ตอนที่ผ่านมาอยู่ คห สุดท้ายค่ะ
หนึ่งใจในแผ่นดิน
ตอนที่ 51 (1/3)
ดารานั่งลงที่ผืนดินหน้าหลุมศพของคนที่รักทั้งสอง เธอส่งยิ้มแสนเศร้าให้รูปถ่ายของผู้หญิงทั้งคู่ในช่วงเวลาที่ยังชีวิต การรอฟังข่าวจากนายทรงชัยเพื่อแจ้งผลการไล่ล่าเอาชีวิตของเพลงพิณดูเหมือนจะไร้วี่แวว น่าเสียดายแทนโอกาสครั้งสุดท้ายแลกกับรักข้ามคืนเธอที่มอบให้เขา นึกเวทนาชายหนุ่มที่ควรจะมีชีวิตเฟื่องฟูดีงามกว่านี้ และเธอรู้ดีว่านายทรงชัยไม่มีวันให้ลูกชายแสนรักของเขาต้องตกอับ ในตอนนี้นักเลงโตคงจะตามล่าหาเธออยู่เป็นแน่
แต่เธอไม่กลัวอะไรอีก สำหรับเธอแล้ว เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่สัญญาความแค้น ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงต่อชีวิตที่เหลือเพียงตัวคนเดียว ไร้ญาติ ไร้คนรัก ไร้ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือร่างกายและหัวใจที่เย็นชา หญิงสาวหยิบธูปสองเล่มจากกระเป๋าขึ้นจุดด้วยไฟแช็คของมูนไลท์ สองมือประนมไหว้แล้วปักธูปลงที่หน้าป้ายหลุมศพ หนึ่งดอกสำหรับหญิงสาวที่เธอเคยมีใบหน้าพิมพ์เดียวกัน และอีกหนึ่งดอกสำหรับผู้หญิงที่เธอรักและเทิดทูนเหนือใคร
เธอมักหวั่นไหวกับสายตาของเขาที่มองมาเสมอ ต่อหน้าคุณหมอพวกเขาแสร้งทำเป็นไม่สนใจกันและกัน แต่ทั้งสองรู้ดีว่าในแววตานั้นมันมีความหมายอะไรที่มากกว่านั้น แต่เธอต้องข่มจิตใจไว้ให้มั่นเวลาที่มาทำงานกับคุณหมอแล้วพบเขาอยู่ด้วย เธอรู้ว่าความรู้สึกและการกระทำของเธอนั้นเป็นสิ่งผิดและเลวทราม และแม้จะพยายามหลบเลี่ยงไม่เข้าใกล้เขา แต่เธอก็พลาดท่าเสียทีทุกครั้ง...
“ดวงแขจ๋า” เสียงนุ่มนวลมาพร้อมกับอ้อมกอดที่เธอคุ้นเคยและจำได้ดีว่าครั้งแรกตอนอยู่ในอ้อมกอดนี้มันอบอุ่นหัวใจแค่ไหน
“คุณเอก อย่าค่ะ คุณเอกลืมไปแล้วหรือว่าเรานัดคุยเพื่อตกลงกันยุติความสัมพันธ์ไงล่ะคะ”
“ฉันรู้ ฉันไม่ได้ลืม...” ปากพูดแบบนั้นแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยแขนจากเธอแถมยิ่งรัดไว้แน่นกว่าเดิม “แค่ขอกอดเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรนี่นา”
เขาไม่รู้หรือว่าแม้แต่การกอด มันก็ทำให้หัวใจผู้หญิงหวั่นไหวได้เสมอถ้ามันเป็นสัมผัสจากชายคนรัก แต่เธอต้องทำใจแข็งดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของผู้ชายที่รู้ว่าใจเขาเป็นคนที่ใช่ แต่ไม่ถูกเวลามาตลอด
“อย่าค่ะ...อย่าทำแบบนี้อีกเลย”
“แต่ฉันก็อดคิดถึงเธอไม่ได้นี่นา ฉันคิดถึงเนื้อตัวเธอที่นุ่มนวล กลิ่นกายที่หอมกรุ่น กับรสจูบที่แสนหวานของเธอนะดวงแข” ชายหนุ่มพูดด้วยสายตาเว้าวอน แม้หญิงสาวจะดึงดันแค่ไหนแต่เขาก็ไม่อยากปล่อยโอกาสที่จะได้เคล้าคลอหญิงสาวแสนสวยคนนี้
“แต่ทำไมช่วงหลังนี้ไม่เห็นเธอที่เรือนของไหมแก้วเลยล่ะ”
“ฉัน...ฉันไม่สบายค่ะ”
“ไม่สบาย...เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มพูดด้วยใบหน้าแสนเป็นห่วง
หญิงสาวนิ่งเงียบไปจนเขาใจคอไม่ดี “ดวงแข...เธอเป็นอะไร บอกฉันมาสิ”
“แข...แขท้อง”
ชายหนุ่มหน้าถอดสีและปล่อยมือจากตัวเธอทันที “เธอท้อง...”
