จากอดีตมนุษย์เงินเดือนสู่แหน่งผู้จัดการบ้าน ใครเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ยังไม่มีลูกโปรดอ่าน ที่มีลูกแล้วก็เข้ามาได้

เราเพิ่งกลายเป็นอดีตมนุษย์เงินเดือนได้ไม่นาน สาเหตุที่แท้จริงที่ลาออกเพราะต้องการมีเวลาให้ลูกและฟื้นฟูสุขภาพตัวเอง ส่วนสาเหตุอีกอย่างที่ลาออกซึ่งก็เป็นความจริงด้วยก็คือการถูกตัดสินว่าผิดจากคนในทีมเพราะขาดงานบ่อยเนื่องจากลูกไม่สบาย
ขอเล่าประวัติหน่อยนะคะ เราทำงาน บริษัทนึง เป็น รง อุตสาหกรรมคะ ใช้เวลาเดินทางจากบ้านไปที่ทำงาน ไปกลับประมาณวันละ 2 ชม ครึ่ง อยู่มา 9 ปีแล้ว ก่อนที่จะมีลูก เราทุ่มเทให้การทำงานมาก Promotion ได้ตามสมควร พอเรามีลูก เราก็เลี้ยงกันเองเต็มๆ 2 คนพ่อแม่ ไม่มีญาติช่วย
คุณลูกเป็นภูมิแพ้ และ ไม่สบายบ่อย เป็นหลายอาการ ไซนัสอักเสบเรื้อรัง ลำไส้อักเสบ มือปากเท้ายอดฮิต สลับกันไป ประกอบกับไม่มีคนช่วยเลี้ยง เด็กต้องไปเนอส์โอกาสป่วยก็เพิ่มขึ้น
ตั้งแต่เกิดนี่ admit รพ น่าจะสัก 20 ครั้ง ตอนนี้จะ 5 ขวบแล้วคะ
เราเลยลางานบ่อยเพราะลูกไม่สบายและเราก็ไม่เคยขอว่าต้องได้ขึ้นเงินเดือนปลายปีเพราะเราก็เข้าใจว่า เราขาดไปในเวลาที่เราควรทำงานให้บริษัท ไปปาร์ตี้กะทีมบ่อยไม่ได้เพราะต้องรีบกลับไปดูแลลูก หัวหน้ามีลูกแล้วก็เข้าใจ คนในทีมที่อยู่ด้วยกันก็เข้าใจเพราะเราอยู่กันนาน เค้ารู้ว่าก่อนมีลูกเราเคยเป็นยังไง แต่.......ชีวิตพลิกผัน เรามีเหตุต้องย้ายทีม เปลี่ยนงาน เปลี่ยน 2 ครั้ง รอบ 2 ปีที่ผ่านมา
ทีมรองสุดท้ายก็ดีไม่มีปัญหาเพราะเค้าเข้าใจว่ามันจำเป็น แต่ทีมล่าสุดที่ต้องอยู่ไม่มีคนมีครอบครัว ไม่ใช่ว่ามีแต่คนอายุน้อยนะคะ อายุมากกว่าเราก็มี แต่เค้าแต่งแล้วหย่าไม่ได้มีลูก ส่วน หัวหน้าคนล่าสุดก็อายุมากกว่าแต่ยังไม่มีลูก สิ่งที่เราเจอคือ คนในทีมนี้ไม่ยอมรับเรา เรายิ้มให้ คุยด้วย พวกเค้าก็คุยแบบถามคำตอบคำ พูดเสียดสีว่าเราขาดงาน เราโกงบริษัท ไปปาร์ตี้ก็ไม่ค่อยไป เวลามีข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต้องแชร์กันในทีม คนในทีมก็ไม่บอกเรา แต่คือในทีมนี้มันมีวาระซ่อนเร้นอย่างอื่นด้วยอ่ะนะ ซึ่งไม่ขอพาดพิง
ที่เราอยากจะบอกคือ คุณที่ยังไม่มีลูกหรือไม่เคยมีประสบการณ์ดูแลคนที่ช่วยตัวเองไม่ได้อย่างเด็กหรือคนแก่ เราอยากให้คุณลองทำดูแล้วคุณจะเข้าใจว่า การดูแลชีวิตนึงให้โตมามีคุณภาพเป็นการสร้างสังคมที่มีคุณภาพ ถ้าเพื่อนร่วมงานคุณคนที่ไม่สามารถไปร่วมกิจกรรมเฮฮากะคุณได้หรือต้องขาดงานบ่อย เพราะเค้ามีความจำเป็นของภาระชีวิตจริงๆ คุณจะให้ความเป็นมิตร มีน้ำใจแค่ยิ้มทักทายให้กันได้ เราว่ามันก็น่าจะดีนะ
โชคดีที่ไม่มีปัญหาด้านการเงิน เราเพิ่งลาออกได้เดือนนึงคะ รู้สึกดีมากๆ อย่างน้อยได้พักผ่อน หลักจากที่ล้ากะการทำงาน และ การดูแลลูกมาพักใหญ่ และมีเวลาได้ทำอะไรให้ตัวเองและครอบครัว แต่เรายังไม่ยอมแพ้นะคะ เพราะยังไงเรามีภูมิคุ้มกันกะปัญหาประเภทคนๆอยู่บ้าง ถ้าคุณลูกหายเมารถและตัวเราเองสุขภาพดีขึ้น ก็ว่าจะกลับไปใช้ชีวิตมนุษย์เงินเดือน ถ้าบริษัทเค้ารับอ่ะนะ 5555

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่