@ เมนูในความทรงจำ แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา......ต้มกะทิเนื้อเค็มหน่อไม้ดอง"......@

สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกท่าน..
วันนี้ป้าเน็ทมีอาหารที่ถูกลืมไปนาน แสนนาน มาเสนอให้ลองทำรับประทานกันค่ะ
เมนูนี้คือ "ต้มกะทิเนื้อเค็ม กับหน่อไม้ดอง" ฟังดูชื่อแล้วบางคนอาจไม่เคยกินเลยก็ได้ และไม่น่าเชื่อว่า
หน่อไม้ดองกับเนื้อเค็ม จะเป็นของที่เข้ากันได้นะคะ

ในสมัยก่อนนั้นเขาจะเก็บเนื้อที่เป็นเศษที่ติดตามกระดูก มาใส่เกลือตากแห้งบางทีก็เป็นเนื้อที่ติดมัน หรือติดเอ็นเหนียวหนืด
ถ้าจะมาทอดกินก็ไม่ค่อยจะอร่อยสักเท่าไร เพราะมันจะแข็ง  เขาจึงนำเจ้าเศษเนื้อตากแห้งนี้มาต้มกะทิกับหน่อไม้ดองนี่แหละค่ะ
และนี่ก็คือที่มาของเมนูในวันนี้ของป้าเน็ทค่ะ ใครไม่เคยเห็นตามมาชิมได้ค่าาา....



ป้าเน็ทซื้อเนื้อโคขุนนี้มาจากห้างดอกบัวค่ะ แค่มาใส่เกลือตากแห้งเองก็เป็นเนื้อเค็มแล้วค่ะ
ส่วนหน่อไม้ดองในขวดนี้ มีเพื่อนรักฝากมาให้อีกทีค่ะ เขาดองเองมีเหลือเฟือก็มาแบ่งปันค่ะ  



เราก็แค่เตรียมกะทิ  และเครื่องสมุนไพรที่จะต้องใช้ต้มมีดังนี้ค่ะ
  - ข่าอ่อน
- ใบมะกรูด
- ตะไคร้
- หอมแดง



ต้มกะทินี้จะมีรสเปรี้ยว  เค็ม  หวาน  ต้องเตรียมเครื่องปรุงรสตามนี้ค่ะ มะขาม และ น้ำตาลปีป




เรามาเริ่มลงมือต้มกันเลยค่ะ  นำเอาหน่อไม้ดองออกจากขวด แล้วรวกด้วยน้ำร้อนสักครั้งนะคะ หั่นเป็นชิ้นตามชอบ



แล้วเตรียมทอดเนื้อเค็มไว้ค่ะ  สมัยก่อนเขาใช้วิธีปิ้งไฟกันค่ะ



ทอดเนื้อเค็มพอเหลืองสวย ห้ามชิมนะคะ แล้วนำเนื้อเหล่านั้นมาทุบๆๆ ให้เนื้อแตก นิ่มค่ะ
จะได้ทานง่ายขึ้นและอร่อยตรงน้ำกะทิจะแทรกเข้าชิ้นเนื้อ



วันนี้ต้มหม้อเล็กเลยใช้กะทิกล่องค่ะ  นำใส่หม้อขึ้นตั้งไฟ



แล้วซอยเครื่องสมุนไพรใส่ตามลงไปค่ะ



ปล่อยให้กะทิเดือดไปสักครู่  เราจึงเริ่มปรุงรสด้วยการใส่มะขามเปียกลงไปค่ะ ใครขยันจะคั้นเป็นน้ำก็ได้ค่ะ



ตามด้วยเนื้อเค็มที่ทุบไว้แล้วลงไปค่ะ



เคี่ยวสักพักจึงใส่หน่อไม้ดองได้ค่ะ



เคี่ยวไปเรื่อยๆคอยชิมดูค่ะว่ารสเปรี้ยวจากมะขาม กะรสเค็มจากเนื้อเค็ม
และหน่อไม้ดอง เข้มขึ้นมาหรือยัง เรายังเติมน้ำปลาดีได้อีกค่ะ



สุดท้ายจึงตัดรสด้วยน้ำตาลปึกค่ะ รสจะกลมกล่อมขึ้นอีกโขเชียว



เมนูนี้ที่จริงเป็นการนำเอาอาหารที่เราเก็บถนอมไว้ อย่างเนื้อเค็ม หรือหน่อไม้ดอง
มาผสมผสานกันจนได้เป็นเมนูสุดอร่อยอีกอย่างขึ้นมา  นับว่าเป็นความคิดที่ชาญฉลาดของบรรพบุรุษเราจริงๆ
แต่อีกไม่นานเมนูนี้อาจถูกลืมก็เป็นได้ค่ะ  เพราะคนเก่าอย่างป้าเน็ทเองก็เพิ่งจะทำกินเป็นครั้งที่ 2 นับจาก 30 ปีที่ผ่านมา...



"สุขใดหรือจะเท่า  สุขที่เราได้กินของโปรด"
ขอบคุณที่ติดตาม
สวัสดีค่ะ  อมยิ้ม17

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่