน้าที่ด้านตุลาการ ต่อไปตาม รธน.๕๐ โดยบุคคลากรตุลาการ มีหน้าที่ผูกพันและเป็นสิทธิอำนาจโดยชอบธรรม ตามบัญญัติ รธน.๕๐ ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน การบังคับใช้ตาม รธน.๕๐ หมวด ๑๐ ศาล ม. ๑๙๗ – ม. ๒๒๘ การกระทำในหน้าที่ใดๆ ที่ไม่มีความผูกพันต่อ รธน.๕๐ จะถือว่าเป็นการกระทำโดยชอบธรรมมิได้  

การให้ความเชื่อถือในสิทธิอำนาจ ตุลาการ มาจากพื้นฐานที่รับรองสิทธิความชอบธรรมเอาไว้ใน กฏหมายสูงสุดของประเทศ คือ รธน.๕๐ เมื่อการถูกประกาศให้สิ้นสุดลงไปแล้ว และใน รธน.ฉบับชั่วคราวก็มิได้ บัญญัติรับรองเอาไว้ คำถามที่บังเกิดขึ้นก็คือ บุคคลากรตุลากรทั้งหลายในปัจจุบัน ยึดโยงอยู่กับสิทธิชอบธรรมใด ที่สามารถให้ปฎิบัติหน้าที่โดยได้รับความยอมรับและเชื่อถือในอำนาจตุลาการ ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่