ได้ขาหมูอย่างอวบมาจากแมคโครขาหนึ่ง ความที่กะน้ำหนักไม่ค่อยแม่นตอนที่หยิบไปชั่งยังนึกในใจว่า
น่าจะประมาณ 2 ก.ก. พอพนักงานชั่งจริง ๆ เป็นงงเลย ขาหมู 1 ขาหนัก 3 ก.ก.กว่าเป็นไปได้หรือ แต่ว่า
มันก็ค่อนข้างใหญ่นะ วานพนักงานใช้เลื่อยตัดให้เป็นสามส่วน คือคากิ คาจัก และส่วนที่เป็นเนื้อ
ความที่ชอบกินข้าวขาหมูเป็นชีวิตจิตใจ ไม่มีอะไรจะเหมาะเท่ากับต้มพะโล้ขาขนาดนี้น่าจะได้หม้อย่อม ๆ
อีกอย่างหนึ่งก็คือมันยังมีเรื่องคาใจมาจากเชียงใหม่อยู่นิดนึ่ง
ขาเดียวไม่พอทอด จัดการเอาเข้าเตาอบลมร้อน ไฟแรง 230 ตั้งเวลา 45 นาที
ระหว่างที่อบขาหมู เตรียมเครื่องปรุง โป๊ยกั๊ก อบชย น้ำตาลกรวด กระเทียมสด กระเทียมดอง
เตรียมน้ำโดยใช้น้ำตาลทรายตั้งไฟให้ไหม้เป็นสีน้ำตาลแล้วเทน้ำใส่ลงไป ทำอย่างง่าย ๆ แล้วเทเครื่องปรุงลงไปต้มด้วย
เครื่องยาจีนที่ขายเป็นซองตามห้าง ใส่ลงไปด้วย ปรุงเค็มจากซีอิ๊วดำเค็ม ชีอิ๊วขาว เกลือป่น ตั้งไฟรอหมูอย่างเดียว
หม้ออบติ๊งแล้ว เปิดฝาดูหนังเหลืองกรอบดูดีมากเลย
ไม่มีพิธีรีตรองจับโยนลงหม้อ โปรดสังเกต หม้อเป็นหม้ออัดแรงดัน แต่ใช้ฝาของพี่หลี เป็นความตั้งใจครับ
ผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง สำหรับการตุ๋นไฟกลางไม่รีบเร่ง
ปรุงครั้งที่ 2 โลโก้สล่าปู่เลยไม่เคยพลาด ลำไยอบแห้ง
เติมน้ำมันหอย รากผักชี เห็ดหอม ตุ๋นต่อไปด้วยไฟอ่อน เติมถ่านที่เตาไปอีก 1 ก้อน กะว่าวอดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
ระหว่างนี้ก็ตักเอาน้ำมันที่ลอยหน้ากับน้ำต้มพะโล้มาเคี่ยวผักกาดดองไว้แนม
ผ่านไปอีก 2 ชั่วโมง จนถ่านวอด ความร้อนยังระอุอยู่ ดูด้วยตาน่าจะเปื่อยเต็มที
และแล้ว นี่เลยครับ
รอน้ำจิ้มอย่างเดียว ต้มขาหมูเป็นหม้อ ๆ ทำได้แต่ความมั่นใจในการทำน้ำจิ้มไม่มีเอาเสียเลย
ต้องรอเจ้านายที่มีกิจส่วนตัวไปแอ่วดอยกลับมาทำ ขานั้นเขาเจ๋งเรื่องน้ำจิ้ม
ระหว่างนี้สับ รอแจกอย่างเดียว
แรงบันดาลใจที่เกิดขาหมูหม้อนี้ คือนี่ครับ 40 บาท ที่เชียงใหม่ กินแล้วบอกได้เลยว่าไม่ใช่แน่นอน
ทำกินเองน่าจะอร่อยกว่า
