เชิญชม ! วิวัฒนาการมนุษย์อ้วน ครับ

กระทู้สนทนา
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ  อ้วนล่ำอยู่ที่ทำตัว^^

สวัสดีครับทุกท่าน  ผมเชื่อเหลือเกินว่า  ชาวพันทิปส่วนใหญ่ที่กดเข้ามาดูกระทู้นี้  คือคนที่กำลังมองหาวิธีการหรือแรงบันดาลใจในการลดความอ้วนแน่ๆ เลยใช่ไหมละครับ^^  ก็ขอยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ  


ภาพที่เห็นอยู่ด้านบน  ภาพนั้นถ่ายเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม  2555  เป็นช่วงปิดเทอม ม.6  กำลังจะขึ้นปี 1 ( ไปซื้อชุดนักศึกษามาก็เลยเอามาลองใส่เล่น )  ใส่ทีแรกก็ตลกตัวเองเหมือนกัน  เพราะไม่เคยใส่แถมดูใหญ่ๆอ้วนๆยังไงก็ไม่รู้ 55555  

และนี้แหละครับ  คือ  จุดเริ่มต้นของวิวัฒนาการมนุษย์อ้วนคนนี้

ตั้งแต่เด็กจนมาถึงเรียนจบ  ม.6  มีความคิดมาโดยตลอดว่าอยากจะผอม  หุ่นดีเหมือนคนอื่นเค้าบ้าง  อยากใส่เสื้อผ้าสวยๆ  อยากถ่ายรูปแล้วดูดี  อยากหน้าตาดีอยากหล่อ 5555 ก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวไหม  แต่มีเพื่อนเคยทักว่าถ้าแกผอม  แกจะหล่อ 555  

วิวัฒนาการช่วงที่ 1  ปี 2555
ชีวิตอดทน


ปีนี้เป็นปีที่เป็นจุดเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่าง เริ่มตั้งแต่จบ ม.6 ต้องเรียนต่อมหาวิทยาลัย  ซึ่งสอบติดหลายที่แต่เลือกที่จะสอบใหม่ (ซิ่ว)  เลยทำให้ปีนี้แทนที่จะเป็นนักศึกษาปี 1 กลายเป็นว่าอยู่บ้านเฉยๆ อ่านหนังสือรอสอบใหม่ช้ากว่าเพื่อนไป 1 ปี


การที่ผมอยู่บ้านชีวิตว่างๆ นี่แหละครับ  คือ  สิ่งที่ทำให้ผมลดความอ้วนลงมาได้…………………..


อันแน่…..อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่าทำยังไง  คำตอบคือ  ทำงานบ้านทุกอย่างแทนทุกคน เน้น ว่าทำทุกอย่างแทนทุกคนและต้องทำตลอด (ทุกวัน)  ดังนี้  ซักผ้าให้ทุกคน(อันนี้ทำอยู่แล้ว)  ล้างถ้วยล้างจาน  ล้างห้องน้ำ  ทำกับข้าว  ทำอาหารให้หมาแมว  รดน้ำต้นไม้  ทำความสะอาดบ้าน  ถูบ้าน  กวาดบ้าน(ชั้นบนชั้นล่าง)  ปัดฝุ่น  กวาดหยากไย่รอบบ้าน  ทำความสะอาดห้องนอน  ห้องพระ  พับผ้า  ทำความสะอาดห้องครัว  ห้องเก็บของ  ยิบย่อยอื่นๆ อีก

หลายคนคงคิดว่ามันจริงหรอ!  แต่อย่าลืมนะครับว่าบ้านของพวกเราแต่ละคนมีขนาดไม่เท่ากัน  และความรกความสกปรกของบ้านก็ไม่เท่ากัน  บ้านของผมหลังขนาดปานกลางค่อนไปทางใหญ่  ข้าวของรกรุงรังกระจัดกระจาย  ขี้ฝุ่นหยากไย่ใยแมงมุม บลาๆ เพียบ  และที่สำคัญทำคนเดียว  นั้นใช้เวลาหลายวันและงานบ้านเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่เรื่อยๆ  