หญิงสาวก้มหน้างุดหลังจากบอกความลับที่เก็บซ่อน และเขาเป็นคนแรกที่ได้รู้ “ฉันท้องได้สองเดือนแล้วค่ะ”
“ดวงแข...ฉันคงรับเขาเป็นลูกไม่ได้” เขาเอ่ยกับเธอด้วยใบหน้าเครียดผิดกับในตอนแรกที่โอบกอดเธอ
แม้จะเตรียมใจมากล่าวลาและบอกเขาเรื่องนี้แต่เธอไม่เตรียมใจมาเพื่อพบกับปฏิกิริยาแบบนี้
“อย่าบอกเรื่องนี้กับไหมแก้วนะ ฉันขอร้อง เรากำลังจะได้แต่งงานกัน ฉันไม่อยากทำให้ไหมแก้วเสียใจ ฉันจะส่งเงินช่วยเรื่องเด็กแลกการกับปิดความลับนี้
ได้ไหมดวงแข”
หญิงสาวสลดใจนักที่เขาไม่คิดจะถามถึงอาการแพ้ท้องหรือถามถึงชีวิตน้อยๆ ที่เกิดมาเพราะเขาเลย ผู้ชายคนนี้คิดเพียงแค่ไม่อยากให้คนที่เขากำลังจะแต่งงานด้วยเสียใจ แต่กลับทำร้ายจิตใจของผู้หญิงที่มอบกายและใจให้โดยสมบูรณ์ได้ลงคอ
เสียงเกรี้ยวกราดของหญิงวัยอาวุโสดังลั่นเรือนไม้
“ฉันจะไปพบนายทรงชัยให้เขารับผิดชอบเด็กในท้องของแก !” ลาโพยอมไม่ได้เด็ดขาดถ้าลูกสาวที่เฝ้าทะนุถนอมโดนย่ำยีร่างกายและจิตใจโดยไร้ความรับผิดชอบ
“อย่าแม่ อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ฉันเป็นคนบอกเขาเองว่าฉันจะเลี้ยงเด็กคนนี้ไว้ ฉันไม่ต้องการให้เขามาดูแลอะไรทั้งนั้น”
“แกไม่อายชาวบ้านเขาหรือไง ที่ต้องทนโดนตราว่าท้องไม่มีพ่อ เสียสาวแต่เขาไม่ทำเมีย !”
เสียงสะอื้นไห้เพราะเจ็บสะท้านกับคำพูดของมารดา แต่ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่ร้องไห้คร่ำครวญ ผู้เป็นมารดาก็เช่นกันที่มีน้ำตาไหลเป็นสาย
“ดวงแข เอ็งดูแม่นี่ ดูผู้หญิงที่ถูกผู้ชายไม่เอาคนนี้ !” ลาโพพูดแล้วทุบอกตัวเองแรงจนร่างกระเพื่อม “แม่หลงเชื่อคำพูดจาหวาน หลงเชื่อภาพวิมานที่เขาวาดในอากาศ...”
“แล้วดูสิ แม่มีอะไรบ้าง !” ลาโพพูดทั้งน้ำ ทั้งเสียใจทั้งผิดหวังที่ลูกสาวต้องมาเผชิญชะตากรรมเดียวกัน “ดุจดาวจะกลับมาในอีกสองวัน แม่คุยกับพี่สาวเอ็งว่าจะหานายทรงชัยพร้อมกัน แต่แม่รอไม่ไหวแล้ว แม่จะไปเสียวันนี้เลย”
“อย่านะแม่ อย่าไป ฉันไม่อยากให้เขาเดือดร้อน” เธอรีบห้าม
“ไม่ ข้าปรึกษาคุณหมอแล้ว คุณหมอก็เห็นด้วย และเธอยินยอมหลีกทางให้”
“โธ่แม่...ทำไมแม่ทำแบบนั้น” เธอร้องครวญด้วยหัวใจสั่นเมื่อได้ยินชื่อของผู้ที่เคารพนับถือแต่เธอกลับทำร้ายหักหลัง
“ถึงเอ็งจะเป็นลูกข้า แต่ข้าก็ไม่ยอมให้ไปลักกินของใครลับหลัง ข้าเอาเรื่องไปบอกคุณหมอ และคุณหมอก็เห็นกับตาตัวเองแล้ว คุณหมอเธอเลยตัดสินใจจะบอกเลิกกับคุณเอกและเธอก็แนะนำข้าเองว่าให้นำเรื่องไปบอกนายทรงชัยแล้วให้เขาตบแต่งลูกชายกับเอ็งเสีย”
“ไม่...ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้น” ดวงแขคร่ำครวญ เธอล้มตัวคว่ำก้มหน้าร้องไห้กับพื้นกระดานเย็น เรื่องเศร้ามันควรจะมีแค่เธอเท่านั้นที่เป็นตัวละคร แต่ทำไมถึงได้มีคุณหมอมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่ควรเลยที่คนดีๆอย่างคุณหมอจะมารับความทุกข์ที่ไม่ได้ก่อ
หนึ่งใจในแผ่นดิน ตอนที่ 51 (1/3)
หนึ่งใจในแผ่นดิน
ตอนที่ 51 (1/3)
ดารานั่งลงที่ผืนดินหน้าหลุมศพของคนที่รักทั้งสอง เธอส่งยิ้มแสนเศร้าให้รูปถ่ายของผู้หญิงทั้งคู่ในช่วงเวลาที่ยังชีวิต การรอฟังข่าวจากนายทรงชัยเพื่อแจ้งผลการไล่ล่าเอาชีวิตของเพลงพิณดูเหมือนจะไร้วี่แวว น่าเสียดายแทนโอกาสครั้งสุดท้ายแลกกับรักข้ามคืนเธอที่มอบให้เขา นึกเวทนาชายหนุ่มที่ควรจะมีชีวิตเฟื่องฟูดีงามกว่านี้ และเธอรู้ดีว่านายทรงชัยไม่มีวันให้ลูกชายแสนรักของเขาต้องตกอับ ในตอนนี้นักเลงโตคงจะตามล่าหาเธออยู่เป็นแน่
แต่เธอไม่กลัวอะไรอีก สำหรับเธอแล้ว เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่สัญญาความแค้น ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงต่อชีวิตที่เหลือเพียงตัวคนเดียว ไร้ญาติ ไร้คนรัก ไร้ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือร่างกายและหัวใจที่เย็นชา หญิงสาวหยิบธูปสองเล่มจากกระเป๋าขึ้นจุดด้วยไฟแช็คของมูนไลท์ สองมือประนมไหว้แล้วปักธูปลงที่หน้าป้ายหลุมศพ หนึ่งดอกสำหรับหญิงสาวที่เธอเคยมีใบหน้าพิมพ์เดียวกัน และอีกหนึ่งดอกสำหรับผู้หญิงที่เธอรักและเทิดทูนเหนือใคร
เธอมักหวั่นไหวกับสายตาของเขาที่มองมาเสมอ ต่อหน้าคุณหมอพวกเขาแสร้งทำเป็นไม่สนใจกันและกัน แต่ทั้งสองรู้ดีว่าในแววตานั้นมันมีความหมายอะไรที่มากกว่านั้น แต่เธอต้องข่มจิตใจไว้ให้มั่นเวลาที่มาทำงานกับคุณหมอแล้วพบเขาอยู่ด้วย เธอรู้ว่าความรู้สึกและการกระทำของเธอนั้นเป็นสิ่งผิดและเลวทราม และแม้จะพยายามหลบเลี่ยงไม่เข้าใกล้เขา แต่เธอก็พลาดท่าเสียทีทุกครั้ง...
“ดวงแขจ๋า” เสียงนุ่มนวลมาพร้อมกับอ้อมกอดที่เธอคุ้นเคยและจำได้ดีว่าครั้งแรกตอนอยู่ในอ้อมกอดนี้มันอบอุ่นหัวใจแค่ไหน
“คุณเอก อย่าค่ะ คุณเอกลืมไปแล้วหรือว่าเรานัดคุยเพื่อตกลงกันยุติความสัมพันธ์ไงล่ะคะ”
“ฉันรู้ ฉันไม่ได้ลืม...” ปากพูดแบบนั้นแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยแขนจากเธอแถมยิ่งรัดไว้แน่นกว่าเดิม “แค่ขอกอดเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรนี่นา”
เขาไม่รู้หรือว่าแม้แต่การกอด มันก็ทำให้หัวใจผู้หญิงหวั่นไหวได้เสมอถ้ามันเป็นสัมผัสจากชายคนรัก แต่เธอต้องทำใจแข็งดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของผู้ชายที่รู้ว่าใจเขาเป็นคนที่ใช่ แต่ไม่ถูกเวลามาตลอด
“อย่าค่ะ...อย่าทำแบบนี้อีกเลย”
“แต่ฉันก็อดคิดถึงเธอไม่ได้นี่นา ฉันคิดถึงเนื้อตัวเธอที่นุ่มนวล กลิ่นกายที่หอมกรุ่น กับรสจูบที่แสนหวานของเธอนะดวงแข” ชายหนุ่มพูดด้วยสายตาเว้าวอน แม้หญิงสาวจะดึงดันแค่ไหนแต่เขาก็ไม่อยากปล่อยโอกาสที่จะได้เคล้าคลอหญิงสาวแสนสวยคนนี้
“แต่ทำไมช่วงหลังนี้ไม่เห็นเธอที่เรือนของไหมแก้วเลยล่ะ”
“ฉัน...ฉันไม่สบายค่ะ”
“ไม่สบาย...เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มพูดด้วยใบหน้าแสนเป็นห่วง
หญิงสาวนิ่งเงียบไปจนเขาใจคอไม่ดี “ดวงแข...เธอเป็นอะไร บอกฉันมาสิ”
“แข...แขท้อง”
ชายหนุ่มหน้าถอดสีและปล่อยมือจากตัวเธอทันที “เธอท้อง...”
หญิงสาวก้มหน้างุดหลังจากบอกความลับที่เก็บซ่อน และเขาเป็นคนแรกที่ได้รู้ “ฉันท้องได้สองเดือนแล้วค่ะ”
“ดวงแข...ฉันคงรับเขาเป็นลูกไม่ได้” เขาเอ่ยกับเธอด้วยใบหน้าเครียดผิดกับในตอนแรกที่โอบกอดเธอ
แม้จะเตรียมใจมากล่าวลาและบอกเขาเรื่องนี้แต่เธอไม่เตรียมใจมาเพื่อพบกับปฏิกิริยาแบบนี้
“อย่าบอกเรื่องนี้กับไหมแก้วนะ ฉันขอร้อง เรากำลังจะได้แต่งงานกัน ฉันไม่อยากทำให้ไหมแก้วเสียใจ ฉันจะส่งเงินช่วยเรื่องเด็กแลกการกับปิดความลับนี้
ได้ไหมดวงแข”
หญิงสาวสลดใจนักที่เขาไม่คิดจะถามถึงอาการแพ้ท้องหรือถามถึงชีวิตน้อยๆ ที่เกิดมาเพราะเขาเลย ผู้ชายคนนี้คิดเพียงแค่ไม่อยากให้คนที่เขากำลังจะแต่งงานด้วยเสียใจ แต่กลับทำร้ายจิตใจของผู้หญิงที่มอบกายและใจให้โดยสมบูรณ์ได้ลงคอ
เสียงเกรี้ยวกราดของหญิงวัยอาวุโสดังลั่นเรือนไม้
“ฉันจะไปพบนายทรงชัยให้เขารับผิดชอบเด็กในท้องของแก !” ลาโพยอมไม่ได้เด็ดขาดถ้าลูกสาวที่เฝ้าทะนุถนอมโดนย่ำยีร่างกายและจิตใจโดยไร้ความรับผิดชอบ
“อย่าแม่ อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ฉันเป็นคนบอกเขาเองว่าฉันจะเลี้ยงเด็กคนนี้ไว้ ฉันไม่ต้องการให้เขามาดูแลอะไรทั้งนั้น”
“แกไม่อายชาวบ้านเขาหรือไง ที่ต้องทนโดนตราว่าท้องไม่มีพ่อ เสียสาวแต่เขาไม่ทำเมีย !”
เสียงสะอื้นไห้เพราะเจ็บสะท้านกับคำพูดของมารดา แต่ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่ร้องไห้คร่ำครวญ ผู้เป็นมารดาก็เช่นกันที่มีน้ำตาไหลเป็นสาย
“ดวงแข เอ็งดูแม่นี่ ดูผู้หญิงที่ถูกผู้ชายไม่เอาคนนี้ !” ลาโพพูดแล้วทุบอกตัวเองแรงจนร่างกระเพื่อม “แม่หลงเชื่อคำพูดจาหวาน หลงเชื่อภาพวิมานที่เขาวาดในอากาศ...”
“แล้วดูสิ แม่มีอะไรบ้าง !” ลาโพพูดทั้งน้ำ ทั้งเสียใจทั้งผิดหวังที่ลูกสาวต้องมาเผชิญชะตากรรมเดียวกัน “ดุจดาวจะกลับมาในอีกสองวัน แม่คุยกับพี่สาวเอ็งว่าจะหานายทรงชัยพร้อมกัน แต่แม่รอไม่ไหวแล้ว แม่จะไปเสียวันนี้เลย”
“อย่านะแม่ อย่าไป ฉันไม่อยากให้เขาเดือดร้อน” เธอรีบห้าม
“ไม่ ข้าปรึกษาคุณหมอแล้ว คุณหมอก็เห็นด้วย และเธอยินยอมหลีกทางให้”
“โธ่แม่...ทำไมแม่ทำแบบนั้น” เธอร้องครวญด้วยหัวใจสั่นเมื่อได้ยินชื่อของผู้ที่เคารพนับถือแต่เธอกลับทำร้ายหักหลัง
“ถึงเอ็งจะเป็นลูกข้า แต่ข้าก็ไม่ยอมให้ไปลักกินของใครลับหลัง ข้าเอาเรื่องไปบอกคุณหมอ และคุณหมอก็เห็นกับตาตัวเองแล้ว คุณหมอเธอเลยตัดสินใจจะบอกเลิกกับคุณเอกและเธอก็แนะนำข้าเองว่าให้นำเรื่องไปบอกนายทรงชัยแล้วให้เขาตบแต่งลูกชายกับเอ็งเสีย”
“ไม่...ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้น” ดวงแขคร่ำครวญ เธอล้มตัวคว่ำก้มหน้าร้องไห้กับพื้นกระดานเย็น เรื่องเศร้ามันควรจะมีแค่เธอเท่านั้นที่เป็นตัวละคร แต่ทำไมถึงได้มีคุณหมอมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่ควรเลยที่คนดีๆอย่างคุณหมอจะมารับความทุกข์ที่ไม่ได้ก่อ