ขอบคุณที่ติดตามชมมาอย่างยาวนาน สวัสดีครับ
ชวนชม ขาหมูอย่างอวบ แบบว่าหอมหวนชวนชิมเหลือเกิน
น่าจะประมาณ 2 ก.ก. พอพนักงานชั่งจริง ๆ เป็นงงเลย ขาหมู 1 ขาหนัก 3 ก.ก.กว่าเป็นไปได้หรือ แต่ว่า
มันก็ค่อนข้างใหญ่นะ วานพนักงานใช้เลื่อยตัดให้เป็นสามส่วน คือคากิ คาจัก และส่วนที่เป็นเนื้อ
ความที่ชอบกินข้าวขาหมูเป็นชีวิตจิตใจ ไม่มีอะไรจะเหมาะเท่ากับต้มพะโล้ขาขนาดนี้น่าจะได้หม้อย่อม ๆ
อีกอย่างหนึ่งก็คือมันยังมีเรื่องคาใจมาจากเชียงใหม่อยู่นิดนึ่ง
ขาเดียวไม่พอทอด จัดการเอาเข้าเตาอบลมร้อน ไฟแรง 230 ตั้งเวลา 45 นาที
ระหว่างที่อบขาหมู เตรียมเครื่องปรุง โป๊ยกั๊ก อบชย น้ำตาลกรวด กระเทียมสด กระเทียมดอง
เตรียมน้ำโดยใช้น้ำตาลทรายตั้งไฟให้ไหม้เป็นสีน้ำตาลแล้วเทน้ำใส่ลงไป ทำอย่างง่าย ๆ แล้วเทเครื่องปรุงลงไปต้มด้วย
เครื่องยาจีนที่ขายเป็นซองตามห้าง ใส่ลงไปด้วย ปรุงเค็มจากซีอิ๊วดำเค็ม ชีอิ๊วขาว เกลือป่น ตั้งไฟรอหมูอย่างเดียว
หม้ออบติ๊งแล้ว เปิดฝาดูหนังเหลืองกรอบดูดีมากเลย
ไม่มีพิธีรีตรองจับโยนลงหม้อ โปรดสังเกต หม้อเป็นหม้ออัดแรงดัน แต่ใช้ฝาของพี่หลี เป็นความตั้งใจครับ
ผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง สำหรับการตุ๋นไฟกลางไม่รีบเร่ง
ปรุงครั้งที่ 2 โลโก้สล่าปู่เลยไม่เคยพลาด ลำไยอบแห้ง
เติมน้ำมันหอย รากผักชี เห็ดหอม ตุ๋นต่อไปด้วยไฟอ่อน เติมถ่านที่เตาไปอีก 1 ก้อน กะว่าวอดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
ระหว่างนี้ก็ตักเอาน้ำมันที่ลอยหน้ากับน้ำต้มพะโล้มาเคี่ยวผักกาดดองไว้แนม
ผ่านไปอีก 2 ชั่วโมง จนถ่านวอด ความร้อนยังระอุอยู่ ดูด้วยตาน่าจะเปื่อยเต็มที
และแล้ว นี่เลยครับ
รอน้ำจิ้มอย่างเดียว ต้มขาหมูเป็นหม้อ ๆ ทำได้แต่ความมั่นใจในการทำน้ำจิ้มไม่มีเอาเสียเลย
ต้องรอเจ้านายที่มีกิจส่วนตัวไปแอ่วดอยกลับมาทำ ขานั้นเขาเจ๋งเรื่องน้ำจิ้ม
ระหว่างนี้สับ รอแจกอย่างเดียว
แรงบันดาลใจที่เกิดขาหมูหม้อนี้ คือนี่ครับ 40 บาท ที่เชียงใหม่ กินแล้วบอกได้เลยว่าไม่ใช่แน่นอน
ทำกินเองน่าจะอร่อยกว่า
ขอบคุณที่ติดตามชมมาอย่างยาวนาน สวัสดีครับ