งานบางอย่างต้องทำทุกวัน  บางอย่างก็นานๆทำที  แต่ทีแน่ๆทำแต่ละครั้งใช้เวลามากกว่า  2 ชั่วโมง ซึ่งก็เทียบแทนการออกกำลังกายสองชั่วโมงได้  หรือ ไหนจะเดินไปเดินมานอกช่วงเวลาการทำงานบ้านอีก  ลืมบอกไปว่าบ้านผมเป็นบ้านสวนค่อนไปทางป่า 555555555  ที่กว้าง  เดินเล่นข้างนอกบ้านได้

นอกจากนี้ผมไม่มีรถมอไซต์เวลาจะไปไหนมาไหนต้องเดินออกจากซอยไปขึ้นรถสาธารณะ ( ชีวิตส่วนใหญ่เดิน )


ตั้งแต่กลางปี 2555  ไปจนถึง  กลางปี 2556  ชีวิตที่อยู่บ้านก็ไม่ค่อยมีอะไร  ส่วนใหญ่ก็ทำงานบ้าน  ไปเดินเล่นห้าง ( เดินจริงๆนะชั้นนึงก็วนไปวนมาขึ้นลงเดินไปเดินมาอยู่นั่นแหละ กว่าจะกลับก็หลายชั่วโมงอยู่ )  เดินเล่นสวนสาธารณะ

นอกจากการใช้พลังงานจากการทำงานบ้านและการเดินไปเดินมาแล้ว 5555 อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้  คือ  เรื่องของอาหารการกิน  ผมบอกตรงนี้เลยว่าผมไม่มีเคล็ดลับพิเศษอะไร  นอกจากว่า……………..

กินตามปกติ ไม่มีว่าเมนูลดความอ้วน  อันนี้กินแล้วอ้วน  อันนั้นกินแล้วไม่อ้วน  ไม่มีวิธีนี้  (กินตามปกติแค่ลดปริมาณและกิเลสแค่นั้นเอง ง๊ายง่าย )  แต่รู้ไหมว่าของชอบผมเป็นคนชอบกินผัก  เพราะว่าแม่ทำอาชีพขายผักอยู่ตลาด เมนูอาหารส่วนใหญ่จะมีผักเป็นส่วนประกอบเสมอ  

สรุป  ช่วงที่  1  ลดความอ้วนโดยการทำงานบ้าน  เดิน  และกินเมนูผัก  แค่นี้จริงๆนะ
( รวมเวลาประมาณ  1 ปี ) ( ลืมบอกครับว่าภาพแรกหนัก 95 กิโลกรัม )

วิวัฒนาการช่วงที่  2  ปี  2556
ชีวิตเบิกบาน

หลังจาก  1 ปีที่อยู่บ้านผ่านไปแล้วนะครับ  ปีนี้  เป็นปีที่ไม่ได้อยู่บ้านแล้ว  เพราะสอบใหม่แล้วติดแล้วจะต้องไปอยู่หอและเรียนไกลบ้าน  ซึ่งจะต้องวางแผนการใช้เงินและการใช้ชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่ง

ชีวิตในช่วงปีนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก  มีแค่ไปเรียนแล้วก็กลับหอ  ไปเรียนกลับหอ  ส่วนใหญ่มีแค่นี้  ไม่ค่อยเที่ยวอาจจะด้วยไม่รู้จะไปเที่ยวไหนกับอยากประหยัดเงินช่วยทางบ้านก็เลยไม่มีไรมาก


แล้วช่วงนี้ลดความอ้วนด้วยวิธีไหน  คำตอบคือ  เดิน  เดิน  เดิน  เดิน  เดิน  และเดิน  พูดง่ายๆก็คือ  การใช้ชีวิตประจำวันของผมนี่แหละครับ  กล่าวคือ  ผมไม่มีรถมอไซต์เมือนคนอื่นเขา  เวลาจะไปเรียนก็เดินออกจากซอยที่หอตั้งอยู่ไปขึ้นรถสองแถวหน้าซอย บางตึกเรียนรถสองแถวก็ผ่าน  บางตึกก็ไม่ผ่าน  ตึกไหนไม่ผ่านก็ต้องเดินต่อ  หรือบางทีเวลาเปลี่ยนวิชาที่ห้องเรียนอยู่คนละตึกก็เดินเอา  มหาวิทยาลัยผมไม่ใหญ่มากเดินได้แต่ก็เหนื่อย  ส่วนรถรางนะหรอครับ    ผมเดินเอาถึงเร็วกว่าอีกนะ 5555  บางวันผมเคยเดินจากตึกเรียนกลับหอด้วยนะครับ  ประมาณ 2 กิโลกว่าๆ ประมาณ 15 นาทีเอง


