คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ผิด กม.ค่ะ
ฝ่าฝืนพรบ คุ้มครองแรงงาน 2541 มาตรา61 มีโทษทางอาญาตามม.144 ด้วย
ม.61 ให้ลูกจ้างได้รับค่าล่วงเวลาในวันทำงาน ไม่น้อยกว่า 1.5 เท่า ของค่าจ้างเฉลี่ยต่อชม. ในวันทำงานตามจำนวนชม.ที่ทำ
กรณีของจขกท ได้ค่าจ้าง 83.33 บาท ต่อชม. 1.5 เท่า ก็คือประมาณ 125 บาท (124.995) ต่อชม. ของค่าทำงานล่วงเวลาในวันทำงาน
แต่ถ้าทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์ วันหยุดตามประเพณี วันหยุดพักผ่อนประจำปี
ก็จะได้ค่าจ้างในวันหยุด ไม่น้อยกว่า 1 เท่า ของค่าจ้างต่อชม. ในวันทำงาน คือได้ 83.33 บาท เหมือนวันธรรมดา กรณีลูกจ้างรายเดือน
(ม.62 พรบ คุ้มครองแรงงาน 2541)
แต่ถ้าทำงานล่วงเวลาในวันหยุด ก็จะได้ 3 เท่าของค่าจ้างต่อชม.ในวันทำงาน เท่ากับ 249.99 บาท (ม.63 พรบ คุ้มครองแรงงาน 2541)
ถ้านายจ้างฝ่าฝืนมาตราดังกล่าว ก็มีความผิด และมีโทษทางอาญาตามม.144 ด้วย
ส่วนถ้านายจ้างเกิดไม่พอใจจขกท จะเลิกจ้าง (ถ้าเป็นสัญญาไม่มีกำหนดระยะเวลาจ้าง) นายจ้างก็ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นนส. ให้จขกท ทราบ ก่อนจะถึงหรือในวันที่จ่ายค่าจ้างทุกเดือน จะมีผลเป็นการเลิกสัญญากันเมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวต่อไป
เช่น จขกทได้รับเงินเดือนทุกวันที่ 30 ของเดือน
ถ้านายจ้างจะให้ออก เดือนเมษายน นายจ้างต้องบอกเลิกจ้างเป็นนส ก่อนหรือในวันที่ 30 มีนาคม และลูกจ้างต้องทราบภายใน 30 มีนา ด้วย
ถึงจะมีผลเลิกสัญญา ในวันที่ 30 เมษา แต่ถ้านายจ้าง บอกเลิก 1 เมษา จะมีผลเลิกจ้าง คือ 30 พค.
และถ้าการบอกเลิกจ้าง ไม่ใช่เหตุตามม.119 นายจ้างก็ต้องจ่ายค่าชดเชยให้จขกท ด้วย
และถ้านายจ้างเลิกจ้างไม่บอกกล่าวล่วงหน้าให้ถูกต้องตามกม. หรือบอกกล่าวจริง แต่ให้ออกก่อนสญจะมีผลเลิก นายจ้างก็ต้องจ่ายค่าสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้แก่ลูกจ้างด้วย
- คือบอกเผื่อไว้ก่อน เพื่อจขกท เรียกร้อง แล้วนายจ้างเกิดให้ออก จขกท จะได้ไปต่อถูก ...
ลองไปศึกษา พรบ คุ้มครองแรงงาน 2541 ม.17, ม.30, ม.67 ม.118, ม.119 ซึ่งเป็นประโยชน์กรณีถูกเลิกจ้าง หรือลาออกเอง
ยังได้ค่าวันหยุด ที่ยังไม่ได้ใช้ด้วย .
