สวัสดีค่ะห้องก้นครัว ปกติอยู่แต่ห้องชายคา วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศย้ายมาห้องนี้บ้าง ^^
นี่เป็นกระทู้แรกสำหรับห้องก้นครัว ถ้าผิดพลาดประการใดขอโทษนะค่ะ
ช่วงนี้เป็นช่วงที่บ้านทำขนมขาย ที่มีชื่อว่า "กะยาสารท" ตามหัวเรื่องกระทู้เลย แม่จะทำขายช่วงสารทไทยที่เขาทำบุญกัน
ตอนที่มาเขียนก็ช่างใจกลัวไม่มีคนรู้จัก เพราะเวลาเอาไปให้เพื่อนๆตามที่ทำงานกินเขาก็บอกขนมอะไร ดูเหนี่ยวๆ แข็งๆ ไม่ค่อยน่ากิน
แต่พอแต่ละคนทานก็บอกอร่อยดี เคี้ยวเพลินๆ ฮ่าๆ ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ^^
ครั้งนี้ที่เอามาเขียนรีวิวขนมโบราณ เพราะอีกไม่กี่ปีพวกแม่ๆก็คงกวนขนมกันไม่ไหวแล้ว จะให้มันค่อยๆหายไปแบบไม่มีคนรู้จักก็กะไรอยู่
ขนมกะยาสารทบางคนก็อาจรู้จักอยู่แล้ว แต่มันก็มีหลายสูตรเช่น สูตรใส่กะทิ สูตรไม่ใส่กะทิ บลาๆ แต่สูตรของแม่ไม่ใส่กะทิค่ะ
เพราะพวกนางฟ้า(แม่ๆป้าๆ) ทานกะทิกันไม่ได้ บวกกับยายสอนสูตรมาแบบนี้ ฮ่าๆ บ้านเราขายกันมา 40 กว่าปีและ ตั้งแต่รุ่นทวดโน้นนนนนนนน...
เริ่มกันเลยที่การเตรียมวัตถุดิบ (ทำได้ประมาณ 15+ โล)
1. ถั่วลิสงคั่ว : ประมาณ 6-8 โล (ปรับตามความชอบ เพื่อความหอม มันส์) ลีอตไหนลูกค้าสั่งแบบอย่างดีก็ใส่เยอะ
วิธีการคั่ว คือ คั่วกับทรายทั้งที่ยังมีเปลือกอยู่ ให้หอมและสุกทั่วทั้งเม็ด
วิธีเช็กคือ แกะกิน

2. งาคั่ว : ประมาณ 1-2 โล (ปรับตามความชอบ เพื่อความหอม) งาคั่วในกะทะโดยที่ไม่ต้องใส่อะไรเลย ครั่วจนมีสีเหลืองทอง
วิธีเช็ก : สายตามอง สีสวยเป็นโอเค
3. ข้าวตอก : ประมาณ 1 โล สำเร็จรูปตั้งแต่ซื้อ
4. ข้าวเม่า : คั่วในกะทะโดยที่ไม่ต้องใส่อะไรเลยจนพองตัวออก (ตามรูป)
5. น้ำตาลปีบ : น้ำอ้อย 1 : 2
6. แบ๊ะแซ (เขียนถูกไหม ไม่รู้ ><" )
อุปกรณ์
1.กะทะ
2.พาย
3.ถาดใหญ่
4.ขวดอัดทราายแน่นๆ ปิดฝาให้สนิท
5.ไม้ยาวๆ
6.มีดหั่นหมู
วิธีการกวนขนม
1. เตรียมถาด โรยงาเสร็จ โรยถั่วรองพื้นให้เรียบร้อย
2. เอาน้ำอ้อยกับน้ำตาลปีบตั้งไฟ ถ้าใช้เตาฟืนจะหอมอร่อย แต่เดียวนี้เตาแกส
3. คนไปเรื่อยๆจนเริ่มจับตัว (วิธีเช็กการจับตัว คือ เอามันหยอดลงน้ำอุณภูมิปกติ มันจะเป็นก้อน เหมือนลูกอมน้ำตาล ยึ้ยๆ ถ้าอยากกินขนมนิ่มๆก็พอเริ่มจับตัวก็เป็นอันโอเค)
4. ใส่แบ๊ะแซลงไป คนไปเรื่อยๆ คนตลอดเวลาจนละลายหมด (ตามที่เห็นแม่ทำ)
5. ใส่ข้าวตอก คลุกเคล้าให้ทั่ว
6. ใส่ถั่ว ใส่ข้าวเม่า ใส่งา จากนั้นก็คลุกและคลุกๆ (ขั้นตอนนี้ใช้แรงมากหน่อย มันจะเริ่มเหนียวหนึดๆ)
7. ตักใส่ถาดที่เตรียมไว้ ในข้อที่ 1
8. เอาขวดมานวดๆให้หนาพอดีกับขอบถาด หรือหนาตามใจชอบ
9. โรยงา โรยถั่วเพิ่มได้ตามใจชอบ (หากไม่พอใจ)
10. ตัดกินได้ เย้ๆ ใครใคร่ขายๆ ใครใคร่กินๆ
การเขียนกระทู้ครั้งนี้ไม่ได้ต้องการโปรโมตขนมของที่บ้านนะ เพราะแม่กวนเมื่อวานวันสุดท้ายและขนมก็หมดแล้ว ^^ ถ้าเห็นเบอร์ในคลิปแว๊บๆก็เก็บไว้โทรปีหน้าโน้นนะค่ะ ฮ่าๆ ส่วนแมลงที่บินในคลิป คือ ผึ้ง โปรดระวังถ้าจะกวนขาย มันเยอะมาก (โดนต่อยเป็นเรื่องปกติ)
การกินให้อร่อยต้องกินกับกล้วยไข่ หรือถ้าอยากให้ความหอมแตะจมูกก็เอาไปตำให้นิ่มๆ เอามาปั่นกิน เด็ดสะละตี่
ปล. คลิปนี้น้องชายทำให้พวกแม่ๆไว้ดูเล่น อาจมีการเขียนภาษาที่ไม่ถูกหลัก ขอโทษมา ณ ที่นี้ ปริมาณส่วนผสมอาจปรับเปลี่ยนได้ตามใจ เพราะทุกอย่างมีรสชาติไม่แน่นอน เช่น น้ำอ้อยบางลอตหวานๆหอม บางล๊อตก็หวานแต่ไม่ค่อยหอม พวกแม่ๆเขาจะมีวิธีปรับของเขา
ขอบคุณที่แวะมาอ่านกระทู้นี้นะค่ะ
ขอบคุณครอบครัวเราที่ทำให้โตมามีของอร่อยกิน
[CR] รีวิว ขนมโบราณมีนามว่า "กะยาสารท"
นี่เป็นกระทู้แรกสำหรับห้องก้นครัว ถ้าผิดพลาดประการใดขอโทษนะค่ะ
ช่วงนี้เป็นช่วงที่บ้านทำขนมขาย ที่มีชื่อว่า "กะยาสารท" ตามหัวเรื่องกระทู้เลย แม่จะทำขายช่วงสารทไทยที่เขาทำบุญกัน
ตอนที่มาเขียนก็ช่างใจกลัวไม่มีคนรู้จัก เพราะเวลาเอาไปให้เพื่อนๆตามที่ทำงานกินเขาก็บอกขนมอะไร ดูเหนี่ยวๆ แข็งๆ ไม่ค่อยน่ากิน
แต่พอแต่ละคนทานก็บอกอร่อยดี เคี้ยวเพลินๆ ฮ่าๆ ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ^^
ครั้งนี้ที่เอามาเขียนรีวิวขนมโบราณ เพราะอีกไม่กี่ปีพวกแม่ๆก็คงกวนขนมกันไม่ไหวแล้ว จะให้มันค่อยๆหายไปแบบไม่มีคนรู้จักก็กะไรอยู่
ขนมกะยาสารทบางคนก็อาจรู้จักอยู่แล้ว แต่มันก็มีหลายสูตรเช่น สูตรใส่กะทิ สูตรไม่ใส่กะทิ บลาๆ แต่สูตรของแม่ไม่ใส่กะทิค่ะ
เพราะพวกนางฟ้า(แม่ๆป้าๆ) ทานกะทิกันไม่ได้ บวกกับยายสอนสูตรมาแบบนี้ ฮ่าๆ บ้านเราขายกันมา 40 กว่าปีและ ตั้งแต่รุ่นทวดโน้นนนนนนนน...