ส่วนเรื่องอาหารกิน  ส่วนใหญ่ก็อาหารตามสั่งทั่วไปๆ  ไม่ทำกับข้าวกินเองเพราะอยู่คนเดียว  ที่ทำก็มีแค่หุงข้าวเอง  ส่วนกับก็ซื้อมาจากตลาดมักจะเป็นอาหารสำเร็จที่เราเคยเห็นนั้นแหละครับ


นอกจากนี้มื้อเย็นบางวันก็ไม่กินข้าวแต่จะดื่มนมถั่วเหลืองแทนเป็นจำนวนสองกล่องสองเวลา  คือ  18.00 น. กับ 21.00 น. กล่องละ 10 บาทเอง สำหรับผมแล้วนมโปรตีนถั่วเหลืองเป็นสิ่งที่ผมกินแล้วอิ่มและอยู่ท้องมากๆ

สรุป  ช่วงที่ 2 ความอ้วนลดลงเพราะการเดิน  และการกินในปริมาณที่น้อยลง
( รวมเวลาประมาณ  1 ปี )

วิวัฒนาการช่วงที่ 3 ปี 2557
ชีวิตดี๊ดี

ประมาณ  2  ปีผ่านไปความอ้วนก็ถือว่าลดลงไปมากถึงมากที่สุด  ในช่วงนี้ก็จะยังเหลือพุงกับช่วงอกอยู่บ้างแต่ถือว่าลดน้อยลงอย่างมากเมื่อเทียบกับแต่ก่อน  ปีนี้เป็นปีที่ปิดเทอมนานเพื่อเตรียมเข้า AEC เลยมีโอกาสไปสมัครงานโรงแรม Centara Hotel & Convention Centre Udon Thani  แบบว่าไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆในช่วงปิดเทอม ก็เลยไปหาสมัครงาน part time  ปรากฏว่าก็ได้งานที่โรงแรมนี้  แต่ก่อนจะได้ part time ก็ไปทำเป็น casual  อยู่ช่วงนึง



ส่วนใหญ่แล้วชีวิตผมไม่ได้ออกกำลังกายอย่างจริงจังเป็นเรื่องเป็นราว  แต่อาศัยการทำงาน  การใช้ชีวิตประจำวันแบบใช้พลังงานซะมากกว่า  ซึ่งมันก็เป็นความจริงตามคำกล่าวที่ว่า  แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย

ในช่วงปิดเทอมที่ไปทำงานอยู่โรงแรมประมาณ  3 เดือน  ก็ได้ใช้พลังงานอย่างมาก เช่น จัดโต๊ะ  เก้าอี้  เดินเสิร์ฟเดินเก็บ  เดินบริการ  เข็น  แบก  หาม  ยืนอยู่กับที่(นานๆก็เมื่อยนะเออ)  สรุปว่าทำงานโรงแรมเน้นใช้แรงงานเป็นหลัก 555



หลังจากออกจากงาน  เพราะว่าการเปิดเทอมได้หวนกลับมา  ก็กลับมาเรียนตามปกติ และชีวิตก็มีโอกาสได้ผอมกับคนอื่นเขาอย่างที่ฝันไว้  โดยตลอดเวลาที่ผ่านมันค่อยๆลดลงเองอย่างช้าๆ  และข้างล่างคือภาพถ่ายในช่วงกลาง – ปลาย ปี 57



ก็เหมือนจะหล่อนะ 555


^^


ชีวิตเป็นของเราต้องดูแล


ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกความฝันนะครับ


อยากประสบความสำเร็จที่เหนือคนอื่นก็ต้องมุ่งมั่นทุ่มเทให้มากกว่าคนอื่น


กำลังใจจากใครหนอ...จากผมไง อิอิ


ขอแถมภาพเปรียบเทียบอีกนิดนะครับ
  

สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกทุกคนว่า......

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่