กาลครั้งหนึ่งปราณบุรี

ปราณบุรี ชื่อนี้ห่างหายไปจากสารบบผมไปค่อนข้างจะนานพอควร จำได้ลางๆว่า เป็นหาดทรายโล่งๆ ขาวๆ จนเราสามารถได้ยินเสียงของความเงียบสงบได้ชัดเจน

ผมนั่งเหม่อลอยในขณะที่ตัวเองเคลื่อนไปเป็นหนึ่งเดียวกับความเร็วของรถที่มุ่งหน้าไปยัง ปราณบุรี อีกครั้ง
ขาขวาผมเหย่ออกไปนอกรถหลังจากนั่งอยู่นาน เป็นความร้อนที่ผมพึงประสงค์ ลมพัดแรงแทรกเข้ามาในรถ ดั่งการต้อนรับแก่ผู้มาเยือน กลิ่นไอทะเลเข้ามาสู่ปอด ทำให้จิตใจเบิกบาน และส่งผลต่อรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า

ปราณบุรีเปลี่ยนไปมาก แต่ก็ยังคงเป็นปราณบุรีที่มีเสน่ห์อย่างที่เคยเป็น โรงแรมน้อยใหญ่ผุดขึ้นกลางทรายขาว แต่ทุกๆที่ ก็ยังคงน้อมรับความเป็นปราณบุรีที่ขึงขัง และเงียบสงบ เหมาะกับการพักกายให้คลายเหนื่อย

ชายหาดขาวทอดยาวไปไกล ปลายสุดไปกระทบกับเขาลูกโต และที่ตรงนั้นคงจะเป็น อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดที่จะเป็นจุดหมายอีกที่หนึ่งในการเดินทางครั้งนี้

ผมเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ ดูความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ แต่อีกมุมหนึ่งก็เห็นอะไรที่ก่อเกิดจากการทำลาย ที่ทำให้เรารู้สึกเสียดายในความเป็นไป แต่มันก็คงเป็นสัจธรรมอย่างหนึ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ การยึดติดอดีตมันเป็นเรื่องที่ทำได้เพียงแค่ในความทรงจำ และเราก็คงต้องปล่อยให้มันดำเนินไป

สายลมแรงพัดไสว คงจะมาจากทิศตะวันตก ถึงได้พาฝรั่งหัวทองมาด้วยเสียเต็มหาด และฝรั่งเหล่านั้นก็ได้พา kite surf มากับแรงลมนั้นด้วยเช่นกัน ลูกเด็กเล็กแดงหัวทองหัวดำ ต่างพาเงยหน้ามองว่าวตัวใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือหัว สลับกับการวิ่งเอาตัวปะทะน้ำทะเลอย่างบ้าคลั่ง ผมอดยิ้มไม่ได้ เมื่อนึกย้อนกลับไปวันวาน

ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทั้งภายใน และภายนอก ทั้งตัวเรา และสถานที่ แต่สิ่งที่มีอิทธิพลมากที่สุดสำหรับผมคงจะเกิดจากภายในกระมัง การเปลี่ยนแปลงมักทำให้เราโหยหาอดีต แต่ในขณะเดียวกัน มันก็บังคับเราให้มองไปข้างหน้า

การมองเปลี่ยนไป การคิดเปลี่ยนไป จิตใจเปลี่ยนไป ผมไม่ทราบโดยแท้จริงว่ามันดีขึ้นหรือแย่ลงเพียงใด
แต่ผมก็ยินดี พอใจและมีความสุขกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ภาพทั้งหมดมาจากiphone และ fuji x100s ครับ
































แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่