เริ่มกันเลยที่การเตรียมวัตถุดิบ (ทำได้ประมาณ 15+ โล)
1. ถั่วลิสงคั่ว : ประมาณ 6-8 โล (ปรับตามความชอบ เพื่อความหอม มันส์) ลีอตไหนลูกค้าสั่งแบบอย่างดีก็ใส่เยอะ
วิธีการคั่ว คือ คั่วกับทรายทั้งที่ยังมีเปลือกอยู่ ให้หอมและสุกทั่วทั้งเม็ด
วิธีเช็กคือ แกะกิน
2. งาคั่ว : ประมาณ 1-2 โล (ปรับตามความชอบ เพื่อความหอม) งาคั่วในกะทะโดยที่ไม่ต้องใส่อะไรเลย ครั่วจนมีสีเหลืองทอง
วิธีเช็ก : สายตามอง สีสวยเป็นโอเค
3. ข้าวตอก : ประมาณ 1 โล สำเร็จรูปตั้งแต่ซื้อ
4. ข้าวเม่า : คั่วในกะทะโดยที่ไม่ต้องใส่อะไรเลยจนพองตัวออก (ตามรูป)
5. น้ำตาลปีบ : น้ำอ้อย 1 : 2
6. แบ๊ะแซ (เขียนถูกไหม ไม่รู้ ><" )
อุปกรณ์
1.กะทะ
2.พาย
3.ถาดใหญ่
4.ขวดอัดทราายแน่นๆ ปิดฝาให้สนิท
5.ไม้ยาวๆ
6.มีดหั่นหมู
วิธีการกวนขนม
1. เตรียมถาด โรยงาเสร็จ โรยถั่วรองพื้นให้เรียบร้อย
2. เอาน้ำอ้อยกับน้ำตาลปีบตั้งไฟ ถ้าใช้เตาฟืนจะหอมอร่อย แต่เดียวนี้เตาแกส
3. คนไปเรื่อยๆจนเริ่มจับตัว (วิธีเช็กการจับตัว คือ เอามันหยอดลงน้ำอุณภูมิปกติ มันจะเป็นก้อน เหมือนลูกอมน้ำตาล ยึ้ยๆ ถ้าอยากกินขนมนิ่มๆก็พอเริ่มจับตัวก็เป็นอันโอเค)
4. ใส่แบ๊ะแซลงไป คนไปเรื่อยๆ คนตลอดเวลาจนละลายหมด (ตามที่เห็นแม่ทำ)
5. ใส่ข้าวตอก คลุกเคล้าให้ทั่ว
6. ใส่ถั่ว ใส่ข้าวเม่า ใส่งา จากนั้นก็คลุกและคลุกๆ (ขั้นตอนนี้ใช้แรงมากหน่อย มันจะเริ่มเหนียวหนึดๆ)
7. ตักใส่ถาดที่เตรียมไว้ ในข้อที่ 1
8. เอาขวดมานวดๆให้หนาพอดีกับขอบถาด หรือหนาตามใจชอบ
9. โรยงา โรยถั่วเพิ่มได้ตามใจชอบ (หากไม่พอใจ)
10. ตัดกินได้ เย้ๆ ใครใคร่ขายๆ ใครใคร่กินๆ
การเขียนกระทู้ครั้งนี้ไม่ได้ต้องการโปรโมตขนมของที่บ้านนะ เพราะแม่กวนเมื่อวานวันสุดท้ายและขนมก็หมดแล้ว ^^ ถ้าเห็นเบอร์ในคลิปแว๊บๆก็เก็บไว้โทรปีหน้าโน้นนะค่ะ ฮ่าๆ ส่วนแมลงที่บินในคลิป คือ ผึ้ง โปรดระวังถ้าจะกวนขาย มันเยอะมาก (โดนต่อยเป็นเรื่องปกติ)
ปล. คลิปนี้น้องชายทำให้พวกแม่ๆไว้ดูเล่น อาจมีการเขียนภาษาที่ไม่ถูกหลัก ขอโทษมา ณ ที่นี้ ปริมาณส่วนผสมอาจปรับเปลี่ยนได้ตามใจ เพราะทุกอย่างมีรสชาติไม่แน่นอน เช่น น้ำอ้อยบางลอตหวานๆหอม บางล๊อตก็หวานแต่ไม่ค่อยหอม พวกแม่ๆเขาจะมีวิธีปรับของเขา
ขอบคุณครอบครัวเราที่ทำให้โตมามีของอร่อยกิน