จขกท ยังได้ดอกเบี้ยผิดนัด ที่ควรได้ด้วย
เวลามีปัญหาแนวนี้ ต้องไปแจ้งที่สนงแรงงานจังหวัด หรือ หน่วยงานของกรมแรงงานประจำจังหวัดที่ทำงานอยู่
แล้วเจ้าพนักงานเขาจะมาเคลียร์กับนายจ้างเอง ถึงปัญหาที่ลูกจ้างแจ้ง
คนไม่รู้ก็จะไปแจ้งความที่โรงพัก อันนี้ไม่ใช่
ฝ่าฝืนพรบ คุ้มครองแรงงาน 2541 มาตรา61 มีโทษทางอาญาตามม.144 ด้วย
ม.61 ให้ลูกจ้างได้รับค่าล่วงเวลาในวันทำงาน ไม่น้อยกว่า 1.5 เท่า ของค่าจ้างเฉลี่ยต่อชม. ในวันทำงานตามจำนวนชม.ที่ทำ
กรณีของจขกท ได้ค่าจ้าง 83.33 บาท ต่อชม. 1.5 เท่า ก็คือประมาณ 125 บาท (124.995) ต่อชม. ของค่าทำงานล่วงเวลาในวันทำงาน
แต่ถ้าทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์ วันหยุดตามประเพณี วันหยุดพักผ่อนประจำปี
ก็จะได้ค่าจ้างในวันหยุด ไม่น้อยกว่า 1 เท่า ของค่าจ้างต่อชม. ในวันทำงาน คือได้ 83.33 บาท เหมือนวันธรรมดา กรณีลูกจ้างรายเดือน
(ม.62 พรบ คุ้มครองแรงงาน 2541)
แต่ถ้าทำงานล่วงเวลาในวันหยุด ก็จะได้ 3 เท่าของค่าจ้างต่อชม.ในวันทำงาน เท่ากับ 249.99 บาท (ม.63 พรบ คุ้มครองแรงงาน 2541)
ถ้านายจ้างฝ่าฝืนมาตราดังกล่าว ก็มีความผิด และมีโทษทางอาญาตามม.144 ด้วย
ส่วนถ้านายจ้างเกิดไม่พอใจจขกท จะเลิกจ้าง (ถ้าเป็นสัญญาไม่มีกำหนดระยะเวลาจ้าง) นายจ้างก็ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นนส. ให้จขกท ทราบ ก่อนจะถึงหรือในวันที่จ่ายค่าจ้างทุกเดือน จะมีผลเป็นการเลิกสัญญากันเมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวต่อไป
เช่น จขกทได้รับเงินเดือนทุกวันที่ 30 ของเดือน
ถ้านายจ้างจะให้ออก เดือนเมษายน นายจ้างต้องบอกเลิกจ้างเป็นนส ก่อนหรือในวันที่ 30 มีนาคม และลูกจ้างต้องทราบภายใน 30 มีนา ด้วย
ถึงจะมีผลเลิกสัญญา ในวันที่ 30 เมษา แต่ถ้านายจ้าง บอกเลิก 1 เมษา จะมีผลเลิกจ้าง คือ 30 พค.
และถ้าการบอกเลิกจ้าง ไม่ใช่เหตุตามม.119 นายจ้างก็ต้องจ่ายค่าชดเชยให้จขกท ด้วย
และถ้านายจ้างเลิกจ้างไม่บอกกล่าวล่วงหน้าให้ถูกต้องตามกม. หรือบอกกล่าวจริง แต่ให้ออกก่อนสญจะมีผลเลิก นายจ้างก็ต้องจ่ายค่าสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้แก่ลูกจ้างด้วย
- คือบอกเผื่อไว้ก่อน เพื่อจขกท เรียกร้อง แล้วนายจ้างเกิดให้ออก จขกท จะได้ไปต่อถูก ...
ลองไปศึกษา พรบ คุ้มครองแรงงาน 2541 ม.17, ม.30, ม.67 ม.118, ม.119 ซึ่งเป็นประโยชน์กรณีถูกเลิกจ้าง หรือลาออกเอง
ยังได้ค่าวันหยุด ที่ยังไม่ได้ใช้ด้วย .
จขกท ยังได้ดอกเบี้ยผิดนัด ที่ควรได้ด้วย
เวลามีปัญหาแนวนี้ ต้องไปแจ้งที่สนงแรงงานจังหวัด หรือ หน่วยงานของกรมแรงงานประจำจังหวัดที่ทำงานอยู่
แล้วเจ้าพนักงานเขาจะมาเคลียร์กับนายจ้างเอง ถึงปัญหาที่ลูกจ้างแจ้ง
คนไม่รู้ก็จะไปแจ้งความที่โรงพัก อันนี้ไม่ใช่
แสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับกฏหมายแรงงานคับ